Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ยาต้านจุลชีพ - Coggle Diagram

- - - - cephalosporins
      - carbapenems
      - penicillins
      - monobactam
    - - norfloxacin
      - ciprofloxacin
      - nalidixic acid
      - ofloxacin
    - - kanamycin
      - streptomycin
      - gentamicin
    - - sulfadiazine
      - sulfamethoxazole
    - - lincomycin
      - clindamycin
    - - colistin (polymixin E)
      - vancomycin
      - polymicin B
    - - nitrofurantoin
      - furazolidine
    - - doxycyclin
      - Minocycline
      - tetracycline
    - - erythromycin
      - roxithromycin
- - - - ออกฤทธิ์ที่ผนังเซลล์หรือเยื่อหุ้มเซลล์ของแบคทีเรีย
    - - ออกฤทธิ์ที่กระบวนการสร้างกรดนิวคลีอิคหรือ
        การสังเคราะห์โปรตีนของแบคทีเรีย
  - - - ทำให้แบคทีเรียไม่สามารถเจริญเติบโตและแบ่งตัวได้
      - Sulphonamides
      - มีผลไปยับยั้งขบวนการเมตาบอลิซึมของกรดโฟลิค
      - Trimethoprim
    - - Cephalosporin
      - Vancomycin
      - Penicillin
      - bacitracin
      - ทำให้เซลล์สูญเสียสภาพที่จะดำรงชีวิตอยู่ได้
    - - มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย
      - Chloramphenicol
      - ทำให้เกิดการยับยั้งการสร้างโปรตีน
      - Tetracyclin, Macrorid
      - ยับยั้งการทำงานของไรโบโซม
      - Macroride
    - - Amphotericin
      - ketoconazole
      - Polymyxin
    - - sulfonamides
      - trimethoprim
      - Quinolone
      - isoniazid
      - ทำให้เซลล์ไม่สามารถสร้าง DNA ซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการแบ่งตัวของแบคทีเรีย จึงมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
      - Penicillins
- - - - มีผลต่อเชื้อ
        
        Enterobacter
        
        Proteus
        
        Staphylococci
        
        Klebsiella
        
        Streptococci
      - แบ่งเป็น
        
        2nd generation
        
        weaker gram positive,better gram negative(cefuroxime)
        
        Cefaclor : 250 มก. ทุก 8 ชั่วโมง
        
        เป็นยาที่มีฤทธิ์กว้างกว่ายารุ่นที่หนึ่ง สามารถฆ่า
        เชื้อกรัมลบได้มากชนิดกว่า และได้ผลดีกว่า
        
        Cefamandole , Cefuroxime
        
        ผลต่อเชื้อกรัมบวกคล้ายๆกัน แต่ทนต่อ Elactamase ได้ดีกว่า
        
        3rd generation
        
        excellent gram negative,some gram positive (ceftriaxone)
        
        Cefotaxime
        
        มีผลออกฤทธิ์กว้างกว่า 2 กลุ่มแรก และ
        สามารถฆ่าเชื้อPseudomonas ได้ด้วย
        
        cefoperazone
        
        1st generation
        
        mainly gram positive ,some gram negative (cefazolin)
        
        Cephalexin :1 – 4 กรัม แบ่งให้ทุก 6 ชั่วโมง
        
        สามารถฆ่าเชื้อกรัมลบได้บางชนิด เช่น E.coli ,
        Klebsiella pneumoniae
        
        Cephradine : 1 – 4 กรัม แบ่งให้ทุก 6 ชั่วโมง
        
        เป็นยาที่มีประสิทธิภาพดีสำหรับเชื้อกรัมบวก
        
        Cephalothin , Cephapirin
        
        4th generation
        
        excellent gram negative,good gram positive (cefepime )
        
        Cefpirome
        
        มีผลออกฤทธิ์กว้างและลึกที่สุด
        
        Cefepime
        
        โดยเฉพาะต่อเชื้อกรัมลบทั้งที่ไวและดื้อยาใน 3
        กลุ่มแรกและยากลุ่มอื่น
      - อาการไม่พึงประสงค์
        
        IM : ปวดร้อนบริเวณกล้ามเนื้อ
        
        IV : อาจเกิดการอักเสบ
        
        คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน
        
        มีผลต่อไต ถ้าใช้ร่วมกับ Aminoglycoside จะเพิ่ม
        ความเป็นพิษต่อไต
        
        การแพ้ยา (Hypersensitivity)
      - ประโยชน์ทางคลินิก
        
        ไม่ควรเลือกใช้เป็นยาชนิดแรกในการรักษาการติดเชื้อทั่วไปที่อาการไม่รุนแรง
        
        ควรระวังปฏิกิริยาระหว่างยาเหล่านี้กับแอลกอฮอล์ที่เรียกว่าDisulfiram – like reaction ซึ่งไม่ควรดื่มเหล้าหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
        
        จัดเป็นยาปฏิชีวนะที่ออกฤทธิ์กว้างมีประสิทธิภาพในการรักษาสูง
        
        ไม่ควรใช้ Cephalosporin ในผู้ป่วยที่มีประวัติการแพ้ยา
        กลุ่มPenicillins เพราะอาจเกิดอาการแพ้ได้เช่นเดียวกัน
    - - ฆ่าเชื้อแกรมลบและแกรมบวกทั้งชนิด aerobic และ anaerobic
      - ใช้ได้ผลกับเชื้อพวก E-lactamase producing resistant strains
      - imipenem เป็นยาที่มีประสิทธิภาพสูงและมีขอบเขตการทำลายเชื้อค่อนข้างกว้าง
      - อาการไม่พึงประสงค์
        
        คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ความดันโลหิตลดลง หลอดเลือดดำบริเวณที่ฉีดอักเสบผิวหนังเป็นผื่น คัน และอักเสบ enzymes ตับเพิ่มขึ้น
        
        ในเด็กและผู้ป่วยโรคไตต้องมีการปรับขนาดยา
      - ยาตัวแรกในกลุ่มนี้คือ imipenem
    - - Tetracyclin :1 – 2 กรัม แบ่งใช้4 ครั้ง
      - Oxytetracyclin : 1 – 2 กรัม แบ่งใช้4 ครั้ง
      - รวมทั้ง Rickettsiae และ Chlamydia
      - Doxycyclin : 100 มก. ทุก 12 ชั่วโมง
      - ได้ผลทั้งเชื้อกรัมบวก และกรัมลบ หลายชนิด
      - อาการไม่พึงประสงค์
        
        Fanconi ‘ s syndrome
        
        พิษต่อตับ ทำให้เกิด fatty liver
        
        ระคายเคืองทางเดินอาหาร มีอาการจุก
        เสียด แน่นท้อง คลื่นไส้และอาเจียน
        
        การแพ้ยา โดยเกิดผื่นคัน เกิดอาการทาง
        ผิวหนังได้ง่ายเวลาโดนแสง
        
        รบกวนการสร้างกระดูกและฟัน
      - เป็นยายับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่มีฤทธิ์กว้าง
    - - เป็นยาปฏิชีวนะชนิดแรกที่ได้จาก
        Penicillinium notatum
      - ปัจจุบันเชื้อที่สามารถนำมาผลิตยา
        
        Penicillinium notatum
        
        Penicillinium chrysogenum
      - การแบ่งกลุ่ม Penicillins
        
        Aminopenicillins
        
        Ampicillin,Amoxicillin,Becampicillin
        
        Antipseudomonas penicillins
        
        Carbenicillin,Mezlocillin,Piperacillin
        
        Penicillinase-resistant penicillins
        
        Methicillin,Nafcillin,Cloxacillin
        
        Amidinopenicillins
        
        Mecillinam
        
        Natural penicillins
        
        Penicillin G , penicillin V
      - ปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์
        
        ความดันโลหิตต่ำ หลอดลมหดตัว มีอาการหอบหืดอย่างรุนแรง คลื่นใส้ อาเจียน ถ้ารุนแรง
        ถึงเสียชีวิตได้
      - ประโยชน์ทางคลินิก
        
        เลือกใช้เป็นอันดับแรกในหญิงมีครรภ์ แต่ควรระวังอาการข้างเคียงเช่น ผื่นคัน อุจจาระร่วง และเลือดไหลหยุดได้ยาก
        
        ผู้ป่วยที่มีประวัติแพ้ Penicillins ควรเลือกใช้Erythromycin แทน
        
        ไม่ควรใช้ penicillins ในผู้ป่วยที่มีประวัติการแพ้ยากลุ่ม Penicillins
        
        ระวังการใช้ Cephalosporin เพราะอาจเกิดการแพ้ยาได้
        เช่นเดียวกับ Penicillins
        
        เป็นยาที่เลือกใช้เป็นอันดับแรก
        เพื่อรักษาโรคติดเชื้อแกรมบวกและแกรมลบ
    - - ยากลุ่มนี้มีโอกาสเกิดการดื้อยาได้บ่อย
        และรวดเร็ว จึงควรใช้เมื่อใช้ยาอื่นไม่ได้ผล
      - Erythromycin : 1 – 4 กรัม แบ่งใช้ทุก 6 ชม.
      - ยานี้ได้ผลดีต่อเชื้อ Mycoplasma pneumonia , H. influenzae เชื้อคอตีบและไอกรน
      - Roxitromycin : 150 มก. 1 x 2
      - เหมาะสำหรับใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยมีประวัติแพ้ยา
        penicillin มาก่อน
      - อาการไม่พึงประสงค์
        
        Cholesstatic hepatitis เกิดเมื่อใช้erythomycin estolate
        
        ระคายเคืองทางเดินอาหาร คลื่นไส้ อาเจียน
        
        การแพ้ยา อาการที่เกิดไม่รุนแรง มีไข้ผื่นแดงนูน
      - เป็นยายับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
  - - - ฆ่าเชื้อกรัมบวก และเชื้อกรัมลบหลายชนิด ยกเว้น
        Pseudomonas, bacteroides
      - ทำลายเชื้อวัณโรคได้ด้วย
      - เป็นยากลุ่มที่มีขอบเขตในการต้านจุลชีพค่อนข้างกว้าง
      - ยาในกลุ่มนี้ ได้แก่
        
        Kanamycin, Amikacin
        
        Gentamicin, tobramycin
        
        Streptomycin, Neomycin, sisomicin
      - ขอบเขตในการต่อต้านจุลชีพของยาต่างๆ ในกลุ่มนี้
        
        Amikacin > Netilmicin > Sisomicin > Tobramycin > Gentamycin > Kanamycin > Streptomycin
      - อาการไม่พึงประสงค์
        
        พิษต่อหู มีอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน มึนงง และหูหนวกได้ เนื่องจากยาทำลายเส้นประสาทสมองคู่ที่ 8 ที่ทำหน้าที่ควบคุมการทรงตัวหรืออาจทำลายเส้นประสาทคู่ที่เกี่ยวกับการได้ยิน
        
        ยับยั้งการสื่อประสาทระหว่างปลายเส้นประสาทกับกล้ามเนื้อลาย ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนเปลี้ยไม่มีแรง หายใจไม่สะดวกหรือหายใจขัด
        
        พิษต่อไต มีฤทธิ์ทำลายกรวยไต และท่อไต
        
        การแพ้ยา เป็นผื่นแดง หรือลมพิษคัน มีไข้ บางรายอาจถึงขั้น anaphylaxis
    - - มีประสิทธิภาพในการทำลายเชื้อเฉพาะแกรมลบ anaerobic เท่านั้น
      - ข้อบ่งใช้
        
        ใช้รักษาโรคติดเชื้อแกรม negative bacilli ชนิด anaerobic ในบริเวณทางเดินหายใจ, ทางเดินปัสสาวะ, อวัยวะเพศ, กระดูกและข้อกระดูก, soft tissue และในกระแสเลือด
        
        อาจใช้ได้ผลในการรักษาโรคติดเชื้อ P. aeruginosa ที่ดื้อต่อยา piperacillin หรือtobramycin
      - ยาในกลุ่มนี้คือ astreonam ได้รับการสังเคราะห์มาเพื่อให้มีความคงทนต่อการทำลายของ E-lactamase
      - อาการไม่พึงประสงค์
        
        เส้นเลือดดำบริเวณฉีดยาซ้ำๆ อักเสบ ผื่นคัน ท้องเสีย
  - - - ได้ผลทั้งเชื้อกรัมบวก และกรัมลบ
      - แต่อาจออกฤทธิ์ฆ่าเāื้อแบคทีเรียบางชนิด H. influenzae
      - เป็นยายับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่มีฤทธิ์กว้าง
      - อาการไม่พึงประสงค์
        
        Gray syndrome ในเด็กที่การทำงานของตับยังไม่สมบูรณ์
        
        การแพ้ยา เป็นผื่นคัน มีไข้
        
        กดการทำงานของไขกระดูก ทำให้เกิด aplastic anemia
        
        กดการสร้างเม็ดเลือดแดง ทำให้ผู้ป่วยมีอาการซีด
- - - - Streptomycin
      - Pyrazinamide
      - Rifampicin
      - Ethionamide
      - Isoniazid
      - ยากลุ่มนี้มีบทบาทสำคัญที่จะย่นระยะเวลาในการรักษาวัณโรคให้สั้นลง
    - - PAS
      - Cycloserine
      - Ethambuto
      - เมื่อใช้ร่วมกับยากลุ่มแรกเป็นเวลานานพอ
      - Thiacetazone
      - สามารถทำให้โรคหายขาดได้เช่นกัน
- - - - Metronidazole เป็นยาที่เลือกใช้เป็นอันดับแรกสำหรับโรคติดเชื้อโปรโตซัว trichomoniasis, amebiasis และ grardiasis
      - ฤทธิ์ไม่พึงประสงค์
        
        ปวดหัว วิงเวียน อารมณ์แปรปรวน เดินเซ ปลายประสาทอักเสบ ชัก
        
        เกิด disulfiram-like effects เมื่อดื่มสุรา มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว หน้าแดง ปวดท้อง และอาจรู้สึกว่า รสชาดของสุราที่ดื่มผิด ไปเมื่อใช้ยา
        
        คลื่นไส้อาเจียน ปากแห้ง รู้สึกมีรสโลหะในปาก เบื่ออาหาร ปวดท้อง ตับอ่อนอักเสบ
      - เป็นยาในกลุ่ม nitroimidazloes ได้แก่ Tinidazole, ornidazole
      - ประโยชน์ทางการแพทย์
        
        Giardiasis
        
        รับประทาน 250 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง 5-7 วัน หรือวันละ 2 กรัมเป็นเวลา 3 วัน
        
        ใช้ร่วมกับยาต้านจุลชีพอื่นๆ ในการกำจัดเชื้อ Helicobacter pylori ใน peptic ulcer เช่น ใช้ร่วมกับ amoxicillin, bismuth subsalicylate, tetracycline
        
        Amebiasis
        
        รับประทาน 250 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้งเป็นเวลา 7-10 วัน
        
        รับประทานครั้งละ 500 mg นาน 1 สัปดาห์
        
        Trichomoniasis
        
        รับประทาน 2 กรัม ครั้งเดียว หรือ 250 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง 7 วันควรรักษาพร้อมกันทั้งตัวผู้ป่วยและผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ด้วยแม้จะไม่มีอาการ
        
        (Metronidazole 500 mg + omeprazole 20 mg +
        clarithromycin 500 mg
        
        โดยยาแต่ละชนิดรับประทานในขนาดดังกล่าว วันละ 2 ครั้งเป็นเวลา 1 สัปดาห์ หรือนานกว่านี้
- - - - Mebendazole
        
        ขนาดและวิธีใช้
        
        พยาธิไส้เดือน พยาธิปากขอและพยาธิ
        แส้ม้า
        
        รับประทานครั้งละ 100 มก. เช้าและ
        เย็นติต่อกันเป็นเวลา 3 วัน
        
        พยาธิแคปิลลาเรีย
        
        รับประทานครั้งละ 200 มก. เช้าและ
        เย็นติดต่อกันเป็นเวลา 3-4 สัปดาห์
        
        พยาธิเส้นด้าย
        
        รับประทานครั้งเดียว 100 มก
        
        รูปแบบของยา
        
        เม็ดสำหรับเคี้ยว ขนาด 100 มก
        
        ยาน้้ำแขวนตะกอน ขนาด 100 มก./5 มล.
        
        ชื่อการค้า เช่น Danaben , Fugacar
        
        กลไกการออกฤทธิ์
        
        ยับยั้งการนำกลูโคสจาก host มาใช้ทำ
        ให้ไม่มีพลังงานเพื่อการอยู่รอดและสืบพันธุ์
        
        เป็นอัมพาตและตาย
        
        ยับยั้งการสังเคราะห์ microtubule ใน
        เซลผิวหนังและลำไส้ของพยาธิตัวกลม
        
        ถูกกำจัดออกจากทางเดินอาหารจนหมด
        หลังการรับยาประมาณ 3 วัน
        
        อาการไม่พึงประสงค์
        
        ปวดท้อง ท้องเดิน ไม่ควรใช้ในหญิงมีครรภ์
        
        ประโยชน์ที่ใช้
        
        ยานี้มีฤทธิ์ขับพยาธิไส้เดือน พยาธิเส้นด้าย พยาธิแส้ม้า พยาธิปากขอและพยาธิแคปิลลาเรียได้ผลด
      - albendazole
        
        ขนาดและวิธีใช้
        
        พยาธิไส้เดือนกลม พยาธิเส้นด้าย พยาธิแส้ม้า และพยาธิปากขอ
        
        ทานครั้งเดียว 400 มก.
        
        พยาธิสตรองจิย์ลอยด์
        
        ทาน 400 มก. เช้าและเย็นติดต่อกันเป็นเวลา 3-7 วันและถ้าให้ยาซ้้ำอีกหนึ่งชุดในเวลา7 วัน ต่อมา
        
        ผู้ใหญ่และเด็กอายุเกิน 2 ปีใช้ขนาดเท่ากัน
        
        อาการไม่พึงประสงค์
        
        ปวดศีรษะ คลื่นไส้ ปวดท้องและท้องเดิน
        
        ไม่ควรใช้ในหญิงมีครรภ์
        
        ควรระมัดระวังเป็นพิเศษในเด็กเล็ก เพราะไม่เคยมีการทดลองใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า2ปี
        
        กลไกการออกฤทธิ์
        
        ปริมาณ glycogen ที่สะสมไว้ลดลง
        
        พยาธิหยุดการเคลื่อนไหวและตาย
        
        ยับยั้งการนำกลูโคสจาก host มาใช้
        
        ประโยชน์ที่ใช้
        
        ยานี้มีประสิทธิภาพคล้ายมีเบนดาโซล
        
        แต่ได้ผลดีในการรักษาโรคพยาธิสตรองจิย์ลอยด์ด้วย
    - - Piperazine citrate
        
        กลไกการออกฤทธิ์
        
        ทำให้พยาธิเป็นอัมพาตแบบอ่อนเปลี้ย
        
        ถูกขับออกจากทางเดินอาหาร โดยการบีบตัวของลำไส้
        
        ยับยั้งฤทธิ์acetylcholine ที่กล้ามเนื้อ
        ของพยาธิ
        
        มีประโยชน์มากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ีพยาธิจำนวนมากจนอาจทำให้ลำไส้อุดตัน
        
        อาการไม่พึงประสงค์
        
        คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเดิน
        
        ความรู้สึกทางประสาทสัมผัสผิดปกติ
        
        ไม่ควรใช้ในผู้ป่วยที่มีประวัติโรคลมชัก
        
        ไม่ควรใช้ในผู้ป่วยโรคตับ โรคไต
        
        ประโยชน์ที่ใช้
        
        พยาธิตัวกลม เส้นด้าย
      - Pyrantel pamoate
        
        กลไกการออกฤทธิ์
        
        ยับยั้ง neuromuscular transmission
        
        ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์Cholinesterase ทำให้กล้ามเนื้อพยาธิเป็นอัมพาตแบบหดเกร็ง
        
        อาการไม่พึงประสงค์
        
        เกิดชั่วคราว อาจมีอาการปวดศีรษะ
        
        วิงเวียน ไข้เบื่ออาหาร คลื่นไส้
        
        อาเจียน ปวดท้องท้องเดิน
        
        ฤทธิ์ต่อพยาธิ
        
        พยาธิปากขอ ใส้เดือน เส้นด้าย
        
        ข้อควรระวัง
        
        ห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์และเด็กอายุต่ำกว่า2ปี
        
        ไม่ควรใช้ยาพร้อมกับ Piperazine
    - - Niclosamide
        
        ฤทธิ์และอาการไม่พึงประสงค์
        
        คลื่นไส้ ปวดท้อง มึนงง แต่ไม่รุนแรงและเกิดขึ้นชั่วคราว
        
        รูปแบบของยา
        
        Yomesan ชนิดเม็ดสำหรับเคี้ยวขนาด 500 มก.
        
        ข้อควรระวังในการใช้ยาและข้อห้ามใช้
        
        ยาไม่มีผลต่อไข่ของพยาธิ
        
        ดังนั้นในกรณีของพยาธิตืดหมูจึงเลือกรักษาด้วยยา Praziquantel เพื่อป้องกันการเกิด cysticercosis
        
        ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ ในวันที่รับประทานยา และหลังจากนั้นอีก 1 วัน
        
        แต่ถ้าใช้ Niclosamide จะต้องให้ยาระบาย (purgative)
        
        ขนาดและวิธีใช้
        
        ทานครั้งเดียวตอนเช้าและเวลาท้องว่าง
        
        ต้องเคี้ยวหรือบดให้ละเอียด
        
        เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปีให้ 1 เม็ด
        
        อายุ 2-6 ปีให้ 2 เม็ด
        
        อายุเกิน 6 ปี และผู้ใหญ่ให้ 4 เม็ด
        
        ถ้าเป็นพยาธิตืดหมูควรให้ยาถ่ายตามไปด้วยในเวลา 2 ชม. ต่อมา
      - Diethylcarbamazine
        
        กลไกการออกฤทธิ์
        
        มีฤทธิ์ฆ่าmicrofilaria ในกระแสเลือดโดยลดการทำงานของกล้ามเนื้อและทำให้ผิวของmicrofilaria เปลี่ยนไป
        
        พยาธิถูกทำลายโดยตับและกระบวนการphagocytosis
        
        มีฤทธิ์ฆ่าไมโครฟิลาเลียของพยาธิฟิลาเลียและพยาธิตัวแก่
        
        รูปแบบของยา
        
        Hetrazan ชนิดเม็ดมีDiethylcarbamazine citrate 50 มก.
        
        ฤทธิ์และอาการไม่พึงประสงค์
        
        คลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหารอ่อนเพลียปวดศีรษะ
        
        แต่ในการทำลายไมโครฟิลาเรียในเลือดโดยเฉพาะของพยาธิBrugia มักทำให้มีไข้ปวดกล้ามเนื้ออยู่2-3 วัน ซึ่งให้รับประทานยาลดไข้ก็ทุเลา
        
        วิธีใช้
        
        ให้รับประทานวันละ6 มก./กก. อาจให้ครั้งเดียวหรือแบ่งให้3 ครั้งทุกวัน เป็นเวลา 6-12 วัน
  - - - อาการไม่พึงประสงค์
        
        คลื่นไส้อาเจียน ท้องเดิน
        
        พิษต่อตา จนถึงตามัวและบอดได้
      - ขนาดและวีธีใช้
        
        ให้คั้นผลมะเกลือสด
        
        เตรียมจากมะเกลือในขนาด1 ผลต่ออายุ1 ปีแต่ไม่เกิน 25 ผล หรือให้สารสกัดมะเกลือขนาด50 มก./กก
        
        รับประทานเวลาท้องว่างอาจเป็นเวลาเช้ามืดและงดอาหารเช้า
      - ประโยชน์
        
        ขับพยาธิปากขอได้ดีมากพยาธิไส้เดือนกลมพยาธิแส้ม้าพยาธิเส้นด้ายพยาธิใบไม้ ลำไส้และพยาธิตัวตืด
    - - ประโยชน์
        
        ใช้เป็นยาอันดับแรกในการรักษาโรคพยาธิใบไม้เกือบทุกชนิด
        
        ใช้เป็นยารองในการรักษาพยาธิตัวตืดในลำไส้
        
        เป็นยาอันดับแรกในการรักษาพยาธิตืดหมู
      - ขนาดและวิธีใช้
        
        ไม่ควรเคี้ยว ควรกลืนทั้งเม็ดพร้อมอาหาร
      - อาการไม่พึงประสงค์
        
        เบื่อออาหาร คลื่นไส้ ปวดท้อง ท้องเดิน
        
        อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ มึนงง ง่วงนอน
        
        ไม่ควรใช้ในเด็กอายุต่ ากว่า 4 ปี ในหญิงมีครรภ์ ในหญิงระยะให้นมบุตร
      - กลไกการออกฤทธิ์
        
        ทำให้เกิดการต้านทานการดูดซึมสารกลูโคส ทำให้ระดับกลัยโคเจนของตัวพยาธิลดลง และทำให้พยาธิตายในที่สุด
        
        ยาเพิ่มการซึมเข้าของ Ca2+ ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ของพยาธิ ทำให้กล้ามเนื้อ เป็นอัมพาตแบบหดเกร็ง
    - - สารนี้มีฤทธิ์ขับพยาธิตืดวัวและตืดหมู
      - อาการไม่พึงประสงค์
        
        คลื่นไส้ อาเจียน ถ้าเป็นสารสกัดจะมีผลข้างเคียงน้อยลง
      - รูปแบบของยา
        
        ผงปวกหาด ได้จากการเคี่ยวแก่นมะหาดกับน้้ำจนเกิดฟอง แล้วช้อนฟองขึ้นมาทิ้งให้แห้ง
      - ขนาดและวิธีใช้
        
        มีการทดลองใช้แต่ในผู้ใหญ่ ให้งดอาหารเช้าและให้ผงปวกหาด 3 กรัม
        
        หรือสารสกัดผงประมาณ 2 กรัม รับประทานกับน้ำเย็น 2 ชม. ต่อมาให้รับประทานยาถ่าย
- - - - ออกฤทธิ์กว้าง มีฤทธิ์เป็น Fungicidal ต่อเชื้อ Candida albicans
      - หยุดการเจริญเติบโตของ Pityrosporum orbiculare (M.furfur) ได้
    - - เป็น Thiocarbamate ใช้รักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อ Dermatophyte
      - ใช้รักษา Candida ไม่ได้ผล
      - ในรายที่มีขุยหนา ๆ ผลการรักษาจะไม่ดี ต้องใช้10% Salicyli cointment ร่วมด้วย
      - ใช้รักษา Tinea pedis ได้ผลประมาณ 80%
      - มีใช้ในรูปของ 1% Ointment และ Solution
    - - ออกฤทธิ์กว้าง
      - มีผลต่อแบคทีเรีย และโปรโตซัวบางอย่าง
      - Clotrimazole, econazole และ Miconazole
    - - Benzoic acid + Salicylic acid
      - Benzoic acid มีฤทธิ์เป็นFungistatic
      - Salicylic acid เป็น Keratolytic ซึ่งทำให้ชั้น Keratinหลุดลอกออกไปเร็วขึ้น มีผลให้เชื้อราที่อาศัยอยู่ใน Keratin ถูกกำจัดไปด้วย
      - มักจะใช้ในการรักษา Tinea pedis
    - - ใช้สระผมรักษารังแคที่ศีรษะ และใช้ทารักษาโรคเกลื้อนได้
      - ดูดซึมได้ถ้าผิวหนังอักเสบหรือเป็นแผล
      - มีพิษมากถ้ารับประทานเข้าไป
      - มีอาการเบื่ออาหาร อาเจียน ซีด และตับเสียได้
      - เป็นผงสีส้มหรือน้ำตาลแดงมีกลิ่น Hydrogen sulphide อ่อน ๆ ไม่ละลายในน้ำและ Organic solvent 2.5%
    - - เป็นผลึกใสไม่มีกลิ่น ละลายได้ดีในน้ำแล้วเสื่อมสภาพได้ง่าย
      - ใช้ได้ไม่เกิน 2 สัปดาห์
      - ใช้ความเข้มข้น 10% ในน้ำล้างเท้า Sodium thiosulphate
      - เป็นสารที่ไม่มีพิษถ้ารับประทานเข้าไปมาก ๆ มีฤทธิ์เป็นยาระบาย
      - ใช้รักษาเกลื้อนด้วยความเข้มข้น 20% ใā้ป้องกันเชื้อราที่เท้าในบริเวณสระน้ำ
  - - - ยานี้มีอันตรายในการใช้ค่อนข้างสูง
      - เนื่องจากยาออกฤทธิ์โดยยับกับ sterols ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์
      - ความสามารถในการซึมผ่านของของเหลวผ่านเซลล์เพิ่มขึ้น
      - ยามีผลในการทำลายเชื้อรา
    - - มีเฉพาะในรูปของยาฉีดขนาด 50 มก./มล
      - ควรให้ยานี้โดยหยดผสมในน้ำเกลืออย่างช้า ๆ ให้ผสมใน Dextrose in water
      - ไม่ใช้ Saline Solution เนื่อาจจับกับเกลือโซเดียม ทำให้หมดฤทธิ์ได้องจากตัวยา
    - - เป็นยาต้านเชื้อราชนิดรับประทาน ใช้ได้ผลในการ รักษาการติดเชื้อรา
      - ใช้ได้ดีกับการรักษาการติดเชื้อราในผู้ป่วยโรคเอดส์
      - ขนาดที่ใช้ในการรักษาและระยะเวลาในการรักษาขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อรา
      - การติดเชื้อแคนดิดาในช่องคลอดอาจให้เพียงครั้งเดียว
      - การรักษา Cryptococcal memingitis อาจต้องให้ติดต่อกันนาน 6-8 สัปดาห์
    - - เป็นยาต้านเชื้อราชนิดรับประทานตัวแรกของยาในกลุ่ม Triazole
      - มีขอบเขตในการออกฤทธิ์กว้าง
      - อาการไม่พึงประสงค์
        
        คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องอืด
        และปวดศีรษะ
    - - เป็น Fungistatic ต่อเชื้อราโดยเฉพาะพวก Dermatophytes ใช้รักษาเชื้อรา
        ของผิวหนัง รวมทั้งผมและเล็บ
      - ยานี้ใช้ในรูปของยาเม็ด ขนาด 125, 250 และ 500 มก.
      - เด็กให้ 10 มก./กก./วัน
      - ผู้ใหญ่ให้วันละ 500 มก. ถึง 1 กรัม ต่อวัน
    - - รักษา Dermatophytes, Candidal
      - มีฤทธิ์ต่อ Gram positive cocci
      - มีฤทธิ์ต่อต้าน Parasite
    - - มีผลต่อ Candida, Cryptococcus, Histoplasma และBlastomyces
      - ยาถูกดูดซึมได้น้อยมากมากจากเดินอาหาร
      - จึงใช้เป็นยารับประทานรักษาเชื้อ Candida ในทางเดินอาหาร
- - - - ท้าให้เกิดการอักเสบ เมื่อใช้หยดหรือป้ายตา มีอาการบวมแดง คัน แสบ และ เคืองตา
  - - - เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน และ อ่อนเพลีย ยานี้กดการทำงานของไขกระดูก และ อาจทำให้มีการอักเสบของหลอดเลือดด้าในบริเวณที่ให้ยา
  - - - อาจมีผลต่อการทำงานของตับไต อาการคลื่นไส้อาเจียน
        ปวดท้อง ท้องเดิน
- - - - คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน อ่อนเพลีย ปวดศีรษะและเป็นพิษต่อตับ
      - ยาบางชนิดทำลายไขกระดูกหรือทำให้ปลายประสาทอักเสบ
      - ตับอ่อนอักเสบ