ภาวะหายใจเร็ว 85 ครั้ง/นาที
มี slightly retraction

TTNB

RDS

Hypoglycemia

Hypothermia/Hyperthermia

Sepsis

Polycythemia

ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ Hypoglycemia หมายถึงภาวะระดับน้ำตาลในเลือดของทารกแรกเกิดที่ลดลงอย่างผิด ปกติ และเป็นอันตรายต่อร่างกาย ซึ่งใช้ค่าระดับน้ำตาลในเลือด < 40 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ใน 24 ชั่วโมงแรกหลังคลอด

❌เหตุผลคัดค้าน
ค่าน้ำตาลในเลือดของทารกแรกคลอด = 74 mg/dL
ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ปกติ จึงไม่เป็นสาเหตุของภาวะหายใจเร็ว

ภาวะที่ร่างกายมีความร้อนสูงขึ้นหรือต่ำลง เพื่อปรับอุณหภูมิของร่างกายให้สมดุล โดยที่จุดตั้งต้นอุณหภูมิที่สมอง Hypothalamus มีการเปลี่ยนแปลง ทำให้อุณหภูมิร่างกายเปลี่ยนแปลง โดย Hypothermia มีอุณหภูมิต่ำกว่า 36.6 องศาเซลเซียส และ Hyperthermia มีอุณหภูมิสูงกว่า 37.4 องศาเซลเซียส

✅ อุณหภูมิเเรกคลอด 37.0 Cอุณหภูมิเเรกรับ 37.6

เกิดจากการขาดสาร surfactant ที่ทำหน้าที่ให้ถุงลมคงรูปและไม่แฟบขณะหายใจออก เมื่อขาดสาร surfactant จะทำให้ความยืดหยุ่นของปอดลดลง ทารกต้องใช้แรงมากในการหายใจแต่ละครั้ง ทำให้ร่างกายต้องใช้ออกซิเจนเพิ่มมากขึ้น มักพบบ่อยในเด็กคลอดก่อนกำหนด เนื่องจาก สาร surfactant จะเริ่มสร้างเมื่อ 22-24 wks และสร้างเต็มที่เมื่อ 36 wks

❌ เหตุผลคัดค้าน

  1. ทารกคลอดครบกำหนด 37+5 wks by date ซึ่งสาร surfactant จะเริ่มสร้างตั้งแต่เมื่อทารกอายุครรภ์ได้ 22 wks และสมบูรณ์เมื่ออายุครรภ์ 36 wks ขึ้นไป ดังนั้น RDS จึงไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ทารกเกิดการหายใจเร็ว

อาการ

สาเหตุ

ด้านมารดา

ด้านทารก

❌ การใส่สายสวนหลอดเลือดทางสะดือ
❌ การได้รับสารอาหารทางหลอดเลือด
❌ เม็ดเลือดขาวยังทำงานได้ไม่ดี
❌ ทารกที่มีภาวะพร่องออกซิเจนในครรภ์

การติดเชื้อในมารดาระหว่างการตั้งครรภ์หรือรอคลอด เช่น ❌ การติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ
❌ ไข้ระหว่างรอคลอด
❌ การวินิจฉัยเป็น chorioamniontitis
❌ ประวัติน้ำเดินก่อนคลอดนาน โดยเฉพาะมากกว่า 18 ชม.

⚠อาการเเละอาการเเสดง
ส่วนใหญ่ ในทารกแรกเกิดมักไม่มีไข้ มีอุณหภูมิกายต่ำ(hypothermia) ทารกเกิดก่อนกำหนดที่มี EOS มักจะมีอาการหยุดหายใจหายใจเร็ว เขียว หัวใจเต้นช้าเป็นอาการแสดงเริ่มต้นตั้งแต่หลังเกิดทันที ส่วนในทารกแรกเกิดครบกำหนด มักจะเริ่มมีอาการภายใน 6 - 24 ชั่วโมงแรกหลังเกิด ส่วนใหญ่เริ่มด้วยอาการแสดงทางระบบทางเดินหายใจ นอกจากนี้ในรายที่เป็นรุนแรง อาการความดัน เลือดต่ำ ช็อก และมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมา เช่น disseminated Intravascular coagulation (DIC)
การทำงานของตับ และไตผิดปกติ เป็นต้น

✅มีภาวะหายใจเร็ว พบ slightly retraction
RR =85 bpm

Polycythemia เป็นภาวะที่มีเม็ดเลือดแดงมากเกินผิดปกติ คือ เกินค่าปกติ +2 SD เมื่อพิจารณาถึงอายุ และอายุครรภ์ ซึ่งก็คือ ระดับความเข้มข้นของเลือด > 64 %

❌เหตุผลคัดค้าน
1.ระดับความเข้มข้นของเลือด HCT = 44% ซึ่งยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ ดังนั้น Polycythemia จึงไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ทารกเกิดการหายใจเร็ว

เหตุผล
✅ 1. ผลแลป corrected WBC 34.72 x 10^3/uL (27/11/65)
❌ 2. การตรวจ hemoculture : ผล No growth after 3 day(27/11/2565)
❌ 3. ขณะตั้งครรภ์มารดา ไม่มีไข้ ไม่มีPROMไม่มีอาการ และอาการแสดงของการติดเชื้อ
การติดเชื้อในทารกอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการหายใจเร็วได้

ภาวะที่มีการหายใจลำบากในระยะแรกเกิดที่ปรากฏอาการหลังคลอดทันที หรือภายใน 6 ชั่วโมงหลังคลอด

สาเหตุ

❌1. โรคหอบหืดในมารดา

❌2. ภาวะเบาหวานในขณะตั้งครรภ์

❌3. ทารกตัวโต

✅4. การผ่าตัดคลอด

❌5. การคลอดก่อนกำหนดในระยะท้าย (late preterm) ซึ่งหมายถึง การคลอดในขณะอายุครรภ์ 34-36 สัปดาห์

❌6. ความผิดปกติทางพันธุกรรมเกี่ยวกับการทำงานของ Ion-channel

✅จากกรณีศึกษา ทารกมีประวัติคลอด C/S

อาการ

  1. ในระยะแรกเกิด ส่วนมากจะมีคะแนน APGAR เท่ากับ หรือต่ำกว่า 5
  2. มีอาการหายใจเร็ว (Tachypnea) เกิดขึ้นภายใน 6 ชั่วโมงหลังคลอด โดยในชั่วโมงแรก อาจมีอัตราการหายใจปกติ (40-60 ครั้งต่อนาที) และอัตราการหายใจจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นใน 46 ชั่วโมงต่อมา อาจสูงได้ถึง 162 ครั้งต่อนาที จะพบเมื่ออายุ 6-36 ชั่วโมง แล้วอัตราการหายใจจะค่อยๆ ลดลงสู่ปกติ เมื่ออายุ 48-72 ชั่วโมง
  3. มีการดึงรั้ง (Retraction) ของช่องซี่โครงหรือใต้ชายโครง
  4. อาจมีอาการเขียว
  5. หายใจปีกจมูกบาน (Nasal flaring)
  6. หน้าอกบุ๋มขณะหายใจเข้า
  7. มีเสียง grunting ขณะหายใจออก
  8. อาจพบทรวงอกโปร่งกว่าปกติ (Hyperinflation)

10 ชม. หลังคลอด ขณะอยู่ที่ NS มีหายใจเร็ว 85 ครั้ง/นาที มี Slightly retraction HR 154 ครั้ง/นาที O2 Sat 98 %

การตรวจวินิจฉัย

  1. การตรวจภาพถ่ายรังสีปอด ในระยะอาการเริ่มแรก เป็นช่วงที่ถุงลมมีน้ำอยู่มาก จะเห็นเป็นฝ้าขาว หรือจุดขาวเล็กๆ กระจายทั่วไปในปอด
  1. การตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อวิเคราะห์ดูก๊าซในเลือด พบภาวะกรดจากการหายใจ (Metabolic acidosis) คาร์บอนไดออกไซด์คั่ง และเลือดขาดออกซิเจน

ผล chest x-ray พบ
Fluid in minor fissure
ผล Film เป็น TTNB

การตรวจ CBG พบว่า ค่า pO2 ต่ำ ค่า HCO3 act และ HCO3 std สูง คือ เกิดภาวะ Respiratory acidosis

การรักษา

  1. ให้การดูแลทั่วๆ ไปแบบประคับประคอง เช่น การควบคุมอุณหภูมิโดยการนำเข้าตู้อบ
  2. ถ้ามีอาการหายใจหอบเหนื่อยมากกว่า 60 ครั้งต่อนาที และมีอาการเขียวร่วมด้วย ควรให้ออกซิเจนที่มีความขึ้นเหมาะสม
  3. ในระยะหายใจหอบเหนื่อยมาก ควรงดอาหารทางปาก ให้สารน้ำทดแทนทางหลอดเลือดดำ เมื่ออาการดีขึ้นจึงเริ่มให้นมทางสายยาง ถ้าหายใจหอบเหนื่อยน้อยลง (อัตราการหายใจน้อยกว่า 60 ครั้งต่อนาที ) เริ่มให้ดูดนมเองได้

ขณะอยู่ที่ NS มีหายใจเร็ว 85 ครั้ง/นาที มี Slightly retraction HR 154 ครั้ง/นาที O2 Sat 98 % ดูแลให้ On O2 Box 6 LPM FiO2 0.2 (Keep SpO2 95) หลัง O2 Box 6 LPM RR = 68 bpm HR = 152 bpm O2 Sat 98 % และให้ย้ายมาที่ SNCU
ขณะอยู่ที่ SNCU ทารก On O, Box 6 LPM FiO, 0.2 (Keep SpO2 95) RR = 68 bpm มี Slightly retraction HR = 152 bpm O, Sat 98 % จึงเปลี่ยนเป็น O2 HHFNC 7 LPM FiO, 0.21-0.4 (Keep Sp0, 95) หลังได้รับ RR = 53-60 bpm irregular No retraction HR = 154 bpm O2 Sat 98%
แพทย์เริ่มปรับลดออกซิเจนลงเรื่อยๆเพื่อ Try wean และ Try wean Off O2 HHFNC ได้เมื่อวันที่ 22/11/65 หลัง off Oxygen หายใจ room air RR = 54 bpm irregular No retraction HR = 148 bpm O2 Sat 99 %