Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

กรณีศึกษา - Coggle Diagram

- - - - Nose normal shape and size, Nose mucus
- - - - ทฤษฎี
        
        ไข้นํา น้ำมูลไหล ไอ หลังจากนั้นจะมีไข้สูง ตาแดงและแฉะ เวลาโดนแสงจะแสบตา ระคายเคือง ทำตาหยีไอและมีน้ำมูกมาก ปากและ จมูกแดง
        
        อาจพบจุดขาวๆ เล็กๆ มีขอบสีแดงๆ อยู่ในกระพุ้งแก้ม เรียกว่า Koplik’s spots
      - กรณีศึกษา
        
        มีไข้ ปวดศีรษะ ไอ เจ็บคอ มีผื่นคันตามแขนขา maculopapupar rash
    - - มีอยู่ในน้ำมูก น้ำลาย เสมหะ และปัสสาวะของผู้ป่วย
        
        ติดต่อโดยการหายใจสูดเอาฝอย เสมหะที่ผู้ป่วยไอหรือจามรดกัน หรือโดยการสัมผัสมือ
        
        นอกจากนี้ยังสามารถแพร่กระจายทางอากาศ (airborne Transmission)
        
        โรคสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วเมื่อสัมผัสกับเยื่อบุโพรงจมูก ทางเดินหายใจ หรือเยื่อบุตา
        
        เกิดการแบ่งตัวภายในเยื่อบุ แล้วเข้าสู่กระแสเลือด กระจายไปตามผิวหนัง ระบบหายใจ และอวัยวะต่างๆ
        
        ระยะฟักตัว 9-11 วัน
    - - วิธีทางน้ำเหลืองวิทยา (Serology)
        
        วิธีทาง Molecular ด้วยเทคนิค RT- PCR และการหาลำดับสารพันธุกรรมของไวรัส เพื่อตรวจวิเคราะห์สายพันธุ์ (Genotype) ของเชื้อไวรัสก่อโรค ซึ่งจะใช้เป็นเครื่องมือประเมินความสำเร็จของโครงการกําจัดโรคหัดต่อไป
        
        วิธีทาง Serology ด้วยเทคนิค ELISA: เพี่อตรวจหาแอนติบอดีชนิด IgM ซึ่งบ่งชี้ภาวะการติดเชื้อ (recent infection)
      - กรณีศึกษา
        
        ไม่มีผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ
        
        Skin maculopapupar rash
    - - ทฤษฎี
        
        ให้ดูแลปฏิบัติตัวเหมือนไข้หวัด คือ
        พักผ่อน ห้ามอาบน้ำเย็น ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวเวลามีไข้ขึ้นสูง ดื่มน้ำ ควรเน้นกินอาหารประเภทโปรตีน
        (เช่น เนื้อ นม ไข่ ถั่ว ต่างๆ)
        
        ให้การรักษาตามอาการ เช่น ถ้ามีไข้ให้พาราเซตามอล
        ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 19 ปี ควรหลีกเลี่ยง การใช้แอสไพริน เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการ เกิดโรคเรย์ซินโดรม ถ้าไอให้จิบน้ำ
        
        ห้ามใช้ยาปฏิชีวนะ ตั้งแต่ระยะแรกเป็นเพราะนอกจากไม่มีความจำเป็นเนื่องจากเป็นโรคที่เกิด จากเชื้อไวรัสแล้ว ยังอาจทำให้เกิดโรคปอดอักเสบชนิด ร้ายแรงแทรกซ้อน ซึ่งยากแก่การรักษาได้
        
        ถ้ามีอาการไอมีเสมหะข้นเหลืองหรือเขียว หรือ ใช้เครื่องฟังตรวจปอดมีเสียงกรอบแกรบ (crepitation) หรือเสียงอึด (rhonchi) ให้ยาปฏิชีวนะ เช่น เพนิซิลลิน, อะม็อกซีซิลลิน
        หรืออีริโทรไมซิน
        
        ถ้ามีอาการหอบมาก หรือนับการหายใจเร็วกว่า ปกติ*หรือท้องเดินจนมี อาการขาดน้ำรุนแรง หรือซึม ชัก ควรส่งโรงพยาบาลด่วน อาจมีอันตรายถึงตายได้
        
        1 more item...
      - กรณีศึกษา
        
        ยาที่ได้รับ
        
        -Paracetamol (325mg)
        1 tab PO prn. for fever q 4-5 hr. #20
        
        -CPM (4) 1 tab PO t.i.d. pc. #30
        
        -Vitamin 1 tab PO #20
        
        -Calamine lotion 60 ml. # 2ขวด
        
        ประวัติการฉีดวัคซีน
        ผู้ปกครองให้ประวัติว่า ผู้รับบริการฉีดวัคซีนครบตามกำหนด
- - - - • การซักประวัติ เพื่อหาสาเหตุของอาการที่เกิดขึ้น เพื่อเป็นข้อมูลในการวางแผนการรักษา
      - • การตรวจร่างกาย ได้แก่ การดูลักษณะที่วไปภายนอก การดูลักษณะการหายใจ ฟังเสียงปอด และหัวใจ
      - ยาที่ได้รับ
        
        CPM (4) 1 tab PO t.i.d. pc. #30
        
        Vitamin 1 tab PO #20
        
        Paracetamol (325mg) 1 tab PO prn. for fever q 4-5 hr. #20
        
        Calamine lotion 60 ml. # 2ขวด