Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หลักการและเทคนิคการล้างและสวนล้าง - Coggle Diagram
หลักการและเทคนิคการล้างและสวนล้าง
การสวนล้างกระเพาะอาหาร (Gastric lavage)
อาการแสดงของการมีเลือด
อาเจียนเป็นเลือดสด(HEMATEMESIS)
อาเจียนเป็นเลือดเก่า(COFFEE GROUND)
การถ่ายอุจจาระดำ(MELENA)
ในผู้ที่กินสารพิษ /ยาเกินขนาด
ทำได้ภายใน 60 นาท
ช่วงเวลาล้างที่มีประสิทธิภาพ คือ 5-30 นาที
หลักการพยาบาล
1. ตรวจสอบตำแหน่งของสายยางก่อนล้าง
2. ใส่สายละลายไม่เกินครั้งละ 50 cc. ไม่ต้องออกแรงดันมาก
3. ผู้ป่วยที่อาเจียนต้องดูดอาเจียนออกจากปากและลำคอให้หมด ก่อน
4. การสวนล้างกระเพาะอาหารผู้ป่วยที่ดื่มยาพิษ ต้องใส่ถุงมือ
5. ผู้ป่วยที่ดื่มยาพิษต้องน้ำของเหลวที่ดูดออกส่งตรวจก่อนล้าง กระเพาะอาหาร
6. ให้ยาต้านพิษตามแผนการรักษา
7. ผู้ป่วยที่ปวดท้องรุนแรงหรือของเหลวที่ดูดออกมาเป็นเลือดสด ต้องหยุดล้างกระเพาะอาหารทันทีและรายงานแพทย์
8. บันทึกปริมาณสารน้ำที่ผู้ป่วยได้รับ ลักษณะและปริมาณของเหลวที่ออก
9. สังเกตภาวะแทรกซ้อน
10. ให้การดูแลด้านจิตใจ เช่นในผู้ป่วยที่ฆ่าตัวตาย
ข้อห้ามและข้อระวัง
ห้ามในกรณีที่ผู้ป่วยกลืนของเหลวอนุพันธ์ของปิโตเลียม เช่นน้ำมันรถยนต์
ผู้ป่วยที่กินสารกัดเนื้อเยื่อ เช่น กรด-ด่าง
ไม่แนะนำล้างกระเพาะในผู้ป่วยที่ดื่มยาพิษนาน 3-4 ชม.
ในกรณีที่กินยานอนหลับ (BARBITURATE) เพราะจะทำให้ยาดูดซึมเร็วขึ้นจากน้ำที่เข้าไปทำให้ยาเจือจาง
ผู้ป่วยที่ใส่ท่อหลอดลม (ENDOTRACHEAL TUBE) ต้องดูแลไม่ให้มีการรั่วของท่อหลอดลมเพื่อป้องการสำลักของ เหลว
อุปกรณ์ในการล้าง
สายล้าง
สายเลวิน (Levin tube)
สายซัมพ์ (sump tube, salem sump)
สายเซ็งสเตเคน-เบลคมอร์ (Sengstaken-Blakemore) เป็น
สายที่มีทางเปิดสามทาง
สายอีวาลด์ (Ewald tube)
Stethoscope
Normal Saline
ถุงมือยาง
ชามรูปไต
ผ้าปิดตาผู้ป่วย
Xylocaine Jelly
ผ้าก็อซ
การดูดน้ำจากกระเพาะอาหาร (GASTRIC SUCTION)
หลักการลักน้ำหรือใช้เครื่องดูด
อุปกรณ์
เช่นเดียวกับการล้างกระเพาะอาหาร
เครื่องดูดแบบติดผนังหรือแบบเคลื่อนย้าย
วิธี
เช่นเดียวกับการล้างกระเพาะอาหาร
แต่จะต่อสายยางเข้ากับเครื่องดูดที่ปิดเครื่องอยู่
หากมีของเหลวจากกระเพาะไหลเข้ามาให้ดันอาการศเข้าไป 10 cc. เพื่อทำให้โล่งและห้ามปิดช่องระบายอากาศ
หลักการพยาบาล
เช่นเดียวกับการล้างกระเพาะอาหาร
บีบสายเป็นระยะเพื่อไม่ให้สายอุดตัน
เปลี่ยนขวดเมื่อมีของเหลวปริมาณ 2/3 ของขวด
กระตุ้นผู้ป่วยให้มีการเคลื่อนไหว
ดูแลด้านจิตใจ
การล้างกระเพาะอาหารแบบ 3 ขวด (WANGENSTEEN SUCTION)
ใช้หลักการให้แรงดันภายนอกต่ำกว่าแรงดันภายใน
การสวนล้างกระเพาะปัสสาวะ(bladder irrigation)
การสวนล้างกระเพาะปัสสาวะเป็นครั้งคราว
เป็นครั้งคราวโดยใช้กระบอกสวนล้าง
เป็นครั้งคราวแบบระบบปิดที่การใส่สายน้ำเข้าไปสวนล้างแล้ว ปล่อยออกเป็นระยะ
อุปกรณ์
1. ชุดสวนล้างกระเพาะปัสสาวะที่ปลอดเชื้อ
ถุงมือปลอดเชื้อ
ชามรูปไต/กะละมัง
กระบอกสวนล้างขนาด 50 มล.
ผ้าก็อซ
2. น้ำยาที่ใช้ล้างตามแผนการรักษา
ผ้าปิดตาผู้ป่วย
Foley`s Catheter
Xylocaine Jelly
I.V.Set
bowl bollon
Syringe
Urine bag
การสวนล้างกระเพาะปัสสาวะต่อเนื่องตลอดเวลา
ชุดสวนล้างกระเพาะสสาวะที่ปลอดเชื้อ ประกอบด้วยขวดใส่น้ำยาที่ใช้สวนล้างขนาด 1,000 มล. พร้อมกับสายท่อต่อเข้ากับสายสวนปัสสาวะที่มีแคลมป์บังคับเปิด-ปิดการไหลของน้ำยา คือ สาย ก.
ถ้าสายสวนปัสสาวะที่สวนคาไว้เป็นชนิด 2 หางให้เตรียม
หลอดแก้วรูปตัว Y ที่ปลอดเชื้อไปใช้ด้วยคือ สาย ข.
หางที่ 1. ระบายน้ำปัสสาวะ
หางที่ 2. ใส่น้ำกลั่น
หางที่ 3. ใส่น้ำยาล้าง
พยาบาลต้องคอยดูแลปรับอัตราการไหลของน้ำยา
การสวนล้างช่องคลอด (Vaginal Douche)
ข้อห้าม
2. ขณะมีประจำเดือน
3. หลังคลอดหรือแท้งบุตร
4. ขณะตั้งครรภ์
1. มีเลือดออกทางช่องคลอด
ขั้นตอน
จัดให้ผู้ป่วยนอนบนเตียงตรวจภายใน (เตียงขาหยั่ง)
shutterstock
สวมถุงผ้าขาและเท้าทั้ง 2 ข้าง และวางเท้าที่แป้นของเดียงขาหยั่ง ในท่า Lithotomy ปิดตาของผู้ป่วย คลุมผ้าปิดบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์
ใช้มือข้างหนึ่งแหวก Labia ตรง Vaginal introtius มืออีก
ข้างจับหัวสวนใส่เข้าไปในช่องคลอดลึก 2 นิ้ว เปิด Clamp ให้น้ำสวนล้างผ่านเข้าช่องคลอด ขณะสวนล้างพยายามหมุนหัวสวนไปรอบ ๆด้วย โดย ค่อย ๆหมุนในช่องคลอดในลักษณะ back ward and down
การล้างตา (Eye irrigation)
ข้อควรระวัง
ไม่ควรให้น้ำยาล้างตาหยดลงที่กระจกตา
ปลายสายของชุดล้างตาที่ปล่อยน้ำเกลือล้างตาควรอยู่ห่างจาก
หางตาประมาณ 1 นิ้ว
ผู้ป่วยเบิกตากว้าง ๆ
ล้างจากหัวตาไปหางตา
กรณีมียาหยอดยาหรือป้ายตาให้หยอดตาก่อนป้ายตา
หลักการเตรียมปริมาณน้ำเกลือที่ล้างตา
สำหรับเตรียมผ่าตัดตา ประมาณ 200-300 มล.
สำหรับฝุ่นผงเข้าตา มีคราบที่ตา หรือขี้ตามาก ล้างจนฝุ่นผงหรือขี้ตาออกหมดกรณีสารเคมีเข้าตา ล้างตานานประมาณ 20 นาทีและใช้กระดาษทดสอบกรด-ด่างแตะทดสอบที่เยื่อบุตาเพื่อดูว่ายังมีสารเคมีเหลือที่ตาหรือไม่
ถ้ายังมีเหลือให้ล้างตาต่อไป จนสารเคมีออกหมดประมาณ 2000- 3000 มล.
การล้างหู (Ear Irrigate)
อุปกรณ์
น้ำยา 0.9 % NSS อุณหภูมิ 100 องศาฟาเรนไฮด์ หรือ 37 - 38
องศาเซลเซียส จำนวน 300 ซีซี หรือน้ำยาตามแผนการรักษา
SYRINGE 20 CC 1 อัน
หัวเข็มปลายตัดทู่เบอร์ 13 ยาวประมาณ 2 นิ้ว
ชามรูปไต 2 ใบ
ผ้ายางหรือผ้ากันเปื้อน 1 ผืน
สำลี 2 ก้อน
หลักการพยาบาล
การฉีดน้ำยาล้างหูเข้าไปในรูหููต้องไม่ฉีดน้ำยาแรงเกินไป การฉีดต้องมีความสม่ำเสมอควรเบนกระบอกฉีดน้ำยาไปด้านบนของรูหูและให้น้ำยาไหลกลับ
ออกมาเองเพื่อป้องกันการระคายเคืองและการบาดเจ็บของเยื่อแก้วหู
ข้อควรระวัง
เวลาล้างหูอย่าสอดปลายเข็มลึกเกินไปเพราะทำอันตรายแก้วหูได้
โดยใส่เข้าไปไม่เกิน 1/2 นิ้ว
การล้างเอาขี้หูออก มักล้างในกรณีผู้ป่วยมีขี้หูแข็ง (impacted cerumen) ต้องหยอด glycerine borax ละลายขี้หูนาน 5 - 7 วันจึงล้างได้สะดวก
ไม่ล้างในคนที่แก้วหูฉีกขาด
การล้างจมูก (Nasal Irrigate)
อุปกรณ์
0.9 % NSS 1 ขวด
ชามรูปไต 1 ใบ
Nasal speculum 1 อัน
ไม้พันสำลี 3 - 5 อัน
ผ้ายางกันเปื้อน 1 ผืน
ยาชาเฉพาะที่ชนิดหยอดหรือพ่นในจมูก 1 หลอด
ลูกสูบยางแดง 1 อัน หรือ Syringe 20 cc 1 อัน
กระดาษชำระ
หลักการพยาบาล
ต้องระมัดระวัง โดยให้โอกาสผู้ป่วยได้หายใจด้วย ซึ่ง
พยาบาลจะต้องหยุดเว้นระยะการล้างจมูกและสอนให้ผู้ป่วยกล้นหายใจขณะล้างจมูก เพื่อป้องกันไม่ให้หายใจเอาน้ำล้างจมูกเข้าสู่ปอด