Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคเอดส์ (AIDS) - Coggle Diagram
โรคเอดส์ (AIDS)
การดูแลหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อเอดส์ระหว่างตั้งครรภ์
1.ให้คำปรึกษาเกียวกับการติดเชื้อเอดส์ ได้แก่
1.1 ระยะต่างๆ ของการติดเชื้อเอดส์ อธิบายให้หญิงตั้งครรภ์ทราบว่าหญิงตั้งครรภ์อยู่ในระยะติดเชื้อที่ยังไม่มีอาการ หรืออยู่ในระยะติดเชื้อที่มีอาการ
1.2 วิธีการติดต่อของเชื้อเอดส์ วิธีการได้รับเชื้อเอดส์ ตลอดจนการแพร่เชื้อเอดส์
1.3 แนวทางในการดูแลสุขภาพระหว่างตั้งครรภ์ของหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อเอดส์ในด้านโภชนาการ การทำงาน การออกกำลังกาย การพักผ่อน ตลอดจนการมาตรวจตามนัด
1.4 แผนการรักษาของแพทย์ทั้งในระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด ระยะหลังคลอด
1.5 โอกาสเสี่ยงของการติดเชื้อจากมารดาไปยังทารกในครรภ์ เพื่อให้หญิงตั้งครรภ์ตัดสินใจเกี่ยวกับการตั้งครรภ์
1.6 การรับประทานยาเพื่อลดการติดเชื้อเอดส์จากมารดาไปสู่ทารก เช่น AZT
1.7 การติดเชื้อเอดส์จากมารดาไปสู่ทารกโดยผ่านทางน้ำนมมารดา แนะนำให้มารดาเลี้ยงบุตรด้วยนมผสม และแนะนำวิธีคุมกำเนิดภายหลังคลอด
การตรวจหาโรคทางเพศสัมพันธ์ ตลอดจนโรคติดเชื้อฉวยโอกาศอื่นๆ
การตรวจร่างกาย การตรวจภายในช่องคลอด
การตรวจเลือดหาซิฟิลิส ไวรัสตับอักเสบบี เป็นต้น
การตรวจนับ CD4
<700cells/mL มีโอกาสทารกในครรภ์ติดเชื้อเพิ่มขึ้น
ถ้าลดต่ำลง 200 cells/Ml ระวังการติดเชื้อฉวยโอกาส
ให้ยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อฉวยโอกาสหากค่า CD4 <200 cells/ml
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ ทำเช่นเดียวกับการตรวจในหญิงตั้งครรภ์ทั่วไป
ฉีดวัคซีนป้องกันโรคบาดทะยัก
สังเกตและติดตามหญิงตั้งครรภ์ว่ามีอาการของโรคเอดส์หรือไม่ เพื่อจะสามารถให้การดูแลได้ตั้งแต่ระยะแรกของโรค
ดูแลให้ยาต้านไวรัสในขณะตั้งครรภ์ ได้แก่ Zidovudine
กลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
หญิงขายบริการ
ชายที่มีเพศสัมพันธ์ได้ทั้งชายและหญิง
ชายที่เป็นรักร่วมเพศ (homosexual)
ผู้ติดสารเสพติด ที่ใช้เข็มร่วมกัน
ผู้ป่วยที่เป็นโรคเลือดซึ่งต้องได้รับเลือดบ่อยๆ เช่น ธาลัสซีเมีย
คู่สามีภรรยาของบุคคลดังกล่าวที่กล่าวมาข้างต้น
การแบ่งระยะของโรคเอดส์
พิจารณาจากจำนวน CD4
ระยะที่ 1 ค่า CD4 > 500 cells/uL
ระยะที่ 2 ค่า CD4 ระหว่าง 200-499 cells/uL
ระยะที่ 3 ค่า CD4 < 200 cells/uL
พิจารณาจากอาการทางคลินิก
ระยะ A ประกอบด้วยอาการอย่างน้อย 1 อย่าง
จาก 3 อย่าง ดังต่อไปนี้
ไม่มีอาการของการติดเชื้อเอดส์
มีอาการของต่อมน้ำเหลืองโตทั่วไป
มีประวัติของการติดเชื้อเอดส์ชนิดเฉียบพลันมาก่อน
ระยะ B เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอดส์และมีภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้ออื่น
มีการติดเชื้อ Bacteria
มีการติดเชื้อราที่ปากและช่องคลอด
มีการเสื่อมของเยื่อบุปากมดลูกชนิดปานกลางและรุนแรง หรือเป็นมะเร็งปากมดลูกระยะยังไม่ลุกลาม
มีไข้
งูสวัส (Herpes Zoster)
จ้ำเลือดตามตัว
อุ้งเชิงกรานอักเสบ
มีการติดเชื้อแบคทีเรีย Listeria ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจส่วนต้น
มีการเสื่อมของปลายประสาทส่วนกลาง
ระยะ C ได้แก่ ผู้ป่ววยติดเชื้อเอดส์และมีภาวะหรือโรคดังต่อไปนี้
Candidiasis บริเวณหลอดลมหรือปอด
มะเร็งปากมดลูกระยะลุกลาม
Cryptococcosis บริเวณเยื่อหุ้มปอดภายนอก
การติดเชื้อ Cytomegalovirus ที่บริเวณเหนือจากตับ ม้าม หรือต่อมน้ำเหลือง
Herpes Simplex ที่เป็นเรื้อรังนานกว่า 1 เดือน
มะเร็งของผิวหนัง
มะเร็งของต่อมน้ำเหลือง
น้ำหนักลด
ผลของการติดเชื้อเอดส์ต่อการตั้งครรภ์
ด้านมารดา
ทำให้ภาวะแทรกซ้อนเพิ่มขึ้น เช่น ทุพโภชนาการ
มดลูกอักเสบภายหลังคลอด
อาจทำให้อาการของโรคคเอดส์เลวลง
ด้านทารก
การแท้ง
ทารกคลอดก่อนกำหนด
ทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์
ทารกแรกเกิดน้ำหนักตัวน้อย
ทารกตายในครรภ์
ทารกมีใบหน้าลักษณะผิดปกติ หน้าผากคล้ายกล่อง
ศีรษะเล็ก จมูกแบน ตาเฉียง
การแพร่กระจายเชื้อ
ทางเพศสัมพันธ์
ลักษณะของการร่วมเพศ ชายกับชายมีโอกาสมากกว่า
การเป็นแผลของอวัยวะเพศ เชื้อผ่านแผลเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น
ขณะมีประจำเดือน เชื้อเข้าสู่โพรงมดลูกได้ง่ายขึ้น
ทางกระแสเลือด โดยได้รับเชื้อจากการได้รับเลือด การใช้เข็มฉีดยยาร่วมกับผู้อื่น
มารดาสู่ทารก โดยได้รับเชื้อในขณะตั้งครรภ์ ขณะคลอด การเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดา
อื่นๆ เช่น การเปลี่่ยนถ่ายอวัยวะจากผู้ติดเชื้อเอดส์