Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การแสดงพื้นบ้านอาเซียนในโซน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้, familyweekend. (2557)…
การแสดงพื้นบ้านอาเซียนในโซน
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
กัมพูชา
บุคคลสำคัญ เจ้าหญิงนโรดม บุปผาเทวี แห่งกัมพูชา
ผลงาน
ฟื้นฟูปรับปรุงคณะนาฏศิลป์หลวงเมื่อครั้งพระองค์เสด็จกลับกัมพูชาในต้นทศวรรษ 1990
ประวัติ
เจ้าหญิงนโรดม บุปผาเทวีประสูตเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2486 เป็นพระราชธิดาพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ กับนาง พาต กาญล นางรำสามัญชน พระชายาพระองค์แรก และทรงเป็นพระเชษฐภคินีต่างพระมารดา ในพระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี พระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบันแห่งกัมพูชา สำเร็จการศึกษาจากลีเซพระนโรดม ในพนมเปญขณะมีพระชันษา 15 ปี พระองค์ถูกส่งไปอยู่ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระมหากษัตริยานีสีสุวัตถิ์มุนีวงศ์ กุสุมะนารีรัตน์สิรีวัฒนา พระอัยยิกา ที่ทรงอุปถัมภ์ระบำเทพอัปสรและคัดเลือกให้พระองค์เป็นนางละครหลวง และได้เป็นตัวชูโรงของคณะ Prima ballerina เมื่อพระชนมายุ 18 พรรษา ถือเป็นการแหวกพระราชประเพณีอย่างยิ่ง ที่นำพระราชนัดดานารีมาเป็นนางละคร ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว พระนางกุสุมะได้พยายามสร้างอัตลักษณ์ทางนาฏศิลป์คือระบำอัปสรา มีการดัดแปลงชุดตามอย่างภาพเทวดาและอัปสรในนครวัด เพื่อปลดเปลื้องอิทธิพลนาฏศิลป์ไทยออก หลังจากนั้นพระองค์ก็นำคณะละครออกแสดงไปทั่วโลกจนเป็นที่จดจำ และทรงรำหน้าพระที่นั่งในพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ รวมทั้งแสดงภาพยนตร์เรื่อง "อัปสรา" ของพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ
การแสดงพื้นบ้าน
Robam Nesat
กลองและเครื่องดนตรีจากวงมโหรี วงพีท
การเต้นรำพื้นบ้านของเขมรเป็นการเต้นรำที่มีชีวิตชีวาซึ่งเป็นไปตามธีมยอดนิยมด้วยการเคลื่อนไหวและท่าทางที่มีชีวิตชีวา ลวดลายการร่ายรำมักจะอิงตามตำนานท้องถิ่นและชีวิตประจำวันของผู้คน นักเต้นเต้นด้วยท่วงท่าที่ง่าย ด้นสดแต่มีองค์ประกอบ ซึ่งออกแบบมาเพื่อเชิญชวนให้เกิดอารมณ์ขันและความกระตือรือร้นด้วยดนตรีและจังหวะที่สนุกสนาน การเต้นรำมากมายประกอบกับกลองและเครื่องดนตรีจากวงพีท Mahori และ Pinn Robam Nesat (ระบำตกปลาเขมร) หนึ่งในการเต้นรำพื้นบ้านยอดนิยมของเขมร
บรูไน
อาไดอาได
เครื่องดนตรี
เครื่องดนตรีหลักคือกลองและไวโอลิน
นาย ภูริพัฒน์ จันคง ม.4/9 เลขที่ 16
ประวัติ
การเต้นรำพื้นเมืองประกอบเพลงของชาวมลายู มีที่มาจากชาวประมงสมัยก่อนที่ร้องเพลงขณะช่วยกันลากอวน ปัจจุบันคือเต้นรำประกอบเพลงบรรเลงสลับกับการท่องโคลงแบบมลายู
นาย ภูริพัฒน์ จันคง ม.4/9 เลขที่ 16
เครื่องแบบ
นักแสดงอาไดอาได มีทั้งหญิงและชายแต่งกายแบบชาวเล โดยนักแสดงชายสวมชุดพื้นเมือง ส่วนนักแสดงหญิงสวมชุด บาจู กูรง (baju kurong) คือ เสื้อแขนยาวและผ้าถุง คลุมผมด้วยผ้าพื้นเมือง นาย ภูริพัฒน์ จันคง ม.4/9 เลขที่ 16
อู๋ จุน
ผลงาน
Fahrenheit (2006)
Two-Sided Fahrenheit (2008)
Love You More and More (2009)
Super Hot (2010)
ประวัติ
อู๋ จุน เกิดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2522 (43 ปี) เป็นนักแสดงไต้หวัน ซึ่งเกิดที่ประเทศบรูไน[1][2] อดีตสมาชิกวงฟาเรนไฮต์ ปัจจุบันเป็นศิลปินเดี่ยว ในค่าย Fulong Stars
นาย ภูริพัฒน์ จันคง ม.4/9 เลขที่ 16
สิงคโปร์
การแสดงพื้นบ้าน
เป็นการแสดงละครร้องคล้ายกับการแสดงโอเปร่าของทางยุโรป เป็นการแสดงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศสิงคโปร์ โดยมีจะการแสดงประกอบกับการร้องบทละครออกมาเป็นเพลงด้วยตัวของนักแสดงเอง พร้อมกับการการเต้นประกอบเสียงดนตรีในท่าทางและอารมณ์ต่าง ๆ ตามบทบาทที่ได้รับ สร้างความสนุกสนานให้กับผู้ชมเป็นอย่างมาก โดยการแต่งกายจะมีการแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสวยงามสีสดใส การแสดงละครร้อง ที่ถูกเรียกว่า บังสา
บุคคลสำคัญ
ประวัติ:Chin Yen Chien เริ่มเรียนPipaตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ในปี 1992 เขาเข้าร่วมการแข่งขันดนตรีจีนครั้งแรกและได้รับรางวัลที่ 1 สำหรับประเภทระดับกลาง ในปีถัดมา เขาได้รับรางวัลที่ 1 'Pipa Intermediate Category' ของการแข่งขันดนตรีแห่งชาติที่จัดโดย National Arts Council Yen Chien มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในวงออเคสตร้าจีนหลายวงในสิงคโปร์ โดยมีบทบาทที่โดดเด่นมากขึ้นในฐานะผู้สอนหมวดเครื่องสายดึงสายของ People's Association Youth Chinese Orchestra (PAYCO) และเป็นประธานของ Nanyang Khek Community Guild Chinese Orchestra (2550-2554)
ผลงาน: ในปี 1992 เขาเข้าร่วมการแข่งขันดนตรีจีนครั้งแรกและได้รับรางวัลที่ 1 สำหรับประเภทระดับกลาง ในปีถัดมา เขาได้รับรางวัลที่ 1 ‘Pipa Intermediate Category’ ของการแข่งขันดนตรีแห่งชาติที่จัดโดย National Arts Council Yen Chien มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในวงออเคสตร้าจีนหลายวงในสิงคโปร์ โดยมีบทบาทที่โดดเด่นมากขึ้นในฐานะผู้สอนหมวดเครื่องสายดึงสายของ People’s Association Youth Chinese Orchestra (PAYCO) และเป็นประธานของ Nanyang Khek Community Guild Chinese Orchestra (2550-2554)
อินโดนีเซีย
บุคคลสำคัญ
Didik Nini
Thowok
ประวัติ
เกิด 13 พฤศจิกายน 2497 เป็นนักเต้น นักออกแบบท่าเต้น
นักแสดงตลก ชาวอินโดนีเซีย นักร้อง และครู
ผลงาน
เขาได้ศึกษาการเต้นรำในหลายประเทศ รวมทั้งอินโดนีเซีย อินเดีย ญี่ปุ่น และสเปน เขามักจะผสมผสานรูปแบบจากหลายวัฒนธรรม
การแสดงพื้นบ้าน
Balong dance
เป็นศิลปะการแสดงที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวเกาะบาหลี อินโดนีเซีย บารองเป็นสัตว์ในตำนาน ซึ่งมีหลังอานยาวและหางงอนโง้ง และเป็นสัญลักษณ์แทนวิญญาณดีงาม ซึ่งเป็นผู้ปกปักษ์รักษามนุษย์ต่อสู้กับรังดา ตัวละครที่เป็นสัญลักษณ์แทนวิญญาณชั่วร้าย บารอง แดนซ์เป็นนาฏกรรมศักดิ์สิทธิ์ การร่ายรำมีท่าทีอ่อนช้อยงดงาม เสียงเพลงไพเราะ
ผ้าบาติก (Batik) หรือ ผ้าปาเต๊ะ
เป็นผ้าพื้นเมืองของอินโดนีเซียที่มีวิธีการทำโดยใช้เทียนปิดส่วนที่ไม่ต้องการให้ติดสี และใช้วิธีการแต้มระบาย หรือย้อมในส่วนที่ต้องการให้ติดสี ผ้าบาติกนิยมใช้เป็นเครื่องแต่งกายของหนุ่มสาว โดยใช้เป็นผ้าโพกศีรษะชาย ผ้าคลุมศีรษะหญิง ผ้าทับกางเกงชาย และโสร่ง หรือผ้าที่ใช้นุ่งโดยการพันรอบตัว ซึ่งส่วนที่เรียกว่า "ปาเต๊ะ" คือส่วนที่ต้องนุ่งให้ตรงกับสะโพก โดยมีลวดลายสีสันต่างไปจากส่วนอื่นๆ ในผ้าผืนเดียวกันนั่นเอง
เริ่มด้วยวงดนตรีโหมโรงขึ้นมาก่อน โดยวงดนตรีออเคสตร้าบาหลีนี้ มีชื่อเรียกว่า Gamelan มีเครื่องดนตรีหลักเป็นระนาดเหล็ก (Gangsa), ฆ้องใหญ่ (Gongs), ฆ้องแถว (Terompong), กลองคู่ (Kendang) และเครื่องดนตรีประกอบที่ทำจากไม้ไผ่ (Tingklik)
เวียดนาม
บุคคลสำคัญ ลิวกวางหวู
ผลงาน
เขียนบทละครเวทีเกือบ 50บท และได้จัดทำเป็นละครเวทีเพื่อแสดงในโรงละครต่างๆโดยการกำกับของผู้กำกับที่มีชื่อเสียงของเวียดนาม เช่น “Hồn Trương Ba da hàng thịt” “Lời thề thứ 9” “Tin ở hoa hồng” เป็นต้น ซึ่งได้รับความนิยมและสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ชมจำนวนมากและทำให้การแสดงละครเวทีในช่วงนั้นคึกคักเป็นอย่างยิ่ง
ประวัติ
เกิดเมื่อปี1948 ทีตําบลเถี่ยวเกออำเภอหะหว่า จังหวัดฟู้เถาะ เป็นลูกชายของนักเขียนบทละครเวทีลึววางถ่วน ซึ่งมีภูมิลําเนาอยูที่เขตหายโจว์นครดานัง ตอนเป็นเด็กครอบครัวของลิวกวางหวูอาศัยอยูที่จังหวัดฟู้เถาะ ถึงปี 1954 ครอบครัวของลิวกวางหวูได้ย้ายไปอยูที่2กรุงฮานอย ซึ่งในตอนนั้น ลิวกวางหวูก็เรมิ2 มีความรู้สึกชอบและแสดงออกถึงความสามารถด้านศิลปะ โดยความทรงจําในช่วงเวลาที2อาศัยในหมู่บ้านชนบทในภาคเหนือของเขา ได้สะท้อนออกมาอย่างเด่นชัดในผลงานต่างๆ
การแสดงพื้นบ้าน
ระบำหมวก
ชาย แต่งกายคล้ายหญิง บางครั้งสวมเสื้อกุยเฮง สวมหมวกสีดำเย็บด้วยผ้า ไม่มีปีก ปัจจุบันแต่งสากลกันมากแล้ว ในเวียดนามใต้มีชาวเขาเผ่าหนึ่งเรียกว่า พวกม้อย จะนุ่งผ้าสั้น ๆ ปกปิดร่างกายแต่เฉพาะ ท่อนล่างคล้ายนุ่งใบไม้ ปัจจุบันหญิงสวมเสื้อ นิยมเจาะหูสอดไม้ซึ่งเหลาแหลม ๆ สวมกำไลคอ
ใช้แคนและพิณสายเดี่ยวเป็นเครื่องดนตรี
เป็นการแสดงพื้นบ้านทางภาคเหนือของเวียดนาม มีลักษณะท่าทางการรำที่อ่อนซ้อยสวยงาม
ลาว
บุคคลสำคัญ
ผลงาน
ผลงาน: ผลงานที่มีผลงานในอัลบั้มล่าสุดมาในเพลงบ้านนาและลำพิน เตรียมตัวพบกับกลุ่มน้องผาเพชรพรูทองชื่อยันนิค และผลที่ตามมาสำหรับทุกคนที่จะต้องกลับมาทำในซอง ที่แต่งขึ้นเองด้วยแทมความเห็นของผู้เขียน ประสบผลสำเร็จจากศิลปินและ Ingon เป็นศิลปิ นรุ่นเยาว์ ที่จะคอยค่าแก่การสงสัย
https://supawadee1997.wordpress.com/2012/08/07/%E0%B8%9F
ประวัติ
สาวผิวสีน้ำตาลแต่เสียงใส ยิ้มง่าย เป็นลูกสาวของ บุญทอง แก้วบัวลา หมอลำสิป้นดอน และ บุญเพ็ง แก้วบัวลา หมอดังในภาคใต้ หมอลำแต่ง เล่าให้ผู้ฟังฟังว่าเกิดกลางเสียงจึงรักเรื่องนี้ตั้งแต่เด็ก เขาเริ่มอ่านหนังสือ เขาเริ่มเรียนลำตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ในกอนกล่าวเสริมว่า มีเจ้าภาพเทศกาลที่มาแลงงานกุ้งบุญแทบทุกวัน เมื่อไม่มีงานจริง อาทิตย์ละ 2-3 งาน เรียกได้ว่าแทบไม่เหลื้อเลยก็ว่าได้ ระหว่างทางไปเทศกาลต่างๆ
นายคณาธิป จิตต์ละออง ม.4/9 เลขที่5
การแสดงพื้นบ้าน
เครื่องดนตรี
เครื่องดนตรี: ใช้ดนตรีพื้นเมืองอิสานได้แก่ โปงลาง แคน พิณ ซอ กับแก๊บ นิ่ง และฉาบ
https://www.saranukromthai.or.th/sub/book/book.php?book=37&chap=3&page=t37-3-infodetail07.html
ประวัติ
คือ ฟ้อนเพื่อบวงสรวงบูชา โดยเฉพาะชนชาติที่อาศัยอยู่ ตามแถบลุ่มแม่น้ำโชงมิความเชื่อและขัลมั่นในการ นับถือเทวดาฟ้าดิน ภูติผิวิญญาณ
นายคณาธิป จิตต์ละออง ม.4/9 เลขที่5
เครื่องแบบ
เครื่องแต่งกาย: ผู้แสดงเป็นหญิงล้วนเครื่องแต่งกายนิยมใช้อยู่ 2 แบบ คือ 1. สวมเสื้อแขนกระบอกสีพื้น นุ่งผ้าถุงมัดหมี่คาดเข็มขัดเงินทับ ผมเกล้ามวย ใช้ฝ้ายสีขาวมัดผมคล้ายอุบะ 2. ใช้ผ้าแพรวารู้ดอกทิ้งชายทั้งสองข้าง นุ่งผ้าถุงมัดหมี่ยาวครึ่งแข้ง เกล้าผมมวยใช้ผ้ามัดหรือใช้ดอกไม้ประดับรอบมวยผม
ฟ้อนรำตังหวาย
ฟิลิปปินส์
บุคคลสำคัญ
ผลงาน:
หนังสือเล่มแรกของเธอ Pangalay:Traditional Dances and Related Folk Artists Expressions (1983)
หนังสือชื่อ Ukkil: Visual Art of the Sulu Archipelago
ประวัติ:
หญิงสาวชาวตากาล็อกที่เติบโตในครอบครัวผู้มีอันจะกิน และเคร่งครัดในศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิค ‘ลิกายา เฟอนานโด-อามิลบังซา’ (Ligaya Fernando-Amilbangsa) จบการศึกษาเอกภาษาอังกฤษจากมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทิร์น (Far Eastern University) ในฟิลิปปินส์ เธอแต่งงานกับเพื่อนนักเรียนชาวมุสลิมซึ่งเป็นน้องชายสุลต่านแห่งเกาะซูลูทางตอนใต้ของประเทศที่แสนทุรกันดาร ใช้เวลาทั้งชีวิตเรียนรู้การฟ้อนรำพื้นเมืองที่กำลังจะสูญหาย ใช้สมองกับสองแขนและแสงเทียน บันทึกความเคลื่อนไหวของท่วงท่าการรำจากเงาสะท้อน
การแสดงพื้นบ้าน
ประวัติ:
มีต้นกำเนิดมาจาก เกาะปิเนย์ ในหมู่เกาะ วีซายัน ประมาณช่วงที่ประเทศสเปนเข้ามาปกครองฟิลิปปินส์ จึงทำให้การระบำคาริโนซานั้นมีการรับอิทธิพลการระบำในรูปแบบของตะวันตกเข้ามาประยุกต์ใช้ เช่น การระบำโบเลโร ของสเปน รวมไปถึง ระบำจาราเบ ตาปาติโอ หรือ ระบำหมวกของแม็กซิโก
เครื่องแบบ:
ผู้หญิงใส่ชุดมาเรีย คลาร่า (Maria Clara) หรือ ชุดสตรีประจำชาติ ฟิลิปปินส์ และถือพัดหรือผ้าเช็ดหน้าเป็นอุปกรณ์ประกอบการแสดง
มาเลเซีย
ซีตี นูร์ฮาลีซา
ผลงาน
เป็นนักร้องชาวมาเลเซีย[3] ตั้งแต่เธอเป็นนักร้อง เธอได้รับรางวัลการแข่งขันประกวดร้องเพลงระดับนานาชาติหลายครั้ง เธอได้รับฉายาว่าเป็นเสียงแห่งเอเชีย หลังจากชนะตำแหน่งกรังปรีแชมเปียนจากเทศกาล Voice of Asia รายการประกวดร้องเพลงที่จัดขึ้นที่เมืองอัลมาเตอ ประเทศคาซัค นาย ภูริพัฒน์ จันคง ม.4/9 เลขที่ 16
ประวัติ
เธอได้รับรางวัลทั้งภายในและต่างประเทศมากกว่า 200 รางวัล[5] เธอเริ่มมีชื่อเสียงจากการเป็นศิลปินที่มียอดขายระดับแผ่นเสียงทองคำขาวหลายชุด ตั้งแต่ชนะการแข่งขันรายการเรียลลิตีที่ชื่อ บินตังเอชเอ็มไอ 1995 เมื่อเธออายุ 16 ปี ซึ่งต่อมาเธอได้รับการเสนอให้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงสากล 4 ค่าย[6] ซิงเกิลแรกจากอัลบั้มเปิดตัวของเธอคือ "Jerat Percintaan" ซึ่งชนะการแข่งขันอานูเกอระฮ์จัวราลากู (Anugerah Juara Lagu) ครั้งที่ 11 และได้ 2 รางวัลในสาขาแสดงยอดเยี่ยมและเพลงบัลลาดยอดเยี่ยม นาย ภูริพัฒน์ จันคง ม.4/9 เลขที่ 16
โจเก็ต
เครื่องดนตรี
เครื่องดนตรีในอดีตใช้เพียงรำมะนา ๒ ลูก คือ ลูกเขื่องและลูกนุ้ย และไวโอลิน โดยนักดนตรีจะเรียกว่า ซอ คนบรรเลงเรียกว่า ช่างซอ ในการบรรเลงผู้บรรเลงจะยึดหลักฉบับของตนไม่มีการไล่เสียง บรรเลงตามโน้ตเพลง เพลงที่ใช้เรียกว่า ลาฮู ซึ่งเป็นเพลงบรรเลงอย่างเดียว นาย ภูริพัฒน์ จันคง ม.4/9 เลขที่ 16
ประวัติ
เป็นระบำมาเลย์แบบดั้งเดิมซึ่งมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่มะละกา ได้รับอิทธิพลมาจากระบำโปรตุเกสที่แพร่เข้ามายังมะละกาในยุคของการค้าขายเครื่องเทศ นาย ภูริพัฒน์ จันคง ม.4/9 เลขที่ 16
เครื่องแบบ
การแต่งกายของชุดการแสดงรองเง็งตันหยงใช้ชุดพื้นเมืองซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของคนไทยเชื้อสายมลายู ได้แก่ ผู้ชายสวมหมวกไม่มีปีก สวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ใช้ผ้าสโร่งคาดทับ ผู้หญิง สวมเสื้อบานง ผ้าปาเต๊ะ มีผ้าคล้องไหล่ นาย ภูริพัฒน์ จันคง ม.4/9 เลขที่ 16
เมียนมาร์
บุคคลสำคัญ
ประวัติ
เธอเริ่มต้นอาชีพการเต้นตั้งแต่อายุสิบสี่ปีและมีประสบการณ์ยี่สิบสี่ปี ในปี พ.ศ. 2496 โรงเรียนวิจิตรศิลป์แห่งรัฐได้เปิดสอนในมัณฑะเลย์ และโอบาถึงทําหน้าที่เป็นครูสอนเต้นคนแรกสําหรับนักเรียนหญิง ที่นั่นเธอประมวล 125 ขั้นตอนของท่าเต้นพม่าดั้งเดิมตามตัวอักษร Kabya Lut Aka ซึ่งประกอบด้วยหลักสูตรการเต้นห้าหลักสูตรที่ตั้ง ใจให้เป็นภาคการศึกษาห้าปี แต่ละหลักสูตรทั้งห้าแบ่งออกเป็น 25 ลําดับการเต้นซึ่งประกอบด้วย 125 ด่าน โดยแต่ละขั้นตอนมีความแม่นยําสิบนาที
ผลงาน
เธอได้รับรางวัล Wunna Kyawhtin ซึ่งเป็นเกียรติสูงสุดที่มอบให้กับศิลปินโดยรัฐบาลพม่า
https://en.wikipedia.org/wiki/Oba_Thaung
การแสดงพื้นบ้าน
ซะปแวซะปแว (Sa Pa Wae)
1.ผ้าถุง 2.เสื้อลักษณะคล้ายกับชุดประจำชาติพม่าซึ่งชุดการแต่งกายมีลักษณะคล้ายกับชุดลิเกของไทย
เป็นการแสดงโดยคน เมื่อได้เวลาแสดงจะมีนักแสดงชาย 2 คน แต่งกายและพูดจาตลกขบขัน ออกมาพูดคุย เกริ่นนำเรื่องราวที่จะแสดงในวันนั้นๆ หลังจากที่โชว์ตัวนักแสดงเสร็จแล้วจึงเริ่มแสดงตามเนื้อหาของเรื่อง โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงแรกเป็นการแสดงเรื่องสมัยใหม่ ซึ่งคณะซะปแวนั้นๆ เป็นผู้ประพันธ์เรื่องราวขึ้นเอง ส่วนใหญ่มักจะมีเนื้อหาในชีวิตประจำวันทั่วไป ส่วนช่วงสุดท้ายเป็นการแสดงเรื่องราวของชาดกต่างๆ ไปจนถึงรุ่งเช้า
อะเญ่ย (Ayei)
หมายถึงการแสดงตลกแบบพม่า เมื่อได้เวลาแสดงก็จะเริ่มด้วยการแสดงฟ้อนรำเดี่ยวของมีนตะมีที่ออกมาร่ายรำในท่วงท่าต่างๆ ด้วยทำนองเพลงสนุกสนานจากวงษ์ปี่พาทย์ที่อยู่ด้านหน้า คนพม่ามีวิธีสังเกตว่ามีนตะมีคนไหนรำเก่งหรือไม่นั้น โดยดูจากว่าใครที่ต่อชายผ้าซิ่นลูนตยาได้ยาวที่สุดแล้วรำโดยที่ชายผ้านั้นไม่ไปพันกับเท้า และในขณะที่รำ ผ้าก็พลิ้วไหวเป็นคลื่นไปตามจังหวะการรำถือว่ามีนตะมีคนนั้นเก่งและมีชื่อเสียงมาก หลังจากฟ้อนรำเปิดตัวจบลงไปแล้ว นักแสดงชายจำนวน 5-6 คน ซึ่งเรียกว่า ลูชวินด่อ จะออกมาแสดงท่าทางอากัปกิริยาต่างๆ หรือใช้คำพูดที่ชวนให้ตลกขบขัน โดยใช้ผ้าโพกหัวเป็นอุปกรณ์หลัก สร้างสมมติว่าเป็นสิ่งของ สัตว์ต่างๆ หรืออะไรก็ได้ตามแต่จะจินตนาการ ที่สำคัญจะต้องเรียกเสียงหัวเราะให้ได้มากที่สุด พร้อมทั้งมีการแสดงฟ้อนรำสลับกันไปบ้างแล้วแต่เทคนิคของแต่ละคณะ
ผู้ชายแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีฉูดฉาดสะดุดตา นุ่งโสร่งลายตารางโตๆ สวมเสื้อป้ายอกและมีผ้าโพกศรีษะ ส่วนนักแสดงหญิงมักแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่สวยงามสีนวลตา สวมเสื้อเกาะอกแล้วสวมด้วยเสื้อที่มีชายงอน นุ่งผ้าซิ่นลูนตยา โดยต่อเชิงผ้าสีขาวให้ยาวออกไป
ฆ้องวงใหญ่ ปี่ใน กลองทัด ตะโพน และฉิ่ง
https://www.sac.or.th/databases/southeastasia/subject.php?sj_id=56
นายโสรัจจ์ จันทร์เพ็ง เลขที่ 4 ม.4/9
ไทย
บุคคลสำคัญ
ผลงาน
ผลงาน: ได้แก่การคิดประดิษฐ์ท่ารำสุโขทัย ท่ารำที่ปรับปรุงมาจากการแสดงละครตอนหนึ่ง ในเรื่องอีเหนา
ประวัติ
ประวัติ: -เกิด เมื่อวันที่ ๒๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๔๖ ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา (ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ ๓๗ สิงหาคม พ.ศ" ๒๕๔๓) : -ชีวิตครอบครัว สมรสกับ หม่อมราชวงศ์ตัน สนิทวงศ์ (พลตรี หม่อมสนิทวงศ์เสนี) -การศึกษา สำเร็จหลักสูตรการศึกษาวิชาสามัญจากโรงเรียนในวังสวนกุหลาบ -การทำงาน รับราชการที่กรมศิลปากรเป็นผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลปีไทย ผู้อำนวยการฝึกซ้อมการแสดงนาฎศิลป์ไทย สอน และเป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้ เกี่ยวกับนาฎศิลป์ไทย
การแสดงพื้นบ้าน
เครื่องดนตรี
เครื่องคนตรี : ใช้วงดนตรีพื้นเมืองภาคใต้ตอนล่าง ซึ่งประกอบไปด้วย ไว้โอลิน รำามะนา ข้อง แมนโดลิน ขลุ่ย และมาลากัส
ประวัติ
คือ เป็นศิลปะการแสดงระบำพื้นเมืองของทางภาคใต้ ที่ใช้พัดประกอบการแสดง ประกอบกับเพลงที่มีความไพเราะน่าฟัง ลิลาท่ารำจึงอ่อนช้อย และเป็นการแสดงที่แพร่หลายในหมู่ชาวไทยมุสลิม โดยเฉพาะในจังหวัดปัตตานี
เครื่องแบบ
เครื่องแต่งกาย 1. เสื้อในนาง ไม่มีแชนสิดำ 2. ผ้านุ่ง เป็นโสร่งบาติก หรือผ้าขอแกะ 3. ผ้าสไบ สำหรับคลุมไหล่ จับจิบเป็นโบว์ด้านหน้า 4. เข็มชัด 5. สร้องคอ 6.ดอกชัมเป็ง 7.ต่างหู
familyweekend. (2557). ระบำบารอง สืบค้นเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2565 จาก
http://department.utcc.ac.th/thaiculture/index.php/360/51-barong-dance
เครื่องแต่งกาย
-. (2565). เครื่องเเต่งกาย สืบค้นเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2565
จาก
http://www.iamupekkha.com/HTML5/ex/s15/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2.html
ประวัติ
เครื่องดนตรี
คาริโญซา(carinosa)
นายยศกร ไพโรจน์ ม.4/9 เลขที่6
เครื่องดนตรี
เครื่องแต่งกาย
-. (2558). เครื่องดนตรี สืบค้นเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2565
จาก
http://bali-guides.blogspot.com/2015/11/barong-dance.html
อ้างอิง ""เจ้าหญิงนโรดม บุปผา เทวี" สิ้นพระชนม์แล้ว พระชนมายุ 76 พรรษา". มติชนออนไลน์. 18 พฤศจิกายน 2562. สืบค้นเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2565
https://www.matichon.co.th/foreign/news_1758845
mesium thailand.(-).คาริโญซา สืบค้นเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565,จาก
https://www.museumthailand.com/th/191/webboard/topic/%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%8D%E0%B8%8B%E0%B8%B2-(carinosa)/
นายยศกร ไพโรจน์ ม.4/9 เลขที่6
Intocambodia. (2565). Robam Nesat. สืบค้นเมื่อ 15พฤศจิกายน 2565, จาก
https://intocambodia.org/content/robam-nesat-orkhmer-finish
Intocambodia. (2565). Robam Nesat. สืบค้นเมื่อ 15พฤศจิกายน 2565, จาก
https://intocambodia.org/content/robam-nesat-orkhmer-finish
อ้างอิง ""เจ้าหญิงนโรดม บุปผา เทวี" สิ้นพระชนม์แล้ว พระชนมายุ 76 พรรษา". มติชนออนไลน์. 18 พฤศจิกายน 2562. สืบค้นเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2565
https://www.matichon.co.th/foreign/news_1758845
นายคณพศ สนิทมัจโร ม.4/9 เลขที่ 9
นายคณพศ สนิทมัจโร ม.4/9 เลขที่ 9
นายคณพศ สนิทมัจโร ม.4/9 เลขที่ 9
นายคณพศ สนิทมัจโร ม.4/9 เลขที่ 9
อินแต่ง แก้วบัวลา
the momentum .(-).ลิกายา เฟอนานโด-อามิลบังซา สืบค้นเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565,จาก
https://themomentum.co/ligaya-fernando-amilbangsa/
นายยศกร ไพโรจน์ ม.4/9 เลขที่6
the momentum .(-).ลิกายา เฟอนานโด-อามิลบังซา สืบค้นเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565,จาก
https://themomentum.co/ligaya-fernando-amilbangsa/
ลิกายา เฟอนานโด-อามิลบังซา
ท่านผู้หญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนี
นายคณาธิป จิตต์ละออง ม.4/9 เลขที่5
ระบําตารีกีปัส
นายคณาธิป จิตต์ละออง ม.4/9 เลขที่5
-. (2565) ประวัติ สืบค้นเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2565 จาก
https://id.wikipedia.org/wiki/Didik_Nini_Thowok
Bùi Hằng - 5 กันยายน 2561สืบค้นเมื่อ 15 พฤศจิกายน2565
https://vovworld.vn/th-TH/%E0%B8%A7%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1/%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A7-%E0%B8%8B%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%87-%E0%B8%81%E0%B8%9A%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1-676644.vov
https://sites.google.com/site/naiyarinnoey/ta-ri-kipas
นายคณพศ สนิทมัจโร ม.4/9 เลขที่ 9
นายคณพศ สนิทมัจโร ม.4/9 เลขที่ 9
Bùi Hằng - 5 กันยายน 2561สืบค้นเมื่อ 15 พฤศจิกายน2565
https://vovworld.vn/th-TH/%E0%B8%A7%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1/%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A7-%E0%B8%8B%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%87-%E0%B8%81%E0%B8%9A%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1-676644.vov
https://www.saranukromthai.or.th/sub/book/book.php?
เครื่องแต่งกาย
ประวัติ
-. (2565) ประวัติ สืบค้นเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2565 จาก
https://en.wikipedia.org/wiki/Didik_Nini_Thowok
mesium thailand.(-).คาริโญซา สืบค้นเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565,จาก
https://www.museumthailand.com/th/191/webboard/topic/%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%8D%E0%B8%8B%E0%B8%B2-(carinosa)/
นายสรวิชญ์ พะสริ ม.4/9 เลขที่ 2
นายสรวิชญ์ พะสริ ม.4/9 เลขที่ 2
นายสรวิชญ์ พะสริ ม.4/9 เลขที่ 2
นายสรวิชญ์ พะสริ ม.4/9 เลขที่ 2
นายสรวิชญ์ พะสริ ม.4/9 เลขที่ 2
(2565) สืบค้นเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2565
https://sites.google.com/site/weiydnamkabxaseiyn/wathnthrrm-laea-prapheni
นายคณพศ สนิทมัจโร ม.4/9 เลขที่ 9
เครื่องดนตรี
โอบะ ต็อง (Oba Thaung)
บังสาวัน
ฐานของสังคม-วัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (2559)สิงคโปร์-ศิลปะการแสดง สืบค้นเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2565,จาก
https://www.sac.or.th/databases/southeastasia/subject.php?sj_id=71
ประวัติ
ประวัติ
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B9%E0%B9%8B_%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%99
https://www.sac.or.th/databases/southeastasia/subject.php?c_id=1&sj_id=95
eight tones music for everyone.(-).ซิน เยน เซียน สืบค้นเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565
https://eight-tones.com.sg/pipa/chin-yen-chien/
https://th49.ilovetranslation.com/iiWTgdoAq8b=d/
https://www.ban1gun.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B3%E0%B9%82%E0%B8%88%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B8%95_6409.html
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%95%E0%B8%B5_%E0%B8%99%E0%B8%B9%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%AE%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%8B%E0%B8%B2
นายยศกร ไพโรจน์ ม.4/9 เลขที่6
นายยศกร ไพโรจน์ ม.4/9 เลขที่6
Chin Yen Chien
นายยศกร ไพโรจน์ ม.4/9 เลขที่6
เครื่องแต่งกาย
เครื่องดนตรี
(2565) สืบค้นเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2565
https://sites.google.com/site/weiydnamkabxaseiyn/wathnthrrm-laea-prapheni
นายคณพศ สนิทมัจโร ม.4/9 เลขที่ 9
นายคณพศ สนิทมัจโร ม.4/9 เลขที่ 9