Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547, บำรุงศักดิ์…
พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547
หมวด๑ คณะกรรมการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
มาตรา๗ ให้มีคณะกรรมการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาคณะหนึ่ง เรียกว่า “คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา” เรียกโดยย่อว่า “ก.ค.ศ.”
มาตรา ๘ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม
(๖) เป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องความซื่อสัตย์ ความยุติธรรม และไม่เคยมีประวัติ
(๕) ไม่เป็นเจ้าหน้าที่ ที่ปรึกษา หรือผู้มีตําแหน่งบริหารในพรรคการเมือง
(๔) ไม่เป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
(๓) ไม่เป็นผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง
(๑) มีสัญชาติไทย
(๒) มีอายุไม่ต่ำกว่าสามสิบห้าปีและไม่เกินเจ็ดสิบปี
มาตรา ๙ กรรมการผู้แทนผู้อํานวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้องมี
(๑)มีใบประกอบวิชาชีพ
(๒)เป็นผู้ได้รับการยอมรับในเรื่องความซื่อสัตย์และไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสียทางจริยธรรม
มาตรา ๑๐ กรรมการผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้บริหารสถานศึกษาที่เรียกชื่ออย่างอื่นในหน่วยงานการศึกษา ตามที่ ก.ค.ศ. กําหนดต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
(๒)มีประสบการณ์ด้านการบริหารในตําแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้บริหาร
(๑) มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และไม่เคยถูกพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาต
(๓)เป็นผู้ได้รับการยอมรับในเรื่องความซื่อสัตย์และไม่เคยมีประวัติและเสื่อมเสียทางจริยธรรม จรรยาบรรณ และการประกอบอาชีพ
มาตรา 11 กรรมการผู้แทนข้าราชการครูต้องมีคุณสมบัติ
(๒) มีประสบการณ์ด้านปฏิบัติการสอนในวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าครูชํานาญการ หรือมีประสบการณ์การสอนเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสิบห้าปี
(๓) เป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องความซื่อสัตย์ ความยุติธรรม และไม่เคยมีประวัติ เสื่อมเสีย
(๑) มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และไม่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพมาก่อน
มาตรา ๑๒ กรรมการผู้แทนบุคลากรทางการศึกษาอื่นต้องมีคุณสมบัติ
(๒) มีประสบการณ์ด้านสนับสนุนการศึกษาและปฏิบัติงานอื่นในหน่วยงานการศึกษาไม่น้อยกว่าสิบห้าปี
(๓) เป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องความซื่อสัตย์ ความยุติธรรม และไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสีย
(๑) มีวุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรี
มาตรา ๑๔ นอกจากการพ้นจากตําแหน่งตามวาระ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่ง
(๔) เป็นคนไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ
(๕) ขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๘
(๓) เป็นบุคคลล้มละลาย
(๖) ได้รับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงที่สุดให้จําคุก ยกเว้นความผิดลหุโทษ
(๒) ลาออกโดยยื่นหนังสือลาออกต่อประธานกรรมการ
(๗) คณะรัฐมนตรีมีมติให้ออก
(๑) ตาย
มาตรา ๑๕ นอกจากการพ้นจากตําแหน่งตามวาระ กรรมการผู้แทนข้าราชการครู
มาตรา ๑๖ การประชุม ก.ค.ศ. ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวนกรรมการทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม
มาตรา ๑๗ ก.ค.ศ. มีอํานาจตั้งคณะอนุกรรมการวิสามัญ เรียกโดยย่อว่า “อ.ก.ค.ศ.วิสามัญ” เพื่อทําการใด ๆ แทน ก.ค.ศ. หรือทําหน้าที่เช่นเดียวกับคณะอนุกรรมการอื่นที่กําหนดตามพระราชบัญญัตินี้ได้
มาตรา ๑๘ ภายใต้บังคับมาตรา ๑๗ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจะเป็นกรรมการใน ก.ค.ศ. อนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา หรืออนุกรรมการอื่นตามพระราชบัญญัตินี้ในขณะเดียวกันมิได้ เว้นแต่การเป็นกรรมการหรืออนุกรรมการโดยตําแหน่ง
มาตรา ๑๙ ให้ ก.ค.ศ. มีอํานาจและหน้าท่ี
มาตรา ๒๒ การประชุมของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ให้นําความในมาตรา ๑๖ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
มาตรา ๒๓ ให้ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามีอํานาจและหน้าที่
มาตรา ๒๔ ให้ผู้อํานวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาเป็นผู้บริหารราชการในสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาและเป็นผู้บังคับบัญชาของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษาและมีอํานาจหน้าท่ี
มาตรา ๒๕ ในส่วนราชการอื่นนอกจากสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานให้ ก.ค.ศ. ตั้ง อ.ก.ค.ศ. เพื่อทําหน้าที่บริหารงานบุคคลสําหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในส่วนราชการนั้น ทั้งนี้ การตั้ง การพ้นจากตําแหน่งและขอบเขตการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามที่ก.ค.ศ. กําหนด
มาตรา ๒๖ ให้คณะกรรมการสถานศึกษา มีอํานาจและหน้าที่เกี่ยวกับการบริหารงาน
บุคคลสําหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา
มาตรา ๒๗ ให้ผู้บริหารสถานศึกษาเป็นผู้บังคับบัญชาของข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา และมีอํานาจและหน้าที่
มาตรา ๒๘ ให้ผู้บริหารหน่วยงานการศึกษาที่เรียกชื่ออย่างอื่นตามที่ ก.ค.ศ.กําหนด เป็นผู้บังคับบัญชาและบริหารหน่วยงาน และให้นํามาตรา ๒๗ มาใช้บังคับแก่ผู้ดํารงตําแหน่งดังกล่าวโดยอนุโลม
มาตรา ๑๓ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และกรรมการผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวาระอยู่ในตําแหน่งคราวละสี่ปี และอาจได้รับแต่งตั้งหรือเลือกตั้งใหม่ได้อีก แต่จะดํารงตําแหน่งติดต่อกันเกินกว่าสองวาระมิได้
มาตรา ๒๐ ให้มีสํานักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เรียกโดยย่อว่า “เลขาธิการ ก.ค.ศ.” ซึ่งมีฐานะเป็นอธิบดีเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการและ บริหารราชการของสํานักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
หมวด๙ การอุทธรณ์และการร้องทุกข์
มาตรา ๑๒๓ บุคลากรทางการศึกษาผู้ใดเห็นว่าตนไม่ได้รับความจากการกระทำของผู้บังคับบัญชา ให้ผู้น้ันมีสิทธิร้องทุกข์ต่อ อ.ก.ค.ศ.
มาตรา ๑๒๔ หลักเกณฑ์และวิธีการในเรื่องที่เกี่ยวกับการอุทธรณ์และพิจารณา อุทธรณ์ และการร้องทุกข์เป็นไปตามที่ เป็นไปตามที่กําหนดในกฎ ก.ค.ศ.
มาตรา ๑๒๒ บุคลากรทางการศึกษาผู้ใดถูกสั่งลงโทษปลดออกจากราชการ มีสิทธิอุทธรณ์ต่อ ก.ค.ศ. ภายในสามสิบวัน
มาตรา 125 เมื่อ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาได้วินิจฉัยแล้วเห็นว่าบุคลากรไม่มีความผิดสามารถร้องศาลปกครองได้
มาตรา ๑๒๑ บุคลากรทางการศึกษาผู้ใดถูกส่ังลงโทษภาคทัณฑ์ตัดเงินเดือนให้มีสิทธิอุทธรณ์ต่อ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง ภายในสามสิบวันนับแต่วันท่ีได้รับแจ้งคําส่ัง
มาตรา ๑๒๖ บุคลากรทางการศึกษาซึ่งโอนมาจากพนักงานส่วนท้องถิ่น ผู้ใดถูกส่ังลงโทษทางวินัยอยู่ก่อนวันโอนมาบรรจุ ผู้น้ันมีสิทธิอุทธรณ์ได้ตามกฎหมาย
หมวด๒ บททั่วไป
มาตรา ๓๓ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาอาจได้รับเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งที่มีเหตุพิเศษตามระเบียบที่ ก.ค.ศ. กําหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี
มาตรา ๓๔ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา อาจได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวตามภาวะเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กําหนดในพระราชกฤษฎีกา
มาตรา ๓๒ เพื่อประโยชน์ในการออมทรัพย์ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะรัฐมนตรีอาจวางระเบียบและวิธีการให้กระทรวงการคลังหักเงินเดือนของข้าราชการครู
มาตรา ๓๕ วันเวลาทํางาน วันหยุดราชการตามประเพณี วันหยุดราชการประจําปีและการลาหยุดราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้เป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กําหนดในกรณี ก.ค.ศ. ยังมิได้กําหนด ให้นําหลักเกณฑ์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวที่ใช้กับข้าราชการพลเรือนมาใช้บังคับโดยอนุโลม
มาตรา ๓๑ อัตราเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจําตําแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจําตําแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
มาตรา ๓๖ เครื่องแบบของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและระเบียบการแต่งเครื่องแบบให้เป็นไปตามกฎหมายหรือระเบียบว่าด้วยการนั้น
มาตรา ๓๐ ภายใต้บังคับกฎหมายว่าด้วยสภาครูและบุคลากรทางการศึกษาสําหรับการเป็นผู้ประกอบวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้ซึ่งจะเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้ต้องมีคุณสมบัติทั่วไป
มาตรา ๓๗ บําเหน็จบํานาญข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น
มาตรา ๒๙ การดําเนินการตามพระราชบัญญัตินี้ให้เป็นไปตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี โดยยึดถือระบบคุณธรรม ความเสมอภาคระหว่างบุคคล และหลักการได้รับการปฏิบัติและการคุ้มครองสิทธิอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน
หมวด๖ วินัยและการรักษาวินัย
มาตรา ๘๙ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องไม่กลั่นแกล้ง กล่าวหา หรือร้องเรียนผู้อื่นโดยปราศจากความเป็นจริง
มาตรา ๙๐ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องไม่กระทําการหรือยอม ให้ผู้อื่นกระทําการหาประโยชน์อันอาจทําให้เสื่อมเสีย
มาตรา ๘๘ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องประพฤติเป็นแบบอย่างที่ดี แก่ผู้เรียน ชุมชน สังคม
มาตรา ๙๑ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องไม่คัดลอกหรือลอกเลียนผลงานทางวิชาการของผู้อ่ืนโดยมิชอบ
มาตรา ๘๗ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องตรงต่อเวลา อุทิศเวลาของตนให้แก่ทางราชการและผู้เรียน
มาตรา ๙๒ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องไม่เป็นกรรมการผู้จัดการ
มาตรา ๘๖ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องปฏิบัติตามคําส่ังของ ผู้บังคับบัญชาซึ่งสั่งในหน้าที่ราชการโดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบของทางราชการ
มาตรา ๙๓ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องวางตนเป็นกลางทางการ เมืองในการปฏิบัติหน้าที่
มาตรา ๙๔ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องรักษาชื่อเสียงของตนและ รักษาเกียรติศักดิ์ของตําแหน่งหน้าท่ีราชการของตนมิให้เสื่อมเสีย
มาตรา ๙๕ ให้ผู้บังคับบัญชามีหน้าที่เสริมสร้างและพัฒนาให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา มีวินัย ป้องกันมิให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชากระทําผิดวินัย
มาตรา ๘๔ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องปฏิบัติหน้าท่ีราชการด้วย
มาตรา ๙๖ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดฝ่าฝืนข้อห้ามหรือไม่ปฏิบัติ ตามข้อปฏิบัติทางวินัยตามท่ีบัญญัติไว้ในหมวดนี้
มาตรา ๘๓ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องสนับสนุนการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
มาตรา ๘๕ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องปฏิบัติหน้าที่ราชการ ให้เป็นไปตามกฎหมาย
มาตรา ๘๒ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องรักษาวินัยที่บัญญัติเป็น ข้อห้ามและขอ้ ปฏิบัติไว้ในหมวดนี้โดยเคร่งครัดอยู่เสมอ
มาตรา ๙๗ การลงโทษข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ทําเป็นคําสั่ง วิธีการออกคําสั่งเกี่ยวกับการลงโทษให้เป็นไปตามระเบียบของ
หมวด๘ การออกจากราชการ
มาตรา 107 ข้าราชการและบุคลากรทางการศึกษาออกจากราชการ
ลาออกจากราชการและได้รับอนุญาตให้ลาออก
ถูกสั่งให้ออก
พ้นจากราชการตามกฎหมายว่าด้วยบําเหน็จบํานาญข้าราชการ
ถูกสั่งลงโทษปลดออกหรือไล่ออก
ตาย
ถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ เว้นแต่ได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งอื่น ที่ไม่ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
มาตรา ๑๑๔ เมื่อข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดไปรับราชการทหาร ตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร
มาตรา ๑๑๕ ในกรณีที่ผู้มีอํานาจตามมาตรา ๕๓ ไม่ปฏิบัติหน้าท่ีตามหมวดนี้ หรือตามมาตรา ๔๙ หรือมาตรา ๕๖ วรรคสอง วรรคสาม หรือวรรคห้า
มาตรา ๑๑๓ เมื่อข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดต้องรับโทษจําคุก โดยคําสั่งของศาลหรือต้องรับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงที่สุด
มาตรา ๑๑๖ ในกรณีที่หัวหน้าส่วนราชการ หรือผู้อํานวยการสํานักงานเขตพื้นที่ การศึกษาได้รับรายงาน
มาตรา ๑๑๒ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดมีกรณีถูกตั้งกรรมการสอบสวนตามมาตรา ๙๘ วรรคสอง
มาตรา ๑๑๗ เมื่อผู้บังคับบัญชาได้ดําเนินการทางวินัยหรือส่ังให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาออกจากราชการในเรื่องใดไปแล้ว
มาตรา ๑๑๑ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดมีกรณีถูกกล่าวหาหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าหย่อนความสามารถในอันท่ีจะปฏิบัติหน้าที่ราชการ
มาตรา ๑๑๘ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาซึ่งโอนมาจากพนักงานส่วน ท้องถิ่นตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น
มาตรา ๑๑๐ ผู้มีอํานาจตามมาตรา ๕๓ มีอํานาจสั่งให้ข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษาออกจากราชการเพื่อรับบําเหน็จบํานาญ
มาตรา ๑๑๙ ภายใต้บังคับหมวด ๗ และหมวด ๙ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
มาตรา ๑๐๙ ภายใต้บังคับตามมาตรา ๑๑๙ เมื่อข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษาผู้ใดถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
มาตรา ๑๒๐ การออกจากราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในตําแหน่งซึ่งมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ
มาตรา ๑๐๘ นอกจากกรณีตามวรรคสี่ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดประสงค์จะลาออกจากราชการให้ยื่นหนังสือขอลาออกต่อผู้บังคับบัญชา
หมวด๕ การเสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ
มาตรา ๗๖ ให้ส่วนราชการและหน่วยงานการศึกษามีหน้าที่จัดสวัสดิการให้แก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
มาตรา ๗๗ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดถึงแก่ความตายอัน เนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการ
มาตรา ๗๕ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดมีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์มีผลงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์
มาตรา ๗๘ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดได้รับการบรรจุและแต่งตั้งตามมาตรา ๔๕ หรือมาตรา ๕๐
มาตรา ๗๔ ให้ ก.ค.ศ. กําหนดเงินเดือนประสิทธิภาพของตําแหน่งข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาในตําแหน่งท่ีมีวิทยฐานะ
มาตรา ๗๙ ให้ผู้บังคับบัญชาปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาและมีหน้าท่ีพัฒนาผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา
มาตรา ๗๓ การเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ผู้บังคับบัญชาแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นพิจารณา
มาตรา ๘๐ ให้มีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งบางตําแหน่งและบางวิทยฐานะ
มาตรา ๗๒ ให้ผู้บังคับบัญชามีหน้าท่ีประเมินผลการปฏิบัติงานของข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา
มาตรา ๘๑ ให้ผู้บังคับบัญชามีหน้าที่ในการส่งเสริม สนับสนุนผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาโดยการให้ไปศึกษา ฝึกอบรม ดูงาน หรือปฏิบัติงานวิจัยและพัฒนาตามระเบียบท่ี ก.ค.ศ. กําหนด
หมวด๓ การกําหนดตําแหน่งวิทยฐานะ
มาตรา ๓๘ ตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามี ๓ ประเภท
ข. ตําแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาและผู้บริหารการศึกษา
ค. ตําแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น
ก. ตําแหน่งซึ่งมีหน้าที่เป็นผู้สอนในหน่วยงานการศึกษา
มาตรา ๔๒ ให้ ก.ค.ศ. จัดทำมาตรฐานตำแหน่ง มาตรฐานวิทยฐานะและมาตรฐานตำแหน่งทางวิชาการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
มาตรา ๔๑ ตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จะมีในหน่วยงานการศึกษาใดจำนวนเท่าใด
มาตรา ๔๓ ให้ ก.ค.ศ. หรือผู้ท่ี ก.ค.ศ. มอบหมายตรวจสอบการกําหนดตําแหน่ง และการใช้ตําแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้เหมาะสม
มาตรา ๔๐ ให้ตําแหน่งคณาจารย์ดังต่อไปนี้ เป็นตําแหน่งทางวิชาการ
(ข) ผู้ช่วยศาสตราจารย์
(ค) รองศาสตราจารย์
(ก) อาจารย์
(ง) ศาสตราจารย์
มาตรา ๔๔ ให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจําตําแหน่งตามกฎหมาย
มาตรา ๓๙ ให้ตําแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาดังต่อไปนี้
ค. ตําแหน่งผู้บริหารการศึกษา มีวิทยฐานะ
ง. ตําแหน่งศึกษานิเทศก์ มีวิทยฐานะ
ข. ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา มีวิทยฐานะ
จ. ตําแหน่งท่ีเรียกชื่ออย่างอ่ืนตามที่ ก.ค.ศ. กําหนดให้มีวิทยฐานะ
ก. ตําแหน่งครู มีวิทยฐานะ
หมวด๗ การดำเนินการทางวินัย
มาตรา ๑๐๒/๑ ในกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
มาตรา ๑๐๓ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดมีกรณีถูกกล่าวหาว่า กระทําผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวน
มาตรา ๑๐๑ ให้กรรมการสอบสวนเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญาและให้มีอํานาจเช่นเดียวกับพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมาย
มาตรา ๑๐๔ เมื่อผู้บังคับบัญชาได้ดําเนินการทางวินัยหรือดําเนินการสอบสวนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใด
มาตรา๑๐๐ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดกระทำผิดวินัยไม่ร้ายแรงให้ผู้บังคับบัญชาสั่งลงโทษภาคทัณฑ์
มาตรา ๑๐๕ เมื่อผู้บังคับบัญชาได้ดําเนินการทางวินัย หรือสั่งให้ข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษาออกจากราชการ
มาตรา ๙๙ เมื่อได้ดําเนินการสอบสวนผู้ถูกกล่าวหาตามมาตรา ๙๘ แล้ว ถ้าฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหามิได้กระทําผิดวินัย ให้สั่งยุติเรื่อง
มาตรา ๙๘ การดําเนินการทางวินัยแก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งมีกรณีอันมีมูลที่ควรกล่าวหาว่ากระทําผิดวินัย
มาตรา ๑๐๖ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาซึ่งโอนมาจากพนักงานส่วน ท้องถิ่นตามกฎหมาย
หมวด๔ การบรรจุและการแต่งตั้ง
มาตรา ๕๘ การโอนพนักงานส่วนท้องถิ่นตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่นที่มิใช่พนักงานวิสามัญ
มาตรา ๕๙ การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดไปดํารงตําแหน่งในหน่วยงานการศึกษาอื่นภายในส่วนราชการหรือภายในเขตพื้นที่การศึกษาหรือต่างเขตพื้นที่การศึกษา
มาตรา ๕๗ การเปลี่ยนตําแหน่ง การย้ายและการโอนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้เป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กําหนด
มาตรา ๖๐ ภายใต้บังคับตามมาตรา ๕๗ และมาตรา ๕๙ ให้ ก.ค.ศ. ดําเนินการให้มีการสับเปลี่ยนหน้าที่หรือย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
มาตรา ๕๖ ผู้ใดได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้เข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งตามมาตรา ๔๕
มาตรา ๖๑ การเลื่อนตําแหน่งบุคลากรทางการศึกษาซึ่งเป็นตําแหน่งที่มิได้กําหนดให้มีวิทยฐานะเพื่อให้ได้รับเงินเดือนในระดับที่สูงขึ้น
มาตรา ๕๕ ให้มีการประเมินตําแหน่งและวิทยฐานะสําหรับตําแหน่งที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเป็นระยะ ๆ
มาตรา ๖๒ การแต่งตั้งบุคลากรทางการศึกษาตามมาตรา ๖๑ สําหรับผู้สอบแข่งขันได้ให้แต่งตั้งตามลําดับที่ในบัญชีผู้สอบแข่งขันได้
มาตรา ๕๔ การให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะใด และการเลื่อนเป็นวิทยฐานะใดต้องเป็นไปตามมาตรฐานวิทยฐานะ
มาตรา ๖๓ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดได้รับการแต่งตั้ง ให้เลื่อนตําแหน่งหรือเลื่อนวิทยฐานะ
มาตรา ๕๓ ภายใต้บังคับมาตรา ๔๕ วรรคหนึ่ง มาตรา ๕๐ มาตรา ๕๑ มาตรา ๕๘มาตรา ๖๔ มาตรา ๖๕ มาตรา ๖๖ และมาตรา ๖๗
มาตรา ๖๔ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดออกจากราชการไปแล้วและมิใช่เป็นการออกจากราชการในระหว่างทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการ
มาตรา ๕๒ นอกจากการบรรจุและแต่งตั้งเพื่อให้บุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาแล้ว
มาตรา ๖๕ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ออกจากราชการไปปฏิบัติงานใดและให้นับเวลาระหว่างนั้นสําหรับคํานวณบําเหน็จบำนาญ
มาตรา ๕๑ หน่วยงานการศึกษาใดมีเหตุผลและความจําเป็นอย่างยิ่งเพื่อประโยชน์แก่ราชการที่จะต้องบรรจุและแต่งตั้งบุคคลซึ่งมีความรู้
มาตรา ๖๖ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดถูกสั่งให้ออกจากราชการเพื่อไปรับราชการทหารตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร
มาตรา ๕๐ ในกรณีที่มีความจําเป็นหรือมีเหตุพิเศษที่ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาไม่สามารถดําเนินการสอบแข่งขันได้
มาตรา ๖๗ พนักงานส่วนท้องถิ่นตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่นที่ไม่ใช่พนักงานวิสามัญ
มาตรา ๔๙ ผู้ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตามมาตรา ๔๕ วรรคหนึ่ง มาตรา ๕๐ มาตรา ๕๑ มาตรา ๕๘ มาตรา ๖๔มาตรา ๖๕ มาตรา ๖๖ และมาตรา ๖๗
มาตรา ๖๘ ภายใต้บังคับกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการถ้าตําแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตําแหน่งใดว่างลง
มาตรา ๔๘ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาหรือหน่วยงานการศึกษาอาจรับสมัครสอบแข่งขันเฉพาะบุคคลที่มีคุณสมบัติพิเศษในสาขาวิชาใดได้
มาตรา ๖๙ ในกรณีที่มีความจําเป็นเพื่อประโยชน์ของทางราชการ ก.ค.ศ. อาจเสนอแนะต่อหัวหน้าส่วนราชการ
มาตรา ๔๗ ให้ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา เป็นผู้ดําเนินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
มาตรา ๗๐ ในกรณีที่มีเหตุผลความจําเป็นหัวหน้าส่วนราชการหรือผู้อํานวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา
มาตรา ๔๖ ผู้สมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตําแหน่งใด ต้องมีคุณสมบัติทั่วไปตามมาตรา ๓๐ และต้องมีคุณสมบัติเฉพาะสําหรับตําแหน่งตามมาตรฐานตําแหน่งนั้นตามมาตรา ๔๒
มาตรา ๗๑ ในกรณีที่มีเหตุผลความจําเป็น หัวหน้าส่วนราชการหรือผู้อํานวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา
มาตรา ๔๕ การบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งใด ให้บรรจุและแต่งตั้งจากผู้สอบแข่งขันได้สําหรับตําแหน่งนั้น โดยบรรจุและแต่งตั้งตามลําดับที่ในบัญชีผู้สอบแข่งขันได้
บำรุงศักดิ์ พรหมมา
654189012