Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หญิงตั้งครรภ์อายุ 29 ปี ส่วนสูง 161 cm. น้ำหนัก 67.5 Kg. BMI 26.06
Dx. GA…
หญิงตั้งครรภ์อายุ 29 ปี ส่วนสูง 161 cm. น้ำหนัก 67.5 Kg. BMI 26.06
Dx. GA 40+3 wks. by US
With Mild preeclampsia
with In labor.
1.Power
Primary Power
ระยะ2
เป็นระยะที่ทารกถูกขับออกมา นับตั้งแต่ปากมดลูกเปิดหมดจนถึงทารดคลอด ในครรภ์หลังใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง Interval 2 min, Duration 60-90 Intensity Strong Eff 100%
ผู้คลอดรายนี้ใช้ระยะเวลาในการคลอด 18 นาที Interval 2-3 min, Duration 45-60 Intensity Strong Eff 100% ไม่เป็นไปตามทฤษฎีเสี่ยงต่อการคลอดล่าช้า
-
ระยะที่ 1
ระยะ Active phase
2.5-10cm. ,Interval 2-3 นาที
Duration 45-60วินาที
Intensity moderate-Strong
Eff 40-80%
ครรภ์หลังใช้เวลา 1.5cm./hr.
Phase of maximum slop 5-8 cm. ,Interval 2-3 นาทีDuration 45-60วินาทีIntensity moderate-StrongEff 40-80%ครรภ์หลังใช้เวลา 1 hr.
ผู้คลอดรายนี้ Cx. 5 cm. Eff 75%,I=5min,
D=40,Int moderate - 8 cm. . Eff 80%,I=3-4 min,
D=45,Int strong คิดเป็น 1cm./hr.
(ช้ากว่าทฤษี) เสี่ยงต่อการคลอดล่าช้า
-
-
Deceleration phase 9-10 cm.Interval 2 นาทีDuration 60-90 วินาทีIntensity Strong Eff 100% ครรภ์หลังใช้เวลา 1/2 hr.
ผู้คลอดรายนี้ Cx. 8-10 cm. Eff 100%,I=2-4min,
D=45-60,Int Strong ใช้เวลา 1 ชั่วโมง(ช้ากว่าทฤษี)
-
Acceleration phase 3-4 cm. ,Interval 2-3 นาทีDuration 45-60วินาทีIntensity moderate-StrongEff 40-80% ครรภ์หลังใช้เวลา 1 hr.
ระยะ Latent Phase
0-2.5 cm.
Interval 5-10 นาที
Duration 30-45 วินาที
Intensity mild
Eff 40% ครรภ์หลังใช้เวลา 5 hr.
-
-
Secondary Power
-
ระยะที่ 2
เมื่อผู้คลอดเบ่งจะทำให้ทารกเคลื่อนที่ต่ำมากยิ่งขึ้น ศรีษะของทารกมีการเงยขึ้น(Extrntion) เส้นรอยวงศรีษะเปลี่ยนจาก SOB เป็น SOF และเงยเต็มที่ SOM นั่นคือศรีษะของทารกพ้นออกทางช่องคลอด
-
ระยะนี้ส่วนนำของทารกเคลื่อนลงไปกดที่พื้นที่เชิงกราน ทำให้ผู้คลอดอยากเบ่งมากขึ้นและศรีษะเริ่มเงยขึ้นพื้นเชิงกรานยืดมากขึ้น ทำให้ไม่สามารถควบคุมการเบ่งได้
ในระยะนี้หากมีการอยากเบ่งและเจ็บครรภ์มากขึ้นเนื่องจากส่วนนำมากดที่พื้นเชิงกรานและลำไส้ตรง โดยการคลอดที่ที่ดี คือ เมื่อมดลูกหดรัดตัวแข็ง มารดาควรหายใจเข้าลึกๆ ปิดปาก คางชอดอก เบ่งลงก้น เบ่ง 8 วินาที เบ่ง 3 รอบ
-
3.Passeger
ระยะที่ 1
ทารก
ขนาดของทารกจะต้องไม่ใหญ่มาก
เกินไป รูปร่างของทารกปกติ จะต้องไม่มีลักษณะของการพิการ ลำตัวอยู่ในแนวยาวมีศีรษะเป็นส่วนนำอยู่ในทรงก้มและท่าปกติ
-
-
เจริญเติบโตช้า
ทารกรายนี้มีการเจริญเติบโตปกติ น้ำหนักแรกคลอด 3,005 กรัม
-
รกและเยื่อหุ้มทารก
รกจะต้องอยู่ในตำแหน่งไม่ขวางทางช่องคลอด ไม่มีภาวะรกเกาะต่ำ ไม่มีภาวะรกขนาดใหญ่กว่าปกติ หรือรกฝังตัวแน่นผิดปกติ
จากการ PV พบว่าไม่มีเลือดสดออกจาก
ช่องคลอดคลำไม่พบสิ่งผิดปกติในช่องทางคลอด และจากการซักประวัติมารดาไม่มีประวัติเลือดสดออกจากช่องคลอด
สรุปในผู้คลอดรายนี้ไม่มีภาวะรกเกาะต่ำ
ทฤษฎีความดันสูง จากกรหดรัดตัวของหลอดเลือด spiral arteriole ใน decidual ร่วมกับมี acute atherosis ทำให้หลอดเลือดตีบตัน ปริมาณเลือตที่ไหลผ่านระหว่างรกและมดลูกลดลง รวมทั้งมีการแตกทำลายของเม็ดเลือดและการจับตัวของเกล็ดเลือดอาจทำให้เกิดการตายของเนื้อรกและผนังมดลูก
-
น้ำคร่ำ
น้ำคร่ำจะต้องมีปริมาณที่เหมาะสม สีใส/ขาวขุ่น ไม่มีกลิ่น ไม่มีขี้เทา ในกรณีที่มีศีรษะเป็นส่วนนำ แล้วพบขี้เทาปนอาจบ่งบอกว่ามีภาวะขาดออกซิเจนของทารก
-
ระยะที่ 2
ทารก
ขนาดของทารกจะต้องไม่ใหญ่มาก
เกินไป น้ำหนักอยู่ที่ระดับ 2500 - 4000 กรัม มีรูปร่างและขนาดที่เหาะสมกับช่องคลอด อยู่ในท่า Vx และอยู่ในแนว longtitudinal
อยู่ในท่า Vx และอยู่ในแนว longtitudinal ทารกมีน้ำหนัก 3,005 กรัม
รกและเยื่อหุ้มทารก
ทฤษฎีความดันโลหิตสูง จากกรหดรัดตัวของหลอดเลือด spiral arteriole ใน decidual ร่วมกับมี acute atherosis ทำให้หลอดเลือดตีบตัน ปริมาณเลือตที่ไหลผ่านระหว่างรกและมดลูกลดลง รวมทั้งมีการแตกทำลายของเม็ดเลือดและการจับตัวของเกล็ดเลือดอาจทำให้เกิดการตายของเนื้อรกและผนังมดลูก
-
ระยะที่ 3
รกและเยื่อหุ้มทารก
-
-
Cord sign คือการเคลื่อนออกมาของสายสะดือส่วนที่อยู่นอกช่องคลอดยาวออกมาเรื่อยๆ เกลียวสายสะดอจะคลายสายสะดือเริ่มเหี่ยวคลำไมพบชีพจรบนสายสะดือ
-
5.Physical Condition
ระยะที่1
อายุ
< 18 ปี การเจริญเติบโตของ
กระดูกเชิงกรานยังไม่เต็มที่ มักเสี่ยงต่อการเกิดภาวะส่วนนำและเชิงกรานไม่ได้สัดส่วน
-
35 ปี พื้นเชิงกรานจะขยายตัวได้น้อย ทำให้ส่วนนำของทารกเคลื่อนที่ลงต่ำได้ช้า ส่งผลให้ระยะที่ 1 และ 2 ของการคลอดยาวนานกว่าปกติ
-
-
ส่วนสูง
หญิงตั้งครรภ์ที่มีความสูงน้อยกว่า 145
cm มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะไม่สัมพันธ์กันระหว่างศีรษะทารกกับเชิงกรานของผู้คลอด
-
-
การเจ็บป่วย
โรคความดันโลหิตสูง
ระยะห่างของการตั้งครรภ์ห่างจากครรภ์ก่อน นานกว่า10 ปีอาจทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงในสตรีตั้งครรภ์ได้
-
-
-
-
ระยะที่ 2
สภาวะทางด้านร่างกาย การได้รับยาบางชนิด หรือการได้รับยาเร่งคลอดมากเกินไปส่งผลให้มดลูกหดรัดตัวมากเกินไปจนทำให้มดลุกแตก ภาวะเจ็บป่วย คือโรคความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ Mild preeclampsia
-
-
ระยะที่ 3
มีการเสียเลือดจากในระยะที่3 ภายหลังรกคลอดจะมีเลือดออกทางช่องคลอดประมาณ 150-200 cc ไม่เกิน 500 ccเป็นเลือดที่เกิดจากการฉีกขาดของหลอดเลือดบริเวณที่รกลอกตัวและมีการสูญเสียพลังงานจากการเบ่งคลอด
-
4.Psycological Condition
ระยะที่ 2
ในระยะนี้ผู้คลอดจะต้องมีสติ จะต้องเผชิยกับความเจ็บปวดและการเบ่งคลอด หากผู้คลอดมีความกังวบสู.มาก กลัวต่อการคลอด เจ็บปวดมาก และไม่สามารถควบคุมความเจ็บปวดได้ ส่งผลมีการหดตังของมดลุกผิดปกติทำให้มีแรงเบ่งน้อยอาจพเกิดความล่าช้าในการคลอดได้
-
ระยะที่ 3
หากผู้คลอดมีความวิตกกังวล ร่างกายจะหลั่งสารความเครียด ได้แก่ Catecholamines Epinephrine และ Cortisol เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้กล้ามเนื้อทั่วร่างกายเกิดความตึงตัว ความรู้สึกเจ็บปวดเพิ่มมากขึ้น
ผู้คลอดมีสีหน้าที่ผ่อนคลายมากขึ้นสามารถเผชิญกับการหดรัดตัวของกล้ามเนื้อมดลูกเพื่อขับรกออกมาได้และทนเจ็บปวดแผลตัดฝีเย็บได้ไม่โวยวายและให้ความร่วมมือ
ระยะที่ 1
ความวิตกกังลวลเกี่ยวกับการคลอดจากประสบการณ์ที่ผ่านมา จากการได้รับรู้ ในการอ่าน ฟัง เห็น จากประสบการณ์ที่เคยได้รับ อาจทำให้เกิดทัศนคติที่ไม่ดีต่อการคลอด
-
-
หากผู้คลอดมีความวิตกกังวล หรือกลัวการคลอดจะทำให้ไม่สามารถเผชิญหรือควบคุมความเจ็บปวดได้ ร่างกายจะหลั่งสารความเครียด ได้แก่ Catecholamines Epinephrine และ Cortisol เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้กล้ามเนื้อทั่วร่างกายเกิดความตึงตัว ความรู้สึกเจ็บปวดเพิ่มมากขึ้น
-
2.Passage
ระยะที่ 3
Soft passage
กระเพาะปัสสาวะ
ประเมินบริเวณหัวเหน่าจะต้องไม่มีการเต็มของปัสสาวะเนื่องจากจะไปขัดขวางการหดรัดตัวของมดลูก อาจทำให้คลอดรกไม่สมบูรณ์
-
ระยะที่ 2
-
Soft passage
กระเพาะปัสสาวะ
จะต้องไม่มีการเต็มของปัสสาวะเพราะจะทำให้ขัดขวางการเคลื่อนต่ำของส่วนนำ ทำผู้คลอดรายนี้ไม่การเต็มของกระเพาะปัสสาวะให้การคลอดล่าช้า
-
ระยะที่ 1
Bony Passage
Mid Pelvic : ค่อนข้างกลม ด้านหน้าเป็น Symphisis pubis ด้านหลังเป็น Sarcrum, Interspinus ischial spineประมาณ 10.5 cm
-
Pelvic Outlet : ลักษณะเป็นรูปวงรีตามแนวตั้งด้านบนเป็น Symphisis pubis ด้านล่างเป็น Coccyx Suprapubic arch มุมไม่น้อยกว่า 85 องศา
-
Pelvic inlet : ลักษณะเป็นรูปวงรีแนวขวางคล้ายไข่นอน
Diagonal diameter 11.5-13.5 cm ,True conjugate = 11-11.5 cm. ,Station.=0
ตรวจภายในเวลา 11.45 น.Cx.5 cm,Eff75% st 0 MI,HE ท่า LOA และพบ Diagonal diameterประมาณ 12.5 cm
เมื่อคลอดไม่มีปัญหาเรื่องของการคลอดติดขัด
-
ระยะที่ 2
จัดท่าให้เหมาะสมกับการคลอด
- ท่านอนหงายชันเข่า (dorsal recumbent) ส่งเสริมการยืดขยายของช่องคลอด
- ท่านอนหงายขึ้นขาหยั่ง (Lithotomy position) ช่วยให้ช่องทางคลอดในแนวหน้า-หลัง (AP diameter) ของ pelvic outlet กว้างขึ้น
- ท่าศีรษะและลำตัวสูง (upright position) เคลื่อนต่ำได้เร็วขึ้น การหดรัดตัวของมดลูกมีประสิทธิภาพ มาก
จัดท่านอนในท่าศรีษะสูง ท่านอนหงายชันเข่า (dorsal recumbent) ผู้คลอดนอนหงายชันเข่าขึ้น 2 ทั้งวางราบลงบนที่นอน แยกขาให้กว้าง วางมือข้างๆ ลำตัวและจับยึดข้างเตียงเมื่อเบ่งคลอด
-
ระยะที่ 3
ท่าที่เหมาะสมคือท่า lithotomy positionเป็นท่าช่วยส่งเสริมความยืดขยายของช่องคลอดสะดวกในการซ่อมแซมฝีเย็บ ท่า dorsal recumbent Positionเป็นแนวกระดูกสันหลังอยู่ในแนวราบช่วยเย็บซ่อมแซมฝีเย็บได้ง่าย
-
-
ชนิดของความดันโลหิตสูง
2.preeclampsia ภาวะครรภ์เป็นพิษ
-ภาวะความดันโลหิตสูงที่วินิจฉัยได้ครั้งแรกในระหว่างการตั้งครรภ์หลังอายุครรภ์ 20 สัปดาห์
-พบโปรตีนในปัสสาวะ มากกว่า 300 มิลลิกรัมในปัสสาวะ 24 ชั่วโมง /UPCI มากกว่าหรือเท่ากับ 0.3 mg/dL
-มีอาการบวมกดบุ๋ม
-
severe features
-
-
-
-
อวัยวะสำคัญทำงานผิดปกติ
-
ตับ : ระดับเอนไซม์AST(SGOT) และ ALT(SGPI)สูงขึ้นสองเท่า บางรายจึงมีอาการปวดใต้ชายโครงขวา หรือจุกแน่น
ลิ้นปี คลื่นไส้อาเจียน
-
-
-
-
-
4.chronic / preexisting hypertension ความดันโลหิตสูงเรื้อรัง เป็นมาก่อนการตั้งครรภ์ หรือวินิจฉัยได้ก่อนอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ ความดันโลหิตนั้นยังคงสูงอยู่นานกว่า 12 สัปดาห์หลังคลอด
-
1.gestational hypertension หมายถึง ภาวะความดันโลหิตสูงที่วินิจฉัยได้ครั้งแรกในระหว่างการตั้งครรภ์หลังอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ ไม่มีโปรตีนในปัสสาวะ
ยาลความดันโลหิตสูง
-
Labetalol
ยาออกฤทธิ์กดทั้ง alpha และ beta adrenergic receptors โดยออกฤทธิ์ยับยั้งระบบประสาท sympathetic ส่วนปลาย มีผลลดความต้านทานของหลอดเลือดส่วนปลาย
nifedepine
เป็นยาในกลุ่ม calcium channel blocker ออกฤทธิ์ในการลดความดันโลหิตโดยการ
ป้องกัน calcium เข้าสู่ซลล์กล้ามเนื้อหัวใจและหลอดเลือด
-
-
แรงจากการหดรัดตัวของมดลูกที่เป็นจังหวะสม่ำเสมอ โดยมดลูกจะมีการหดรัดตัว แต่หากมดลูกไม่มีการหดรัดตัว จะทำให้เกิดการตกเลือดหลังคลอดได้
-
-
มารดาจะมีความรู้สึกอยากเบ่ง เกิดจากส่วนนำของทารกเคลื่อนต่ำลงมากขึ้น เมื่อปากมดลูกเปิดครบ 10 เชนติเมตร มารดาจะเริ่มมีแรงเบ่งโดยการเบ่งคลอดจะถูกกระตุ้นท้าให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น กล้ามเนื้อหัวใจต้องการใช้ออกซิเจนมากขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น
ผู้คลอดออกแรงเบ่งเมื่อมดลูกเปิดถึง 10 cm.จะต้องออกแรงเบ่งเพื่อให้มีการคลอดทารกออกมา เมื่อออกแรงเบ่งมากความดันก็สูงตามมาก
-
-
แรงจากการหดรัดตัวของมดลูกที่เป็นจังหวะสม่ำเสมอความสำคัญต่อการลอกตัวของรกและการคลอดรก โดยมดลูกจะมีการหดรัดตัวแข็งขึ้น แต่หากมดลูกไม่มีการแข็งตัวหรือมีการหดรัดตัวของมดลูกไม่ดี (Uterine atony) จะทำให้เกิดการตกเลือดหลังคลอดได้ ระยะนี้ใช้เวลาไม่เกิน 30นาที
-
-
-