Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ระบบหัวใจและหลอดเลือด, หายใจลำบาก (Dyspnea), ยาปฏิชีวนะ หากสาเหตุของโรคเกิ…
ระบบหัวใจและหลอดเลือด
-
Pulmonary Embolism: PE
สาเหตุ
จากลิ่มเลือดที่อุดตันบริเวณหลอดเลือดขาหลุดไปอุดกั้นหลอดเลือดปอด และบางครั้งอาจเกิดจากการอุดตันของไขมัน คอลลาเจน เนื้อเยื่อ เนื้องอก หรือฟองอากาศในหลอดเลือดปอดได้เช่นกัน
- อายุ ผู้ที่มีอายุมากเสี่ยงเผชิญโรคนี้ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป
- พันธุกรรม หากสมาชิกในครอบครัวเคยเป็นโรคนี้หรือมีภาวะลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำมาก่อน ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคได้มากขึ้น
- อุบัติเหตุ เช่น กระดูกหัก หรือกล้ามเนื้อฉีก อาจทำให้หลอดเลือดเกิดความเสียหายจนเกิดลิ่มเลือดได้
- อุบัติเหตุ เช่น กระดูกหัก หรือกล้ามเนื้อฉีก อาจทำให้หลอดเลือดเกิดความเสียหายจนเกิดลิ่มเลือดได้
- การรักษาโรค เช่น การผ่าตัดใหญ่ หรือการทำเคมีบำบัด อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดลิ่มเลือดได้เช่นกัน
- ร่างกายไม่ได้เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน เช่น การนอนบนเตียงเนื่องจากความเจ็บป่วยหลังการผ่าตัดหรือหลังได้รับอุบัติเหตุ การใส่เฝือก การนั่งโดยสารเครื่องบินหรือรถยนต์เป็นเวลานาน รวมถึงมีอาชีพที่ต้องนั่งเป็นเวลานาน เช่น พนักงานออฟฟิศ เพราะอาจทำให้เลือดไหลเวียนช้าลงและเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือด
- การสูบบุหรี่ ผู้ที่สูบบุหรี่เสี่ยงต่อโรคนี้และเสี่ยงเผชิญปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ร่วมด้วย
- ภาวะน้ำหนักตัวเกิน รวมถึงโรคอ้วน อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้ได้ โดยเฉพาะผู้หญิงอ้วนหรือมีน้ำหนักเกินที่สูบบุหรี่หรือมีความดันโลหิตสูง
- การตั้งครรภ์ น้ำหนักของทารกในครรภ์อาจไปกดทับเส้นเลือดดำบริเวณกระดูกเชิงกราน ทำให้เลือดไหวเวียนได้ช้าลงจนเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือด
- การใช้ฮอร์โมนเสริม ความเสี่ยงในการเกิดเลือดแข็งตัวจนเป็นลิ่มเลือดอาจเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะผู้ที่ได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจนหรือเทสโทสเตอโรน ซึ่งอาจมาจากการใช้ยาคุมกำเนิดหรือการใช้ฮอร์โมนทดแทน และความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นหากเป็นผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินหรือสูบบุหรี่
-
การวินิจฉัย
- โรคปอด เช่น ปอดติดเชื้อ หลอดลมอักเสบเฉียบพลัน โรดหลอดลมปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) หรือหอบหืด ลมในช่องโพรงเยื่อหุ้มปอด กระดูกซี่โครงหัก เยื่อหุ้มปอดอักเสบ น้ำในโพรงเยื่อหุ้มปอด มะเร็ง ปอด และดวามดันสูงในหล อดเลือดปอดที่ไม่ทราบสาเหตุ (primary pulmonary hypertension
- โรดหัวใจและหลอดเลือด เช่น หัวใจลัมเหลว กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ
น้ำในช่องเยื่อหุ้มหัวใจ ผนังหลอดเลือดแดงแฮฮอร์ตาเซาะ (aortic dissection)
- โรคอื่นๆ เช่น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ (musculoskeletal pain) และภาระหายใจหอบมากเกิน (hyperventilation) เป็นต้น
-
การพยาบาล
ควบคุมน้ำหนักตัว รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และมีไขมันต่ำ เพื่อหลีกเลี่ยงโรคอ้วนหรือการมีน้ำหนักตัวเกินซึ่งเสี่ยงเกิดการอุดตันของไขมันและลิ่มเลือด และเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อระบบต่าง ๆ
เตรียมตัวก่อนการเดินทางที่ต้องนั่งโดยสารเป็นเวลานาน เช่น ดื่มน้ำเยอะ ๆ ลุกขึ้นเดินบ้างหลังจากนั่งเป็นเวลานาน งอเข่าหรือบริหารเข่าและข้อเท้าในระหว่างนั่งโดยสารทุก ๆ 15-30 นาที เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและลดความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือด
ใช้อุปกรณ์เสริม เช่น ใช้ถุงน่องแบบรัด ซึ่งเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ปลอดภัยและมีราคาย่อมเยา หรือใช้เครื่องบีบเค้นด้วยลม เพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณขาให้ดีขึ้นและป้องกันการเกิดลิ่มเลือด
เคลื่อนไหวร่างกายให้มากขึ้น เช่น ออกกำลังกายบริหารขาด้วยการเดิน หรือนอนราบแล้วใช้หมอนรองเพื่อยกก้นให้สูงขึ้นประมาณ 4-6 นิ้ว ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่เพิ่งผ่าตัดเสร็จ เพราะนอกจากจะช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้นแล้ว ยังช่วยป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตันได้ด้วย
-
-
-
-