Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 2 ทฤษฎีในการสร้างเสริมสุขภาพ, A6480062 นางสาวศรีอาริยา อุ่นแก้ว -…
บทที่ 2
ทฤษฎีในการสร้างเสริมสุขภาพ
แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ
(Health Belief Model : HBM)
ปัจจัยร่วม (Modifying Factors)
ปัจจัยด้านประชากร
ปัจจัยด้านสังคมจิตวิทยา
ปัจจัยโครงสร้างพื้นฐาน
องค์ประกอบของแบบจาลองความเชื่อด้านสุขภาพ
การรับรู้ต่อโอกาสเสี่ยงของการเป็นโรด
การรับรู้ความรุนแรงของโรด
การรับรู้ประโยชน์ที่จะได้รับและด่าใช้จ่าย
แรงจูงใจด้านสุขภาพ
ปัจจัยร่วม
การนำเอาแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพมาใช้ในการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมพฤติกรรม ป้องกันโรค
PRECEDE-PROCEED Model
Policy, Regulatory, and Organizational,
Constructs, in Educational and Environmental,
Development หมายถึง นโยบาย กฎระเบียบ และ
โดรงสร้างใน การพัฒนาการศึกษาและสิ่งแวดล้อม
ขั้นตอนที่ 1 การวิเคราะษ์ทางสังคม (Social Assessment)
ขึ้นตอนที่ 2 การวิเคราะษ์ทางระบาควิทยา (Epidemiological Assessment)
ขั้นตอนที่ 3 การวิเคราะห์ด้านพฤติกรรม (Behavioral Assessment)
สรุป การประเมินในระยะที่ 1-3 ช่วยใจสามารถกำหนดจุดประสงค์ที่ต้องการให้ บรรลุตายเป้าหยาย ภายหลังการดำเนินงานตามแผนงานโครงการแล้ว
ขั้นตอนที่ 4 การวิเครารห์ทางการศึกษา (Educational Assessment)
ปัจจัยนำ (Predisposing Factors) หมายถึง ปัจจัยที่เป็นพื้นฐาน
ปัจจัยเอื้อ (Enabiling Factors) หมายถึง คุณลักษณะของสิ่งแวดล้อม ทั้งด้นกายภาพและ สังคมวัฒนธรรม
ปัจวัยเสริม (Reinforcing Factors) หมายถึง สิ่งที่บุคคลจะได้รับ หรือคาดว่าจะได้รับจากบุคคลอื่น
ขั้นตอนที่ 5 การวิเครารห์ทางการบริหาร (Administrative and Policy Assessment)
ขั้นตอนที่ 6 การปฏิบัติการ (Implementation)
ขั้นตอนที่ 7 การประเมินกระบวนการ (Process Evaluation)
ขั้นตอนที่ 8 การประเมินผลกระทบ (Impact Evaluation)
ขึ้นตอนที่ 9 การประเมินผลลัพธ์ (Outcome Evaluation)
ทฤษฎีขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
Trans theoretical Model Stage of Change : TTM
ขั้นก่อนชั่งใจ (Pre-contemplationstage) ยังไม่มีความสนใจที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในอีก 6 เดือนข้างหน้า
ขั้นชั่งใจ (Contemplation stage) มีแนวโน้มที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในอีก6 เดือนข้างหน้า
ขั้นเตรียมพร้อมที่จะปฏิบัติ
(Preparation stage / Determination) มีแนวโน้มที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในอัก1 เดือนข้างหน้า
ขั้นปฏิบัติ (Action stage) อยู่ ในช่วง 6เด็อนแรกของ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม (ไม่เกิน 6 เดือน)
ขั้นคงไว้ซึ่งพฤติกรรมที่ต้องการ(Maintenance) สามารถคงไว้ซึ่งพฤติกรรมใหม่อย่างสม่ำเสมอได้นานมากกว่า 6 เดือน
ขั้นยุติพฤติกรรมเดิมอย่างถาวร(Termination) ไม่มีอะไรมาเย้ายวนให้กลับไปทำพฤติกรรมเดินได้อีก สามารถมั่นใจได้ 100%
เทคนิคที่เหมา:สำหรับผู้ที่อยู่ในขั้นก่อนชั่งใจ
เพื่อเลื่อนขึ้นไปสู่ขั้นชั่งใจ
1.การปลุกจิตสานึก(consciousness raising)
การระบายความรู้สึก (Dramatic relieF)
การใคร่ครวญผลต่อสังคนรอบข้า (socialreevaluation)
เทคนิคที่เหมาะสำหรับผู้ที่อยู่ในขั้นชั่งใจ เพื่อเลื่อนขึ้นไปสู่ขั้นเตรียนพรอมที่จะปฏิบัติ
การใคร่ครวญผลต่อตนเอง (selfreevaluation)
เทคนิคที่เหมาะ:สำหรับผู้ที่อยู่ในขั้นเตรียมพร้อมที่จะบฏิบัติ เพื่อเลื่อนขึ้นไปสู่ขั้นปฏิบัติ
การปลดปล่อยตนเอง (self liberation)
เทคนิคที่เหมาะสำหรับผู้ที่อยู่ในขั้นบฏิบัติ เพื่อเลื่อนขึ้นไปสู่ขั้นคงไว้ซึ่งพฤติกรรมที่ต้องการ
การปลดปล่อยสังคม (Ssocial liberation)
7.ให้เรียนรู้สิ่งตรงกันข้น (counterconditioning)
8.บังคับให้ทำสิ่งที่ดีกว่าทางอ้อม (stimulus control)
9.จงใจใช้แผนกระตุ้น (contingency management)
10.กัลยาณมิตร (helping relationship)
แบบจำลองการส่งเสริมสุขภาพ
(Health Promotion Model : HPM)
ข้อตกลงเบื้องต้นของแบบจำลอง
บุคคลแสวงหาภาวการณ์ของชีวิตที่สร้างสรรค์โดยการ
แสคงความสามารถด้นสุขภาพที่มี เอกลักษณ์เฉพาะตน
บุคคลมีความสามารถในการสะท้อนการตระหนักรู้ในตนเองรวมทั้งความสามารถในการประเมิน สมรรถนะตนเอง
บุคคลให้คุณค่าแก่การเจริญเติบโตในทิศทางบวกและพยายามที่จะบรรลุความสำเร็อในการยอมรับ ความสมดุลระหว่างการเปลี่ยนแปลงกับการมั่นคง
บุคคลแสวงหาการควบคุมพฤติกรรมของตนเอง
บุคคลซึ่งประกอบด้วยกาย จิต สังคม มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม
บุคลากรด้านสุขภาพเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งแวคล้อมระหว่างบุคคลที่มีอิทธิพลต่อ บุดคลตลอดช่วง ชีวิต
การริเริ่มด้วยตนเองในการสร้างแบบแผนความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับสิ่งแวคล้อม
มโนทัศน์หลักของแบบจำลอง
1.ลักษณะเฉพาและประสบการณ์
ของบุดคล(IndividualCharacteristicsandExperiences)
1.1 พฤติกรรมที่เกี่ยวข้อง (prior related behavior)
1.2 ปัจจัยส่วนบุคคล (Personal Factors)
ปัจจัยด้านชีววิทยา
ปัจจัยด้านจิตวิทยา
ปัจจัยด้านสังคมวัฒนธรรม
ความคิดและอารมณ์ต่อพฤติกรรม (Behavior-Specific Cognition and AFfect)
2.1 การรับรู้ประโยชน์ของการปฏิบัติพฤติกรรม (Perceived Benefits of Action)
2.2 การรับรู้อุปสรรดในการปฏิบัติพฤติกรรม (Perceived Barriers to Action)
23 การรับรู้ความสามารถของตนเอง (PerceivedSelf-EF Ficacy)
2.4 ความรู้สึกที่มีต่อมฤติกรรม (Activity-Related Affect)
2.5 อิทธิพลระหว่างบุคคล (Interpersonal Influences)
2.6 อิทธิพลจากสถานการณ์ (Situational Influences)
พฤติกรรมผลลัพธ์ (Behavioral Outcome) ประกอบด้วย 3 อย่าง ได้แก่
3.1 ความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติพฤติกรรม (Commitment to a Plan of Actions)
3.2 ความจำเป็นอื่นและทางเลือกอื่นที่เกิดขึ้น (Immediate Competing Demands and Preferences)
3.3 พฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ (Health-promoting Behavior)
A6480062 นางสาวศรีอาริยา อุ่นแก้ว