Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พยาธิสรีรวิทยาของไตและทางเดินปัสสาวะ, นางสาวปัทมา พันธุ์คีรีกุล ชั้นปีที่…
พยาธิสรีรวิทยาของไตและทางเดินปัสสาวะ
ภาวะไตล้มเหลว
มี 3 ระยะ
Pre acute renal failure : มี GFR ต่ำเนื่องจากความดันในการกรองลดลงจากมีเส้นเลือดหดตัว BPต่ำ การตกเลือด สูญเสียน้ำในร่างกาย CO ลดลง
Intra acute renal failure : มักมาจาก acute tubular necrosis,post ischemic (เกิดหลังผ่าตัด) , nephrotoxic (จากยาATBในกลุ่ม aminoglycoside)
Post acute renal failure : มาจาก urinarytract infection ,urinary tract infection
อาการและอาการแสดง
-ระยะแรก ปัสสาวะออกน้อย หลังจากมี hypotension wu BUN creatinine สูงขึ้น เสียสมดุลเกลือแร่ บวมคลื่นไส้อาเจียน
-ระยะที่สอง เป็นระยะปรับตัวแต่ใตไม่สามารถทำให้ปัสสาวะเข้มข้น จึงมีปิสสาวะออกมากทำให้สูญเสีย Na+ K+ ไปในปัสสาวะผู้ป่วยจึงต้องการนำทดแทน
-ระยะฟื้นตัว ใช้เวลานาน 3-12 เดือนกว่าหน้าที่ของไตจะคืนสู่สภาพปกติ
การรักษา
1.รักษาสมดุลของน้ำและเกลือแร่
-จำกัดอาหารที่มี K+ สูง
-ส่งเสริมให้ K+ เข้าเชลล์ โดยให้อินชูลินกลูโคส NaC03 เพื่อตึง K+ เข้าเซลล์
-แคลเซียมต่ำ เนื่องจากการดูดซึมแดลเซียมจากลำไส้ลุดลงเพราะขาติวิตามินจึงต้องให้แคลเชียมและแก้ไขความเป็นกรด
-ฟอสเฟต แมกนีเชียมในเลือดสูง แก้ไขโดยให้ Amphojel (ระวังท้องผูก) และห์ลีกเลี่ยงยาที่มี แมกนิเซียมสูง
2.ป้องกันการติดเชื้อจากการใส่สายยางต่างๆ การฟอกไต
การให้อาหารอย่งเพียงพอ เพื่อส่งเสริมการฟื้นตัวของไต ลดการสลายกล้ามเนื้อให้อาหารที่มี โปรตีนต่ำในระยะที่มีปีสสาวะออกน้อยโดยให้ กรดอมิโนที่จำเป็นและไม่เกิด nitrogen waste product มากให้คาร์โบไช้ตรทเพียงพอเพื่อให้ก็ดการสร้างกฐิโสและลดการสลายโปรตีนจากกล้ามเนื้อ
ระวังการให้ยาที่เป็นพิษต่อไต
Chronic renal failure(CRF)
แบ่งได้ 4 ระยะ
1.กำลังสำรองของไตลดลง (Decreased renal reserve) ไตทำหน้าที่ 40 % ผู้ป่วยยังไม่มีอาการและอาการแสดงอะไร
ไตทำหน้าที่ได้ไม่เพียงพอ (Renal insufficiency)ไตทำหน้าที่ 15 - 40 % (GFR=20 ml/min) ผู้ป่วยเริ่มมีของเสียสะสมอยู่ในเลือด มีเลือดจาง
ไตวาย (Renal failure) ไตทำหน้าที่ได้เพียง 5-15% ผู้ป่วยจะมีของเสียสะสมในเลือดและมีเลือดจางมากขึ้น
ไตวายระยะท้ายหรือยูรึเมีย (ESKD) ไตทำหน้าที่ได้เพียง 5 % มีภาวะไม่สมดุลของสารนำและอิเลค โตรไลท์และสภาวะกรดต่างมากขึ้น
การรักษา
-จำกัดน้ำ โดยคูปริมาณน้ำเข้า ออกชั่งน้ำหนักตัวทุกวัน
-กำจัดของเสียด้วยการฟอกไต
-การปลูกถ่ายไต
-ระวังเลือดเป็นกรด โพตัสเชียมสูงแคลเซียมต่ำ เลือดออกง่าย
-ให้อาหารอย่างเหมาะสม จำกัด Na+ K+ให้โปรตีนที่มีคุณค่า
เป็นภาวะที่มีการเสื่อมหน้าที่ของไต ซึ่งดำเนินไปเรื่อยๆ และไม่สามารถแก้ใขให้กลับคืนสภาพปกติระยะแรกจะไม่มีอาการ จนไตเสื่อมไปมาก
ความผิดปกติในความสมุดุลของสารน้ำและอิเลคโดรไลท์
ภาวะเลือดเป็นกรดจะมีระบบบัเฟอร์จากุแคลเซีย มคาร์บอนเนดูทำให้แคลเชิยมที่ถูกสะสมที่กระดูกถู กใช้ไปมากมีผลให้กระดูกผุ
-ฮอร์โมน: จะสร้าง Erythropoietin Renin Prostag landin ถ้าไตเสียจะสร้าง Erythropoietin ลดลงทำให้สร้างเม็ดเลือดแดงลดลง หลั่ง Renin มากขึ้นทำให้หลอดเลือดหดตัว ความตันโลหิดสูงและหลั่ง Prostaglandin ได้น้อยลง (ช่วยลดความดันโลหิต)
-โปแดสเชียม : 90% ของโปแตสเชียมที่ถูกขับออุกจากร่างกายถูกขับออกทางไต ถ้สหน้าที่ใตเสียไปมากก็จะเกิดภาวะ Hyperkalemia
PTHจะกระตุ้นการปล่อยแคลเซียมออกจากกระดูก และเร่งการขับฟอสเฟตออกจากไต
-โชเตียม : ระยะที่ปิสสาวะออกมากและขับโซเดียมออกมากตัวยจึงเกิดภาวะขาดโชเดียมซึ่งมีผลให้เลือดไหลเวียน ในร่งกายลดลง ภาวะโชเดียมสูงอาจเกิดจากอัตราการกรองลดลง
-แมกเนเชียม : ถูกขับออกลดลงทำให้มีแมกเนเชียมในเลือดสูง
-น้ำ :มีปีสสาวะบ่อยตอนกลางคืน (nocturia)ทและถ่ายปีสสาวะจำนวนมาก ปีสสาวะมีความเข้มข้นใกล้เคียงพลาสม่าถ้ำาไตวาย มากขึ้น ปัสสาวะจะออกน้อยลง เกิดการคั่งของน้ำและอาการบวม
-สภาวะกรดต่าง : ปกติไตจะขับ H + ที่เกิดจากขบวนการเผาผลาญออกทางชีสสาวะแล ะเก็น HC03-ไว้ และสร้างแอมโมเนียชื่งทำหน้าที่เป็นบัฟเฟอร์ของ H + ที่ถูกขับออกมาทางปิสสาวะ ถ้าไตเสีย จะสร้างแย้มโมเนียลดลงทำให้ขับกรดออกลดลง และดูดกลับ HC03- ได้น้อยลง
-การสร้าง 1.25 -dihydroxycholecaciferol (1,25 vitamin D) ที่ไตลดลงทำให้การดูดซึมแคลเซียมได้ลดลงและฟ อสเฟตในเลือดสูงเพราะถูกขับออกน้อยลง จึงไปจับกับแคลเขียม ทำให้เกิด CaHPO4 ระดับแคลเชียมจึงลดลง (hypocalcemia) จึงกระตุ้นให้หลัง PTH
Tumors
Renal tumors
-สาเหตุมาจากการสูบบุหรี่
-ส่วนใหญ่เป็น Adenocarcinoma มักเป็นข้างเดียว แล้ว metastasis ไปปอด ตับ กระดูก LN
-อาการ hematuria ปวดแบบดื้อๆ น้ำหนักลดมีไข้ (จาก tumor toxin) ซีด polycytemia
-Hypertension จากการหลั่ง renin มากขึ้น การรักษาตัดไดที่เป็นออกแล้วรักษาต่อด้วยเคมีบำบัดหรือการฉายแสง
-Wilm's tumor หรือเรียกอีกชื่อว่า nephroblastoma เป็นเนื้องอกที่พบในเด็ก อายุ 2-5 ชวบก้อนเนื้องอก โตเร็ว อาจเกิดขึ้นที่ไตข้างเดียว หรือทั้ง 2 ข้างมักเกิดร่วมกับความผิดปกติแต่กำเนิดชนิดอื่นๆ เช่น ไม่มี ins ความผิดปกติในระบบทางเดินปีสสาวะและระบบสิบพันธุ์ หรือมีความผิดปกติของโครโมโขมเมื่อก้อนเนื้องอกโดขึ้นจะทำลายโครงสร้างของใต ทำให้ท้องโต ปิสสาวะเป็นเลือด
Bladder Tumors
-เกิดประมาณ 2% ของมะเร็งทั้งหมด
-เกิดจากการสูบบุหรี่ ทำงานในโรงงานยางโรงงานทอผ้า
-มักเป็นที่ transitional cell
-แพร่กระจายไปที่ LN ตับ กระดูก ปอต
-ปกติ มักไม่มีอาการ
-อาการ hematuriapelvic pain ปัสสาวะบ่อย
-การรักษา transurethral resection , chemotherapy , radiation
-ทำ cystostomy เพื่อถ่ายปัสสาวะออกทางหน้าท้อง
Glomerulardisorders
Glomerulardisorderจะสัมพันธ์กับการขับปัสสาวะ ถ้าาglomerularเสียจะทำให้เลือดไปเลียงไตลดลง
แบ่งเป็นทั้งสองจะทำBPสูงและตัวบวมเหมือนกันแ ต่ต่างกันตรงสาเหตุ
Glomerulonephritis
เป็นการอักเสบของ glomerular อาจมาจากความผิดปกติของระบบอิมมูนหรือเป็นผ ลจากยา สารพิษ ไรคทางหลอดเลือด
อาการ เริ่มมีอาการ 10-21วันหลังมีการติดเชื้อ โดยเฉพาะการติดเชื้อ Beta-strepto lysin-และมีhematuria,rbccasts proteinuria, GFR , oliguria, hypertension , บวมโดยเฉพะตอนเข้าจะเห็นหนั่งดาบวม ข้อเท้าบวม
มี Ag-Abcomplex เกาะอยู่ที่ glomerularcapillary filtration membrane แล้วทำลาย glomerular กรดการหลังสารุในกระบวนการอักเสบ (complement,leukocyte , fibrin) complement ที่หลั่งออกมาจะดึงดูด neutrophil,monocytes
เกิดกระบวนการอักเสบ หลั่ง lysozyme มาทำลายุผนังของหลอดเลือดใน glomerular เกิดการเปลี่ยนแปลง permeability ทำให้โปรตีน ,rbc รั่วออกมาในปีสสาวะ และมีการสร้าง fibrin มาเกาะที่ bowman capsule ทำให้เลือดมาเลี้ยงไดลดลง , GFR ลดลง
พยาธิสภาพ
ภาวะ hyperlipidemia เกิดจากการปรับชดเซยโดยการสุร้างไขมันที่ตับแล ะลดการเผาผลาญไขมัน
ภาวะ lipidura ซึ่งเกิดจากการที่ไขมัน leak ออกมาจาก glomerularcapillary wall ทำให้ wน lipid cast , free fat droplet ในปีสสาวะ
ขาด VitD สัมพันธ์กับการขาด โปรตีน เพราะ 25-hydroxycholecalciferol จะจับกับ globulin ดังนั้นถ้า globlin ถูกขับออกทางปีสสาวะจะทำให้การดูดซึมแคลเชีย มลดลง และเกิด 2 ndhyperparathroidism และภาวะกระดูกเปราะ (osteomalacia)
NephroticSyndrome :NS
การขาด immunoglobulin ทำให้เกิด infection ง่าย
เมื่อสูญเสียโปรตีนจึงเสี่ยง ncoticpressure น้ำจึงไปอยู่รอบๆเซลล์ทำให้ plam avolume aดลง จึงเกิดกล้ไกปรับชดเชย โดยกระตุ้นระบบ renin angiotensin-aldosterone และ ADH-ทำให้ยิ่งมีน้ำสะสมในร่างกายเพิ่มขึ้น
มีการสูญเสีย glomerularfiltrationmanbrane ทำให้สูญเสียโปรตีนในปีสสาวะ (albumin , immunoglobulin)
เป็น glomerularinjury โดยจะพบโปรตีนในปีสสาวะ> 3.5gm/ d , hypoalbuminemia, บวม, hyperlipidemia, lipiduria หรือเกิดจากโรคอื่นแล้วทำให้เกิด Ns เช่นภาวะDM , SLE, หรือเกิดจากการใช้ยา , มะเร็ง โรคทางหลอดเลือด
Urinary tract infection
Urinary tract infection (UTI)
สาเหตุ: bacteria, prepuberalchildren , sexually active
Gram -ve: E.coli, Pseudomonas
Gram -ve: E.coli, Pseudomonas
-Diagnosis ได้จากการเพาะเชื้อปัสสาวะ(C/S) ถ้าพบเชื้อ > 10 กำลัง 5 / ml
แบ่งเป็น
Chronic pyelopephritis กรวยไตอักเสบเรื้อรัง
คล้ายอันบน ต่อเนื่องกันแต่ การเกิด obstruction ทำให้การขจัดแบคทีเรียในปีสสาวะออกได้น้อยทำใ ห้เกิตอักเสบ และเกิด fibrosis , scar
Acute pyelonephritis กรวยไตอักเสบเฉียบพลัน
เป็นการติดเชื้อที่ renal pelvis เกิดจากการติดเชื้อจากล่างไปบน
เกิดการอุดตันและ reflux ขอ งurine ไป bladder หรือมาจากกระแสเลือด
การติดเชื้ออาจเริ่มที่ pelvis -> calyces--> medulla ทำให้ไตอักเสบ ไตบวม และปีสสาวะเป็นหนองได้
Cystitis
คือการอักเสบที่กระเพาะบีสสาวะอักเสบนานๆจะทำให้เกิดเนื้อตาย
อาการ ปัสสาวะบ่อย ปวดขณะถ่าย ปีสสาวะขุ่นมีเลือดออก ปวดูหัวเหน่า ปวดหลัง cystitis ในคนแก่มักไม่มีอาการ
การแยก cystitis กับ pyelonephritis ต้องทำ urinec/s การมี wbccast ในปัสสาวะแปลว่าเป็น pyelonephritis
Urinary tract obstruction
*ผลของการอุดตัน
-Hydroureter---> hydronephrosis--->และมีผลต่อ GFR---> renal failure
Chronic obstruction ทำให้กดการทำงานของไตทำให้มีการคั่งของปัสสาวะในส่วนของ papilla, medulla จะผ่อถึงแม้ว่าไดจะมีขนาดใหญ่ขึ้น (Hydronephrosis) แต่มวลจะเล็กลงสูญเสียดวามสามารถ
ภาวะไตวายจะทำให้สูญเสียความสามารถในการทำ ให้ปัสสาวะเข้มข้นทำให้ร่างกายขาดน้ำ ขาด Na+ HCO3-metabolic acidosis
*แบ่งได้เป็นโรคต่างๆดังนี้
Urinary tract obstruction
ㆍKidney Stones นิ่วในไต
นิ่วแคลเซียม 75%
นี่วยูเรต 15% หรือนิ่วกรด
อาการ : อาการปวด โดยเฉพาะเมื่อเกิดการอุดตันและการติดเชื้อ จะทำให้ปวดแบบ colicky pain จะทำให้ปวดแบบ colicky pain
การที่ร่างกายไม่มีการเคลื่อนไหว ทำให้แคลเซียมออกจากกระดูก เกิดการตกตะกอนและกลายเป็นก้อนนิ่ว
Neurogenicbladder
ผลคือเกิดการติดเชื้อ
เกิดจากมีการรบกุวน neve ที่ไปเลี้ยงกระเพาะปิสสาวะที่ระดับ CNS, spinal cord ผลทำให้ไม่สามารถควบคุมการถ่ายปิสสาวะได้
*การอุตตันที่เกิดภูายในทางเดินระบบทางเดินปัสสาวะเกิดจาก การอุดกั้นจากภายใน
-การตีบของท่อปัสสาวะ (uretralstricture)
-การติดเชื้อ
*การอุดตันทำให้เกิดการคั่งค้างของปิสสาวะส่วนเห นือจุดอุดตันซึ่งจะทำให้เกิดการติดเชื้อที่อวัยวะนั้น
-tumor
-stone ,calculi
-การบาตเจ็บ
*อาการแทรกช้อน
-ไตบวมน้ำ (hydronephrosis)
-ท่อไตบวมน้ำ (hydroureter)
*คำอธิบาย
*ความผิดปกตินี้สามารถกลับคืนสู่สภาพปกติได้ถ้ าแก้ปัญหาการอุดตัน
ㆍเมื่อเกิดการอุดตัน จะเกิด hydrostatic pressure และทำให้อวัยวะส่วนต่อจากการอุดตันขยายให ญ่ขึ้น
ㆍการอุดตันแบบ functional เกิดจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อกระเพาะปัส สาวะการไม่มี peristalsis ของ ureteractivity
ㆍการอุตตันในส่นต่ำกว่ากระเพาะปิสสาวะจะก่อใ ห้เกิดการติดเชื่อได้ง่ายถ้าการอุดตันอยู่สูง และเป็นทั้ง 2 ข้างมักทำให้เกิดความผิดปกติในการทำงานของ ใดจนกระทั่งเกิด renal failure ได้
นางสาวปัทมา พันธุ์คีรีกุล
ชั้นปีที่ 2 เลขที่ 55 รหัสนักศึกษา 66120301055