ประวัติและพัฒนาการของวิชาชีพการพยาบาล

วิวัฒนาการและพัฒนาการของวิชาชีพการพยาบาล

พัฒนาการของวิชาชีพพยาบาล

วิวัฒนาการทางการพยาบาล

ระยะทฤษฎี

ระยะของการวิจัย

ระยะบูรณาการ

ระยะการศึกษาและการบริหาร

ระยะสหสาขาวิชาชีพ

ระยะปฏิบัติการ

ระยะเทคโนโลยีสารสนเทศ

สมัยมิสไนติงเกล สงครามไครเมียเน้นการดูแลเพื่อให้เกิดความสุขสบายคือดูแลสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมในการดูแลผู้ป่วยโดยใช้หลักเกณฑ์จากประสบการณ์และปฏิบัติตามกันมา

เนื่องจากมีการตั้งคำถามเกี่ยวกับขอบเขตทางการพยาบาลจึงมีการก่อตั้งโรงเรียนทางการพยาบาลและพัฒนาการเรียนการสอนทางการพยาบาล

พยาบาลพยายามพัฒนางานวิจัยเพื่อสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนทางการพยาบาลจึงก่อตั้งวารสารวิจัยทางการพยาบาลขึ้นในปี 1952

คิดค้นแนวคิดทางการพยาบาลและนำการวิจัยมาใช้เพื่อตรวจสอบและรองรับทฤษฎีเพื่อหาองค์ความรู้และแก่นแท้ทางการพยาบาล

อภิปรายความคิดเพื่อพัฒนาวิชาชีพในประเด็นต่างๆทั้งโครงสร้าง การศึกษา ทฤษฎีทางการพยาบาล และการตรวจสอบทฤษฎี สร้างความคิดริเริ่มในการปฏิบัติการดูแลผู้ป่วย

พยาบาลมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับสหสาขาวิชาชีพ
เพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่ร่วมกัน

เครื่องมือเเละเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาททางการพยาบาล เช่น เครื่องมือทางการแพทย์เทคโนโลยีต่างๆ คอมพิวเตอร์ช่วยในการบันทึกผลทางการพยาบาล

ประวัติการพยาบาลในประเทศไทย

สมัยสุโขทัย

สมัยอยุธยา

พ.ศ. 1780 - 1981

จารึกการรักษาพยาบาลไว้ในไตรภูมิพระร่วง

ใช้ยาไทย ยาพื้นบ้าน

รักษาตามความเชื่อของกลุ่มชน เช่น การกราบไหว้ “กงจักรแก้ง”

มีความรู้เรื่องการตั้งครรภ์และการคลอด

พ.ศ. 1893 - 2310

สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

มิชชันนารีช่วยรักษาผูเจ็บป่วยตามบ้าน

สร้างสถาพยาบาลโดยบาทหลวงฝรั่งเศส

มีการพยาบาลแบบใหม่เกิดขึ้น เช่น การเย็บแผล การทำแผล

แพทย์ชาวฝรั่งเศส ชื่อ เมอซิเออปูมาต์ เป็นแพทย์ประจำราชสำนัก

สมัยธนบุรี

พ.ศ. 2310 - 2325

การรักษาไม่ต่างจากรูแบบเดิมในสมัยอยุธยาตอนต้น

สมัยรัตนโกสินทร์

รัชการที่ 1
พ.ศ. 2325 - 2352

คล้ายกับการรักษาในยุค
สมัยอยุธยาตอนต้น

การสุขาภิบาลไม่ดี เกิดอหิวาตกโรคอย่างรุนแรง

มีพิธี อาฎานาติยสูตร ยิงปืนรอบพระนคร

สมัยดึกดำบรรพ์

สมัยประวัติศาสตร์

รัชการที่ 2
พ.ศ. 2352 - 2367

สมัยปัจจุบัน

ยุคก่อนประวัติศาสตร์(ก่อนอารยธรรมเมโสโปเตเมีย)

ศูนย์กลางการรักษา

เชื่อในเรื่องไสยศาสตร์

พิธีกรรม

เวทมนต์

ลัทธิศาสนา

ผู้ประกอบพิธี คือ หมอ

หากเจ็บป่วยจะได้รับการดูแลตามเพศ

ผู้ชาย

ผู้หญิง

หมอผี - ใช้เวทมนต์ไสยศาสตร์

หมอพระ - ประกอบพิธีกรรม

หมอยา - ใช้สมุนไพรรักษา

ระยะเริ่มต้น

ผสานการรักษาบแบบอินเดีย จีน และความเชื่อดั้งเดิม

แม่มด -ทักษาการทำแผลและลดไข้

ลักษณะการพยาบาลลักษณะการพยาบาล

มีการระบาดอหิวาตกโรค ประชาชนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

ดูแลกันเองภายในครอบครัว

อดอาหาร

มีพิธี อาฎานาติยสูตร แห่พระแก้วมรกต และพระบรมธาตุ แต่ไม่สามารถหยุดโรคระบาดได้

อาบน้ำให้เหงื่อออก หรือ ใช้เครื่องมือให้ความร้อน

ขับไล่ภูติผีปีศาจวิญญาญร้ายออกจากตัว

รัชการที่ 3
พ.ศ. 2367 - 2394

ยุคประวัติศาสตร์ตอนต้น (อารยธรรมเมโสโปเตเมีย —ค.ศ.500)

ยังมีความเชื่อโชคลางและไสยศาสตร์

ยุคกลางประวัติศาสตร์

เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงด้านการรักษาพยาบาล เมื่อมิชชันนารีเข้ามาเผยแพร่ศาสนาและนำการแพทย์ปัจจุบันเข้ามา

นายแพทย์แดน บีบ บลัดเลย์ และภรรยาชาวอเมริกัน เปิด โอสถศาลา ที่บ้าน รักษาผู้ป่วย และถวายการรักษาแก่พระราชวงศ์ และมีการรักษาโรคแบบใหม่

สาเหตุความเจ็บป่วย

วิธีการรักษา

สถานที่ทำการรักษา

การพยาบาล

ความสำคัญในแต่ละชาติ

ผู้รักษา

เชื่อว่าเกิดจากพระผู้เป็นเจ้าไม่พึงพอใจต่อตน

รัชการที่ 4
พ.ศ. 2394 - 2411

เกิดการระบาดของไข้ทรพิษ

ความเชื่อทางศาสนาและอำนาจของจิต

ความเชื่อสองขั้ว

นายแพทย์ แซมมวล เรยโนลด์ เฮ้าส์ ปลูกฝีให้ประชาชน

เชื่อโรคเกิดจากธรรมชาติ

นางรอด ประทีป สตรีไทยคนแรกที่จบการศึกษาพยาบาลผดุงครรภ์แผนปัจจุบันจากอเมริกา

ผสมผสานจากไสยศาสตร์+ พิธีกรรมทางศาสนา+โหราศาสตร์

รัชการที่ 5
พ.ศ. 2411 - 2454




เริ่มพูดถึงการวินิจฉัย การรักษา การผ่าตัด

โรงพยาบาล

วัด

ศาสนสถาน

ผู้ให้การรักมักเป็นหมอตำแย ทาส แม่นม

อียิปต์

อินเดีย

จีน

กรีซ

เทคนิคการใช้ผ้าพันแผล - ทำมัมมี่

Ebers papyrus -ตำรายาที่สมบูรณ์และเก่าแก่ที่สุดในโลก

พระเจ้าอโศกมหาราช

ค้นพบการผ่าตัดและโรคต่างๆ

กำหนดคุณสมบัติของผู้ให้การพยาบาล

สร้างโรงพยาบาลแห่งแรก

ใช้การจับชีพจรเพื่อวินิจฉัยโรค

ใช้เกลือในการนวดรักษาเรียกว่าแบบ “ไนจิง”

บิดาแห่งการแพทย์ คือ Hippocratis

วางรากฐานวิทยาศาสตร์การแพทย์ เช่น สรีรวิทยา

หมอตำแย

หมอพระ

หมอผ่าตัด

สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (ค.ศ.1500-1600)

เป็นยุคสมัยที่บ้านเมืองรุ่งเรืองไม่มีสงคราม

กำเนิด ฮาร์วี่ บิดาของการแพทย์สมัยใหม่

การพยาบาล

วิธีการพยาบาล

ปรับเปลี่ยนวิธีการรักษาเพื่อพัฒนาความรู้ให้ทันสมัยและมีคุณภาพตามยุคองค์ความรู้ที่เพิ่มมากขึ้นตามยุคสมัย

เน้นการดูแลความสะอาดทั้งร่างกาย สภาพแวดล้อม และสร้างกำลังใจให้ผู้ป่วย

ยุคมืดของพยาบาล (ค.ศ.1600-1850)

สาเหตุ

ผลที่ตามมา

วิธีแก้ไข

ศาสนาคริสต์เสื่อมถอยและแตกแยก

ไม่บริจาคเงินให้โรงพยาบาลของชาวคาทอลิกและศาสนสถาน

สตรีไม่ให้ความสำคัญต่อวิชาชีพพยายาล

ขาดแคลนพยาบาล

การพยาบาลตกต่ำเพราะต้องจ้างนักโทษมาเป็นพยาบาล

สตรีไม่มีการศึกษาไม่มีจิตในอยากช่วยเหลือ

มีการจัดตั้งสถาบันเพื่อพัฒนาทักษะทางการพยาบาล (Deaconess institute)
เปิดรับอาสาสมัครเด็ก สตรี ผู้ใหญ่ และคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมมาฝึกอบรมให้ความรู้เรื่องการดูแลผู้ป่วย แต่ไม่ค่อยได้การตอบรับ

การพยาบาลสมัยใหม่ (modern nursing)

มีสงคราม สังคมวุ่นวาย

สถาบันเดคอนเนส

การพยาบาล

ปรับปรุงพัฒนาความรู้ด้านการพยาบาลให้มีประสิทธิภาพและคุณภาพตามความรู้และทฤษฎีที่พัฒนาขึ้นตามยุคสมัยที่พัฒนา

ตั้งโรงเรียนพยาบาลไนติงเกลเป็นโรงเรียนพยาบาลแห่งแรก

เป็นต้นแบบและรากฐานของทฤษฎีการพยาบาลที่ใช้ในปัจจุบัน

ให้การรักษาอย่างมีระบบเเบบแผนด้วยเหตุผลและคุณธรรม อ้างอิงหลักความเป็นจริงตามทฤษฎีการพยาบาล

กลางประวัติศาสตร์ตอนต้น (ค.ศ.500-1000)

กลางประวัติศาสตร์ตอนปลาย (ค.ศ.1000-1500)

ยุคโรมันเสื่อมมีการกดขี่แบ่งชนชั้นกัน

การพยาบาล

ผู้ให้การพยาบาล

ประวัติการพยาบาลในต่างประเทศ

click to edit

click to edit

2.การพยาบาลสมัยประวัติศาสตร์

F2EE33F2-08A1-43EE-8A15-421721244736

2.2การพยาบาลยุคกลางประวัติศาสตร์

click to edit

2.1การพยาบาลสมัยประวัติศาสตร์ยุคต้น (400ปี ก่อนคริสตกาล)

มีการหาสาเหตุการเจ็บป่วยซัก ประวัติ สังเกตอาการ บันทึก เร่ิมมีแนวคิดว่า

“ให้รักษาผู้ป่วยทั้งคน”

เร่ิมบัญญัติคำปฏิญาณแพทย์

2.1การพยาบาลสมัยประวัติศาสตร์ยุคต้น (200ปี ก่อนคริสตกาล)

เป็นยุคที่ศาสนามีความสำคัญ

พระและแม่ชีมีบทบาทมากเก่ียวกับโรงพยาบาล

ผู้ป่วยอยู่กันแออัด ทำให้ดูแลไม่ทั่วถึง ไม่สะอาด เกิดแผลกดทับ

ผู้ศรัทธาในศาสนาจะอุทิศตนเป็นผู้ดูแลผู้ป่วยร่วมกับแม่ชีและพระรวมถึงสตรีท่ีอย่ในราชสกุล

2.3 ยุคมืดของการพยาบาล

398A3322-D162-439F-AEDF-2FC34B9179E4

click to edit

ไม่มีกิจกรรมอะไรที่เรียกได้ว่าเป็น การพยาบาล

สตรีที่อยู่ในราชสกุลไม่ได้เข้ามามีส่วนร่วม

งานพยาบาลกลายเป็นของสตรีที่ไม่มีการศึกษา ไม่มีใจอยากช่วยเหลือ ทำงานเพื่อเงิน ละทิ้งผู้ป่วย ทะเลาะวิวาท

ไม่มีประวัติของการพยาบาล

นับตั้งแต่ ค.ศ.1600 จนถึง ค.ศ. 1820

การพยาบาลยุคปัจจุบัน

ยุคไนติงเกล

ค.ศ..1853 เกิดสงครามไครเมียจึงต้องขอความช่วยเหลือจากไนติงเกล

มิสไนติงเกลและคณะดูแลรักษาทหารจนหาย

มิสไนติงเกลกลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ในฐานะสุภาพสตรีแห่งดวงประทีปผู้ก่อกำเนิดการพยาบาลใหม่

การพยาบาลในประเทศสหรัฐอเมริกา

2.1 การพยาบาลสมัยประวัติศาสตร์ยุคต้น (3,000ปี ก่อนคริสตกาล)

อียิปต์ เร่ิมมีการแพทย์ และอาจมีโรงพยาบาล

มีหลักฐานการชำแหละร่างกายมนุษย์ เรียนรู้กายวิภาค

มีการห่อศพด้วยวิธีพิเศษ เพราะเช่ือว่าถ้าร่างกายไม่เน่าเปื่อยวิญญาณจะกลับเข้าร่าง

แรกเริ่มมาจากแม่ชีของศาสนาคริสที่มาเป็นพยาบาล

รายได้พยาบาลต่ำ ประชาชนที่ไม่มีงานทำหรือหางานไม่ได้จึงมาเป็นพยาบาล

2.1การพยาบาลสมัยประวัติศาสตร์ ยุคต้น (2,000ปี ก่อนคริสตกาล)

อินเดียเป็นแหล่งความเจริญของ ศาสนาพราหมณ์ฮินดู

มีโรงพยาบาล มีการผ่าตัดเอาเด็กออกทางหน้าท้อง ผู้ทำการพยาบาลจะถูกคัดเลือกจากผู้ที่มีคุณสมบัติ ฉลาด เอาใจใส่ จิตใจดี

มีการปลูกฝีป้องกันฝีดาษ ใช้ยาชา ฝิ่น กัญชา

ประชาชนเรียกโรงพยาบาลว่า”บ้านของสัตว์”

ส่วนใหญ่เป็นทางการแพทย์ จึงไม่พบหลักฐานเก่ียวกับการพยาบาล

ค.ศ.1873 เริ่มมี่โรงเรียนพยาบาลและเกิดการพัฒนาคุณภาพพยาบาลและมีนักทฤษฎีการพยาบาลเกิดขึ้นมากมาย

วินิจฉัยโรคจากการดู ฟัง ถาม และการสัมผัสชีพจร จำแนกชีพจร
ได้ถึง 200 ชนิด

จีน มีหลักฐานการผ่าศพเพื่อดูระบบไหลเวียนเลือด

การพยาบาลสมัยสงครามโลกครั้งที่1,2

พยาบาลได้รับการยกย่องว่าเป็นนักรบเคียงบ่าเคียงไหล่ของทหาร

มีการยกระดับการศึกษาขั้นต่ำของพยาบาลให้เป็นปริญญาตรี

เป็นช่วงสงครามที่การพยาบาลของอเมริกาก้าวหน้ามากขึ้น

ศาสนาคริสต์เข้ามาเผยแพร่สอนให้คนมีความรักความเมตตากรุณา

พัฒนาการฝึกแบบ apprenticeship คือการที่พยาบาลเป็นลูกมือฝึกหัด ไม่ต้องมีความรู้ก็สามารถประกอบอาชีพได้โดยการค่อยเรียนรู้ไปทีละนิดๆ

มีการสอน basic nursing การดูแลขั้นพื้นฐาน

ปลูกฝังให้พยาบาลมีเมตตา กรุณา เห็นอกเห็นใจเข้าใจในสถานการณ์ที่ยากลำบากของผู้ป่วย

พระ

นักบุญ

สภาพสังคม

มีการปกครองแบบศักดินา

ผู้ให้การพยาบาล

การพยาบาล

ศาสนาอิสลามเข้ามาเผยแพร่ในแหลมอาราเบีย

เกิดสงครามครูเสดเพื่อแย่งพื้นที่บริเวณเยรูซาเลม

สตรี(มารดา)

ทหารที่ว่างจากศึกสงคราม

มีโรงพยาบาล

ถ่ายทอดวัฒนธรรมของทหารสู้พยาบาลเรื่องความมีระเบียบวินัยทำงานเป็นระบบ

สร้างโรงพยาบาลศิริราชพยาบาล

สมเด็จพระศรีพัชรนิทราบรมราชินีนาถ พระราชทานทรัพย์ให้ตั้งโรงเรียนหญิงแพทย์ผดุงครรภ์และการพยาบาลไข้ เมื่อพ.ศ. 2439 สตรีในวังมาเรียนทำให้ยกระดับวิชาชีพพยาบาล

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มีโรงเรียนพยาบาลศิริราช สภาชาดไทย โรงพยาบาลผดุงครรภ์และอนามัย โรงพยาบาลแมคคอร์มิคเชียงใหม่

ยุคมืดมน
พ.ศ. 2482 – 2490

เป็นผลกระทบจากสงครามต่างๆ ( สงครามจีนกับญี่ปุ่น สงครามอินโดจีน สงครามโลกครั้งที่ 2 - พ.ศ. 2482 ) และอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อ พ.ศ. 2485

กระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งโรงเรียนพยาบาลและผดุงครรภ์แห่งแรกของกรมแพทย์ ใช้หลักสูตรของศิริราช ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีกรุงเทพ

มีผลกระทบต่อโรงพยาบาลและการเรียนของพยาบาลมาก

ทำให้การพัฒนาประเทศและการศึกษาพยาบาลหยุดชะงัก

ยุคฟื้นฟู

เกิดอหิวาตกโรค ประชาชนเสียชีวิตจำนวนมาก มีการให้จัดตั้งสถานบำบัดชั่วคราว 48 แห่งทั่งกรุงเทพมหานคร

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 งานพยาบาลขยายภารกิจความรับผิดชอบมากขึ้น (วัดปรอท ทำรายงาน ให้ฉีดยา ทำแผลและการปลูกฝี เป็นผู้ช่วยแพทย์ในการตรวจต่าง ๆ และขยายขอบเขตออกสู้ชุมชน

มีการเปฺิดโรงเรียนพยาบาลเพิ่มขึ้นในกระทรวงสาธารณสุข คือ โรงเรียนพยายาลผดุงครรภ์และอนามัยโรงพยาบาลหญิง เมื่อ พ.ศ. 2489 เพื่อรับนักเรียนมัธยมปีที่ 3 เรียนหลักสูตร 4 ปี(รวมผดุงครรภ์)

พ.ศ. 2499 โรงเรียนพยาบาลผดุงครรภ์ศิริราช ได้รับการอนุมัติให้เปิดสอนหลักสูตร ปริญญาตรี วิทยาศาสตร์บัณฑิต(พยาบาล) เรียนการพยาบาล 4 ปี และเรียนวิชาผดุงครรภ์อีก 6 เดือน นอกจากนี้ยังได้มีการเปิดโรงเรียนและหลักสูตรการพยาบาลเพิ่มขึ้น

รัชกาลที่ 9

ได้ริเริ่มโครงการครอบคลุมทั้งด้านการป้องกันโรคต่างๆ การส่งเสริมสุขภาพ และการฟื้นฟู จนองค์กรอนามัยโลกทูลเกล้าถวายเหรียญทองสุขภาพดีถ้วนหน้าแด่พระองค์ในปี พ.ศ. 2535

ปีเตอร์ เกาแวน ทำคลอดให้หม่อมและธิดาของกรมหมื่นปราบปรปักษ์ด้วยวิธีการตามแบบแผนปัจจุบันไม่ต้องอยู่ไฟ

สมเด็จพระพัชรินทราบรมราชชนชี ได้ประสูติสมเด็จเจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธด้วยวิธีแบบสากล

สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชชนนี อนุญาติให้นายแพทย์ ปีเตอร์ เกาแวน เข้ารักษาไข้ และยกเลิกการอยู่ไฟ

สมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ ทรงจัดตั้ง โรงเรียนแพทย์ผดุงครรภ์และหญิงพยาบาล ณ โรงพยาบาลศิริราช เรียกว่า โรงเรียนหมอตำแย

วิชาชีพพยาบาล

ความหมายของวิชาชีพพยาบาล

วิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับการดูแลมนุษย์โดยการประยุกต์ใช้องค์ความรู้จากทฤษฎีไปสู่การปฏิบัติ

วิชาชีพที่ต้องได้รับการศึกษาหรือฝึกฝน

วิชาชีพที่มีค่านิยมและจรรยาบรรณวิชาชีพ

วิชาชีพที่มีอิสระในการทำงานและมีความยึดมั่น
ผูกพันต่อวิชาชีพ

วิชาชีพที่มีเอกสิทธิ์ที่ถูกต้องตามกฎหมายที่ได้รับ
ความเชื่อถือ

วิชาชีพที่ให้บริการเพื่อตอบสนองความต้องการของสังคมในด้านสุขภาพ

ระดับบุคคล

ระดับครอบครัว

ระดับชุมชน

คุณค่าของวิชาชีพพยาบาล

บทบาทของพยาบาล

หน้าที่ของพยาบาล

ประโยชน์จากการทัศนศึกษาที่สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ

ได้รู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาที่สำคัญ

ประวัติความเป็นมาของสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ

ประวัติของบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ

ได้รู้เกี่ยวกับระบบการทำงานของสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ

วัตถุประสงค์ของสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ

เป้าหมายของสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ

แนวโน้มต่อไปในอนาคตของสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ

ได้รู้เกี่ยวกับการพัฒนาสมาคมพยาบาลตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน

ได้รับความประทับใจและแรงบันดาลใจในการศึกษาเล่าเรียนและทำงานในวิชาชีพพยาบาลต่อไปในอนาคต

บทบาทอิสระ

ให้การรักษาพยาบาลและดูแล ผู้ป่วยทั้งทางกายและจิต ผู้ได้รับบาดเจ็บหรือทุพพลภาพ รักษา ป้องกันโรค การส่งเสริมสุขภาพ วางแผนและให้บริการด้านพยาบาล และทำหน้าที่ช่วยแพทย์ในโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล

คุณค่าจากการดูแล

บทบาทร่วม

ปฎิบัติหน้าที่โดยใช้ความรู้จากศาสตร์ทั้งทางด้านการพยาบาลและความรู้ที่เกี่ยวข้องในศาสตร์สาขาอื่นๆ ตัดสินใจวางแผนเพื่อให้การดูแลผู้เจ็บป่วย ป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ช่วยฟื้นฟูและสร้างเสริมสุขภาพ อย่างเป็นอิสระภายใต้ขอบเขตของการพยาบาล

ปฎิบัติหน้าที่โดยทำงานร่วมกับแพทย์และทีมสหสาขา โดยนำแผนการรักษาของแพทย์สู่การปฏิบัติดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยเพื่อให้หายจากโรค หรือควบคุมโรคได้

คุณค่าจากการให้

คุณค่าจากความปีติในใจ

ได้แก่ รู้สึกอิ่มใจ เหมือนได้ทำบุญ และ ที่สุดของความภูมิใจ

ได้แก่ การให้ที่ตรงตามความต้องการของผู้รับ
และการให้ด้วยความเต็มใจ ไม่หวังผลตอบแทน

ได้แก่ ดูแลครอบคลุมแบบองค์รวม ดูแลให้พ้นทุกข์
และดูแลด้วยความเอื้ออาทร คำนึงถึงความเป็นมนุษย์

ประเด็นแนวโน้ม

ด้านการบริหารพยาบาล

ด้านการศึกษาพยาบาล

ด้านการบริการการพยาบาล

ด้านการวิจัยทางการพยาบาล

แนวโน้มด้านการศึกษาภาษาอังกฤษเนื่องจากประเทศไทยก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจึงมีแนวโน้มที่พยาบาลต้องมีความสามารถในการสท่อสารภาษาอังกฤษ

พัฒนาการศึกษาไม่ไเ้มุ่งเน้นเฉพาะด้านวิชาการแต่พัฒนาให้นักศึกษามีความสมดุลด้านวิชาการและคุณธรรม

เน้นการปฏิบัติการเรียนรู้จากสถานการณ์จริง

นำเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ในทางการพยาบาล พัฒนาวิชาชีพพยาบาลให้มีคุณภาพมากขึ้น

ปฏิรูปการศึกษาทำให้พยาบาลให้ความสำคัญกับความรู้ในวิขาชีพมากขึ้น

สร้างเครือข่ายในการทำวิจัยร่วมกับสหสาขาวิชาชีพเพื่อนำไปสู่การเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้

สรุป

ประเทศไทยมีการปฏิรูปการศึกษามาเป็น ลําดับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันตามบริบททางสังคม และการเมืองที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งสิ่งท่ี เกิดตามมาคือการเปลี่ยนแปลงในท้ังตัวประชาชนชาว ไทยเองท่ีทําให้มีโอกาสได้รับการศึกษามากขึ้น และ รวมท้ังบุคลากรทางการพยาบาลเองท่ีทําให้มีโอกาส ในการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น เนื่องจากความหลากหลายที่มากขึ้น

เกิดความหวาดกลัว ขาดอุปกรณ์และเครื่องใช้ต่างๆ

click to edit

กรีซ Hippocrates แพทยค์นแรกของโลกที่นำแนวทางวิทยาศาสตรม์าใช้ให้เหตุผลว่า การเจ็บป่วยไม่ใช่การกระทำของภูตผี ปี ศาจ

โรม อิตาลี การสุขาภิบาลก้าวหน้า มีระบบถ่ายเทส่ิงสกปรก มีสถานท่ี อาบน้ำสาธารณะ แต่การรักษาโรค ยังใช้พิธีทางไสยศาสตร์ โรงพยาบาลมีไว้สำหรับทาสและทหาร หลักฐานทางการพยาบาล ในโรงพยาบาลมีผู้หญิงและผู้ชายสูงอายุที่จิตใจดี ใจบุญ เป็นผู้ให้การดูแล

1.การพยาบาลสมัยดึกดำบรรพ์ (3,000 ปีก่อนคริสตกาล)

ไม่มีองค์ความรู้

เช่ือภูตผี เทพเจ้า ดิน น้ำ ลม ไฟ

การถ่ายทอดความรู้ในครอบครัวแบบปฏิบัติต่อๆกันมา

ใช้ความเคารพนับถือเป็นพื้นฐาน

ระยะปรัชญา

พยาบาลเป็นนักคิดทฤษฎีทางการพยาบาลพยายามหาคำตอบจากค้นหาความจริงให้สอดคล้องกับฐานความเชื่อเพื่อนำมาพัฒนางานวิจัยและพัฒนาความรู้ทางการพยาบาลต่อไป

52397E06-873C-45F7-B127-7FDD394C0911

images

70C49CC2-5B12-4D12-8BA1-4BF614EDF9BC

B0AE709F-76CD-46D6-A96F-743BBE6098C7

images

6C680E41-DDCA-4248-9D63-E5AD6CBAF8E7

images

images

B833F1DC-66DB-413A-8E25-A106858C5B11

00A01A44-44A7-4A7A-AE8F-9F411997FB7F

9781DFDA-62D4-453B-BC14-5FEA21B9936C

32DC6B2A-1164-4E3D-87A1-270C8C8BD1F9

188A940A-73CF-4E52-A319-49E1F28F99B1

593DA8ED-9E56-41D3-9F5B-DD34B4B13A93

42274B6C-01BD-4D0F-86A2-AE45543EF439

46E8D7ED-F2B7-4BAC-B5C6-FFA70DDD1128

DED83590-14DF-431B-A63B-23BB1BEF2161