Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา พ.ศ 2547 - Coggle Diagram
พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการครูและ
บุคลากรทางการศึกษา พ.ศ 2547
หมวด ๘
การออกจากราชการ
มาตรา ๑๑๔ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดไปรับราชการทหารตามกฏหมายให้ผู้มีอำนาจสั่งให้ผู้นั้นออกจากราชการ
มาตรา ๑๑๘ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่โอนมาจากพนักงานส่วนท้องถิ่นตามกฎหมายผู้ใดสมควรให้ออกจากงานหรือออกจากราชการให้ผู้บังคับบัญชามีอำนาจพิจารณาตามมาตราดังกล่าว
มาตรา ๑๑๓ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดต้องรับโทษจำคุกโดยคำสั่งของศาลให้ผู้นั้นออกจากราชการเพื่อรับบำเหน็จบำนาญ
มาตรา ๑๑๙ ภายใต้บังคับหมวด ๗ และหมวด ๙ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาอาจถูกสั่งพักราชการหรือถูกสั่งให้ออกจากราชการได้
มาตรา ๑๑๕ กรณีผู้มีอำนาจตามมาตรา ๕๓ ไม่ปฏิบัติหน้าที่หรือมาตรา ๔๙ และมาตรา ๕๖ ให้ผู้บังคับบัญชาที่มีตำแหน่งเหนือขึ้นไปมีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้ง
มาตรา ๑๐๙
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาตในกรณีผู้ถูกสั่งให้ออกจากราชการถ้าภายใน 30 วันที่ได้รับหนังสือแจ้งหากมีตำแหน่งว่างให้ผู้บังคับบัญชาส่งเรื่องเพื่อพิจารณาอนุมัติแต่งตั้งได้
มาตรา ๑๑๒ ครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดมีกรณีถูกตั้งกรรมการสอบสวนเห็นว่ามีเหตุอันสมควรว่าการกระทำผิดร้ายแรงแต่สอบสวนไม่ได้ความแน่ชัดพอที่จะสั่งลงโทษให้ส่งเรื่องให้พิจารณาต่อไป
มาตรา ๑๐๗
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาออกจากราชการเมื่อ
๑.ตาย
๒.ผลจากราชการตามกฏหมาย
๓.ลาออกจากราชการ
๔.ถูกสั่งให้ออก
๕.ถูกสั่งลงโทษปลดออกหรือไล่ออก
๖.ถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
มาตรา ๑๑๐ ผู้มีอำนาจตามมาตรา ๕๓ มีอำนาจสั่งให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาออกจากราชการเพื่อรับบำเหน็จบำนาญตามกฎหมายได้
มาตรา ๑๐๘
ครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดประสงค์จะลาออกจากราชการให้ยื่นหนังสือขอลาออกต่อผู้บังคับบัญชา
มาตรา ๑๑๗ เมื่อผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางวินัยหรือสั่งให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาออกจากราชการไปแล้วพิจารณาเห็นสมควรต้องสืบสวนใหม่เพิ่มเติมเพื่อความเป็นธรรม
มาตรา ๑๑๖ กรณีหัวหน้าส่วนราชการหรือผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาได้รับรายงานสมควรให้ครูและบุคลากรใดออกจากราชการให้หัวหน้าส่วนหรือผู้อำนวยการดำเนินการตามมาตราดังกล่าว
มาตรา ๑๑๑ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดมีกรณีถูกกล่าวหาหรือมีเหตุอันสมควรสงสัยว่าหย่อนความสามารถที่จะปฏิบัติหน้าที่ราชการให้ผู้ที่มีอำนาจสั่งสอบสวนได้
มาตรา ๑๒๐
การออกจากราชการของข้าราชการครูและบุคลากรในตำแหน่งซึ่งมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้นำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงทราบเว้นแต่ออกจากราชการตามมาตรา ๑๐๗
หมวด ๔ การบรรจุและการแต่งตั้ง
มาตรา ๖๒
ภายใต้บังคับมาตรา 57 และ 59 ให้แต่งตั้งตามลำดับบัญชีที่สอบได้
มาตรา ๖๘
ภายใต้บังคับกฎหมายระเบียบนิหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ ถ้าตำแหน่งถ้าตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใดว่าง ให้ผู้มีให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 สั่งให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไปดำรงตำแหน่งนั้นแทน
มาตรา ๕๙
การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาหรือผู้ใดไป ดำ ดำรงตำแหน่งในหน่วยงานการศึกษาอื่นภายในเขตพื้นที่ ต้องได้รับอนุญาต อ.ก.ค.ศ.
มาตรา ๖๐
ภายใต้บังคับมาตรา 57 และ 59 ให้ ก.ค.ศ. ดำเนินการให้มีการสับเปลี่ยนหน้าที่หรือย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
มาตรา ๕๘
การโอนพนักงานส่วนท้องถิ่นตามกฏหมายว่าด้วยระเบียบบริหารงานบุคคลที่ไม่ใช่พนักงานวิสามัญมาบรรจุและแต่งตั้งได้หากบุคคลนั้นสมัครใจ
มาตรา ๖๖
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาถูกสั่งให้ออกจากราชการ เพื่อไปรับราชการทหารตามกฏหมาย แล้วไม่กระทำผิดอันใดหากประสงค์จะเข้ารับราชการข้าราชการครูและบุคลากรกทางการศึกษาให้ยื่นเรื่องขอกลับบ้านใน ๑๘๐ วัน
มาตรา ๕๖
ผู้ใดได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้เข้ารับราชการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและให้ดำรงตำแหน่ง ตามมาตรา 45 หรือ 50 ทดลองปฏิบัติหน้าที่ข้าราชการในตำแหน่ง
มาตรา ๖๔
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดออกจากข้าราชการไปแล้วและไม่ใช่ออกระหว่างปฎิบัติงานถ้าสมัครเข้ารับราชการให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 บรรจุและแต่งตั้ง
มาตรา ๕๕
ให้มีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะสำหรับตำแหน่งที่มีใบอนุญาตประกอบเป็นระยะๆ
มาตรา ๔๘
อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาอาจรับสมัครสอบแข่งขันเฉพาะบุคคลที่มีคุณสมบัติพิเศษในสาขาวิชานั้นก็ได้
มาตรา ๕๔
การให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะใดและการเลื่อนวิทยฐานะต้องเป็นไปตามมาตรา 46
มาตรา ๖๓
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดได้รับให้เลื่อนตำแหน่งโดยไม่เข้าเกณฑ์การเลื่อน ให้ผู้มีอำนาจตรา ให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 สั่งให้กลับไปตำแหน่งเดิมทันที
มาตรา ๖๑
การเลื่อนตำแหน่งของบุคลากรทางการศึกษาให้กระทำได้โดย การสอบแข่งขัน
สอบคัดเลือก
มาตรา ๕๐
ในกรณีที่มีความจำเป็นที่ อ.ก.ค.ศ. ไม่สามารถดำเนินการสอบแข่งขันได้ อ.ก.ค.ศ.
อาจคัดเลือกบุคคลโดยวิธีอื่นได้
มาตรา ๖๗
พนักงานส่วนท้องถิ่นตามกฏหมายเมื่อออกจากราชการไปแล้ว หากประสงค์จะเข้ารับราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้ผู้มีอำนาจตามให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 ที่ประสงค์จะเข้ารับราชการยื่นเรื่องเสนอให้ ก.ค.ศ.
มาตรา ๕๒
นอกจากการบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาแล้ว ก.ค.ศ. อาจกำหนดให้ตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นสัญญาจ้างปฏิบัติงาน
มาตรา ๔๗
อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาเป็นผู้ดำเนินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
มาตรา ๖๕
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ออกจากราชการไปปฏิบัติงานใดให้จำนวนให้จำนวนงานนั้นเป็นบำเหน็จบำนาญ
มาตรา ๕๖
ผู้สมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องมีคุณสมบัติทั่วไปตามมาตรา ๓๐ และคุณสมบัติเฉพาะมาตรา ๔๒
มาตรา ๔๙
ผู้ที่ได้รับการบรรจุ และแต่งตั้งเข้ารับราชการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาหากขาดคุณสมบัติทั่วไปตามที่กำหนดไว้จะถูกออกจากราชการโดยพลัน
มาตรา ๔๕
การบรรจุบุคคลเข้ารับราชการให้บรรจุและแต่งตั้งจากผู้สอบแข่งขันได้จากตำแหน่งนั้น
มาตรา ๕๗
การเปลี่ยนตำแหน่งการย้ายและการโอนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้เป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด
มาตรา ๗๐
ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นในกรณีที่มีเหตุจำเป็น หัวหน้าส่วนราชการ มีอำนาจสั่งให้ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาประจำ และบุคลากรทางการศึกษาประจำส่วนราชการ เป็นชั่วคราวแล้วแต่กรณี
มาตรา ๕๑
หน่วยงานการศึกษาได้มีเหตุจำเป็นหน่วยงานการศึกษาได้มีเหตุจำเป็นเพื่อประโยชน์แก่ราชการที่จะต้องบรรจุให้หน่วยงานการศึกษาดำเนินขอความเห็นชอบจาก อ.ก.ค.ศ.
มาตรา ๖๙
ในกรณีที่มีความจำเป็นในกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อประโยชน์ของราชการ ก.ค.ศ. อาจเสนอแนะ ต่อหัวหน้าส่วนราชการให้สั่งข้าราชการผู้ใดไปปฏิบัติงานนั้นชั่วคราวได้
หมวด ๖ วินัยและการรักษาวินัย
มาตรา ๙๗ การลงโทษข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ทำเป็นคำสั่งวิธีการออกคำสั่งเกี่ยวกับการลงโทษให้เป็นไปตามระเบียบ
มาตรา ๘๕ ครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องปฏิบัติตามกฎหมายระเบียบแบบแผนทางราชการและหน่วยงานการศึกษาโดยถือประโยชน์สูงสุดของผู้เรียนและไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ
มาตรา ๘๘ ครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องประพฤติเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้เรียน สังคม มีความสุภาพเรียบร้อยรักษาความสามัคคีและช่วยเหลือเกื้อกูลผู้เรียน
มาตรา ๘๙ ครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องไม่กลั่นแกล้งกล่าวหาหรือร้องเรียนผู้อื่นโดยปราศจากความเป็นจริง
มาตรา ๙๐ ครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องไม่กระทำการหรือยอมให้ผู้อื่นกระทำการหาประโยชน์อันอาจทำให้เสื่อมเสียความเที่ยงธรรมหรือเกียรติศักดิ์ในตำแหน่งหน้าที่ราชการ
มาตรา ๙๖ ข้าราชการครูและบุคลากรผู้ใดฝ่าฝืนข้อห้ามหรือไม่ปฏิบัติตามวินัยผู้นั้นเป็นผู้กระทำความผิดต้องได้รับโทษทางวินัย
มาตรา ๘๒ ครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องรักษาวินัยที่บัญญัติไว้เป็นข้อห้ามและข้อปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
มาตรา ๙๕ ให้ผู้บังคับบัญชามีหน้าที่เสริมสร้างและพัฒนาให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชามีวินัยป้องกันมิให้กระทำผิดวินัย
มาตรา ๘๖ ครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาโดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบของราชการโดยไม่ขัดขืนหรือเห็นว่าคำสั่งนั้นก่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ
มาตรา ๘๗ ครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องตรงต่อเวลาและอุทิศเวลาของตนให้แก่ทางราชการและผู้เรียนโดยไม่ละทิ้งหน้าที่อันไม่มีเหตุสมควร
มาตรา ๙๑ ครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องไม่คัดลอกหรือลอกเรียนผลงานทางวิชาการของผู้อื่นโดยมิชอบ
มาตรา ๘๔ ครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์เสมอภาคและเที่ยงธรรมตามจรรยาบรรณวิชาชีพ
มาตรา ๙๔ ข้าราชการครูและบุคลากรต้องรักษาชื่อเสียงของตนและรักษาเกียรติของตำแหน่งหน้าที่มิให้เสื่อมเสีย
มาตรา ๘๓ ครูและบุคลากรต้องสนับสนุนการปกครองระบบประชาธิปไตยและวางรากฐานให้เกิดระบบการปกครอง
มาตรา ๙๒ ข้าราชการครูและบุคลากรต้องไม่เป็นกรรมการผู้จัดการหรือผู้จัดการที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท
มาตรา ๙๓ ครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องวางตนเป็นกลางทางการเมืองในการปฏิบัติหน้าที่
หมวด ๙ การอุทธรณ์และการร้องทุกข์
มาตรา ๑๒๓ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดเห็นว่าตนไม่ได้รับควาทเป็นธรรมหรือคับข้องใจจากการกระทำของผู้บังคับบัญชาหรือการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยให้ผู้นั้นมีสิทธิ์ร้องทุกข์ต่อแล้วแต่กรณี
มาตรา ๑๒๖ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาซึ่งโอนมาจากพนักงานส่วนท้องถิ่นตามกฏหมายผู้ใดถูกสั่งลงโทษทางวินัยก่อนวันโอนมาบรรจุและผู้นั้นมีสิทธิ์อุทธรณ์ได้ตามกฏหมายแต่ยังไม่ได้ใช้สิทธิ์อุทธรณ์ให้ผู้นั้นมีสิทธิ์อุทธรณ์ตามหมวดนี้
มาตรา ๑๒๑ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดถูกสั่งลงโทษภาคทัณฑ์ตัดเงินเดือนหรือลดเงินเดือนให้มีสิทธิ์อุทธรณ์ต่อเขตพื้นที่การศึกษาภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง
มาตรา ๑๒๕ เมื่อเขตพื้นที่การศึกษาได้วินิจฉัยอุทธรณ์หรือร้องทุกข์ตามมาตรา ๑๒๑ แล้วข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใดเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมให้มีสิทธิ์อุทธรณ์หรือร้องทุกข์ตามหมวดนี้
มาตรา ๑๒๒ ข้าราชการครูและบุคลากรผู้ใดถูกสั่งลงโทษปลดออกไล่ออกหรือถูกสั่งให้ออกจากราชการให้มีสิทธิ์อุทธรณ์หรือร้องทุกข์แล้วแต่กรณีภายใน ๓๐ วัน
มาตรา ๑๒๔ หลักเกณฑ์และวิธีการในเรื่องที่เกี่ยวกับการอุทธรณ์และการร้องทุกข์และพิจารณาร้องทุกข์ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฏ
หมวด๒ บททั่วไป
มาตรา ๓๒
เพื่อประโยชน์ในการออมทรัพย์ของข้าราชการหักเงินเดือนไปเป็นเงินสะสมก็ได้
มาตรา ๓๐
ภายใต้บังคับว่าด้วยสภาครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ที่เข้ารับราชการครูและบุคลากรการศึกษาต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้
มาตรา ๓๓
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาอาจได้รับเงินเพิ่มตามตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ
มาตรา ๓๔
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาอาจได้รับเงินค่าครองชีพเพิ่มชั่วคราวตามสภาวะเศรษฐกิจ
มาตรา ๓๕
วันหยุดประเพณีและการลาหยุดของข้าราชครู และบุคลากรทางการศึกษาให้เป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กำกำหนดไว้
มาตรา ๓๖
เครื่องแบบของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้เป็นไปตามระเบียบที่กฎหมายนั้น
มาตรา ๓๑
อัตราเงินเดือนเงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่ และเงินประจำตำแหน่งให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยเงินเดือน เงินวิทยฐานะและเงินประจำตำแหน่ง
มาตรา ๓๗
บำบำเหน็จบำนาญข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น
มาตรา ๒๙
การดำเนินงานตาม พ.ร.บ. นี้ให้เป็นไปตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
หมวด ๕
การเสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ
มาตรา ๗๗ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดถึงแก่ความตายอันเนื่องมาจากปฏิบัติราชการให้จัดสวัสดิการแก่ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
มาตรา ๗๕ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดมีความคิด มีผลงานเด่นให้กระทรวงเจ้าสังกัดยกเชิดชูตามกรณี
มาตรา ๗๖ ให้หน่วยงานการศึกษาจะสวัสดิการให้แก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตามความเหมาะสมกับฐานะ
มาตรา ๗๙ ให้ผู้บังคับบัญชาปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างแก่ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา และมีหน้าที่พัฒนาเพื่อให้ความรู้ คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพที่เหมาะสม
มาตรา ๗๔ ให้กำหนดเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อให้ปฏิบัติงานบังเกิดผลดีและมีความก้าวหน้าได้มาตรฐานงานราชการ
มาตรา ๗๘ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดได้รับการบรรจุและแต่งตั้งตามมาตรา ๔๕ หรือ ๕๐ ให้ผู้บังคับบัญชาแจ้งภาระงานมาตรฐานคุณภาพงานวิชาชีพ จรรยาบรรณวิชาชีพเกณฑ์การประเมินผลระเบียบแบบแผนและวิธีปฏิบัติราชการตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
มาตรา ๗๓ การเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ผู้บังคับบัญชาแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อพิจารณา
มาตรา ๘๐ ให้มีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งบางตำแหน่งและบางวิทยฐานะ
มาตรา ๗๒ ให้ผู้บังคับมีหน้าที่การปฏิบัติของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาโดยยึดหลักการปฏิบัติตนที่เหมาะสมกับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ
มาตรา ๘๑ ให้ผู้บังคับบัญชามีหน้าที่ส่งเสริมสนับสนุนอยู่ใต้บังคับบัญชา โดยการให้ไปศึกษาอบรม ดูงาน ตามระเบียบที่กำหนด
หมวด ๓ การกำหนดตำแหน่ง
มาตรา ๓๘
ตำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามี ๓ ประเภท
มาตรา ๓๙
ให้ตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาบางตำแหน่ง เป็นตำแหน่งที่มีวิทยฐานะ
มาตรา ๔๐
ให้ตำแหน่งให้ตำแหน่งคณาจารย์เป็นตำแหน่งทางวิชาการ
มาตรา ๔๑
ตำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจะมีหน่วยงานการศึกษาจำนวนเท่าใดและต้องใช้คุณสมบัติให้เป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด
มาตรา ๔๒
ก.ค.ศ. จัดทำมาตรฐาน
จัดทำมาตรฐานตำแหน่งวิทยฐานะและตำแหน่งทางวิชาการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไว้ เป็นบรรทัดฐาน
มาตรา ๔๓
ก.ค.ศ. มอบหมายตรวจสอบการกำหนดและการใช้ตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้เหมาะสม
มาตรา ๔๔
ให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับเงินเดือนเงินวิทยฐานะและเงินประจำตำแหน่งว่าด้วยกฎหมายของเงินเดือนฯ
หมวด๗ การดำเนินการทางวินัย
มาตรา ๑๐๓ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดวินัยร้ายแรงจนต้องมีการสอบสวนให้มีอำนาจสั่งพรรคราชการหรือสั่งให้ออกจากราชการเพื่อรอฟังผลการสอบสวน
มาตรา ๑๐๒ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดออกจากราชการอันมิใช่เพราะเหตุตายมีกรณีถูกกล่าวหาเป็นหนังสือก่อนออกราชการต้องลงโทษภายใน 3 ปีนับตั้งแต่วันออกราชการ
มาตรา ๑๐๑ ให้กรรมการสอบสวนเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญาและให้มีอำนาจเช่นเดียวกับพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายพิจารณาความอาญาเพียงเท่าที่เกี่ยวกับอำนาจและหน้าที่ของกรรมการสอบสวน
มาตรา ๑๐๔ เมื่อผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางวินัยหรือดำเนินการสอบสวนครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดหรือสั่งให้ข้าราชการออกจากราชการไปแล้วให้ดำเนินการรายงานทางวินัย
มาตรา ๑๐๐ ครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดทำผิดวินัยไม่ร้ายแรงให้ลงโทษตัดเงินเดือนหรือลดเงินเดือนตามแต่เหมาะสมกับความผิด
มาตรา ๑๐๕ ผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางวินัยหรือสั่งให้ครูหรือบุคลากรทางการศึกษาออกจากราชการในเรื่องใดไปแล้วถ้าพิจารณาเห็นสมควรโดยสอบสวนใหม่หรือเพิ่มเติมเพื่อความเป็นธรรม
มาตรา ๙๙ เมื่อได้ดำเนินการสอบสวนผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้กระทำผิดให้สั่งยุติเรื่องและหากกระทำผิดให้ลงโทษตามวินัย
มาตรา ๑๐๖ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาซึ่งโอนมาจากพนักงานส่วนท้องถิ่นตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารงานคนส่วนท้องถิ่นผู้ได้กระทำผิดวินัยอยู่ก่อนมาบรรจุให้ดำเนินการทางวินัยโดยอนุโลมแต่ถ้าอยู่ระหว่างการสืบสวนให้สืบสวนต่อไปจนเสร็จ
มาตรา ๙๘ การดำเนินการทางวินัยแก่ครูและบุคลากรให้ผู้บังคับบัญชาแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อดำเนินการให้ได้ความจริงและความยุติธรรม
หมวด๑
คณะกรรมการการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
มาตรา ๑๙ ให้ ก.ค.ศ. มีอำนาจและหน้าที่
มาตรา ๒๐
ให้มีสำนักงาน ก.ค.ศ. โดยมีเลขาธิการ ก.ค.ศ. ซึ่งมีฐานะเป็นอธิบดีเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการบริหารงานข้าราชการของสำนักงาน ก.ค.ศ.
มาตรา ๑๕
นอกจากการพ้นตำแหน่งวาระกรรมการผู้แทนข้าราชการและบุคลากรทางการศึกษาก็อาจจะพ้นเมื่อ ตาย ล้มละลาย ลาออก ไร้ความสามารถ ฯลฯ
มาตรา๑๓
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและกรรมการผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวาระอยู่ที่ตำแหน่ง ๔ ปี
มาตรา ๒๑ ยกเลิก
มาตรา ๑๔
นอกจากการพ้นตำแหน่งวาระกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิก็อาจจะพ้นเมื่อ ตาย ล้มละลาย ลาออก
ไร้ความสามารถ ฯลฯ
มาตรา ๒๓
ให้ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามีอำนาจและเขตพื้นที่การศึกษามีอำนาจและหน้าที่
มาตรา ๑๒
กรรมการผู้แทนบุคลากรทางการศึกษาอื่นต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้
มาตรา ๒๔
ให้ผู้อำนวยการให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเป็นผู้บริหารราชการและเป็นผู้บังคับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษานั้น
มาตรา ๑๖
การประชุม ก.ค.ศ ต้องมีกรรมการไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งหมดมาประชุมจึงเป็นองค์ประชุม
มาตรา ๑๐
กรรมการผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษาต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนด
มาตรา ๑๑
กรรมการผู้แทนข้าราชการครูต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้
มาตรา ๑๘
ภายใต้บังคับมาตรา๑๗ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาการศึกษาเป็น ก.ค.ศ. หรือ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาตามพระราชบัญญัตินี้ขณะเดียวกันมิได้
มาตรา ๒๖
ให้คณะกรรมการสถานศึกษามีอำนาจและให้คณะกรรมการสถานศึกษามีอำนาจและหน้าที่เกี่ยวกับงานบริหารงานข้าราชการและบุคลากรทางการศึกษา
มาตรา ๙
กรรมการผู้แทนผู้อำนวยการ สนง. เขตพื้นที่การศึกษาต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนด
มาตรา ๒๗
ให้ผู้บริหารสถานศึกษาเป็นผู้บังคับบัญชาของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษามีอำนาจให้ผู้บริหารสถานศึกษาเป็นผู้บังคับบัญชาของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษามีอำนาจหน้าที่
มาตรา ๒๕
ในส่วนราชการอื่นให้ ก.ค.ศ. ตั้ง อ.ก.ค.ศ.
มาตรา ๘
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ต้องมีคุณสมบัติตามที่
หมวด ๗
คณะกรรมการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เรียกว่า
คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
(ก.ค.ศ.)
มาตรา ๑๗ ก.ค.ศ. มีอำนาจตั้งแต่อนุกรรมการวิสามัญ
มาตรา ๒๘
ให้ผู้บริหารหน่วยงานการศึกษาเป็นผู้บังครับบัญชาและบริหารหน่วยงานและมี ให้นำมาตรา ให้นำมาตรา 27 มาใช้บังคับผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวโดยอนุโลม
มาตรา ๒๒ การประชุม อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาให้นำเขตพื้นที่การศึกษาให้นำความในมาตรา 16 มาใช้บังคับโดยอนุโลม
บทเฉพาะกาล
มาตรา ๑๓๖ ผู้ใดถูกลงโทษตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครู ๒๔๒๓ หรือพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน ๒๕๓๕ พระราชบัญญัตินี้ให้ผู้นั้นมีสิทธิ์อุทธรณ์ได้ตามมาตรา ๑๒๑ และมาตรา ๑๒๒ แล้วแต่กรณี
มาตรา ๑๓๑ ผู้ใดเป็นข้าราชการพลเรือน สามัญตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนสังกัดส่วนราชการหรือหน่วยงานใดในกระทววงอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับให้เป็นข้าราชการพลเรือนสามัญต่อไป
มาตรา ๑๓๕ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาซึ่งโอนมาจากพนักงานส่วนท้องถิ่นตามกฏหมายผู้ใดกระทำผิดวินัยหรือสมควรให้ออกจากราชการให้ผู้บังคับบัญชาตามพระราชบัญญัตินี้มีอำนาจดำเนินการทางวินัยแก่ผู้นั้น
มาตรา ๑๓๗ ผู้ใดถูกสั่งให้ออกจากราชการตามมาตรา ๔๓ หรือมาตรา ๕๖ แห่งพระราชบัญญัติข้าราชการครูและพระราชบัญญัติข้าราชการพลเรือนให้มีสิทธิ์ร้องทุกข์ได้ตามมาตรา ๑๒๒
มาตรา ๑๓๔ ข้าราชการครูหรือข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดที่เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตรทพระราชบัญญัตินี้มีกรณีกระทำผิดวินัยหรือกรณีสมควรให้ออกจากราชการให้ผู้บังคับบัญชามีอำนาจสั่งลงโทษเรื่องนั้น
มาตรา ๑๒๙ หน่วยงานทางการศึกษาใดที่ได้มีการกำหนดไว้ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูให้ถือว่าเป็นหน่วยงานการศึกษาตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๑๓๓ ในระหว่างที่ยังมิได้ตราพระราชกฤษฎีกาหรือยังมิได้ออกกฏข้อบังคับระเบียบหรือจัดทำมาตรฐานตำแหน่งวิทยฐานะให้นำพระราชกฤษฎีกาที่กำหนดไว้แล้วใช้บังคับอยู่เดิมมาใช้บังคับโดยอนุโลม
มาตรา ๑๓๘ การใดอยู่ระหว่างดำเนินการตามพระราชบัญญัติข้าราชการครูหรือตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการเฉพาะการบริหารงานบุคคลที่เกี่ยวกับข้าราชการครูและกระทรวงวัฒนธรรมให้การดำเนินการต่อ
มาตรา ๑๓๒ ในระหว่างที่ยังไม่มีการตรากฏหมายกำหนดให้ข้าราชการครูซึ่งปฏิบัติงานอยู่ในสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลมหาวิทยาลัยราชภัฏและและสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันเป็นข้าราชการพลเรือนในสถาบันให้อุดมศึกษาให้ถือว่าบุคคลดังกล่าวเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
มาตรา ๑๒๘ ให้ทำหน้าที่ดำเนินการสรรหาบุคคลที่เหมาะสมเพื่อเสนอต่อรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นชั่วคราวและเขตพื้นที่การศึกษาชั่วคราวทุกพื้นที่
มาตรา ๑๓๐ ข้าราชการครูตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครู ๒๕๒๓ ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับให้ถือว่าเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
มาตรา ๑๓๙ การใดที่เคยดำเนินการตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครู ๒๕๒๓ หรือตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ ๒๕๔๖ ก่อนวันใช้บังคับพระราชบัญญัตินี้และมิได้บัญญัติไว้ให้เป็นไปตามกฎหนด
มาตรา ๑๒๗ ในระหว่างที่ยังมิได้ดำเนินการให้มีตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูทำหน้าที่จนกว่าจะมีการแต่งตั้งชั่วคราวและเขตพื้นที่การศึกษาชั่วคราวแต่ต้องไม่เกิน ๓๐ วันนับตั้งแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
มาตรา ๑๔๐ ในกรณีที่ตั้งวิสามัญ เฉพาะกิจขึ้นปฏิบัติหน้าที่ใดแทนตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูให้วิสามัญหรือวิสามัญเฉพาะกิจนั้นปฏิบัติหน้าที่ตามที่มอบหมายต่อไปจนกว่าจะแล้วเสร็จ