Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หลักการและเทคนิค การดูแลทางเดินหายใจ - Coggle Diagram
หลักการและเทคนิค
การดูแลทางเดินหายใจ
อุปกรณ์ให้ออกซิเจน
แหล่งที่มาของออกซิเจน
ได้แก่ - Oxgen แบบถัง
Oxgen แบบท่อ pipe line
Pressure Regulator
หรือ หัวเกจ์
เป็นตัวปรับลดความดัน เพื่อควบคุมการ
ปล่อยก๊าซOxgen ให้มีแรงดัน
มาตรวัดการไหลของOxgen
ควบคุมการไหลของOxgen-flow meter
*การหมุนอัตราการไหลของก๊าซOxgen
ถ้าให้ 3ลิตร/นาที หมุนลูกลอยให้อยู่ตรงกลางของขีดเลข 3 เป็นต้น
ระบบให้ความชื้น
4.1 แบบละอองโต Bubble ให้ความชุ่มชื้นถึง 30-40%
4.2 แบบละอองฝอย Jet ให้ความชุ่มชื้นถึง 70-75%
ระบบให้ความชื้น ให้ใช้น้ำหลั่นปราศจากเชื้อเติมนขวด
ท่อนำ Oxgen
สายออกซิเจนขนาดเล็ก
สายออกซิเจนขนาดใหญ่
Corrugate Tube
การให้ Oxgen แบบ Nasal Cannula
เป็นสายสั้นแยงเข้ารูจมูกทั้งสองสามารถเปิด Flow
ได้ตั้งแต่ 1-6L/min เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ต้องการ
ความเข้มข้นOxgenไม่สูง-ใช้ความชื้นแบบ Bubble
การให้ Oxgen แบบ Face Mask
เป็นหน้ากากครอบปากและจมูกให้มิดชิด สามารถ
เปิด flow ตั้งแแต่ 6-10 L/min ไม่ควรต่ำว่า 6 ลิตรต่อนาที
=ใช้ความชื้นแบบ Bubble
การให้ OXgen แบบ T-Piece
เหมาะสำหรับให้ออกซิเจนแก่ผู้ป่วยที่มีท่อทางเดินหายใจ
Endotracheal tube or Tracheostomy tube
สามารถเปิด flow ตั้งแต่ 6-10L/min
ไม่ควรต่ำกว่า 5 ลิตรต่อนาทีจะมี 3 ทาง
ทางที่ 1 เป็นทางเข้าสู่ผู้ป่วย
ทางที่ 2 เป็นทางให้ fresh gas เข้า ที่ต่อมาจาก nebulizer
ทางที่ 3 เป็นทางให้ลมหายใจและก๊าซส่วนเกินออก(Extention tube)
=ใช้ความชื้นแบบ Jet humidifier
การให้ Oxgen ชนิด Oxgen hood/ box
มีกลักษณะกล่องใส วางครอบอยู่เหนือศีรษะ จมูก ปากของทารก
ใช้อัตรการไหลของ Oxgen 10-12 ลิตร/นาที
ให้ความเข้มข้นของOxgenที่ได้ 60-70% ไม่ควรให้สายOxgenพ่นลงใบหน้าทารกโดยตรง โดยเฉพาะหน้าผาก
เพราะจะกระตุ้น diving reflex ทำให้ HR ช้าลง
Breathing Exercise
Diaphragmatic breathing
การฝึกหายใจที่เน้นการหดตัวของกล้ามเนื้อกะบังลม
เป็นหลัก ส่งผลให้ปอดขยายตัวดี
หายใจเข้าทางจมูก>>>ท้องป่อง
หายใจออกทางจมูก>>>ท้องแฟบ
ทำ 5-10ครั้งทุกชั่วโมง
Pursed lip breathing
การฝึกหายใจเพื่อลดการคลั่งของคาร์บอน และลด
ปัญหาของถุงลมแฟบ
หายใจเข้าทางจมูก>>>นับ1-2ในใจ
ห่อปากแล้วหายใจออกทางปากช้าๆ >>>นับ1-2-3-4ในใจ
Incentive spirometer
เพิ่มการขยายตัวของปอด
ใช้อุปกร์ช่วย พยายามสูดหายใจเข้าลึกๆ ใหลึกมากที่สุด
เพื่อให้ลูกบอลลอยขึ้นทั้ง 3 ลูก แล้วค้างไว้ 3 วินาทีเป็นอย่างน้อย ผ่อนหายใจออกช้าๆ และทำซ้ำ
การให้ Oxgen ชนิด High flow nasal cannula HFNC
คล้ายกับ Nasal cannula แต่สามารถให้ flow ที่สูงได้ตั้งแต่ 1-60 LPM
สามารถให้ค่า 21-100% ปรับอุณหภูมิใกล้เคียงกับร่างกาย 31-37 องศา
แก้ไขภาวะพร่องออกซิเจนได้ดี
Secretion Drainage
การไออย่างถูกวิธี
ให้ผู้ป่วยนั่งเก้าอี้ในท่าผ่อนคลาย หุบปากและสูดหายใจ
เข้าทางจมูกช้าๆ และลึกๆ กลั้นหายใจไว้สักครู่หนึ่งประมาณ 2-3วินาที
ช่วงหายใจออก โน้มตัวลงมาข้างหน้าเล็กน้อย อ้าปาก
กว้างๆ ไอออกมาติดต่อกันประมาณ 2-3ครั้ง
การดูดเสมหะ
Suction
วัตถุประสงค์
เพื่อให้ทางเดินหายใจโล่ง ผู้ป่วยหายใจได้สะดวก
เพื่อป้องกันการเกิดภาวะทางเดินหายใจอุดตัน
ออกซิเจนผ่านเข้าออกได้สะดวก
เพื่อป้องกันการคั่งค้างและเป็นการระบายเสมหะ
เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน และลดการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ
เพื่อเก็บตัวอย่างเสมหะส่งตรวจ
การดูดเสมหะ แบ่งออกเป็น 2 วิธี
การดูดเสมหะแบบระบบเปิด Open Suction
คือ การดูดเสมหะที่ต้องปลดเครื่องช่วยหายใจออกก่อนแล้วจึงสอดสายดูดเสมหะแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งเข้าไปเพื่อดูดเสมหะ
การดูดเสมหะแบบระบบปิด Closed Suction
คือ การดูดเสมหะที่มีปลอกพลาสติกห่อหุ้มตัวสายดูดเสมหะ
ตลอดแนว ใช้ดูดซ้ำหลายๆ ครั้งและไม่จำเป็นต้องปลดเครื่อง
ช่วยหายใจออกก่อนดูดเสมหะ
การดูดเสมหะระบบเปิด
ใช้เทคนิคปราศจากเชื้อ
อุปกรณ์
Wall Suction 1 ชุด
Sterile Suction tube
ออกซิเจน, สายต่อ, Self-inflating bag
สำลีแอลกอฮอล์ 70%
ถุงมือสะอาดและถุงมือปราศจากเชื้อ
น้ำสะอาดสำหรับล้างสาย
ภาชนะใส้น้ำที่มีฝาปิด สำหรับใส่สาย suction
และถุงมือที่ใช้แล้ว
ขั้นตอนการดูดเสมหะ
ประเมินความต้องการในการดูเสมหะ
เตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อมไว้ข้างเตียงผู้ป่วย
ล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังดูดเสมหะทุกครั้ง
อธิบายใหู้้ป่วยทราบ เพื่อคลายความวิตกกังวล
จัดท่าผู้ป่วยให้นอนหงายศีรษะสูง 30-45องศา
ควรมีการดูดเสมหะในปากก่อนการดูดเสมหะในท่อช่วยหายใจ
(การดูดเสมหะในปากให้หลักสะอาด)
ให้ออกซิเจนแก่ผู้ป่วยอย่างน้อย 30วินาที-2นาที ก่อน
และหลังการดูดเสมหะด้วยการใช้ Self inflating bag
เช็ดด้วยสำลีชุปแอลกอฮอล์70%ทุกครั้งที่ต่อท่อ
ผู้ทำการ Suction สวมถุงมือ Sterile ข้างขวาและรับ
สาย Sterile suction จากผู้ช่วย
ผู้ทำการ Suction ต่อสาย Sterile suction กับ fingertip
ของสายที่ต่อมาจากขวด Suction
9.1 มือข้างที่ไม่ได้ใส่ถุงมือปราศจากเชื่อจับ fingertip
9.2 มือข้างที่สวมถุงมือปราสจากเชื้อจับสาย Sterile Suction เท่านั้น
ทำการเปิดเครื่อง Suction ให้มีความดันลบ
ผู้ใหญ่ 80-120 มม.ปรอท
สอดสาย Sterile Suction เข้าไปในท่อทางเดินหายใจให้ถึงแยกของ
แขนงหลอดลม Carina (ผู้ป่วยจะมีอาการขย่อน) ให้ถอยสายออกมา
ประมาณ 1-2cm. ก่อนจะใช้นิ้วหัวแม่ปิด fingertip เพื่อดูดเสมหะ
ทำการกดดูดเสมหะและหมุมคลึงสาย Sterile Suction พร้อมกลับดึงสายออกมาช้าๆ ในผู้ใหญ่ไม่ควรนานเกิน10-15วินาทีและในเด็กไม่เกิน5วินาที
ผู้ช่วยให้ออกซิเจน 100%ด้วยSelf-inflating bagเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับ
ออกซิเจนก่อนการดูดเสมหะใหม่ จำนวนครั้งไม่เกิน 2 ครั้งต่อรอบ
เมื่อทำการดูดเสมหะเสร็จเรียบร้อย ผู้ทำล้างสาย Suction โดยจุ่มปลายสายลงในขวดน้ำที่เตรียมมา ทำการกดดูดเพื่อล้างสาย และปิดเครื่องดูดเสมหะ
ทำการปลดสายดูดออกจากเครื่องดูดเสมหะและถอดถุงมือ ทิ้งลงถังขยะติดเชื้อที่มีฝาปิด
ผู้ทำการ Suction ใช้สำลีชุปแอลกอฮอล์70%เช็ดfingertipและเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย
ล้างมือให้สะอาด 7 ขั้นตอน
บันทึกในใบรายงานผู้ป่วย
การประเมินผู้ป่วยภายหลังการดูดเสมหะ
ต้องประเมินอัตรการเต้นของหัวใจ
ค่าความอิ่มตัวของออกซิเจน, สีผิว
ฟังปอดหลังการดูดเสมหะ
บันทึกสิ่งที่พบ ลักษณะเสมหะ สี ปริมาณ
การพ่นยา
Nebulizer
การพ่นยาแบบฝอยละออง ชนิด
Jet nebulizer นิยมใช้แบบครั้งคราว
ใช้รักษาโรคระบบทางเดินหายใจ
วิธีปฏิบัติ
ล้างมือ เตรียมอุปกรณ์ เลือกหน้ากากที่มีขนาดเหมาะสมกับผู้ป่วย
แจ้งผู้ป่วย จัดท่าศีรษะสูง มากกว่า 30 องศา
ใส่ยาในกระเปาะ Medicated nebulizer
ต่อกระเปาะยากับ aerosol face mask ทีมีรูกลมเปิดที่ข้างจมูกทั้ง2ข้าง
ต่อท่อก๊าซออกซิเจนที่ก้นกระเปาะ และต่อกับ flow meter โดยไม่ต้องผ่านน้ำในเครื่อง Humidifier
เปิดอัตราการไหลของก๊าซ 6-8ลิตร/นาที ให้เกิดละอองฝอย
นำไปครอบที่ปากและจมูกของผู้ป่วย ให้ผู้ป่วยหสยใจเข้าออกปกติ
8.ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที
บ้วนปากหลังพ่นยา
ประเมินอาการและอาการแสดง ฟังปอด และบันทึกทางการพยาบาล