Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

hypertensive disorder, นางสาวชลธิชา ขาพรมราช 62102301031 D1 - Coggle…

- - - - ▪ Chronic hypertension ร่วมกับ New-onset Proteinuria ร่วมกับ Severe features
      - ▪ ภาวะความดันโลหิตสูงที่เกิดทวีความรุนแรงขึ้นเนื่องมากจากการตั้งครรภ์
      - ▪ พบมีโปรตีนในปัสสาวะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทันที
      - ▪ พบมีเกล็ดเลือดต่ำ
      - ▪ มีการหลั่งเอ็มไซม์จากตับสูงขึ้น
- - - - ▪ Trombocytopemia : เกล็ดเลือดต่ำกว่า 100,000/ลบ.มล
      - ▪ Renal isuufficiency : ค่า serum creatinine มากกว่า 1.1 มก./ดล. หรือเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ของ serum creatinine เดิมในกรณีที่ไม่ได้เป็นโรคไตอื่น
      - ▪ Impaired Liver function : มีการเพิ่มขึ้นของค่า Liver transaminase เป็น 2 เท่าของค่าปกติ
      - ▪ Pulmonary edema
      - ▪ Cerebral หรือ Visual symptoms
  - - - ▪ เจ็บที่ลิ้นปี่หรือใต้ชายโครงอย่างรุนแรง (เกิดจากการขยายแคปซูลของตับ หรือเลือดออกใต้แคปซูล)
      - ▪ ปวดศีรษะมาก (Throbbing) มักปวดบริเวณ Frontal area แต่อาจพบ occipital ร่วมก็ได้
      - ▪ อาการผิดปกติทางสายตา ตาพร่ามัว มองไม่ชัด
      - ▪ อาเจียน
      - ▪ ตื่นตัวทางประสาท
- - - - -ประเมินสัญญาณชีพทุก 5 –15 นาที โดยเฉพาะ PR, RR, BP หลังให้ยา
      - -ถ้าความดันโลหิตลดต่ำลงมากให้รายงานแพทย์ โดยเฉพาะความดันโลหิต diastolic ไม่ควร ลดต่ำกว่า 90 – 100 มม.ปรอท เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงรกไม่เพียงพอ
      - -หลีกเลี่ยงการสวนอุจจาระและการตรวจภายในบ่อย ๆ
      - -สังเกตอาการนำของการชักและเตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉิน ได้แก่ ไม้กดลิ้น เครื่องดูดเสมหะ เครื่องช่วยหายใจ และอื่น ๆ เพื่อช่วยฟื้นคืนชีพ
  - - - สังเกตและบันทึกอาการนำของการชัก ระยะเวลาของการชัก ระยะเวลาที่หยุดหายใจ ระดับความรู้สึกตัวและ พฤติกรรมของหญิงตั้งครรภ์หลังอาการชัก
      - รายงานแพทย์ และดูแลให้ได้รับยาระงับการชัก เช่น Diazepam, Phenobarbital ตามแผนการรักษา
      - จัดสิ่งแวดล้อมให้สงบ และลดสิ่งกระตุ้นต่าง ๆ
      - ประเมินอัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์ การหดรัดตัวของมดลูก ความก้าวหน้าของการคลอดและการแตก ของถุงน้ำคร่ำ หลังการชัก และเสียงหัวใจทารกในครรภ์อย่างต่อเนื่อง
      - เตรียมหญิงตั้งครรภ์เพื่อคลอดตามสถานการณ์ เช่น การคลอดด้วยสูติศาสตร์หัตถการทางช่องคลอด หรือการ ผ่าตัดนำทารกออกทางหน้าท้อง
      - ดูแลป้องกันการชักซ้ำภายหลังคลอด
      - ให้การดูแลป้องกันการตกเลือดหลังคลอด
      - ดูแลทารกแรกเกิด ซึ่งอาจมีภาวะขาดออกซิเจน ตัวเล็ก หรือคลอดก่อนกำหนด
- - - - ภาวะความดันโลหิต systolic มากกว่าหรือเท่ากับ 140 mmHg หรือ
        diastolic มากกว่าหรือเท่ากับ 90 mmHg เกิดในครึ่งหลังของการ
        ตั้งครรภ์ ภายหลังตั้งครรภ์ 20 สัปดาห์หรือภายใน 24 ชั่วโมง
        หลังคลอด (ไม่พบโปรตีนในปัสสาวะและไม่มีอาการบวมผิดปกติ) และระดับความดันโลหิตลดลงสู่ระดับปกติภายใน 6 สัปดาห์
        หลังคลอด
    - - 1.2 Eclampsia คือ ภาวะ Pre-eclampsia เมื่อมีอาการชักร่วมด้วย อาการชักไม่ได้เกิดจากภาวะอื่น ๆ เช่น ลมบ้าหมู หรือโรคทางสมอง เป็นต้น
      - 1.1 Pre-eclampsia
        คือ ภาวะความดันโลหิต systolic มากกว่าหรือเท่ากับ 140 mmHg หรือ diastolic มากกว่าหรือเท่ากับ
        90 mmHg ที่เกิดขึ้นในครึ่งหลังของตั้งครรภ์
        (ภายหลังตั้งครรภ์ 20 สัปดาห์) ร่วมกับการมีโปรตีนในปัสสาวะ (proteinuria)
    - - ภาวะความดันโลหิตสูงที่เกิดทวีความ รุนแรงขึ้นเนื่องมากจากการตั้งครรภ์ โดยการเกิดกระบวนการของ
        Pre-eclampsia ซ้ําขึ้นมาในผู้ป่วย CHT หรือ หมายถึง การเกิดภาวะความดันโลหิตสูงรุนแรงขึ้นในหญิงตั้งครรภ์ที่ความดันโลหิตสูงเรื้อรังอยู่ก่อน พบมีโปรตีนในปัสสาวะและมีอาการบวมมาก หรือ พบมีเกล็ดเลือดต่ํา มีการหลั่งเอ็มไซม์จากตับสูงขึ้น
    - - ภาวะความดันโลหิตสูงจากสาเหตุใดก็ตามที่ตรวจพบก่อนการตั้งครรภ์หรือ วินิจฉัยก่อนอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ หรือความดันโลหิตสูงที่วินิจฉัยหลัง 20 สัปดาห์และยังคงอยู่หลังคลอดเกิน 12 สัปดาห์