Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคระบบต่อมไร้ท่อ, สิ่งแวดการให้การพยาบาล ควรบริการให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในก…
โรคระบบต่อมไร้ท่อ
-
Cushing’s syndrome
การพยาบาล
- รักษาแรงตึงตัวของกล้ามเนื้อ โดยช่วยบริหารข้อต่อตาม ROM ช่วยในการ Ambulation
- ป้องกันอุบัติเหตุหรือหกล้ม และให้พักผ่อนให้เพียงพอ
- ป้องกันผู้ป่วยจากการสัมผัสเชื้อ
- รักษาสภาพของผิวหนัง โดยให้การดูแลผิวหนัง ป้องกันผิวหนังฉีดขาด
- ลดภาวะเครียดจากสิ่งแวดล้อม
- วัดสัญญาณชีพ สังเกตอาการความดันโลหิตสูง การบวม
สาเหตุ
มีความเครียดสูง เช่น ความเครียดจากการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง การบาดเจ็บ การผ่าตัด การตั้งครรภ์ หรือนักกีฬาที่เครียดจากการฝึกฝนอย่างหนัก
สาเหตุที่พบบ่อยของ Cushing Syndrome คือ การใช้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ชนิดรับประทานในปริมาณมากและใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน
-
การรักษา
-
การรักษาประคับประคองตามอาการ รักษาอาการต่าง ๆ ที่เป็นผลจากฮอร์โมนคอร์ติซอลสูง เช่น ให้ยารักษาโรคเบาหวานเมื่อมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง หรือให้ยาลดความดันโลหิตเมื่อมีความดันโลหิตสูง เป็นต้น
การวินิจฉัย
- ตรวจปัสสาวะ โดยเก็บตัวอย่างปัสสาวะ 24 ชั่วโมง เพื่อตรวจระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล
- ตรวจภาพถ่าย ด้วยการทำซีที สแกน (Computerized Tomography: CT Scan) หรือเอ็มอาร์ไอ สแกน (Magnetic Resonance Imaging: MRI Scan)
- อาจมีการตรวจเลือดวิธีเฉพาะที่ใช้เทคโนโลยีสูง
- เพื่อดูระดับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน กลูโคคอร์ติคอยด์ (Glucocorticoid) เช่น การตรวจที่เรียกว่า Low dose dexamethasone suppression test, Dexamethasone corticotrophin releasing hormone test
- โดยการนำตัวอย่างเลือดของผู้ป่วยไปวิเคราะห์ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลในห้องปฏิบัติการ
- เพื่อตรวจหาความผิดปกติของต่อมใต้สมองและต่อมหมวกไต เช่น ตรวจหาเนื้องอก เป็นต้น
- เพื่อดูระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลในน้ำลาย ซึ่งจะทำการตรวจในเวลากลางคืน เพราะโดยปกติ ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลจะลดลงในช่วงเย็นเป็นต้นไป
การวินิจฉัยนั้น แพทย์จะอาศัยประวัติอาการ ประวัติโรคประจำตัว ประวัติการใช้ยาต่างๆ รวมทั้งยาสมุนไพร ยาชุด ยาแก้ปวด ยาพื้นบ้านต่างๆ
-
-
-
-
-
จะต้องทำกิจกรรมที่มีการขยับร่างกาย หรือออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นการสร้างอินซูลินทำงานได้ดีขึ้น
-
หลีกเลี่ยงการรับประทานไขมันจากสัตว์ ควรเลือกเนื้อที่ไม่ติดมัน และดื่มนมที่มีไขมันต่ำ น้ำมันควรเลือกชนิดดี ได้แก่ น้ำมันพืช
-
-
- เลือกอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน และอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ
- ลดการเติมเครื่องปรุง หรือใช้น้อยที่สุด
- ลดหวาน มัน เค็ม อ่านฉลากโภชนาการทุกครั้ง
- ปรุงอาหารด้วยวิธีต้ม ตุ๋น อบ นึ่ง ยำ
- เติมเครื่องปรุงให้น้อยที่สุด และใช้สมุนไพร เครื่องเทศ แต่งกลิ่น
- อาหารที่เติมน้ำตาล ขนมหวาน น้ำอัดลม
-
- อาหารทอด ผัดน้ำมันมาก อาหารจารเดียว
- อาหารเค็ม เช่น ไข่เค็ม ไส้กรอก กุนเชียง ผักดอง อาหารแปรรูป
- ยา Metformin จะช่วยลดความดื้อต่ออินซูลินและยับยั้งการสร้างน้ำตาลที่ตับ ผลข้างเคียง คลื่นไส้อาเจียน แน่นท้อง ขมปาก เบื่ออาหาร ท้องเสีย
- ยา Pioglitazone จะช่วยลดความดื้อต่ออินซูลินที่กล้ามเนื้อ ผลข้างเคียง น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น บวมน้ำ
-สำหรับผู้ที่ใช้อินซูลิน หรือ Sulfonylureas หรือ Repaglinide ควรตรวจระดับน้ำตาลปลายนิ้วก่อนออกกำลังกายถ้า <100 มก/มล ควรรับประทานอาหารจำพวกแป้งก่อนออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังกายจะทำให้การตอบสนองต่ออินซูลินดีขึ้นและคงอยู่นาน 24-72 ชั่วโมง
-สำหรับผู้ที่ออกกำลังกายหนัก
(High-intensity exercise) ควรรับประทานแป้ง 5-30กรัม ระหว่างออกกำลังกายหรือภายใน 30 นาทีหลังจากออกกำลังกาย เพื่อเพิ่มปริมาณ Glycogen และลดความเสี่ยง
ในการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
ผู้เป็นเบาหวานควรออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อสุขภาพที่ดี และยังได้ประโยชน์ในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ระดับไขมันในเลือด ความดันโลหิต รวมทั้งน้ำหนักในตัว นอกจากนี้ยังทำให้ผ่อนคลาย ลดความเครียด ความกังวลได้
-
-
- การให้ยาลดไขมันผู้ป่วยที่มีไขมันในเลือดสูงและมีความเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ
- การใช้ยา ABO ในผู้ป่วยที่เป็นหวัดที่ไม่มีการติดเชื้อแบคทีเรีย
-
- ประโยชน์แตกต่างจากยาหลอกและมีความหมายทางคลินิก
ยาลดบวม ผลไม่ต่างจากยาหลอก
ใช้ยาbromhexine ลดเสมหะได้ 4 ml
(ผู้ป่วยแยกความต่างไม่ได้)
- มีหลักฐานเชิงประจักษ์สนับสนุนเพียงพอ
พาราเซตามอล ใช้เป็นแก้ปวดลดไข้
กลูโคซามีน ใช้ลดภาวะข้อเสื่อม ยังมีข้อขัดแย้ง
-
- ประโยชน์มากกว่าโทษ
ยาลดไขมันในผู้ป่วยไขมันสูงหรือผู้ป่วยเบาหวานเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ
-
รอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวัง รับผิดชอบและใช้ยาอย่างเป็นขั้นตอนตามมาตรฐานทางวิชาการ
- ไม่ใช้ยาซ้ำซ้อน
- ไม่ใช้ยาพร่ำเพรื่อ
- ใช้ยาตามแนวทางการรักษา
-
ใช้ยาถูกวิธี
- ยาก่อนอาหารกินตอนท้องว่าง
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาฉีดโดยไม่จำเป็น
- หลังพ่นยาสเตียรอยด์ควรบ้วนปาก
ใช้ยาด้วยความถี่ที่เหมาะสม
- Amoxicillin ใช้วันละ 2-3 ครั้ง(ไม่ควรใช้4ครั้ง)
- Cloxacillin ใช้วันละ 4 ครั้ง
ใช้ยาในระยะเวลาการรักษาที่เหมาะสมไม่นานหรือสั้นเกินไป
- การใช้ยารักษาแผลในกระเพาะควรใช้ต่อเนื่อง 4 สัปดาห์
- การใช้ยารักษาสิวใช้ต่อเนื่อง 6-8 สัปดาห์
ใช้ยาโดยคำนึงถึงความสะดวกและ
การยอมรับของผู้ป่วย
- อธิบายหรือให้ข้อมูลให้ผู้ป่วยเข้าใจ
- เลือกที่ใช้สะดวก เช่น กินวันละ 1-2 ครั้ง มากกว่ากินละ 3-4 ครั้ง
- มีการตรวจสอบความเข้าใจและติดตามผลการใช้ยาทุกครั้ง
- Cushing Syndrome เกิดจากร่างกายมีระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) สูง โดยฮอร์โมนคอร์ติซอลนั้นผลิตจากต่อมหมวกไต ทำหน้าที่ควบคุมความดันโลหิต ระบบหัวใจและหลอดเลือด ลดการตอบสนองต่อการอักเสบในระบบภูมิคุ้มกัน แปลงไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรตให้เป็นพลังงาน สร้างความสมดุลให้กับอินซูลิน และเกี่ยวข้องกับการตอบสนองต่อความเครียด
- ยาเพรดนิโซน โดยแพทย์จะใช้ยาประเภทนี้ในการปลูกถ่ายอวัยวะ หรือรักษาโรคที่เกี่ยวกับการอักเสบ เช่น โรคแพ้ภูมิตัวเอง และข้ออักเสบ นอกจากนั้น การฉีดยาสเตียรอยด์เพื่อรักษาอาการปวดหลัง การใช้ยาลูกกลอน ยาสมุนไพรพื้นบ้าน หรือยาอื่น ๆ ที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ก็ทำให้เป็น Cushing Syndrome