Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

รหัสวิชา 01179623 การจัดการเชิงกลยุทธ์กับการประกอบการ Strategic…

- - - - 3. สร้างกลยุทธ์ (STRATEGY FORMULATION)
        เขียนกลยุทธ์ที่มีความชัดเจน โดยระบุข้อมูลที่จำเป็นทุกอย่างที่ทำให้กลยุทธ์นั้นประสบผลสำเร็จ ขั้นตอนนี้ถือเป็นขั้นตอนสำคัญ
      - 2. วิเคราะห์ (ANALYSIS)
        วิเคราะห์ข้อมูลและสารสนเทศที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายองค์กร
      - 1) กําหนดเป้าหมาย (GOAL SETTING)
        องค์กรต้องระบุวิสัยทัศน์ เป้าหมาย ระยะสั้น/ยาว กิจกรรม ผู้รับผิดชอบที่จะส่งผลต่อการบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
  - - - Five Forces Model คิดค้นโดย Michael e. porter
      - เป็นการวิเคราะห์แรงกดดันทั้ง 5 ที่มีผลต่อสภาวะแวดล้อมในการแข่งขัน
        
        อำนาจต่อรองจากซัพพลายเออร์ (Power of Suppliers)
        
        การเข้ามาของผู้ประกอบการรายใหม่ (Threat of New Entrants)
        
        อำนาจต่อรองจากลูกค้า (Bargaining Power of Customers)
        
        การคุกคามจากสินค้าทดแทน (Threat of Substitutes)
        
        การแข่งขันของผู้ที่อยู่ในตลาดเดิม (Industry Rivalry)
      - Five Forces Model
    - - SWOT Analysis คิดค้นโดย Albert Humphrey
      - SWOT Analysis เป็นเครื่องมือสำหรับการวางแผนกลยุทธ์เบื้องต้น เพื่อใช้วิเคราะห์สถานการณ์ขององค์กรและกระบวนการทำงานของธุรกิจในปัจจุบัน รวมทั้งสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ในอนาคต ผ่านการวิเคราะห์ปัจจัย 4 ประการ
      - ปัจจัยภายนอกองค์กร
        O – Opportunities (โอกาส) โอกาสทางธุรกิจที่จะส่งผลดีต่อการดำเนินงาน
        T – Threats (อุปสรรค) ผลกระทบเชิงลบทางธุรกิจที่เกิดจากปัจจัยภายนอก
      - ปัจจัยภายนอกองค์กร
        S – Strength (จุดแข็ง) ทำได้ดีหรือปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งเสริมให้เกิดความแตกต่าง
        W – Weakness (จุดอ่อน) ข้อด้อยที่ทำให้ธุรกิจเสียเปรียบในการแข่งขัน
      - SWOT Analysis
    - - Tows Matrix เครื่องมือสำหรับการสร้างกลยุทธ์ใหม่จากสภาพแวดล้อมและสถานการณ์ปัจจุบันขององค์กร ที่มีการต่อยอดมาจาก SWOT Analysis ด้วยการจับคู่ระหว่างปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกขององค์กร
      - 1. กลยุทธ์เชิงรุก (SO)
        เป็นการจับคู่ระหว่าง Strength และ Opportunity (ใช้จุดแข็งร่วมกับโอกาส)
        สำคัญต่อการเติบโตของธุรกิจเพราะเป็นกลยุทธ์ที่เน้นสร้างประโยชน์สูงสุด
      - 2. กลยุทธ์เชิงแก้ไข (WO)
        เป็นการจับคู่ระหว่าง Weakness และ Opportunity (ใช้โอกาสลดจุดอ่อน)
        ทุกธุรกิจจะมีจุดอ่อน บางครั้งการอุดจุดอ่อนอาจเป็นเรื่องของจังหวะเวลา ที่จะเป็นตัวช่วยให้ธุรกิจแก้ไขจุดอ่อนหรือลดทอนจุดอ่อนของตัวเองลงไปได้
      - 3. กลยุทธ์เชิงป้องกัน (ST)
        เป็นการจับคู่ระหว่าง Strength และ Threat (ใช้จุดแข็งรับมืออุปสรรค)
        เป็นการใช้จุดแข็งที่มีอยู่มาป้องกันหรือหลีกเลี่ยงอุปสรรคที่อาจจะเกิดขึ้น
      - 4. กลยุทธ์เชิงรับ (WT)
        เป็นการจับคู่ระหว่าง Weakness และ Threat (แก้ไขจุดอ่อนและเลี่ยงอุปสรรค)
        มีไว้เพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ถาโถมเข้ามา ไม่ได้ใช้เพื่อหวังมุ่งไปข้างหน้า
      - Tows Matrix*
    - - ตอบคำถาม 4 คำถามหลัก โดยมีเป้าหมายเพื่อให้องค์กรสามารถค้นหาวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศได้อย่างเป็นระบบ
      - Robert C. Camp
        Father of Benchmarking
      - องค์กรสามารถตั้งเป้าหมายที่สะท้อนความเป็นจริง ในขณะเดียวกันก็ทำให้ Productivity ขององค์กรสูงขึ้น
      - เป็นเครื่องมือบริหารจัดการที่ผู้ใช้มีความพึงพอใจอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง เพราะส่งผลให้องค์กรสามารถพัฒนาศักยภาพของตนเองได้จริง
      - ยึดถือจรรยาบรรณของการทำ Benchmarking” (Benchmarking Code of Conduct) ที่สร้างขึ้นมาให้ทุกคนปฏิบัติตาม
      - Benchmarking