Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

บทที่4 การทำข้อมูลให้เป็นภาพและการสื่อสารด้วยข้อมูล - Coggle Diagram

- - - - องค์ประกอบและรูปแบบื้นฐานในการสื่อสาร
        
        องค์ประกอบของการสื่อสาร
        1ผู้ส่ง ทักะการติดต่อสื่อสาร ทัศนคติ ความรู้ สังคม วัฒนธรรม
        2สาร เนื้อหา องค์ประกอบ สิ่งปรุ่งแต่ง โครงสร้าง รหัสในการส่งสาร
        3ช่องทาง การได้ยิน การมองเห็น การสัมผัส การรับรู้รสชาติ ความรู้
        4ผู้รับ ทักษะการติดต่อสื่อสาร ทัศนคติ ความรู้ สังคม วัฒนธรรม
        
        เทคนิคและวิธีการแบ่งปันข้อมูลช่องทางในการสื่อสารเช่น
        การสื่อสารโดยตรง สื่อมวลชน สื่อสังคม
      - ช่องทางในการสื่อสาร
        
        การสื่อสารโดยตรง ทางโทรศัพท์ การรายงานหน้าห้องเป็นช่องทางที่ผู้ส่งสาามารถสังเกตรับรู้ปฏิกิริยาได้
        
        สื่อมวลชน วิทย เทรทคนหนังสื่อพิมพ์เป็นสื่อที่เน้นการสื่อสารทางเดียวแต่สามารถกระจายสารไปยังหน่ววยได้
        
        สังคมออนไลน์ บอร์ด โดยสื่อสังคมจะเป็นช่องทางสารที่มีการโต้ตอบค่อนข้างสูง ทำให้เป็นผู้ส่งมีโอกาสอธบายเพิ่มเติม หรือแก้ไขปรับปรุงรูปแบบสารได้อย่าง
      - เทคนิคและวิธีการแบ่งปันข้อมูล
        
        บล็อก มาจากคำว่า เว็บ-ล็อกซึ่งเป็นการเขียนบทความอธิบายหรือให้ ข้อมูลเพื่อนำไปเผยแพร่บนเว็บไซต์ปัจจุบันมีเว็บไซต์ที่บริการ เปรียบเสมือนเป็นสื่อกลางหรือสถานที่เก็บบทความที่เป้นที่นิยมอยู่หลายเว็บไซต์ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นพื้นที่เปิดให้สามารถเข้าไปเขียนบทความเผยแร่ได้โดยไม่่มีค่าใช้จ่าย
        
        ข้อควรระวังในการแบ่งปันข้อมูล
        
        ไม่มีความลับในสังคมออนไลน์
        01 คนในกลุ่มที่เราแบ่งปันอาจคัดลอกข้อมูลนำไปเผยแพร่ต่อสาธารณะ รวมทั้งอาจเกิดการเปลลี่ยนแปลงของระบบ ที้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจทำให้ข้อมูลกลายเป็นข้อมูลสสาธารณะ
        
        ข้อมูลบ้างชนิดอาจถูกนำมาใช้หลอกลวง
        03 ผู้ประสงค์ดี อาจใช้ข้อมูลเหล่านี้ทำ การฟิชชิง เื่อหลอกลวงเอาข้อมู,สำคัญของเราได้เช่น เราอาจจะได้รับอีเมลปลอมจากธนาคราที่ระบุตำแหน่งหน้าที่การงานของเรราได้ถูกต้อง ทำให้เรารู้สึกว่าเป็นอีเมลธนาคารจริงและให้ข้อมูลที่สำคัญไป
        
        การรักษาข้อมูลที่ได้รับการปกป้องตามกฎหมาย
        04 ข้อมูลที่มีลิขสิทธหรือข้อมูลส่วนตัว เช่น ผลงานเพลง ประวัติคนไข้หรือหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนเป็นข้อมูลที่ได้รับความคุ้มครองทางกฎหมาย หากนำไปเผยแพพร่อาจทำให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าของข้อมูล และผู้แบ่งปันอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอีกด้วย
        
        ข้อมูลบางชนิดไมม่ควรเปฺดเผย
        02 ข้อมูลด้านสุขภาพ ด้านการเงิน หรือหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนเป็นข้อมูลที่ต้องระวัง ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลของตนเอง หรือของผู้อื่นก็ตาม เพราะเป็นข้อมู,ที่ผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถนำไปใช้แสวงหาผลประะโยชน์ได้
        
        บทที่6
        จริยธรรมและจรรยาบรรณของนักคอมพิวเตอร์และพ.ร.บ.คอมิวเตอร์2560
        
        จริยธรรมคอมพิวเตอร์
        
        จริยธรรม หรือ Ethics นั้นอาจเข้าใจกันในหลายความหมาย เช่น หมายถึง
        หลักศิลธรรมจรรยาที่กำหนดขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติหรือควบคุมการใช้ระบบคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ
        
        ความแตกต่างระหว่างจริยธรรมกับกฎหมาย
        1กฎหมายเป็นสิ่งที่ออกโดยรัฐ ผ่านกระบวนการนิติบัญญัติ แต่จริยธรรมเป็นเรื่องของตนในสังคมร่วมกันสร้างขึ้นมา
        2กฎหมายเป็ฯข้อบังคับที่เป็นลายลักษณ์อักษร แต่จริยธรรม เป็นเรื่องของความสมัครใจ
        3กฎหมายมีบทลงโทษที่ชัดเจน และแน่นอนแต่จริยธรรมไม่มีบทลงโทษสำหรับฝ่าฝืน
        4กฎหมายเป็นสิ่งที่ควบคุมการกระทำของคน แต่จริยธรรมเป็นสิ่งที่ควบคุมจิตใจ ไม่ให้คนกระทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
        5กฎหมายมีวัตถุประสงค์ลงโทษผู้กระทำผิด หรือชดใช้ค่าเสียหายแต่จริยธรรมมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดีบคุณค่าทางจิตใจ
        
        จริยธรรมเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และสนเทศ
        แล้วจะกล่าวถึงใน 4 ประเด็นที่รู้จักกันในลักษณะตัวย่อว่าPAPA
        ประกอบด้วย 1ความเป็นส่วนตัว 2ความถูกต้อง 3ความเป็นเจ้าของ
        4การเข้าถึงข้อมูล
        
        1 ความเป็นส่วนตัว ความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและสารสนเทศโดยทั่วไปหมายถึง สิทธิที่จะอยู่ตามลำพัง และเป็นสิทธิที่เจ้าของสามารถที่จะควบคุมข้อมูลของตนเองในการเปิดให้ผู้อื่น
        
        2 ความถูกต้องของข้อมูล ในการจัดทำข้อมูล
        และสารสนเทศให้มีความถูกต้องน่าเชื่อถือนั้นข้อมูลควรได้รับการตรวจสอบความถูกต้องก่อนที่จะนำเข้าฐานข้อมูลควรได้รับการตรวจสอบความถูกต้องก่อนที่จะนำเข้าฐานข้อมูลรวมถึงการปรับปรุงข้อมูลให้มีความทันสมัยอยู่เสมอ
        
        3 ความเป็นเจ้าของ
        สิทธิความเป็นเจ้าของ หมายถึง กรรมสิทธิ์ในการถือครองทรัพย์สิน ซึ่งอาจเป็นทรัพย์สิาทั่วไปที่จับต้องได้ เช่น คอมพิวเตอร์ รถยนต์ หรืออาจเป็นทรัพย์สินทางปัญญา ความคิด ที่จับต้องไม่ได้เช่น บทเพลง โปรแกรม คอมพิวเตอดร์ ความพิวเตอร์ แต่สามารถถ่ายทอดและบันทึกลงในสื่อต่างๆได้ เช่นสิ่งพิมพ์ เทป ซีดีรอม เป็นต้น
        
        4 การเข้าถึง การใช้งานโปรแกรมหรือระบบคอมพิวเตอร์
        มักจะมีการกำหนดสิทธิตามระดับของผู้ใช้งาน ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันการเข้าไปดำเนินการต่างๆ กับข้อมูลขอองผู้ใช้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและเป็นการรักษาความลับของข้อมูล ดังนั้นในการพัฒนาระบบ
        
        พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ คืออะไร
        1.พระราชบัญญัติที่ว่า ด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ซึ่งคอมพิวเตอร์ที่ว่านี้ก็เป็นได้ทั้งคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก สมาร์ทโฟน รวมถึงระบบต่างๆที่ถูกควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ด้วยซึ่งเป็น พ.ร.บ.ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อป้องกัน
        2.ปัจจุบันมีคนที่ใช้คอมพิวเตอร์ รวมไปถึงสมาร์ทโฟนเป็นจำนวนมาก บางคนก็อาจจะใช้ในทางที่เป็นประโยชน์แต่บางคนก็อาจใช้สิ่งนี้ทำร้ายคนอื่นในทางอ้อมด้วย
        3.เราอาจจะได้ยินข่าวเรื่อการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ซึ่งบางเหตุการณ์ก็สร้างความเสียหายไม่น้อยเลยเพื่อจัดการเรื่องพวกนีเลยต้องมรี พ.ร.บ.ออกมาควบคุมในเมื่อการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเรื่องใกล้ตัวเราพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ก็เป็นเรื่องใกล้ตัวเราเช่นกัน หากเราไม่รู้เอาไว้เราิาจจะเผลอไปทำผิด โดยที่เราไม่ได้ตั้งใจก็ได้
        
        8 เรื่องที่ห้ามทำผิดกฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
        
        1 เข้าถึงระบบ หรือข้อมูลของผู้อื่นโดยไม่ชอบ(มาตรา5-8)
        บทลงโทษ
        -เข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์.จำคุกไม่เกิน6เดือนปรับไม่เกิน1หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
        -เข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์.จำคุกไม่เกิน2ปีปรับไม่เกิน4หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
        -ล่วงรู้มาตรการการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์และนำไปเปิดเผย.จำคุกไม่เกิน1ปีปรับไม่เกิน2หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
        -ดักรับข้อมูลคอมพิวเตอร์.จำคุกไม่2ปีปรับไม่เกิน4หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
        
        4 เข้าถึงระบบหรือข้อมูลทางด้านความมั่นคงโดยมิชอบ
        บทลงโทษ
        -กรณีไม่เกิดความเสียหาย.จำคุก1-7ปีและปรับไม่เกิน2หมื่น-1.4 แสนบาท
        -กรณีเกิดความเสียหาย.จำคุก 1-10 ปี และปรับ 2หมื่น-2 แสนบาท
        -กรณีเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย.จำคุก5-20ปีและปรับ1 แสนบาท
        
        บทที่ 7
        นวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่
        
        3 more items...
        
        8 ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงภาพ (มาตรา 16)
        บทลงโทษ
        -หากทำผิดตามนี้ ต้องได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 3ปี และปรับไม่เกิน2 แสนบาท
        
        7 ให้ความร่วมมือ ยินยอม รู้เห็นเป็นใจ กับผู้ร่วมกระทำความผิด (มาตรา 15 )
        บทลงโทษ
        -ต้องได้รับโทษ ถือว่าเป็นผู้กระทำความผิดตามมาตรา 14 ต้องได้รับโทษเช่น เดียวกันผู้โพสต์ หรืือแสดงความคิดเห็ฯทางออนไลน์ แต่ถ้าผู้ดูแลระบบผพิสูจน์ได้ว่า ตนได้ปฏิบัติตามขั้นตอนการแจ้งเตือนแล้วไม่ต้องรับโทษ
        
        2 แก้ไขหรือดัดแปลงทำให้ข้อมูลผู้อื่นเสียหาย (มาตรา9-10)
        บทลงโทษ
        -ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน1 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
        
        3 ส่งข้อมูลหรืออีเมล์ก่อกวนผู้อื่นหรือส่งอีเมล์สแปม(มาตรา11)
        บทลงโทษ
        -ถ้าปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มาปรับไม่เกิน 1 แสนบาท และถ้าส่งโดยไม่เปิดโอกาสให้ปฏิเสธตอบรับได้โดยงานต้องได้รับโทษจำคุกไม่เกิน2ปีปรับไม่เกิน4หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
        
        6 นำข้อมูลที่ผิด พ.ร.บ.เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ (มาตรา14)
        บทลงโทษ
        -หากเป็นการกระทำส่งผลถึงประชาชน ต้องได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากกรณีเป็นการกระทำที่ส่งผลต่อบุคลไดบุคลหนึ่งต้องได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีปรับไม่เกิน 6 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
        
        5จำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งเพื่อนำไปใช้กระทำความผิด (มาตรา13)
        -กรณทำเพื่อเครื่องมือในการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ตามมาตรา 5-11 หรือข้อ1-3ในบทความนี้ ต้องจำคุกไม่เกิน1ปีปรับไม่เกิน2หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากมีผู้นำไปใช้กระทำความผิด ผู้จำหน่ายหรือผู้เผยแพร่ต้องรับผิดชอบร่วมด้วย
        -กรณีทำเพื่อเป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์มาตรา12ต้องจำคุกไม่เกิน 2ปี ปับไม่เกิน 4 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับหากมัผู้นำไปใช้กระความผิด ผู้จำหน่ายหรือเผยแพร่ต้องรับผิดชอบร่วมด้วย