Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
01162611Curriculum Innovationand Educational Change รศ,ดร,นาตยา…
01162611
Curriculum Innovation
and Educational Change
รศ,ดร,นาตยา ปิลันธนานนท์
ชิ้นงานที่ 1
มอบหมาย 14 สิงหาคม 2565
การกำหนด Scope ของรายวิชา
ขอบเขตของรายวิชา คือ หมวดศาสตร์แห่งชีวิต กลุ่มภาษาเพื่อการสื่อสาร
การกำหนด Sequence ของรายวิชา
ควรเรียงลำดับความหนักเบาของ Work ในเเต่ละรายวิชาให้มีความเหมาะสม
การกำหนด Course Focus ของรายวิชา
ยังไม่ต้องคำนึงถึง Learning Outcomes
จุดเน้น คือ Work-Based Education
ต้องตีความว่า Work-Based จะเป็น Work และ บริบท อะไรได้บ้าง
กำหนด Course Focus ของรายวิชา
(1) งานเกี่ยวกับ ชีวิตประจำวันทั่วไป
(2) งานเกี่ยวกับ การสื่อสารระหว่างบุคคล
(3) งานเกี่ยวกับ สื่อมวลชน
(4) งานเกี่ยวกับ วัฒนธรรมที่มีความหลากหลาย
(5) งานเกี่ยวกับ การทำงานร่วมกันในสถานประกอบการ
(6) งานเกี่ยวกับ การทำข้อสอบมาตรฐาน
การปรับชื่อรายวิชาตาม Course Focus
ควรตั้งชื่อรายวิชาให้มองเห็นจุดเน้นของรายวิชา
กำหนดชื่อรายวิชาตาม Course Focus
(1) ภาษาอังกฤษเพื่อการอยู่รอด (Survival English)
(2) ภาษาอังกฤษเพื่อสร้างความสัมพันธ์ (English for Relationship Building)
(3) ภาษาอังกฤษในสื่อมวลชน (English in the Mass Media)
(4) การสื่อสารภาษาอังกฤษข้ามวัฒนธรรม (Cross-Cultural Communication English)
(5) ภาษาอังกฤษเพื่องานอาชีพ (English for Careers)
(6) กลยุทธ์การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ (Strategies for English Tests)
ชื่อรายวิชาไม่ควรยาวเกินไป
การปรับคำอธิบายรายวิชาตาม Course Focus
ควรปรับคำอธิบายรายวิชาให้สอดคล้องกับชื่อรายวิชา
ควรเขียนให้ดึงดูดใจ คนเรียนอยากเรียน
จุดเน้น คือ Work-Based ในคำอธิบายรายวิชาควรมีบริบทของงานและอาชีพ
ชิ้นงานที่ 2
มอบหมาย 4 กันยายน 2565
การวิพากษ์หลักสูตร Interdisciplinary
หลักสูตร ศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสหวิทยาการสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง/วิทยาลัยสหวิทยาการ
รหัสรายวิชาเป็น เป็น ตัวย่อ สส หรือ SI แม้จะจัดเป็นกลุ่ม ๆ แต่ไม่ได้เป็นสังคมศาสตร์โดด ๆ
แต่จะมีการเชื่อมโยงบูรณาการกับศาสตร์อื่นทั้งสิ้น สะท้อนให้เห็นว่าเป็น Interdisciplinary Course
หลักสูตร Bachelor of Arts in American Studies ของ The University of Texas at Dallas
ข้อมูลทั่วไปของหลักสูตร : ผู้เรียนสามารถออกแบบแผนการเรียนได้ด้วยตนเอง เลือกเรียนสองศาสตร์สาขาวิชาในคณะวิชาใดก็ได้ตามที่ตนเองมีความสนใจ และเป้าหมายในการวางแผนการประกอบอาชีพ
โครงสร้างของหลักสูตร : มีรายวิชาที่ผสมผสานหลากหลายองค์ความรู้ซึ่งสังเกตได้จาก ตัวอักษรย่อ เลขรหัส และ ชื่อรายวิชา ที่มีความแตกต่างกัน
คำอธิบายรายวิชาในหมวดวิชาเอกบังคับ : มีการบูรณาการหัวข้อของเนื้อหาสาระและความรู้จากศาสตร์อื่นที่เกี่ยวข้องกับรายวิชา เข้าไปผสานเป็นเนื้อหาของรายวิชานั้น
รายวิชาในหมวดวิชาเอกบังคับของหลักสูตรสะท้อนให้เห็นว่าใช้หลักการบูรณาการแบบสหวิทยาการโดยสังเกตได้จากรหัสของรายวิชาและชื่อของรายวิชาที่เป็นองค์ความรู้ที่มีความแตกต่างกัน แต่ล้วนบูรณาการอยู่ใน American Studies ทั้งสิ้น
ไม่พิจารณาในส่วนของโครงสร้างหลักสูตร
เเต่ควรพิจารณารหัสรายวิชาและชื่อรายวิชาที่อยู่ในหลักสูตร
พิจารณาในรายวิชาหมวดวิชาเอก (ไม่พิจารณาหมวดวิชาศึกษาทั่วไป)
หลักสูตรสหวิทยาการ (Interdisciplinary Studies)
การนำ Theme เรื่อง ความยั่งยืน (Sustainability)
ใช้ในหลักสูตร Multidisciplinary
รูปแบบที่ 1
ปรับปรุงชื่อรายวิชา
ชื่อรายวิชาควรสื่อโยงกับแนวคิด เรื่อง ความยั่งยืน ไม่ควรเติมเเค่คำว่ายั่งยืนท้ายชื่อวิชาเดิม ควรปรับภาษาแบบอื่นบ้าง
ชื่อรายวิชาไม่ควรยาวเกินไป
เมื่อวางจุดเน้นลงไปบูรณาการต้องอาศัยการตีความและจินตนาการด้วย
ควรนำจุดเน้นกระจายอยู่ในรายวิชาต่าง ๆ
ปรับปรุงคำอธิบายรายวิชา
ไม่ควรยึดหลักการเขียนรูปแบบเดียวที่คุ้นเคย
ไม่ควรเเจกแจง Content ที่ลงรายละเอียดในคำอธิบายรายวิชา
กำหนดแนวคิด เรื่อง ความยั่งยืน สำหรับนักศึกษาในแต่ละชั้นปีของหลักสูตร
กำหนดขอบเขตของจุดเน้น เรื่อง ความยั่งยืน เพื่อให้เห็นภาพรวม ก่อนปรับปรุงชื่อรายวิชา
รูปแบบที่ 2
ปรับปรุงคำอธิบายรายวิชา
นำแนวคิด เรื่อง ความยั่งยืน ใช้ปรับปรุงคำอธิบายรายวิชา
รายวิชา ภาษาอังกฤษเพื่อการประชุมทางธุรกิจและเจรจาต่อรอง ชั้นปีที่ 2
แนวคิด : ทำธุรกิจและสร้างเครือข่ายอย่างไรให้ยั่งยืน?
ในคำอธิบายรายวิชา เพิ่มรายละเอียด ดังนี้
,,,ผ่านกระบวนการประยุกต์ใช้ทักษะและความรู้ภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อประกอบธุรกิจในสถานประกอบการที่หลากหลายและสร้างเครือข่ายกับทีมงานในองค์กรได้อย่างยั่งยืน,
บริบทจะหมายถึงมหาวิทยาลัยกำหนดนโยบายให้ทุกหลักสูตรนำเอาแนวคิด Concept เรื่อง ความยั่งยืน บูรณาการไว้ในโปรแกรมการเรียนต่าง ๆ ของคณะ
ต้องกำหนดว่าจะทำในบริบทหลักสูตรโปรแกรมใด (ไม่ทำกับ Gen Ed)
จากนั้น กำหนดแนวคิด เรื่อง ความยั่งยืน สำหรับผู้เรียนในแต่ละชั้นปีของหลักสูตร
ในการเขียนแนวคิด จะเขียนเป็นข้อความบอกเล่า หรือเขียนในรูปคำถามก็ได้ ที่สะท้อนการให้แง่คิด แนวคิด หรือความสามารถที่จะให้แก่ผู้เรียน โดยเกี่ยวโยงกับเรื่องความยั่งยืนที่เหมาะสมกับชั้นปีนั้น ๆ
การเขียนเเนวคิด ต้องเขียนแบบให้แง่คิด คติสอนใจ ไม่ควรเขียนประเด็นเฉย ๆ หรืออาจเขียนในรูปประโยคคำถามก็ได้
การเขียนเเนวคิด ควรเรียง Sequence ให้เหมาะกับแต่ละชั้นปี เเละไม่ควรเขียนยาวเกินไป
รูปแบบที่ 3
สร้างรายวิชา
ศาสตร์/องค์ความรู้ที่บูรณาการ :
(1) ภาษาอังกฤษ (English Language) คณะศิลปศาสตร์
(2) ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) คณะบริหารธุรกิจ
(3) ธุรกิจอาหาร (Food Business) คณะการจัดการธุรกิจอาหาร
(4) อุตสาหกรรมการบริการ (Hospitality Industry) คณะวิทยาการจัดการ
(5) มนุษย์กับจริยธรรม (Man and Ethics) คณะศิลปศาสตร์
ไม่ควรเน้นผลิตบัณฑิตเพียงเเค่ด้านอาชีพจนขาดคุณธรรมจริยธรรม
ควรมองเรื่องประโยชน์ต่อสังคม ส่วนรวม คุณธรรม ธรรมาภิบาล ความเป็นมนุษย์ จริยธรรมทางธุรกิจและสังค เป็นต้น
รายวิชา (ปรับปรุง) : หลักสูตรพหุวิทยาการ ด้านการสื่อสารสำหรับธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ ธุรกิจอาหาร และอุตสาหกรรมการบริการ
รูปแบบที่ 3 จะให้ความสำคัญกับ Career Path ของผู้เรียน คำนึงถึงประโยชน์ที่ผู้เรียนจะได้รับ ในการประกอบอาชีพได้อย่างหลากหลายในอนาคต
ชิ้นงานที่ 3
มอบหมาย 18 กันยายน 2565
Research-Based Curriculum
ปรับปรุงคำอธิบายรายวิชา
รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิจัยเป็นฐาน : รูปแบบที่ 2 (Research-Tutored)
ผ่านการฝึกกระบวนการคิดเชิงวิเคราะห์และการคิดเชิงวิพากษ์ โดยใช้งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
เขียนคำอธิบายรายวิชาให้สอะท้อนถึงรูปแบบที่เลือก
สืบค้นงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับรายวิชา
งานวิจัยที่เลือกใช้ควรเหมาะสมกับระดับของผู้เรียน
งานวิจัยที่เลือกควรเกี่ยวข้องกับคำอธิบายรายวิชา
งานวิจัยควรมีความเชื่อมโยงกับองค์ความรู้ในรายวิชา
การศึกษาโดยใช้การวิจัยเป็นฐาน
ไม่ควรเลือกรายวิชาในหมวด Gen Ed เพราะเป็นหมวดที่เรียนเพื่อชีวิต เพื่อความเป็นคน ไม่ได้มุ่งจะให้เป็นนักวิชาการ วิชาชีพ นักวิจัย ควรเลือกรายวิชาในหมวดวิชาเอก
Problem-Based Curriculum
ปรับปรุงคำอธิบายรายวิชา
รายวิชาภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจการขาย (English for Sales Business)
ผู้เรียนจะสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ด้านภาษาอังกฤษเพื่อแก้ปัญหาด้านการสื่อสารในบริบทต่าง ๆ ของธุรกิจการขายได้
กำหนดหน่วยการเรียนรู้
ชื่อหน่วยการเรียนรู้ควรสะท้อนให้เห็นถึงปัญหา
ชื่อหน่วยการเรียนรู้ควรกำหนดให้สอดคล้องกับผลลัพธ์การเรียนรู้
กำหนดผลลัพธ์การเรียนรู้
ผลลัพธ์การเรียนรู้ ควรระบุให้เห็นว่า ใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากอะไร
ผลลัพธ์การเรียนรู้ควรมีความสอดคล้องกับชื่อหน่วยการเรียนรู้
การศึกษาโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน
Competency-Based Currriculum
ปรับปรุงคำอธิบายรายวิชา
รายวิชา การเขียนภาษาอังกฤษขั้นสูงสำหรับธุรกิจ (Advanced Business Writing)
ระบุว่า ,,,ในบริบทที่หลากหลาย ทั้งภายในและภายนอกสถานประกอบการ เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนาสมรรถนะของตนเองตามบทบาทหน้าที่และภาระงานที่มอบหมายให้ไปสู่ความเชี่ยวชาญได้,
กำหนด Workplace Context
การกำหนด Workplace Context สถานการณ์ในบริบทการทำงานนี้ ไม่ควรเป็นงาน Routine
งานที่มีลักษณะต้องการการปฏิบัติที่เป็นระเบียบ เรียบร้อย ราบรื่น
แปลว่า ให้ความสำคัญเรื่อง Ability มากกว่า Competency
การศึกษาฐานสมรรถนะ
ชิ้นงานที่ 4
มอบหมาย 16 ตุลาคม 2565
การวิพากษ์หลักสูตร Modular Curriculum
หัวข้อโมดูลที่เลือกมาวิพากษ์ : English for Freelancers: Getting Started
เป็นโมดูลถูกบรรจุอยู่ภายใต้คอร์สเรียน
ชื่อของคอร์สเรียนสะท้อนให้เห็นถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนได้ตรงตามวัตถุประสงค์และสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มีการระบุระดับความยากง่ายและขอบเขตของเนื้อหาในชื่อของคอร์สเรียน เพื่อให้ผู้เรียนสามารถตัดสินใจได้ว่า คอร์สเรียนนั้นตรงตามความต้องการของตนเองหรือไม่ และระดับความรู้ของตนเองมีความเหมาะสมกับคอร์สเรียนนั้นมากน้อยเพียงใด
มีการระบุวัตถุประสงค์ของคอร์สเรียนอย่างชัดเจน และให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลลัพธ์การเรียนรู้ที่จะได้รับหลังจากเรียนจบ
มีการชี้แจงให้ผู้เรียนทราบว่า ภายในคอร์สเรียนจะประกอบไปด้วยกี่โมดูล และเนื้อหาที่สร้างขึ้นมานั้นเกิดจากความร่วมมือกันของหน่วยงาน British Council ซึ่งเป็นองค์กรของอังกฤษที่เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรมและการศึกษาระดับนานาชาติ และหน่วยงาน Gaza Sky Geek ซึ่งเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยี ทำให้คอร์สเรียนมีความน่าเชื่อถือและมีความเป็นมาตรฐาน
มีการกำหนดขอบเขตของเนื้อหาในคอร์สเรียนอย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้เรียนทราบว่าตนเองจะได้รับทักษะและความรู้เรื่องใดบ้างเมื่อเรียนคอร์สเรียนนั้น
คอร์สเรียนถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานได้ทั้งผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์ เพื่อความสะดวกในการเข้าเรียน
ในคอร์สเรียนจะประกอบไปด้วยโมดูลย่อยที่เป็นบทเรียนในหัวข้อเรื่องที่มีความสมบูรณ์ในตัวเองอย่างชัดเจน ผู้เรียนจึงสามารถเลือกเรียนหัวข้อใดก่อนหรือหลังได้ตามความสนใจของตนเอง เนื่องจากประเด็นความรู้ในแต่ละหัวข้อนั้นไม่เป็นลักษณะที่ต้องเรียนต่อเนื่องกันตามลำดับ ทำให้การเรียนในคอร์สเรียนมีความยืดหยุ่นสูงและผู้เรียนสามารถวางแผนการเรียนของตนเองได้อย่างมีประสิทธิผล
ในแต่ละโมดูลจะใช้ระยะเวลาเรียนที่สั้นและประกอบไปด้วยหัวเรื่องย่อยและมีส่วนของการฝึกทักษะ (หัวข้อ Practice) ปิดท้าย หลังจากผู้เรียนได้เรียน (หัวข้อ Self-Study) ครบตามหัวข้อที่เกี่ยวข้องจบ เพื่อประเมินความรู้รวบยอดของผู้เรียนจากการเรียนในแต่ละโมดูลเป็นระยะ
ในแต่ละโมดูลของคอร์สเรียน มีการระบุเป้าหมาย (ผลลัพธ์การเรียนรู้) อย่างชัดเจน และกิจกรรมการเรียนรู้ในแต่ละโมดูลของคอร์สเรียนมีลักษณะเป็น Outcome-based และ Skill-based
มีการใช้คำถามนำทางก่อนเริ่มบทเรียนในแต่ละโมดูลเป็นระยะ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการสะท้อนคิดและประเมินตนเองก่อนเรียนในบทเรียนนนั้น
ก่อนเริ่มบทเรียนในแต่ละหัวข้อย่อยของโมดูล จะมีการให้ความรู้เพิ่มเติมในสิ่งที่ผู้เรียนจำเป็นต้องทราบล่วงหน้า เพื่อให้การเรียนเกิดความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สื่อประกอบการเรียนรู้และลักษณะของโจทย์คำถามในโมดูลจะมีความหลากหลาย เช่น รูปภาพ คลิปวิดีโอ คลิปเสียง โจทย์คำถามแบบตัวเลือก แบบถูกผิด แบบโยงเส้น เป็นต้น
มีการแสดงข้อมูล Course Rating การประเมินคุณภาพของคอร์สเรียนในภาพรวมด้านต่าง ๆ เพื่อให้ผู้เรียนใหม่ใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการเลือกเรียนได้