Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคสมาธิสั้น (Attention Deficit Hyperactivity : ADHD), นางสาวกัญติญา…
โรคสมาธิสั้น
(Attention Deficit Hyperactivity : ADHD)
เกิดจากความผิดปกติของสมอง
ทำให้เกิดกลุ่มอาการสมาธิบกพร่องและความผิดปกติด้านพฤติกรรม
ปัญหาที่มักพบชัดเจน : ด้านการเรียน และการเข้าสังคม
Epidemiology
พบร้อยละ5 ในเด็กวัยเรียน
พบในเพศชาย > เพศหญิง
60-70% ของเด็กที่เป็นโรค จะมีอาการต่อเนื่องถึงวัยผู้ใหญ่
อาการ/อาการแสดง
:silhouette:
ขาดสมาธิ (Inattention)
วอกแวกง่าย
เหม่อลอยเมื่อต้องใช้ความคิด
ขาดความตั้งใจ/ไม่จดจ่อในการทำงาน
ทำงานไม่เสร็จ/ไม่เรียบร้อย
ทำของหายบ่อย
ทำงานละเอียดไม่ค่อยได้
จดจ่อกับสิ่งที่ชอบได้นาน (selective attention)
อยู่ไม่นิ่ง (Hyperactivity)
ซุกซนมาก
อยู่ไม่นิ่ง ต้องขยับตัวไปมา
มักลุกเดินในห้องเรียน/ เดินออกจากห้อง
ชอบแกล้งผู้อื่น เล่นแรง
เล่นผาดโผน
ทำกิจกรรมที่เสี่ยงอันตราย
เกิดอุบัติเหตุบ่อย
หุนหันพลันแล่น (Impulsivity)
ใจร้อน วู่วาม รอคอยไม่ได้
ความอดทนต่ำ
คิดแล้วทำทันทีไม่คิดถึงผลที่จะตามมา
ขาดความระมัดระวัง
พูดแทรก/ขัดจังหวะผู้อื่น
แย่งตอบคำถามก่อนฟังจบ
การบัดรักษาโรคสมาธิสั้น
:red_flag:
➢การรักษาด้วยยา (Pharmacotherapy)
-
ยากลุ่ม Psychostimulants : Methylphenidate(Ritalin)
ลดอาการซน สมาธิสั้น
ยาต้านเศร้ากลุ่ม SSRIs
ยาต้านเศร้ากลุ่ม TCAs
ยากลุ่ม EI Alpha-adrenergic agonist**
ใช้ในโรคสมาธิสั้นที่มี Tic ร่วมด้วย
➢การบำบัดทางจิตสังคม
การปรับพฤติกรรม : ที่บ้าน และในห้องเรียน
การให้สุขภาพจิตศึกษา (Psychoeducation)
การให้คำปรึกษาบิดามารดา
การฝึกทักษะทางสังคม
การออกกำลังกาย
การฝังเข็ม
การปรับพฤติกรรมที่บ้าน
เป้าหมาย
:
ผู้ปกครองมีวิธีการจัดการกับพฤติกรรมเด็กอย่างเหมาะสม
วิธีการ :
:check:
ปรับทัศนคติต่อเด็กให้เป็นบวก ทำความเข้าใจว่าเกิดจากความผิดปกติของสมอง
จัดทำตารางเวลาในการทำกิจกรรมให้ชัดเจน
จัดสถานที่ทำงานให้สงบ ลดสิ่งกระตุ้นที่ทำให้วอกแวก
นั่งอยู่ด้วยระหว่างที่เด็กทำการบ้าน
ลดเวลาดู TV เล่นคอมพิวเตอร์
ส่งเสริมให้เล่นกีฬา/กิจกรรมกลางแจ้งเพื่อให้ได้ใช้พลังงานที่มีมาก
ใช้การลงโทษทางลบ (Negative punishment)
การจำกัดสิทธิ์ต่าง ๆ
งดดู TVงดออกไปเที่ยวนอกบ้าน :no_entry:
:check:
ให้การเสริมแรงทางบวก (Positive reinforcement)
เป็นตัวแบบที่ดี (modelling) เช่น มีระเบียบ รู้จักรอคอย สุภาพ
เมื่อต้องออกคำสั่ง
สั่งทีละขั้นตอน ใช้คำที่สั้น กระชับ ตรงไปตรงมา
ไม่ดุเสียงดัง/ตำหนิ/บ่นจู้จี้
มองหาข้อดีของเด็กและพูดให้เด็กเห็นข้อดีของตนเอง/ชมเชย/ให้รางวัล
การปรับพฤติกรรมในห้องเรียน :pencil2:
เป้าหมาย : ลดอาการเหม่อลอย ขาดสมาธิ และพฤติกรรมรบกวนในห้องเรียน
• วิธีการ :
จัดให้นั่งหน้าชั้นเรียน และแวดล้อมด้วยเด็กเรียบร้อยที่ไม่คุยระหว่างเรียน
-ให้การเสริมแรงทางบวกเมื่อปฏิบัติตัวเหมาะสม
เขียนการบ้านหรืองานที่มอบหมายให้ชัดเจน ลดการสั่งงานด้วยคำพูด
ไม่ใช้การตำหนิ/ทำให้เด็กอับอาย
ลงโทษด้วยการตีหรือใช้ความรุนแรง
ช่วยเหลือด้านการเรียนเป็นพิเศษ
ให้เวลาสอบนานกว่าเด็กปกติ, สอนเสริมแบบตัวต่อตัว
กระบวนการพยาบาลสำหรับเด็กและวัยรุ่นที่มีโรคสมาธิสั้น
:red_flag:
1. การประเมิน (Assessment)
การสัมภาษณ์ผู้ปกครอง
พฤติกรรม ผลการเรียน ประวัติการตั้งครรภ์ ประวัติพัฒนาการในด้านต่าง ๆ
ประวัติอุบัติเหตุ อาการชัก การเจ็บป่วยทางกายอื่น ๆ
ประวัติการเลี้ยงดู
การสัมภาษณ์และสังเกตพฤติกรรมเด็ก
เด็กเล็ก :สัมภาษณ์พร้อมผู้ปกครอง
วัยรุ่น :แยกสัมภาษณ์เป็นส่วนตัว
การใช้แบบสอบถาม
เช่น แบบสอบถาม ADHD Rating scale-IV*
การตรวจร่างกาย
: เพื่อแยกโรคทางกายที่อาจเป็นสาเหตุ
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
(กรณีมีข้อบ่งชี้)
2. การกำหนดข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล (Nursing diagnosis)
เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อตนเองและผู้อื่นเนื่องจากมีอาการหุนหันพลันแล่น
บกพร่องทักษะด้านการเรียนรู้เนื่องจากขาดสมาธิ
ผู้ดูแลพร่องทักษะการดูแลและจัดการกับพฤติกรรมของบุตรเนื่องจากขาดความรู้ความเข้าใจในการดูแล
3. การวางแผนการพยาบาล (Planning)
กำหนดทั้งเป้าหมายระยะสั้น และระยะยาว
เหมาะสมและสอดคล้องกับข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
4. การปฏิบัติการพยาบาล (Implementation)
สร้างสัมพันธภาพ และเปิดโอกาสให้ระบายความรู้สึก
จัดสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัย เงียบสงบ ลดสิ่งรบกวน
กำหนดเวลาเข้านอน หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่กระตุ้นก่อนเข้านอน
ปรับพฤติกรรม : ให้แรงเสริม (เสริมพฤติกรรมทางบวก ลดพฤติกรรมก่อกวน)
ฝึกทักษะทางสังคม ฝึกการมีสัมพันธภาพกับผู้อื่น
จิตบำบัด ครอบครัวบำบัด
ให้ความรู้แก่เด็กและครอบครัว
ให้ความรู้ครู : การปรับพฤติกรรมในห้องเรียน
5. การประเมินผลการพยาบาล (Nursing evaluation)
เด็กปลอดภัยจากการมีพฤติกรรมอยู่ไม่นิ่ง
เด็กสามารถสร้างสัมพันธภาพกับผู้อื่นได้เหมาะสม
เด็กสามารถควบคุมและแสดงออกทางอารมณ์ได้เหมาะสม
เด็กมีทักษะที่จำเป็นในการดำเนินชีวิตให้เป็นไปตามศักยภาพ
ครอบครัวมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคและวิธีการดูแลผู้ป่วยอย่างถูกต้อง
นางสาวกัญติญา บุตรดา
รหัสนักศึกษา 6413004