Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

หญิงตั้งครรภ์ อายุ 26 ปีG1P0 GA41+1 by LMP Term with failed induction CC…

- - - - มีการหดตัวของมดลูกทำให้ทารกถูกขับออกมานับตั้งแต่ปากมดลูกเปิดหมดจนถึงทารกคลอด ในครรภ์แรกจะใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง ในครรภ์หลังใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง
        
        หญิงตั้งครรภ์รายนี้ C/S
    - - มดลูกมีการหดรัดตัวเป็นจังหวะสม่ำเสมอ มีความสำคัญต่อการลอกตัวของรก และการคลอดรก จะใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที
        
        หญิงตั้งครรภ์รายนี้ C/S
    - - เกิดขึ้นจากมดลูกถูกกระตุ้นจากฮอร์โมน Oxytocin ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่หลั่งมาจากต่อมใต้สมองส่วนหลัง (Posterior pituitary grand)
        
        Active phase: Duration 45-60 s Interval 2-3 min. Intensity moderate-strong Cx.3-7 cm Eff 40-80%
        
        Latent phase: Duration 20-30 s Interval 5-10 min Intensity mild Cx. 0-3 cm Eff 0-40%
        
        หญิงตั้งครรภ์รายนี้ Cx1 cm Eff 50% I = >10 นาที D = 30 วินาที mod อยู่ในระยะ Latent Phase
        
        Induction of labor
        
        ข้อห้าม
        
        Placenta previa
        
        Transverse fetal lie
        
        Umbilical cord prolapse
        
        Vasa previa
        
        ข้อบ่งชี้
        
        Premature rupture of membrane
        
        Preeclampsia, eclampsia
        
        Postterm pregnancy
        
        Gestational hypertension
        
        Chorioamnionitis
        
        Fetal demise
        
        Abruption placentae
        
        การกระตุ้นให้เจ็บครรภ์คลอด โดยทำให้มดลูกเกิดการหดรัดตัวและหรือทำให้ปากมดลูกนุ่ม ซึ่งในขณะนั้นยังไม่มีการเจ็บครรภ์คลอดตามธรรมชาติเกิดขึ้น
        
        โดยการใช้ยา [Syntocinon]
        
        2 more items...
        
        ก่อนชักนำคลอดต้องมีการตรวจภายในประเมินความพร้อมของปากมดลูกเพราะสามารถนำมาใช้ในการทำนายความสำเร็จของการชักนำคลอดได้
        
        1 more item...
        
        หญิงตั้งครรภ์ได้รับ 5% DN/2 1000 ml + Synto 10 U IV drip 40 cc/hr
        
        เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนจากการได้รับยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
        
        1 more item...
        
        ทารกในครรภ์เสี่ยงต่อภาวะ fetal distress เนื่องจากการหดรัดตัวของมดลูก
        
        ประเมินและบันทึก uterine contraction และ FHS
        
        ประเมินทารกในครรภ์ด้วยการ Monitor EFM
        
        แนะนำหญิงตั้งครรภ์นับลูกดิ้น
        
        ดูแลจัดสิ่งแวดล้อมให้หญิงตั้งครรภ์ได้นอนพักบนเตียง
        
        ไม่สุขสบายเนื่องงจากเจ็บครรภ์คลอดจากการหดรัดตัวของมดลูก
        
        ประเมินความเจ็บปวดด้วยการสอบถาม (pain score) ร่วมกับสังเกตลักษณะอาการ เช่น มีสีหน้านิ่วคิ้วขมวด บ่นปวด กระวนกระวาย
        
        ประเมินการหดรัดตัวของมดลูก Uterine Contraction และติดตามทุก 1 hr
        
        อธิบายให้หญิงตั้งครรภ์เข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการคลอด
        
        แนะนำวิธีการผ่อนคลายความเจ็บปวดและการเผชิญความเจ็บปวดได้อย่างเหมาะสมในขณะที่มดลูกหดรัดตัว 5. จัดสิ่งแวดล้อมลดสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดความรู้สึกไม่สุขสบายโดยดูแลความสุขสบายทั่วไป 6. พูดคุยให้กำลังใจแก่ผู้คลอด ปลอบโยน และแจ้งให้ผู้คลอดทราบถึงความก้าวหน้าของการคลอดเป็นระยะๆ
        
        transitional phase: Duration 60-90 s Interval 2 min. Intensity strong Cx.8-10 cm Eff 100%
    - - มดลูกมีการหดรัดตัวป้องกันการตกเลือดหลังคลอด หากมดลูกหดรัดตัวไม่ดี จะทำให้เสี่ยงต่อการตกเลือดหลังคลอดได้
        
        ผู้คลอดรายนี้หลังคลอด 2 ชั่วโมง มดลูกเป็นก้อนกลมแข็ง
        
        มีโอกาสเกิดภาวะตกเลือดหลังคลอดเนื่องจากมีแผลผ่าตัดบริเวณหน้าท้องและแผลในโพรงมดลูก
        
        ประเมินดูสาเหตุของการตกเลือดเฉียบพลัน 4T
        
        ประเมินอาการและอาการแสดงของการตกเลือด
        
        ประเมิน vital signs ของหญิงหลังคลอด
        
        ประเมินกระเพาะปัสสาวะ
        
        ประเมินปริมาณน้ำคาวปลาหลังคลอด
        
        ประเมินแผลผ่าตัดที่หน้าท้องว่ามี Discharge ซึมหรือไม่
        
        ประเมินลักษณะมดลูก และระดับยอดมดลูก หากมดลูกหดรัดตัวไม่ดี มีลักษณะนุ่ม
        8.ดูแลให้ได้รับ 5% D/N/2 1000 ml + Syntocinon 20 Unit IV drip 120 cc/hr.
  - - - มารดาจะมีความอยากเย่ง เนื่องจากส่นนำของทารกจะเคลื่อนต่ำลง
        
        สำหรับหญิงตั้งครรภ์รายนี้ บอกว่า มีห้องแข็งเป็นพักๆ จากการ PV พบ Cx 1 cm 50 % MI -1
    - - ระยะนี้ส่วนนำเคลื่อนต่ำลงไปกดกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ทำให้มารดาอยากเบ่งมากขึ้น
        
        หญิงตั้งครรภ์รายนี้ C/S
- - - - เป็นส่วนที่เป็นกระดูก ได้แก่กระดูกเชิงกรานทั้งหมด ประกอบด้วย กระดูกหัวหน่าว กระดูกสะโพก และกระดูกก้นกบ
        
        pelvic inlet
        
        การวินิจฉัย
        
        ไม่ engagement /ท่าผิดปกติ
        
        สำหรับหญิงตั้งครรภ์รายนี้ จากการ PV พบ Cx 1 cm 50 % MI -1
        
        กด Fundus พบศีรษะเกยอยู่บริเวณรอยต่อกระดูกหัวหน่าว
        
        PV: sacral promontory/diagonal
        
        conjugate < 11.5 ซม.
        
        คลำได้ขอบล่างของ pelvic inlet สองข้าง
        
        ถ่ายภาพรังสี
        
        การตรวจคลื่นเสียงความถี่สูง
        
        การดูแลรักษา
        
        เฝ้าคลอดอย่างใกล้ชิด
        
        ระวังมดลูกแตก ในคลอดหลัง
        
        พิจารณาการท า C/S
        
        mid pelvic
        
        การวินิจฉัย
        
        PV:ischial spine ยื่นนูน
        
        กระดูกเชิงกรานด้านข้างสอบนูนเข้าหากัน
        
        sacrosciatic notch แคบ
        
        transverse arrest of fetal head จะพบ sagittal suture อยู่ในแนวขวาง
        
        interspinous
        diameter<8 cm.
        
        สำหรับหญิงตั้งครรภ์รายนี้ จากการ PV พบ Cx 1 cm 50 % MI -1 พบ interspinous diameter 11
        
        การดูแลรักษา
        
        แคบไม่มากคลอดเอง
        
        เลี่ยงยากระตุ้น UC
        
        ใช้ V/E ปลอดภัย > F/E
        
        แคบมากC/S
        
        pelvic outlet
        
        การวินิจฉัย
        
        Fully dilate เบ่งคลอดทารกจะเคลื่อนต่ำลงมา แต่เมื่อหยุดเบ่งศีรษะทารกจะถอยกลับขึ้นไป
        
        ลักษณะเป็นรูปวงรี ตามแนวตั้งด้านบนเป็น Symphisis pubis ด้านล่างเป็น coccyx Suprapubic arch มุมไม่น้อยกว่า 85 องศา
        
        จากการวัด Suprapubic arch 90 องศา
        
        การดูแลรักษา
        
        ช่วยคลอดโดยตัดฝีเย็บให้กว้างๆ
    - - ส่วนที่เป็นเนื้อ่อน คือมดลูกส่วนล่าง ปากมดลูก ช่องคลอด พื้นเชิงกราน ปากช่องคลอด และฝีเย็บ สามารถยืดขยายได้
        
        ระยะที่ 1
        
        การเปิดของปากมดลูก
        
        Latent Phase 0-3 cm ครรภ์แรกใช้เวลา 8 hr 0.3 cm/hr
        ครรภ์หลังใล้เวลา 6 hr 0.5 cm/hr
        
        สำหรับหญิงตั้งครรภ์รายนี้ Admit 30/11/65 เวลา 11.25 PV 1FT soft MI st.High 1/12/65 เวลา 10.00 น PV 1 cm 50% MI -1 จนถึง 20.20 น. ไม่มีการเปิดเพิ่มของปากมดลูก หมอ set c/s
        
        เสี่ยงต่อภาวะ Prolong labor เนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับปัจจัยการคลอด
        
        2 more items...
        
        Active Phase 4 -7 cm ครรภ์แรกใช้เวลา 5 hr 1 cm/hr
        ครรภ์หลังใช้เวลา 2.5 hr 1.5 cm/hr
        
        Transition al Phase 8- 10 cm ครรภ์แรก ไม่เกิน 1 hr
        ครรภ์หลัง ไม่เกิน 30 min
        
        บริเวณช่องคลอด ปากช่องคลอด และฝีเย็บ ไม่พบพังผืด สามารถยืดขยายได้
        
        ขณะ PV ไม่พบพังผืดบริเวณปากช่องคลอด
        
        ระยะที่ 2
        
        Bladder ไม่ full เนื่องจากจะขัดขวางการเคลื่อนต่ำของทารก
        
        หญิงตั้งครรภ์ Retain foleys’ cath with bag ก่อนเข้าห้องผ่าตัด
        
        ระยะที่ 4
        
        กระเพราะปัสสาวะต้องไม่เต็ม เนื่องจากทำให้ขัดขวางการหดรัดตัวของมดลูก อาจทำให้ตกเลือดหลังคลอดได้
        
        หญิงตั้งครรภ์ Retain foleys’ cath with bag
- - - - รกและเยื้อหุ้มทารก
        
        ตำแหน่งที่รกเกาะ: โดยปกติจะเกาะที่ส่วนบนของมดลูกหากรกเกาะต่ำอาจขัดขวางการคลอดหรือทารกคลอดทางช่องคลอดไม่ได้
      - น้ำคร่ำ
        
        ลักษณะน้ำคร่ำ ลักษณะใสไม่มีกลิ่นไม่มีขี้เทาปนถ้าน้ำคร่ำมีสีเขียวขุ่นหรือมีขี้เทาปนเป็นข้อบ่งชี้ว่าทารกในครรภ์อาจมีภาวะขาดออกซิเจนได้
        
        สำหรับหญิงตั้งครรภ์รายนี้ จากการ PV พบ Cx 1 cm 50 % MI -1 ถุงน้ำยังไม่แตก ไม่มีมูกเลือด/น้ำเดินออกทางช่องคลอด
      - ทารก
        
        ขนาดหรือน้ำหนักตัวทารก
        ขนาดของศีรษะของทารก
        ส่วนนำ
        แนวลำตัว
        จำนวนทารกในครรภ์
        
        จากการตรวจครรภ์ HF 37 cm ท่า LOA Presentation Vx Engagement จำนวนทารก 1 คน
    - - การเกาะของสายสะดือมี 4 แบบดังนี้
        1.เกาะตรงกลางรก Centeralis insertion
        2.เกาะตรงข้างรก Lateralis insertion
        
        เกาะขอบรก Marginalis /Baèedonre insertion
        
        เกาะเยื่อหุ้มรก Membranous insertion
        รก : กว้าง 15-20 cms. หนา 2-3 cms. หนัก 500-600 g.
        รกด้านลูก (Closing plate) ปกติการแผ่กระจายของเส้นเลือดจะสิ้นสุดก่อนถึงขอบรก 1-2 cms.
        รกด้านแม่จะมี Cotyledon 15-20 ก้อน แน่นชิดกัน
        
        รกเกาะตรงกลาง centeralis insertion คลอดด้วยวิธี Cesarean section (C/S) น้ำหนัก 500 กรัม
      - การลอกตัวของรก จะมีอาการแสดงของการลอกตัวอยู่ 3 ประการ คือ
        1.Uterine sign มดลูกจะเปลี่ยนแปลงเป็นกลมนูน แข็ง (globular)ลอยตัวสูงกว่าระดับสะดือเล็กน้อยแล้วค่อนไปทางขวา
        
        Cord sign สายสะดือจะเหี่ยวและคลําไม่พบชีพจรเมื่อกดบริเวณหัวเหน่าสายสะดือจะไม่เคลื่อนขึ้นตามไป
        3.Vulva sign มีเลือดออกมาประมาณ 30-60 ml.
        สายสะดือ : ยาวประมาณ 40-100 cms. เฉลี่ย 50 cms.
        
        หญิงตั้งครรภ์ C/S
    - - สิ่งที่ผ่านออกมา ได้แก่ ทารก รก และเยื่อหุ้มรก ที่สำคัญคือ ทารก และการเคลื่อนต่ำของส่วนนำแนวลำตัว ท่าของทารก ตำแหน่งที่รกเกาะ น้ำคร่ำ ความผิดแกติที่อาจจะเกิดขึ้น ได้แก่ Malpresentation (ส่วนนำผิดปกติ) เช่น ท่าก้น ท่าขวาง หรือ Malpositio
        
        วิธีการคลอด Caesarean section
        APGAR score ของทารกแรกคลอด
        นาทีที่ 1 9 คะแนน
        นาทีที่ 5 10 คะแนน
        นาทีที่ 10 10 คะแนน
        ทารกเพศชาย คลอดเวลา 21.16 น. น้ำหนัก 2,425 กรัม APGAR 9-10-10
        OF 34 cms. ยาว 49 cms.
        รกคลอดด้วยวิธี Cesarean section (C/S) น้ำหนัก 500 กรัม
- - - - หญิงตั้งครรภ์ อายุ 26 ปี
  - - - น้ำหนัก 90.5 กิโลกรัม ส่วนสูง 151 เซนติเมตร BMI = 39.69 kg/m2 (อ้วนระดับ 3)
        
        โรคอ้วน
        
        ภาวะแทรกซ้อน
        
        ไขมันพอกตับ
        การรับประทานอาหารมากเกินไป เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดไขมันก่อตัวขึ้นในตับ เมื่อตับไม่ได้นำไขมันไปใช้หรือย่อยสลายอย่างที่ควรจะเป็นก็อาจเกิดการสะสมไขมันขึ้น โดยร้อยละ 20 ของคนที่เป็นโรคอ้วนจะมีโรคไขมันพอกตับร่วมอยู่ด้วย
        
        ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
        สำหรับคนที่มีน้ำหนักเกินและเป็นโรคอ้วน มักมีไขมันสะสมในผนังลำคอมากขึ้น ผนังลำคอจึงหนาและมีลักษณะลำคอหดสั้นมากขึ้น ช่องลำคอจึงแคบลง ทำให้เกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจ และเสี่ยงเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้
        
        โรคหัวใจและหลอดเลือด
        โรคอ้วนมักทำให้เกิดภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดโดยตรง เนื่องจากระดับของไขมันคอเลสเตอรอลและไขมันสะสมในร่างกายสูงกว่าปกติ ส่งผลให้หลอดเลือดหนาขึ้น หลอดเลือดแดงจึงตีบแคบ ทำให้เลือดไหลเวียนได้น้อย จนเกิดหลอดเลือดอุดตันในที่สุดและอาจพัฒนากลายเป็นภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายได้
        
        โรคเบาหวาน
        น้ำหนักเกินเกณฑ์หรือความอ้วนเป็นปัจจัยหนึ่งของความเสี่ยงของการเป็นเบาหวาน เนื่องจากในผู้ป่วยโรคอ้วน อินซูลินที่หลั่งจากตับอ่อนอาจออกฤทธิ์ไม่ดี และส่งผลให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้เนื้อเยื่อตอนปลายตอบสนองต่ออินซูลินได้น้อยลง เบตาเซลล์ไม่ทำงาน ไขมันในเลือดสูง ทำให้เกิดโรคที่เกี่ยวกับระบบการเผาผลาญ (Metabolic Syndrome)
        
        โรคข้อเสื่อม
        ในการเดินของคนอ้วนแต่ละก้าวจะเกิดเเรงกดกระแทกที่ข้อเข่ามากกว่าคนไม่อ้วน อีกทั้งข้อเข่าที่มีเนื้อเยื่อไขมันมาก ๆ จะล้นไปกดเเละทำลายผิวกระดูกอ่อนที่อยู่ใกล้ ๆ เป็นการเร่งให้เกิดโรคข้อเสื่อมเร็วขึ้น
        
        โรคอ้วน คือ ภาวะที่มีไขมันสะสมในร่างกายเพิ่มมากขึ้น โดยจะใช้ค่าร้อยละไขมันในร่างกาย > 20 ในชาย หรือ > 30 ในหญิง ภาวะไขมันสะสมอาจมาจากไขมันใต้ผิวหนังมากหรือจากไขมันในช่องท้องมาก ซึ่งวิธีวัดไขมันมีหลายรูปแบบ ที่นิยมใช้คือการวัดจากดัชนีมวลกาย (BMI) [ค่าดัชนีมวลกาย = น้ำหนัก (กิโลกรัม) / ส่วนสูง (เมตร) /ส่วนสูง (เมตร)]
- - - - มีภาวะวิตกกังวลเนื่องจากขาดความรู้และประสบการณ์ในการคลอด
        
        สร้างสัมพันธภาพเพื่อให้เกิดความไว้วางใจ
        
        มีปฏิสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ
        
        กระตุ้นให้มารดาได้บอกเล่าความรู้สึกของตนเอง
        
        ให้ความรู้เกี่ยวกับโรค และการรักษาที่ได้รับและ วิธีรับมือกับความวิตกกังวล
        
        เปิดโอกาสให้มารดาได้ซักถาม แลกเปลี่ยนข้อมูล
- - - - หญิงตั้งครรภ์นอนหัสูงตะแคงซ้าย
    - - หญิงตั้งครรภ์ C/S