Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ผู้ป่วยหญิงอายุ 92 ปี PNG image - Coggle Diagram

- - - - ซึ่งช่วยในการยืดหยุ่นและผ่อนแรงที่มากระทำที่ข้อ
        
        เกิดจากการสึกหรอเสื่อมสภาพโดยมีสาเหตุมาจากการเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน
        
        จะรับสภาพจะรับแรงที่มากระทำผิวข้อได้น้อยลง
        
        จะทำให้กระดูกอ่อนผิวข้อเกิดแรงแตกเป็นริ้วๆ
        
        เปลี่ยนจากสีขาวเรียบเป็นสีเหลืองหรือสีน้ำตาล
        
        บางส่วนอ่อนนุ่มและมีผิวขรุขระ
        
        1 more item...
  - - - แบคทีเรียผลิต Toxin ปล่อยสาร Pyrogen ออกมา
        
        ในถุงลมพบ RBC และ Fibrin จำนวนในถุงลมพบและจำนวนมากทำให้ถุงลมปอดขยายตัวมากขึ้นจึงทำให้ปอดเป็นสีแดง
        
        เม็ดเลือดขาวชนิด Neutrophil มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเพื่อออกมาทำลายเชื้อแบคทีเรีย
        
        ปอดมีลักษณะเป็นสีเทาปนดำเนื่องจากมีหนอง
        
        จึงทำให้หลอดเลือดฝอยที่ผนังถุงลมหดตัวเล็กลง
        
        จึงทำให้หายใจเหนื่อยหอบ
        
        2 more items...
- - - - ข้อวินิจฉัยการพยาบาลข้อที่3
        ป้องกันอันตรายจากภาวะโลหิตจาง
        
        ข้อมูลสนับสนุน
        S:อ่อนเพลียใจสั่น
        O:เยี่อบุตาซีด
        Hct=25%(14/11/65)
        
        วัตถุประสงค์
        ผู้ป่วยไม่ได้รับอันตรายจากภาวะโลหิตจาง
        
        เกณฑ์การประเมิน
        -ไม่อ่อนเพลีย
        -ไม่มีอาการใจสั่น
        -เยื่อบุตาไม่ซีด
        -ค่า Hct=37-45%
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        ประเมินอาการและภาวะซีดเช่นอาการอ่อนเพลีย เยี่อยุตา เฝ้าระวัง
        
        ให้ยาFerrous Fumorcde 200mg 1เม็ด วันละ2ครั้ง หลังอาหาร รักษาโรคโลหิตจางเนื่องจากขาดธาตุเหล็ก
        
        ให้ยา Folic Acid 5mg 1เม็ด วันละครั้งหลังอาหาร ยารักษาโลหิตจาง
        
        กระตุ้นให้รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น นม ไข่ไก่ ไข่แดง ตับผัก ใบเขียว เป็นต้น ช่วยลดภาวะเม็ดเลือดแดงจาง
        
        ให้ผู้ป่วยพักผ่อนเพียงพอ ลดการใช้O2 จะทำให้เม็ดเลือดไม่จาง
        
        ติดตามผลและประเมินอาการภาวะโลหิตจาง จะได้ดูว่าผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นหรือไม่
        
        การประเมินผล
        14/11/65 อ่อนเพลียเล็กน้อยไม่ ใจสั่น ตาซีด
        16/12/65 อ่อนเพลียเล็กน้อยไม่ ใจสั่น ตาซีด
        17/11/65 อ่อนเพลียเล็กน้อยไม่ สดชื่นขึ้น
  - - - ข้อวินิจฉัยการพยาบาลข้อที่4
        ภาวะเสียเสียสมดุลของขาและอิเล็กโทรไลต์(Na,K, HCO2 ,Cl )
        
        ข้อมูลสนับสนุน
        S:ผู้ป่วยอ่อนเพลีย
        O:K=34mmol/L
        Na=134 mmol/L
        HCO2=32 mmol/L
        
        วัตถุประสงค์
        ได้รับนำ้และเล็กโทรไลต์เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
        
        เกณฑ์การประเมิน
        S:ไม่อ่อนเพลีย
        O:K=3.5-5mmol/L
        Na=134-145 mmol/L
        HCO2=22-29mmol/L
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        ประเมินอาการผู้ป่วยที่อ่อนเพลีย ขาดน้ำผิวแห้ง ไม่มีความชุ่มชื้น เพื่อเฝ้าระวัง
        
        ให้ยา Sodium Bicarbonate1เม็ดวันละ3ครั้งหลังอาหารยารักษาให้ใช้โซเดียมในร่างกายสมดุล
        
        ดื่มน้ำมากกว่า แปดแก้วต่อวันทำให้ร่างกายรับน้ำเพียงพอ
        
        กระตุ้นรับประทานอาหารที่มีโซเดียมเช่น กุ้งแห้ง หรือใส่ เกลือลงในน้ำและอาหารรับโซเดียมเพียงพอ
        
        ติดตามค่าElectrolyteติดตามผลว่าผู้ป่วยขึ้นดีไหม
        
        เกณฑ์การประเมิน
        14/11/65 ไม่อ่อนเพลียมีสีหน้าสดชื่น
        16/11/65 ผู้ป่วยอ่อนเพลียเล็กน้อย
        17/11/65 ผู้ป่วยอ่อนเพลียเล็กน้อย
  - - - ข้อวินิจฉัยการพยาบาลข้อที่8
        ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะเนื่องจากคาสายสวนปัสสาวะเป็นเวลานาน
        
        ข้อมูลสนับสนุน
        S: ผู้ป่วยไม่สามารถดูแลความสะอาดบริเวณที่ใส่สายสวนปัสสาวะเองได้ ผู้ป่วยมีไข้
        O: ปัสสาวะมีสีขุ่นมีตะกอนแขวนลอยพบค่า
        RBC=10-20 CellในUDและค่าWBC 20-30 CellในUA
        
        วัตถุประสงค์
        ป้องกันการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
        
        เกณฑ์การประเมิน
        -ค่า wbcเเละrbc ใน UA มีค่า 0-3 cell
        -ปัสสาวะใส ไม่มีตะกอน
        -อุณหภูมิร่างกายอยู่ที่ 36.5 - 37.4 องศาเซลเซียส
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        ดูแลความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศอยู่เสมอ โดยการทำ fashing วันละ2ครั้ง เช้าเย็น ลดการติดเชื้อ
        
        สังเกตลักษณะปริมาณสีของปัสสาวะ เป็นการเฝ้าระวัง
        
        ให้ยา Augmentin 1g 1tad bid หลังอาหาร
        
        ดูแลผู้ป่วยรับประทานน้ำอย่างเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายอย่างน้อยวันละ2000 CC ทำให้ลดเชื้อ
        
        ดูแลสาย Foley Catheter ให้อยู่ในระบบปิด
        โดยไม่ปลดก็ต่อระหว่างสายสวนถุงปัสสาวะ ป้องกันการติดเชื้อ
        
        ดูแลถุงรองรับน้ำเป๋าสวให้ต่ำกว่ากระเพาะ ไม่พับ ไม่งอสาย
        
        เปลี่ยนสาย Foley Catheter และ Urine bag ทุกๆ2-4สัปดาห์หรือผู้ป่วยมีอาการติดเชื้อสามารถเปลี่ยนได้ใหม่ทันที ลดการติดเชื้อ
        
        การประเมินผล
        อุณหภูมิร่างกายอยู่ที่ 37.2 องศาเซลเซียส ปัสสาวะมีสีขุ่นตะกอนแขวนลอย
- - - - 14/11/65
        ผู้ป่วยไม่ไข้ เหนื่อยหอบน้อยลง ปอดดีขึ้น
        v/s T=36.6 องศาเซลเซียส P=66ครั้ง/นาที R=22ครั้ง/นาที
        
        16/11/65
        มีไข้ ซึมลง เหนื่อยหอบ มีเสียง Rhonchi ทั้งสองข้างเป็นครั้งคราว v/s T=38.4องศาเซลเซียส R=22ครั้ง/นาที P=66ครั้ง/นาที ครั้ง/นาที BP=148/79 mmHg
      - ข้อวินิจฉัยการพยาบาลข้อที่ 10
        ไม่ถ่ายอุจาระเนื่องจากมีอาการท้องผูก
        
        ข้อมูลสนับสนุน
        S:ผู้ป่วยบอกว่าไม่ถ่ายเป็นเวลา3วัน
        
        วัตถุประสงค์
        -ขับถ่ายอุจาระได้ปกติ ไม่มีอาการท้องผูก
        -ไม่ท้องผูกขับถ่ายปกติไม่ถ่ายเหลวเกินไปแข็งเกินไป
        
        เกณฑ์การประเมิน
        -ขับถ่ายอุจจาระได้ทุก1ถึง2วัน
        -ไม่ท้องผูกขับถ่ายปกติไม่เหลวเกินไปไม่แข็งเกินไป
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        ประเมินอาการผู้ป่วยท้องอืดท้องผูกเฝ้าระวัง
        
        ให้ได้รับยาLactulose 100ml 2ช้อนโต๊ะ วันละ1ครั้ง หลังอาหาร รักษาอาการท้องผูก
        
        ผู้ป่วยดื่มน้ำวันละ6-8แก้ว ช่วยให้การที่อาหารเคลื่อนที่ขับถ่ายง่าย
        
        กระตุ้นให้รับประทานอาหารจำพวกผักผลไม้มากๆเช่นมะละกอ แอปเปิ้ล บวบ เป็นต้น จะทำให้ขับถ่ายได้ดี
        
        แนะนำให้ออกกำลังกายหรือทำกิจจะกรรมต่างๆให้ร่างกายเคลื่อนไหวมากขึ้นเช่นวิ่ง เพื่อกระตุ้นให้ลำไส้มีการบีบตัวมากขึ้น
        
        การประเมินผล
        14/11/65 ผู้ป่วยไม่ถ่ายอุจจาระ
        16/11/65 ผู้ป่วยอุจาระ1ครั้ง ตอนบ่าย
- - - - ข้อมูลสนับสนุน
        S:ผู้ป่วยเป็นโรคไขมันเวียน
        O:UID DLP
        BP=148/79mmHg (16/11/65)
        
        วัตถุประสงค์
        ไม่เกิดอันตรายจากภาวะแทรก
        ซ้อนไขมันในเลือดสูง
        
        เกณฑ์การประเมิน
        -ผู้ป่วยไม่มีอาการเวียนศีรษะ
        -ค่าBP= 120/80mmtlg
        -ผู้ป่วยไม่ได้รับอันตรายจากไขมันในเลือด เช่นอัมพาตหัวใจขาดเลือด
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        ประเมินค่าชีพจรทุก 4ชั่วโมง เป็นการเฝ้าระวัง
        
        ดูแลให้ยาSimvastatin 10 mg 1 tad OD hs ยารักษาโรคไขมัน
        
        ดูแลให้ได้รับยา Dimenhydrinate 50 mg 1เม็ดวันละ3ครั้ง หลังอาหาร ลดอาการเวียนศีรษะ
        
        แนะนำและประทานอาหารครบ 5 หมู่ไม่กินของทอด มันรับประทานข้าวซ้อมมือ ผัก ผลไม้ที่ไม่หวานจัด เพื่อชะลอการดูดซึมไขมัน(พรศิริ พันธสี 2561)
        
        แนะนำออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที ลดไขมันในเลือด
        
        ติดตามผลการตรวจไขมันในเลือด ประเมินว่าดีขึ้นหรือไม่
        
        การประเมินผล
        14/11/65 ผู้ป่วยไม่มีอาการเวียนศีรษะค่าความดันอยู่ที่ 152 / 83 มิลลิเมตรตลอดมีค่าความดันสูงไม่เกิดอันตรายจากไขมันในเลือดเช่น อัมพาต หัวใจขาดเลือด
        16/11/65 ผู้ป่วยมีความดันอยู่ที่ 148 / 79 มิลลิเมตรปรอทผู้ป่วยไม่มีภาวะแทรกซ้อนจากโรคความไขมันในเลือด เช่น อัมพาต หัวใจขาดเลือด
        17/11/65 ผู้ป่วยบอกว่าปวดศรีษะค่าความดัน = 129 / 77 มิลลิเมตรปรอทผู้ป่วยไม่ได้รับอันตรายจากไขมันในเลือดเช่นอัมพาตหัวใจขาดเลือด
  - - - ข้อมูลสนับสนุน
        O:ผู้ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง
        O:UID HT
        BP=148/79 (16/11/65)
        
        วัตถุประสงค์
        ปลอดภัยจากภาวะแทรกซ้อนโรคความดันโลหิตสูง
        
        เกณฑ์การประเมิน
        -ค่าความดัน120/80 mmHg
        -ผู้ป่วยไม่ได้รับภาวะแทรกซ้อนจากโรคความดันโลหิตสูง
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        ประเมินสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมงเฝ้าระวัง
        
        ให้ผู้ป่วยรับยาAmlodipine 5mg วันละ1เม็ดหลังอาหาร ยารักษาโรคความดัน
        
        ให้ผู้ป่วยรับยาEnalpire 5mg วันละ1ครั้งหลังอาหาร ยารักษาโรคความดัน
        
        พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อค่าความดันดีขึ้น
        
        รับประทานให้ครบ 5 หมู่ลดของมัน ทอด เค็มจัด
        
        แนะนำหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงเช่นการดื่มสุรา สูบบุหรี่ ควันต่างๆ เป็นสิ่งกระตุ้นทำให้ความดันสูง
        
        แนะนำผู้ป่วยออกกำลังกายสัปดาห์ละ3ครั้งครั้งละ 30 นาทีลดความดันโลหิตสูง
        
        ติดตามผลการตรวจความดันดูว่าดีขึ้นไหม
        
        การประเมินผล
        16/11/65 ผู้ป่วยมีความดันอยู่ที่ 148 / 79 มิลลิเมตรปรอทผู้ป่วยไม่มีภาวะแทรกซ้อนเช่นหัวใจวาย
        17/11/62 ค่าความดัน = 129 / 77 มิลลิเมตรปรอทผู้ป่วยไม่ได้รับภาวะแทรกซ้อนจากโรคความดันโลหิตสูงเช่นหัวใจวาย
- - - - วัตถุประสงค์
        -ส่งเสริมให้ผู้ป่วยสามารถนอนหลับพักผ่อนเพียงพอ
        
        เกณฑ์การประเมิน
        -ผู้ป่วยนอนหลับได้6-8 ชม.
        -ผู้ป่วยตื่นมาสดชื่น
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        รับฟังปัญหาของผู้ป่วยเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยระบายความรู้สึกและซักตามปัญหา ลดความวิตกกังวล
        
        ให้ผู้ป่วยรับยาLorazepam 0.5 mg 1เม็ด 1ครั้ง ก่อนนอนยาลดความวิตกกังวล/ยานอนหลับ
        
        อธิบายเกี่ยวกับโรคให้ผู้ป่วยทราบตามความเหมาะสม ลดความกังวล
        
        จัดสิ่งแวดล้อมให้เย็นสบายและเงียบสงบผ่อนคลายหลับสบาย
        
        แนะนำให้อ่านหนังสือสวดมนต์ฟังธรรมอาบน้ำก่อนนอนผ่อนคลายหลับสบาย
        
        หลีกเลี่ยงกาแฟอีนในมื้อเย็นเช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม-จะทำให้นอนไม่หลับ
        
        การประเมินผล
        ผู้ป่วยสามารถนอนหลับพักผ่อนได้อย่างเพียงพอ
- - - - เกณฑ์การประเมิน
        -ค่าDTX = 80 -100ml/dl
        -ไม่มีอาการอ่อนเพลีย ปัสสาวะมาก ซึม
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        
        ประเมินสัญญาณชีพจรทุก 4 ชั่วโมงเป็นการเฝ้าระวัง
        
        เจาะ OTK Premeal+haตรวจระดับน้ำตาลในเลือด
        
        สังเกตุอาการผู้ป่วยอ่อนเพลียไหม เป็นการเฝ้าระวัง
        
        แนะนำผู้ป่วยหลีกเลี่ยงขนมหวานทุกชนิดรับประทานนมรสจืด ข้าวกล่อง ขนมปัง ขนมปังโฮลวีท เพื่อลดน้ำตาลในเลือด
        
        ออกกำลังกายสัปดาห์ละ3ครั้งครั้งละ 30นาที
        ลดน้ำตาลในเลือด
        
        ติดตามผลการตรวจประเมินว่าผิดปกติหรือไม่
        
        การประเมินผล
        14/11/65 ค่า DTX 100 มิลลิกรัม/เดซิลิตร มีอาการอ่อนเพลีย
        16/11/65 ค่าระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยอยู่ที่ 98 มิลลิกรัม/เดซิลิตร(เวลา12:00 น.) ผู้ป่วยมีค่าน้ำตาลที่ปกติสีหน้าสดชื่น