Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

PROM(Premature rupture of membranes) ภาวะน้ําเดินก่อนกําหนด …

- - - - ผลlab 1 วันที่31 พ.ค.65
      - blood gr B+ MCV,MCH 58.1,17.7
      - DCIP: positive HBsAg : negative VDRL: Reactive
      - anti-HIV Negative
      - ผล lab 2 วันที่ 5 ก.ย. 65
      - Hct:34.6 VDRL: Reactive 1:16 anti-HIV Negative
- - - - - มารดา G1P0A0L0อายุครรภ์ 38+2wks
      - - ให้ประวัติน้ำเดินเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 65 เวลา 17.00น
      - วัตถุประสงค์
        เพื่อลดการติดเชื้อในโพรงมดลูก
    - - ซักประวัติ และบันทึกเวลาที่ถุงน้ำคร่ำแตก สีของน้ำคร่ำ คาดคะเนจำนวน กลิ่น เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องในระยะต้นๆ เพื่อนำมาวางแผนการพยาบาลที่เหมาะสม
      - ตรวจวินิจฉัยยืนยันการแตกของถุงน้ำคร่ำโดยการใช้ Spcculum และทดสอบด้วย Nitrazine
        Test โดยใช้หลักปราศจากเชื้อทุกขั้นตอนเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
      - ตรวจวัดสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมงเพื่อประเมินอาการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะอุณหภูมิ
        ร่างกายไม่ควรมากกว่า 37.4 *C หากผิดปกติให้รีบรายงานแพทย์เพื่อให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไป
      - ตรวจฟังเสียงหัวใจทารกทุก 1 ชั่วโมงเพื่อประเมินอาการเปลี่ยนแปลงจากภาวะน้ำเดินก่อน
        คลอดซึ่งปกติต้องอยู่ระหว่าง 120-160 ครั้งต่อนาที สม่ำเสมอชัดเจน
      - 5.แนะนำผู้ป่วยใส่ผ้าอนามัยเพื่อสังเกตจำนวน สี ลักษณะของน้ำคร่ำที่ออกมาพร้อมทั้งบันทึกหากผิดปกติ เช่น มีกลิ่นเหม็น มี Thick Meconium ให้รีบรายงานแพทย์ทราบเนื่องจากเป็นภาวะผิดปกติที่ต้องให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
  - - - - มารดา G1P0A0L0อายุครรภ์ 38+2wks
      - - ให้ประวัติน้ำเดินเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 65 เวลา 17.00น
      - วัตถุประสงค์
        เพื่อป้องกันภาวะสายสะดือย้อย
    - - เกณฑ์การประเมินผล
        
        ตรวจไม่พบสายสะดือย้อย
        
        การหดรัดตัวของมดลูกปกติ Interval อยู่ในช่วง 3-4 นาที Duration อยู่ในช่วง 45-50 วินาที
      - ดูแลให้ผู้ป่วยนอนพักบนเตียงท่านอนหงายก้นสูงจัดท่า Knee-Chest Position หรือนอเพื่อป้องกันการพลัดต่ำของสายสะดือ
      - ฟังและบันทึกอัตราการเต้นของหัวใจทารกทุก 1 ชั่วโมงเพื่อประเมินอาการเปลี่ยนแปลงที่
        อาจเกิดขึ้น หากผิดปกติ เช่น ต่ำกว่า 120 ครั้งต่อนาที หรือมากกว่า 160 ครั้งต่อนาที
      - ตรวจและบันทึกการหดรัดตัวของมดลูกทุก 1 ชั่วโมงเพื่อประเมินความก้าวหน้าของการคลอด
      - พิจารณาตรวจภายในเท่าที่จำเป็นเพื่อลดการนำเชื้อโรคเข้าสู่โพรงมดลูก
    - - กว้างที่สุด (Biparietal diameter) ถุงน้ำอาจจะแตกหรือไม่แตกก็ได้ตรวจ
      - ไม่พบทางช่องคลอด
      - การเคลื่อนต่ำของสายสะดือลงมาข้างๆส่วนนำที่
      - กิจกรรมการพยาบาล
        
        -นอนในท่าตะแคงซ้าย
        
        -ให้ออกชิเจนแก่มารดาและติดตาม FHS อย่างต่อเนื่อง
        หาก FHS ผิดปกติควรผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องทันที
    - - -ผ่าตัดคลอดทันทีก่อนถุงน้ำคร่ำแตก
      - -ในกรณีที่เกิด UCP (Umbilical cord prolapse)
      - ขณะเจาะถุงน้ำให้ผ่าตัดคลอดฉุกเฉินทันที
      - กิจกกรมการพยาบาล
    - - กิจกรรมการพยาบาล
        
        จัดท่า Knee-Chest Position หรือนอนตะแคงช้ายศีรษะต่ำ(Trendelenburg) และดันส่วนนำให้พ้นจากสายสะดือ
        
        2.หลีกเลี่ยงการแตะสายสะตือที่อยู่นอกช่องคอด
        
        Observe และ Record FHS
        
        หยุดการให้Oxytocin (หากกำลัง
        ให้อยู่
        
        5.ผ่าตัดคลอดฉุกเฉินโดยเร็ว ให้ผู้ป่วยนอนในท่า Knee-Chest Position
        
        6.ให้ยา Bricanyl 0.5 mg ทาง IM, SC หรือ 0.25 mg ทาง IV
        
        เพื่อระงับการหดรัดตัวของมดลูก
        เพื่อชะลอการคลอดก่อนกำหนด
        
        7.หากทารกเสียชีวิตเลือกคลอดปกติคือ คลอดทางช่องคลอด