Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เตียง 26 CHF with MI with AKI with CKD - Coggle Diagram
เตียง 26 CHF with MI with AKI with CKD
ผู้ป่วยหญิงไทย อายุ 86 ปี
โรคประจำตัว HT, DLP
เกิดหลอดเลือดแข็งและตีบ
CHF
เลือดไหล
ไปปอด
น้ำท่วมปอด
อาการ
1 more item...
หลอดเลือดบีบตัวมากขึ้น ทำให้ Cadiac
output เพิ่มขึ้น
หัวใจบีบตัวไม่ดี เลือดกลับไปเลี้ยงที่หลอดเลือดแดง เกิดความดันโลหิตสูง
CHF
หัวใจซีกซ้ายบีบตัวไม่ดี
เลือดไหลไปปอด
น้ำท่วมปอด
1 more item...
โรคไตเฉียบพลัน (AKI)
ความหมาย : เป็นภาวะที่ไตสูญเสียหน้าที่อย่างทันทีทัน ใด มีอัตราการกรองลดลงในระยะเวลาอันสั้น 1 ชั่วโมง ถึง 3 วัน
การรักษา
กัดปริมาณน้ำ จำกัดอาหารที่มีโปแตสเซียม เช่น ผัก ผลไม้ เป็นต้น
กำจัดโปแตสเชียมออกจากร่างกายโดยให้ Kayexalate ร่วมกับ Sorbitol เพื่อช่วยขับโปแตสเชียมออกทางอุจจาระ
ให้การรักษาหรือภาวะที่เป็นสาเหตุและแก้ไขภาวะผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้น
ให้ Regular insulin (RI) + 50% Glucose ทาง IV ซึ่ง Insulin จะพา Glucose เข้าเซลล์ และนำ K+ ในเลือดได้อย่างรวดเร็ว
ให้ NaHC03 ทาง IV ช่วยแก้ภาวะ Metabolic acidosis ช่วยให้ K+ เข้าเซลล์ได้มากขึ้น
ป้องกันการติดเชื้อโดยใช้หลัก Aseptic technique
การวินิจฉัยโรค
จากการตรวจร่างกายพบหลอดเลือดดำที่คอโป่ง
อาการหอบเหนื่อย คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร
จากประวัติมีการเสียเลือด
มีเลือดออกในทางเดินอาหาร
จากการตรวจปัสสาวะจะพบความถ่วงจำเพาะมีค่าคงที่หรือสูงขึ้น ออสโมลาลิตี้ 250-350 มิลลิออสโมล
ตรวจเลือดจะพบค่า Blood urea nitrogen (BUN), Creatinine (Cr)สูงกว่าปกติ BUN : CR = 10 : 1 หรือต่ำกว่า
ตรวจจำนวนเม็ดเลือด (Complete blood count; CBC) พบระดับฮีมาโตคริท และระดับฮีโมโกลบิลต่ำ
อาการและอาการแสดง
มีของเสียคั่ง (Blood urea nitrogen และ Creatinine สูง) ทำให้มีอาการของภาวะยูรีเมีย ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร เยื่อบุช่องปากอักเสบ ท้องผูก ท้องเสีย
เลือดออกในกระเพาะอาหาร ซึม ซัก หรือไม่รู้สึกตัว
มีปัสสาวะออกน้อยกว่า 400 มิลลิลิตรต่อวันอย่างทันทีทันใดหรือไม่มีปัสสาวะออกเลย
อาจเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว ปอดบวมน้ำ
มีโปแตสเชียมในเลือดสูง โซเดียมในเลือดต่ำ
สาเหตุ
หัวใจเต้นผิดปกติ
มีการติดเชื้อแบคทีเรีย
มีภาวะหัวใจล้มเหลว
มีนิ่วหรือเนื้องอกที่ไต กระเพาะปัสสาวะ
ได้รับยาขับปัสสาวะ
ท่อปัสสาวะ หรืออวัยวะในอุ้งเชิงกราน
เสียน้ำจากการอาเจียน ท้องเสีย
ได้รับสารพิษจากยาปฏิชีวนะ ยาเคมีบำบัด ยากลุ่ม NSAIDs
พยาธื
2.Maintenance phase
เนื้อไตจึงถูกทำลายจากการขาดเลือดหรือจากสารพิษ
หลอดเลือดฝอยที่ไตอุดตันและเนื้อไตตายเป็นหย่อมๆ มีการหลุดลอกของเยื่อบูเซลล์มาอุดกั้นตามหลอดเลือดที่ท่อไตเพิ่มมากขึ้น
ระยะที่ Initial phase ที่ได้รับการแก้ไขล่าช้าหรือแก้ไขไม่สำเร็จ
เกิด back leak เข้าสู่ collecting system ของน้ำปัสสาวะ
eGFR ลดลงอย่างรวดเร็ว
ปัสสาวะออกน้อย
เกิดภาวะ Azotemia จากการคั่งของ BUN, Cr
เกิด water access, mineral and acid-base imbalance
ผู้ป่วยอาจมีอาการคงค้างในระยะนี้นานตั้งแต่ 1 สัปดาห์ - 1 ปีได้
Recovery phase
มีการซ่อมแชมของเนื้อเยื่อและหลอดเลือดที่ไต
บริเวณที่ฟื้นคืนไม่ได้จะพบการตายของเนื้อไตเป็นหย่อมๆชัดเจน
เป็นการฟื้นตัวตามปกติหลังจากที่ได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้องทันท่วงที
ส่วนที่ฟื้นคืนได้จะเริ่มทำงานผลิตปัสสาวะและขับ BUN Cr ออก
1.Initial phase
ระยะเริ่มต้น
ส่วนมากพบสาเหตุแบบ prerenal AKI
ร่างกายจะตอบสนองด้วยการทำงานของ sympathetic nervous system - หลั่งสาร ephrinephin เกิดหลอดเลือดหดรัดตัวทั่วร่างกายเพื่อส่งเลือดไปเลี้ยง vital organs ในระยะช็อก
เลือดจึงมาเลี้ยงไตลดลง อัตราการกรองจึงลดลงปัสสาวะจึงออกน้อย จะพบระยะนี้ได้ในผู้ป่วย 1-2 ชั่วโมงจนถึง 2 วัน หากได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที
พบการเปลี่ยนแปลงของปริมาณเลือดในหลอดเลือดที่ลดลงกะทันหันทำให้เนื้อไตขาดเลือดไปเลี้ยง
ภาวะหัวใจล้มเหลว (CHF)
ความหมาย : หัวใจทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่สามารถบีบเลือดไปเลี้ยงทั่วร่างกายได้
อาการและอาการแสดง
Right heart failure
แขนขาบวม (Pitting edema)
หลอดเลือดดำที่คอโป่งพอง
Left heart failure
นอนตื่นกลางดึก
ไอมีฟองสีชมพู
นอนราบไม่ได้
ฟังปอดได้ยินเสียง Crepitation
หอบเหนื่อย
สาเหตุ
มีความดันเลือดสูง
มีความผิดปกติของกล้ามเนื้อหัวใจ (Cardiomyopathy)
โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
หลอดเลือดแดงโคโรนารีตีบ ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดและกล้ามเนื้อหัวใจตาย (MI)
ภาวะไตวาย
ภาวะเลือดจาง
การวินิจฉัย
จากอาการหายใจเหนื่อย อ่อนเพลีย ขาบวม มีน้ำในช่องเยื้อหุ้มปอดหรือช่องท้อง
chest X-ray
การซักประวัติผู้ป่วย เช่น ปัจจัยเสี่ยงหรือโรคที่อาจเป็นสาเหตุของภาวะหัวใจล้มเหลว ประวัติการเป็นโรคหัวใจในอดีต
EKG 12 lead
echocardiography
การรักษา
ยา cardiac glycosides
ยาขับปัสสาวะ
ยากลุ่ม antiplatelets เช่น aspirin
ยากลุ่ม Positive inotropic agents เช่น dopamine, dobutamine, milrinone
ยา anticoagulants เช่น warfarin
พยาธิ
หัวใจข้างซ้ายล้มเหลว
เกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างชายบีบตัวลดลง ทำให้
เนื้อเยื่อของร่างกายได้รับเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอ
เมื่อหัวใจห้องล่างซ้ายบีบตัวลดลง จะทำให้
ปริมาตรเลือดที่ออกจากหัวใจลดลง
จะส่งผลให้เลือดเหลือค้างในหัวใจห้องล่างช้ายมาก
ขึ้น ความต้นเลือดในหัวใจห้องล่างซ้ายจึงสูงขึ้น
ดังนั้นหัวใจห้องบนซ้ายจึงบีบเลือดส่งมายังหัวใจห้องล่างช้ายน้อยลง ปริมาตรเลือดและความต้นเลือดในหัวใจห้องบนซ้ายจึงสูงขึ้นเรื่อย ๆ
เลือดจากปอดที่ฟอกแล้วก็จะไหลเข้าสู่หัวใจห้องบนชายได้น้อยลง เป็นผลให้ความต้นเลือดในหลอดเลือดฝอยที่ปอดสูงขึ้น ทำให้ของเหลวออกจากหลอดเลือดฝอยที่ปอดเข้าสู่ถุงลม ทำให้ผู้ป่วยมีภาวะน้ำท่วมปอด หอบเหนื่อย ไอ และเขียว
หัวใจข้างขวาล้มเหลว
เกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างขวาไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปฟอกที่ปอดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมักเกิดจากแรงต้นในหลอดเลือดฝอยที่ปอดสูงขึ้นและกล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างขวาตาย
เมื่อหัวใจห้องล่างขวาบีบตัวลดลง ทำให้ปริมาตร
เลือดค้างในหัวใจห้องล่างขวามากขึ้น
จะมีผลกระทบต่อการไหลเวียนของเลือดต่ำทั่วร่างกาย
ส่งผลให้ความต้นในหัวใจห้องล่างขวาเพิ่มขึ้น และในที่สุด
ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย (MI)
อาการและอาการแสดง
ปัสสาวะลดลง
อ่อนเพลีย : เลือดไหลเวียนลดลง
ปวดร้าวไปทั่วทรวงอก ร้าวลงแขนซ้าย คอ ขากรรไกร
คลื่นไส้ อาเจียน
ผิวเย็น ซีด
หัวใจเต้นเร็ว
การตรวจวินิจฉัย
ค่าเอนไซม์ในกล้ามเนื้อหัวใจ
Troponins
Myoglobin
เป็นโปรตีนที่เกาะอยู่กับออกซิเจน
มีความไวต่อการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจถูกทำลาย
ตรวจพบได้ 2 - 4 ชั่วโมง เมื่อกล้ามเนื้อหัวใจถูกทำลาย
Lactic dehydrogenase (LDH)
การเปลี่ยนแปลงของ EKG
T wave
Q wave
ปรากฏหลังการตายของกล้ามเนื้อหัวใจ 1 - 2 วัน
ST segment
อาการแสดงภาวะอักเสบ
ปริมาณเม็ดเลิอดขาว leukocyte ลดลง
ไข้
เกิดใน 24 ชั่วโมง ภายหลังการเกิด infarction และอยู่ประมาณ 2 สัปดาห์
การรักษา
ถ้ามีโณคที่เป็นสาเหตุ เช่น ภาวะไขมันในเลือดสูง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ต้องให้ยารักษาโรคนี้ร่วมด้วย
การผ่าตัดเปิดทางระยาบของs]vfเลือด
ให้ยาขยายหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจชนิดออกฤทธิ์นาน
สาเหตุ
ความดันโลหิตสูง
โรคเบาหวาน
ภาวะไขมันในเลือดสูง
อ้วน
การสูบบุหรี่
ความหมาย : เป็นความผิดปกติที่เกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจถูกทำลายเสียหายจากการที่เลือดและออกซิเจนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจส่วนนั้นไม่เพียงพอ
พยาธิ
Cell ของกล้ามเนื้อไม่สามารถสร้างพลังงานได้
กลไก Na+ K+ pump ผิดปกติ
มีการคั่งของน้ำในเซลล์ เมื่อบวมมากขึ้น
Cell จะแตกปล่อยเอนไซม์ออกมาย่อยสลายเซลล์และอวัยวะใกล้เคียง
เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจตายถาวร
โรคไตเรื้อรัง (CKD)
อาการและอาการแสดง
ระบบเลือดจะพบผู้ป่วยมีอาการซีด อ่อนเพลีย
ผิวหน้าแห้ง
ภววะที่มีการสูญเสียหน้าที่ของไตอย่างช้สและเกิดการทำลายเนื้อของไต
กายใจเร็วลึก
แขนขาบวมกดบุ๋ม
การวินิจฉัย
ตรวจหาเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะ
ตรวจหาโปรตีนจากตัวอย่างปัสสาวะ
ประเมินค่า eGFR จากการตรวจระดับ Creatinine ในซีรั่ม
สาเหตุ
โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง
โรคหลอดเลือดฝอยในไตอักเสบเรื้อรัง
การทำลายเนื้อไต ทำให้สูยเสียหน้าที่ของไตอย่างถาวร เช่น ไตอักเสบเรื้อรังจากการติดเชื้อ ภาวะอุดกั้นในทางเดินปัสสวะ
การรักษา
การปลูกถ่ายไต
การนำไตใหม่มาปลูกถ่ายไว้ที่ผนังหน้าท้องของผู้ป่วย เพื่อทำหน้าที่แทนไตเก่าที่เสื่อมสภาพ
การล้างไตทางช่องท้อง
การขจัดของเสียออกจากร่างกายโดยการใส่น้ำยาเข้าไปในช่องท้องทิ้งไว้ 4 - 6 ชั่วโมงต่อรอบ
ความหมาย : ภาวะที่มีความผิดปกติทางโครงสร้างหรือการทำหน้าที่ของไตอย่างใดอย่างหนึ่งติดต่อกันนานกว่า 3 เดือน
พยาธิ
เกิดจากการเสื่อมของไต และการถูกทำลายของหน่วยไต
มีผลทำให้การกรองหมดลดลง และการขับถ่ายของเสียลดลง
ปริมาณ Creatinine และ BUN ในเลือดสูงขึ้น
หน่วยไตที่เหลืออยู่จะเจริญมากผิดปกติ เพื่อกรองของเสียที่มีมากขึ้น