Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Transient tachynea of newborn - Coggle Diagram
Transient tachynea of newborn
Early onset sepsis
Respiratory Failure
การรักษา การรักษาภาวะหัวใจวายมีขั้นตอน คือ การรักษาเบื้องต้นเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การค้นหาและรักษาตามสาเหตุ การแก้ไขความผิดปกติของการแลกเปลี่ยนก๊าซ และการรักษาเพื่อประคับประคอง (ดุสิต สถาวร,2544) 1.การรักษาเบื้องต้นเพื่อแก้รักษาเฉพาะหน้า ด้วยการประเมินการทำหน้าที่ของระบบหายใจและระบบไหลเวียน เช่น การใส่ท่อช่วยหายใจ การช่วยหายใจด้วยออกซิเจนความเข้มข้นสูง การให้สารน้ำและให้ยาเพื่อเพิ่มการบีบตัวของหัวใจ
2.การค้นหาและการรักษาสาเหตุ ได้แก่ การค้นหาสาเหตุของการพร่องออกซิเจนในเลือด และภาวะคั่งของคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือด เช่น ผู้ป่วยที่มีภาวะหลอดลมหกเกร็งควรได้รับยาขยายหลอดลมและคอร์ติโคสเตียรอยด์ หรือการได้รับยาปฏิชีวนะ
กรณีศึกษา: ใส่ท่อช่วยหายใจ การช่วยหายใจด้วยออกซิเจนความเข้มข้นสูง การให้สารน้ำและให้ยาเพื่อเพิ่มการบีบตัวของหัวใจ
ภาวะหายใจวาย หมายถึง ภาวะที่มีการแลกเปลี่ยนก๊าซไม่เพียงพอ ทำให้ระบบหายใจไม่สามารถรักษาระดับออกซิเจนในเลือด เกิดภาวะพร่องออกซิเจนในเลือด หรือมีการคั่งของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือด การตรวจหาค่าก๊าซในเลือดแดง พบว่าความดันของก๊าซออกซิเจนในเลือดแดง (PaO2) น้อยกว่า 60 มิลลิเมตรปรอท หรือความดันของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดแดง (PaCO2) มากกว่า 50 มิลลิเมตรปรอท และความเป็นกรดด่างน้อยกว่า 7.35 ในภาวะ FiO2 เท่ากับ 0.21
กรณีศึกษา : pH 7.34 Low
PaO2 37.0 mmHg Low
PaCO2 45.0 mmHg Hi
อาการและอาการแสดง: หายใจตื้น หน้าอกบุ๋มขณะหายใจเนื่องจากต้องใช้กล้ามเนื้อช่วยในการหายใจเพิ่มขึ้น ทำให้ปอดขยายตัวและเพิ่มความยืดหยุ่นของปอด ปีกจมูกบาน หายใจมีเสียง grunting
กรณีศึกษา : หายใจเร็ว หายใจมี subcostal retraction Nasal flaring
สาเหตุ : เกิดได้หลายสาเหตุ ดังนี้
1.ความผิดปกติของปอด
1.1 ภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจส่วนบน เช่น
tracgeomalacia , subglottic , stenosis,
epiglottis , croup สิ่งแปลกปลอมอุดกั้นทางเดินหายใจ
1.2 ภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจส่วนล่าง เช่น หลอดลมฝอยอักเสบ โรคหืด สูดสำลัก
1.3 ภาวะที่การแลกเปลี่ยนก๊าซในถุงลมบกพร่อง เช่น ติดเชื้อที่ปอด จมน้ำ pulmonary embolism lung contusion และช็อค
2.ความผิดปกติของปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องกับการหายใจ
2.1 ความผิดปกติของทรวงอก เช่น กระดูกสันหลังโก่งหรือคด
2.2 ความผิดปกติของระบบไหลเวียน 2.3 ความผิดปกติของไขสมองและไขสันหลัง
2.4 ความผิดปกติของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
การวินิจฉัย : ภาวะหัวใจวายในเด็กสามารถวินิจฉัยได้จากประวัติ อาการ อาการแสดงและการตรวจร่างกาย ภาวะหายใจวายรุนแรงมักต้องการการรักษาอย่างรีบด่วน อาจโดยการใส่ท่ช่วยหายใจ และการให้ออกซิเจนก่อนที่จะทำการทดสอบหรือการตรวจทางห้องปฏิบัติการที่ช่วยยืนยันการวินิจฉััยภาวะหายใจล้มเหลว เช่น ค่าก๊าซในหลอดเลือดแดง
ภายหลังการช่วยเหลือในระยะฉุกเฉินแล้วการวินิจฉัยต่อเนื่อง เช่น การถ่ายภาพรังสีทรวงอก จะช่วยในการวินิจฉัยสาเหตุของภาวะหายใจวาย เช่น อาจพบภาวะปอดอักเสบ ปอดแฟบ พบน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด นอกจากนี้ยังมีการตรวจทางห้องปฏิบัติการอื่นๆ เช่น การส่งเพาะเชื้อ
การประเมินและการค้นหาผู้ป่วยที่สงสัยว่ามีภาวะ Sepsis 1. ใช้SIRSCriteriaหรือSOSscoreในการค้นพบผู้ป่วยที่สงสัยภาวะsepsis
ในกรณีผู้ป่วยมีSIRScriteriaมากกว่าหรือเท่ากับ2ข้อขึ้นไปหรือSOSscore
ใช้SOSscoreร่วมกับใช้vitalsignsในการประเมินความรุนแรงของผู้ป่วย
ในกรณีผู้ป่วยสงสัยภาวะ sepsis ร่วมกับมีความดันโลหิตต่าหรือ ผู้ป่วยสงสัยภาวะ
sepsisร่วมกับมี SOS score มากกว่า 5 ให้สงสัยภาวะ severe sepsis หรือ septic shock
หมายถึง ภาวะที่มีการหายใจเร็วในระยะแรกเกิดที่ปรากฏอาการภายหลังคลอดทันทีหรือภายใน 6 ชั่วโมงหลัง
คลอดเกิดจากมีน้ำเหลืออยู่ในปอดมากกว่าปกติทำให้ใช้เวลาดูดซึมจากปอดนานขึ้นจึงทำให้ทารกมีอากรหายใจลำบาก
พยาธิิสรีรวิทยา : การที่มีสารน้ำสะสมอยู่ในถุงลมปอด และเนื้อเยื่อนอกถุงลมปอด ทำให้หลอดลมตีบแคบ เกิดอาการอุดกั้นทางเดินหายใจ และปอดมีการขยายตัวมากขึ้นด้วยขาดออกซิเจน จากการที่ถุงลมมีการกำซาบ แต่มีการระบายก๊าซออกไม่เพียงพอ ทำให้คาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดสูง
สาเหตุ : ภาวะหายใจเร็วชั่วคราวในทารกแรกเกิด มีสาเหตุมาจากการที่ทารกไม่สามารถขับน้ำที่อยู่ในปอดออกมาได้หมด เข้าสู่ระยะคลอดทารกจะมีการเตรียมเพื่อการหายใจครั้งแรกผ่านกระบวนการดูดซึมในปอดกลับเข้าสู่ระบบน้ำเหลืองและระบบไหลเวียน เมื่อเข้าสู่ระยะคลอด ทารกเคลื่อนเข้าสู่ช่องทางคลอดของมารดา ทรวงอกของทารกจะถูกบีบ ทำให้ทีการคายน้ำออกจากปอดเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการหายใจครั้งแรก แต่หากกระบวนการขจัดน้ำออกจากปอด ของทารกถูกรบกวน ทำให้น้ำคงเหลืออยู่ในปอดทารก ส่งผลให้ทารกหายไม่มีประสิทธิภาพเกิดภาวะหายใจเร็วชั่วคราวในระยะแรกเกิด
อาการและอาการแสดง ลักษณะอาการที่สำคัญ คือ อาการหายใจเร็ว มีอัตราการหายใจมากกว่า 60 ครั้ง/นาที
เมื่อตรวจ x-ray ปอดจะพบว่ามีน้ำในปอดและเยื่อหุ้มปอด
ตรวจค่าก๊าซในเลือดจะพบว่ามีกรดเกินจากการหายใจ respiratory acidosis
ภาพรังสีปอดอาจพบฝ้าขาวในระยะแรก
แต่จะหายไปอย่างรวดเร็ว
ตรวจร่างกายพบว่ามีสีผิวคล้ำหายใจมีการดึงรั้งของผนังทรวงอก
กรณีศึกษา : แรกเกิด หายใจเร็ว RR = 64-68/min ตรวจค่าก๊าซในเลือดพบว่ามีกรดเกินจากการหายใจ respiratory acidosis HCO3 16.4 mmol/L Low
pCO2 45 mmHg Hi
pH 7.34 Low
เกณฑ์การวินิจฉัย 1.ส่งตรวจนับจำนวนเม็ดเลือด เพื่อหาสาเหตุของการเกิดภาวะหายใจเร็วของทารก
2.ส่งตรวจ chest x-ray เพื่อประกอบการวินิจฉัย
หากมีอาการรุนแรงหรือคงอยู่หลายชั่วโมง ทำการส่งตรวจการติดเชื้อในกระแสเลือด (hemoculture)
4.เริ่มมีอาการหายใจภายในระยะเวลา 6 ชั่วโมงหลังคลอด
อาการหายใจเร็วคงอยู่นานอย่างน้อย 12 ชั่วโมง ไม่สามารถดูดนมได้
การรักษา ในรายที่มีภาวะความดันในปอดสูง อาจจำเป็นต้องใช้เครื่องพยุงการทำงานองหัวใจและปอด
ให้ออกซิเจนความเข้มข้นตั้แต่ 40% ขึ้นไป ซึ่งทั่วไปให้ออกซิเจน canula หรือ ออกซิเจน box บางราย อาจต้องให้ออกซิเจนแรงดันบวก หรือใส่ท่อช่วยหายใจ
ในบางรายมีอาการคงอยู่นานเกิน 48 ชั่วโมงขึ้นไป ควรได้รับการตรวจการติดเชื้อของปอด และให้ยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันปอดอักเสบ
กรณีศึกษา : ใส่ท่อช่วยหายใจ 23 พ.ย 65