Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
สัมพันธภาพเพื่อการบำบัด(Therapeutic Nurse-Patient Relationship) - Coggle…
สัมพันธภาพเพื่อการบำบัด(Therapeutic Nurse-Patient Relationship)
ความหมายของสัมพันธภาพเพื่อการบำบัด
ปฏิสัมพันธ์(Interaction) ในช่วงระยะเวลาหนึ่งอย่างต่อเนื่องตามขั้นตอน
ใช้ทักษะสื่อสารเพื่อการบำบัด
ใช้ตนเองเป็นเครื่องมือในการบำบัด
ผู้ป่วยและพยาบาลร่วมมือกันในการแก้ปัญหา
ลักษณะของสัมพันธภาพ
1.สัมพันธภาพเชิงวิชาชีพ ผู้ประกอบวิชาชีพกับผู้รับบริการ โดยออาศัยความรู้ ทักษะเป็นไปตามกฎหมาย จรรยาบรรณวิชาชีพ
2.สัมพันธภาพเชิงสังคม ตามครรลองการดำเนินชีวิต
เป้าหมายของการสร้างสัมพันธภาพเพื่อการบำบัด
1.เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้สร้างสัมพันธภาพกับผู้อื่น
2.เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้ระบายความรู้สึก
3.เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้เข้าใจปัญหาของตนเอง
4.เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้รู้จักตนเองยอมรับตนเองมากขึ้น
5.เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้เรียนรู้ทั้งการให้และการรับจากสัมพันธภาพ
หลักการพื้นฐานในการสร้างสัมพันธภาพเพื่อการบำบัด
1.หลักการ Jo-Hari
การมีสัมพันธภาพกับผู้อื่นจะช่วยขยายส่วนของOpen area/Public Self ให้กว้างมากขึ้นและจะช่วยทำให้ส่วนอื่นๆแคบลง คือเพื่อมุ่งเน้นให้ผู้ป่วยเปิดเผยส่วนของOpen area/Public Self ซึ่งพยาบาลต้องคำนึงถึงความพร้อม พึงพอใจของผู้ป่วยด้วยและประโยชน์ที่จะเกิดแก่ผู้ป่วย
2.หลักการInterpersonal Relationship
ส่งเสริมให้ผู้ป่วยได้พัฒนราแนวคิดในทางบวกมองภาพตนเองดี พึงพอใจและเห็นคุณค่าของตนเองบนพื้นฐานแห่งความเป็นจริง
การช่วยให้ผู้ป่วยเรียนรู้จากสัมพันธภาพเพื่อการบำบัด
นำไปประยุกต์ใช้กับชีวิตจริงได้อย่างมีประโยชน์
3.หลักการ Transactional Analysis(Eric Berne)
ความเข้าใจเกี่ยวกับสภาวะทางจิต 3รูปแบบ(Ego State) ที่จะถูกสะท้อนออกมาเมื่อมีการสื่อความสัมพันธ์สามารถนำมาใช้ในการสร้างสัมพันธ์เพื่อการบำบัดได้เป็นอย่างดี
2.Adult Ego State
การแสดงออกโดยใช้เหตุผลในการพิจารณาสิ่งต่างๆ ตามจริงโดยไม่เกี่ยวข้องกับอารมณ์และความรู้สึก
1.Child Ego State
การหาความสุขสบายใส่ตัว ความสดใส ร่าเริง
3.Parent Ego State
การแสดงออกที่มีผลสืบเนื่องมาตั้งแต่เด็ก จากการปฏิสัมพันธ์ของบุคคลกับผู้ใหญ่ จึงแสดงออกมาในรูปการสั่งสอน
4.Mourice Levine
สามารถนำมาใช้ในการสร้างสัมพันธภาพเพื่อการบำบัดโดยการทำความเข้าใจกับบุคลิกและการแสดงออกของผู้ป่วย รวมทั้งใช้ในการช่วยให้ผู้ป่วยสามารถค้นหาปัญหาของตนเองที่อาจถูกปิดบังเอาไว้
กระบวนการสร้างสัมพันธภาพเพื่อการบำบัด
ระยะก่อนมีสัมพันธภาพ(Pre-interaction Phase)
ปัญหาและอุปสรรคที่อาจพบ -พยาบาลเกิดความไม่มั่นใจ -พยาบาลกลัวผู้ป่วย
ระยะเริ่มต้นสร้างสัมพันธภาพ(Orientation Phase)
กิจกรรมของพยาบาล
-ทำความรู้จักและกำหนดข้อตกลงของสัมพันธภาพ
บอกวัตถุประสงค์ ระยะเวลา
สร้างความรู้สึกไว้วางใจและยอมรับนับถือ
ประเมินความคิด ความรู้สึก และการกระทำของผู้ป่วย
แยกแยะปัญหาของผู้ป่วยอย่างรอบคอบ
เริ่มวางแผนการสิ้นสุดสัมพันธภาพ
ปัญหาและอุปสรรค
1.ผู้ป่วยวิตกกังวล
2.ผู้ป่วยทดสอบพยาบาล
3.ผู้ป่วยต่อต้านหรือปฏิเสธพยาบาล
ผู้ป่วยแปลเจตนาของพยาบาลผิด
5.พยาบาลวิตกกังวล
ระยะแก้ไขปัญหา(Working Phase)
กิจกรรมของพยาบาล
เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยพูดระบายความรุ้สึก
ประเมินและจัดลำดับความสำคัญของปัญหา
กระตุ้นให้ผู้ป่วยคิดและพิจารณาปัญหา
ย้ำเตือนถึงระยะเวลาของสัมพันธภาพที่เหลืออยู่
ปัญหาและอุปสรรค
ผู้ป่วยพึ่งพาพยาบาลมากเกินไป
พยาบาลใช้การสื่อสารไม่เหมาะสม
พยาบาลประเมินปัญหาไม่ถูกต้อง
พยาบาลสงสารและเห็นใจผู้ป่วยมากเกินไป
ระยะสิ้นสุดสัมพันธภาพ(Terminating Phase)
กิจกรรมของพยาบาล
ประเมินความก้าวหน้าและความสำเร็จตามวัตถุประสงค์
สร้างความรู้สึกให้ผู้ป่วยยอมรับความจริงของการสิ้นสุดสัมพันธภาพ
ประเมินความรู้สึกและพฤติกรรมที่เป็นปัญหาจากการสิ้นสุดสัมพันธภาพ
วางแผนการจำหน่ายผู้ป่วย
พยาบาลควรยุติการสนทนาเมื่อผุ้ป่วยแสดงอก ดังนี้
สามารถดูแลตนเองทั้งร่างกาย จิตมจ มีส่วนร่วมในสังคม
เป็นตัวของตัวเอง สามารถควบคุมตัวเองได้มากขึ้น
มีอารมณ์มั่นคง มีความเคารพตัวเองมากขึ้น
สามารถเผชิญความคับข้องใจ วิตกกังวล
ปัญหาและอุปสรรค
-Dependence, Separation Anxiety, Aggression or Hostility, Depression, Regression or Denial
ปัจจัยที่มีผลสำคัญในการสร้างสัมพันธเพื่อการบำบัด
1.เวลา 20-60นาที
2.สถานที่และบรรยากาศ
3.การจัดสิ่งแวดล้อม
4.การจัดที่นั่ง มุมฉากเปชิยหน้า(โต๊ะคั่นกลาง)
5.ภาษาที่ใช้
6.บุคลิกของพยาบาล
7.นัยน์ตา การฟัง
8.การให้เวลา อดทนรอ
9.การแปลพฤติกรรม
10.การหลีกเลี่ยงการจดบันทึก
ปัญหาในการสร้างสัมพันธภาพเพื่อการบำบัด
ปัญหาของผู้ป่วย
ผู้ป่วยไม่สนใจติดต่อกับคนอื่น ดื้อเงียบ
แสดงความหดหู่ใจ ต่อต้าน
ปัญหาของพยาบาล
เชื่อมโยงความรู้สึก สัมพันธภาพทางสังคม
ปัญหาของทีมสุขภาพ
ขาดความร่วมมือและการประสานงานที่ดี
เทคนิคการสนทนาเพื่อการบำบัด
Giving broad opening statement
คำถามปลายเปิด เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้พูด ระบายความคิด/รู้สึก
Giving general lead
กระตุ้นให้ผู้ป่วยเปิดเผยเรื่องราว ความคิด และเป็นการแสดงให้ผู้ป่วยทราบว่าพยาบาลสนใจ ติดตามเรื่องราวและเข้าใจในสิ่งที่ผุ้ป่วยพูด
การrestating
การกล่าวในเนื้อหาคำพูดของผู้ป่วยให้ผู้ป่วยได้คิดทบทวนความคิดหรือคำพูดตนใหม่เพื่อเป็นการตรวจสอบความเข้าใจตรงกันระหว่างพยาบาลกับผุ้ป่วย
การยอมรับ (Accepting or Showing acceptance)
การแสดงคำพูดหรืออพฤติกรรมที่บ่งบอกถึงการยอมรับในตัวผู้ป่วย เช่นทักทายเมื่อพบผู้ป่วย ไม่หัวเราะเยาะในสิ่งที่ผู้ป่วยแสดงออก
การบอกกล่าวสิ่งที่สังเกตเห็นในตัวผู้ป่วย(Making observation or sharing observation )
บอกกล่าวสิ่งที่เห็นเกี่ยวกับตัวผู้ป่วย ให้ผู้ป่วยทราบ เป็นเทคนิคที่แสดงถึงความสนใจเอาใจใส่ ช่วยให้กระตุ้นผู้ป่วยพูด เล่า ความรู้สึกที่แท้จริงออกมา
การสะท้อนความคิด ความรู้สึก (Reflecting)
เป็นการสะท้อนความคิด/รู้สึกของผู้ป่วยต่อสิ่งที่ผู้ป่วยพูด แสดงให้เห็นว่าพยาบาลเข้าใจความรู้สึกของผู้ป่วย การสะท้อนความคิดช่วยให้ผู้ป่วยได้ทบทวนความคิดความรู้สึกของตนที่แฝงภายใต้เนื้อความที่ผู้ป่วยพูด
การใช้ความเงียบ(Using silence)
เป็นเทคนิคการสื่อสารโดยไม่ใช้ภาษาพูด ทำให้ผู้ป่วยได้คิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น รวมทั้งเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยระบายความรุ้สึกและคำพูดต่อไป
การขอความกระจ่าง(Clarifying orseeking Clarification)
เป็นการขอคำอธิบายให้เกิดความชัดเจนหรือกระจ่าง เมื่อพยาบาลไม่เข้าใจความหมาย/คำพูดของผุ้ป่วย
การตรวจสอบความเข้าใจตรงกัน(Validating)
เป็นการตรวจสอบความเข้าใจของพยาบาลว่าตรงกับความรู้สึกหรือสิ่งที่ผู้ป่วยต้องการจะสื่อสารหรือไม่
การให้ข้อมูล(Giving information)
เป็นเทคนิคที่ช่วยเอื้อประโยชน์ในการตัดสินใจให้กับผู้ป่วยและถือว่าเป็นบทบาทสำคัยของพยาบาลในการให้ข้อมูลแก่ผู้ป่วย
การแสดงความระลึกได้ จำได้(Giving recognition)
เป็นเทคนิคใช้เพื่อให้ผู้ป่วยเกิดความรู้สึกภาคภูมิใจที่พยาบาลให้ความสนใจและจดจำผู้ป่วยหรือสิ่งที่ผู้ป่วยบอกได้ โดยการพูดในสิ่งที่ผู้ป่วยได้เคยบอกกล่าวกับพยาบาล
การเสนอตัวเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย(Offering Self)
เป็นกลวิธีทำให้ผู้ป่วยรู้สึกว่าตรเองมีคุณค่า เป็นที่สนใจของพยาบาลในการเสนอตัวให้การช่วยเหลือผู้ป่วย อยู่เป็นเพื่อน รับฟังปัญหา
การค้นหาข้อมูลให้มากขึั้น(Exploring)
เป็นลักษณะการใช้คำถามในการสอบถามข้อมูลในเรื่องราวเกี่ยวกับผู้ป่วย เพื่อให้เข้าใจในความเป็นไป เพื่อนำไปสู้การทำให้ผู้ป่วยเข้าใจปัญหาของตนเองมาก
การมุ่งความสนใจไปจุดใดจุดหนึ่ง (Focusing)
กรณีที่ผู้ป่วยเล่าเรื่อวราวที่เป็นปัญหาหรือเรื่องราวต่างๆโดยแต่ละเรื่องผสมปนเปกันไป เป็นการใช้เทคนิคเพื่อมุ่งความสนใจไปที่จุดใดจุดหนึ่งทำให้ผู้ป่วยเข้าใจประเด็นปัญหาของตนทีละเรื่อง
การลำดับเหตุการณ์(Placing the events in time or in sequence)
เป็นการใช้เทคนิคเพื่อให้ผุ้ป่วยสามารถลำดับเหตุการณ์หรือเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นก่อนและหลังทำให้เห็นภาพเหตุการณ์ชัดเจนขึ้น
การให้ความจริง(Presenting reality)
ใช้เมื่อผู้ป่วยมีการรับรู้หรือมีความคิดที่ไม่อยู่ในความเป็นจริง โดยพยาบาลจะให้ความจริงแก่ผู้ป่วยเมื่อผู้ป่วยมีการรับรู้ไม่ตรงตามความจริง
การตั้งข้อสงสัย(Voicing doubt)
เทคนิคนี้ใช้เมื่อสัมพันธภาพระหว่างพยาบาลและผู้ป่วยค่อนข้างดี และเมื่อพบว่าผู้ป่วยมีความคิดหลงผิดเกิดขึ้น แต่ไม่ควรใช้เทคนิคนี้บ่อยครั้งเพราะจะทำให้ผู้ป่วยคิดว่าพยาบาลไม่ยอมรับสิ่งที่ผู้ป่วยพูด