Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่1แนวคิดพื้นฐานทางเภสัชวิทยา - Coggle Diagram
บทที่1แนวคิดพื้นฐานทางเภสัชวิทยา
ความหมายของเภสัชวิทยา
เป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยเรื่องของยา ซึ่งจะมีความรู้ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ความเป็นมาเกี่ยวกับการค้นพบยานั้น แหล่งที่มาของยา คุณสมบัติทั้งทางกายภาพและทางเคมี ผลของยาต่อร่างกายทางชีววิทยาและสรีรวิทยา กลไกการออกฤทธิ์ของยา การดูดซึม การกระจาย การเปลี่ยนแปลงยาในร่างกาย และการขับถ่ายยาออกจากร่างกาย การนำไปใช้ประโยชน์ในการรักษาและประโยชน์อื่นๆ รูปแบบของยา วิธีบริหารยา และขนาดยาที่ใช้รักษาโรค
ความหมายของยา การเรียกชื่อยา แหล่งที่มาของยา
ยา หรือ drug หมายถึง สารหรือสารเคมีที่มีผลต่อสิ่งมีชีวิต หรือ ขบวนการต่างๆของสิ่งมีชีวิต
ยา ตามความหมายของ WHO หมายถึง สารหรือผลิตภัณฑ์ที่มีวัตถุประสงค์ในการใช้เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาของร่างกาย หรือทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของขบวนการทางพิษวิทยาซึ่งทำให้เกิดโรค ทั้งนี้เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้รับยานั้น
พรบ.ยา พ.ศ.2510 มาตรา4 ในพระราชบัญญัตินี้ "ยา"หมายความว่า
1.วัตถุที่รับรองไว้ในตำรายาที่รัฐมนตรีประกาศ
2.วัตถุที่มุ่งหมายสำหรับใช้ในการวินิจฉัย บำบัด บรรเทา รักษา หรือป้องกันโรค หรือความเจ็บป่วยของมนุษย์หรือสัตว์
3.วัตถุที่เป็นเภสัชเคมีภัณฑ์ หรือเภสัชเคมีภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูป
4.วัตถุที่มุ่งหมายสำหรับให้เกิดผลแก่สุขภาพ โครงสร้าง หรือการกระทำหน้าที่ใดๆของร่างกายมนุษย์หรือสัตว์
-ชื่อสามัญทางยา(Generic Name) จัดเป็นชื่อที่สำคัญที่สุดในทางเภสัชศาสตร์ เพราะเป็นชื่อที่ถูกตั้งเพื่อเป็นมาตรฐานในการสื่อกัน แทนที่จะใช้ชื่อทางเคมี ซึ่งเป็นชื่อที่ยาวมาก ซับซ้อน นอกจากนี้ยังเป็นชื่อที่ใช้กันทั่วโลก
-ชื่อทางเคมี(Chemical Name) เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นตามระบบวิธีตั้งชื่อทางวิทยาศาสตร์ จากชื่อนี้สามารถแสดงให้เห็นว่า ยานั้นมีโครงสร้างอย่างไร
-ชื่อทางการค้า(Trade Name) เป็นชื่อที่บริษัทผู้ขายตั้งขึ้นเอง เพื่อให้เรียกง่ายน่าสนใจ และใช้ในการโฆษณาทำให้ติดปาก โดยจะมีสัญลักษณ์กำกับที่ชื่อยาด้วย
1.ยาที่ได้จากธรรมชาติ
ยาที่ได้จากพืช(drug from plants) ได้แก่ยาที่ได้จากส่วนต่างๆของพืช เช่น ราก ลำต้น ใบ เปลือ แก่น ผล เมล็ด
-Morphine ได้มาจากยางฝิ่น
-Quinine ได้จากเปลือกต้นซิงโคนา(Cinchona)
ยาที่ได้จากสัตว์(drug from animals) เช่น Heparin ได้จากการสกัดจากปอดวัว และเยื่อบุลำไส้หมู
ยาที่ได้จากแร่ธาตุ(drug from minerals) เช่น Iodine tincture
2.สารกึ่งสังเคราะห์(Semi-synthetic substances) ยาที่ได้มาจากสารจากธรรมชาติ แต่นำมาดัดแปลงโครงสร้างทางเคมี
3.สารสังเคราะห์(Synthetic substances) เป็นการสังเคราะห์โดยเลียนแบบสารที่ได้จากธรรมชาติ เพื่อลดต้นทุนการผลิต หรือการคิดค้นสารใหม่ โดยอาศัยความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างและฤทธิ์ของยา(structure activity relationship)
4.ยาที่ได้จากเทคโนโลยีชีวภาพ(Biotecnology drugs)
รูปแบบยา(dosage form)
ยาเตรียมรูปแบบของแข็ง(Solid dosage form)
ยาเม็ด(tablet) ยาเม็ดเคลือบน้ำตาล(sugar coating tablet) ยาเม็ดเคลือบฟิล์ม(films coating tablet) ยาเม็ดอม(troche,lozenge) ยาเม็ดอมแบบนิ่ม(pastilles) ยาเม็ดอมใต้ลิ้น(sublingual) ยาเม็ดฟู่(effervescent tablet) ยาผงฟู่(effervescent granule) ยาลูกกลอน(pills) แคปซูลชนิดเปลือกแข็ง(hard gelatin capsule) แคปซูลชนิดแข็ง(soft gelatin capsules) ยาผง(dusting powder)
ยาเตรียมรูปแบบของเหลว(liquid dosage form)
ยาน้ำเชื่อม ยาอิมัลชัน ยาน้ำแขวนตะกอน(บางชนิดผสมน้ำก่อนใช้)
ยาเตรียมรูปแบบกึ่งแข็ง(liquid dosage form)
ยาครีม ยาขี้ผึ้ง เพสต์(paste)
ยาเตรียมรูปแบบอื่นๆ(miscellaneous)
ยาเหน็บทวาร(suppository) ยาสวนทวาร(Enema) ยาเม็ดสำหรับเหน็บช่องคลอด(vaginal tablet) ยาฝัง(implant) ยาพ่น(inhaler) ยาแผ่นแปะผิวหนัง(Transdermal patch) ยาเม็ดออกฤทธิ์เนิ่น(sustained release tablet)
ยาปารศจากเชื้อ(sterile product)
3.ยาเคมีบำบัด(cytotoxic pre[aration)
4.ยาเตรียมกัมมันตรังสีหรือเภสัชรังสี(Radiophamaceutical pre[aration)
2.ยาสำหรับใช้เฉพาะที่ เช่น สำหรับตา หู จมูก(Eye-ear-nose preparation)
5.ชีวผลิตภัณฑ์(biological products)
1.ยาฉีด(parenteral preparations)
6.สารที่่ใช้ป้องกันการแข็งตัวของเลือด(anti-coagulant solution)
7.สารอาหารที่ให้ทางหลอดเลือดดำ(total parenteral Nutrition,TPN or partial parenteral nutrition,PPN)
8.ยาปราศจากเชื้ออื่นๆ
วิธีการบริหารยา(Routes of drug administration)
1.Enteral administration การให้ยาโดยผ่านทางเดินอาหาร
1.1 oral วิธีรับประทานเป็นวิธีที่นิยมใช้มากที่สุด เนื่องจาก ง่าย สะดวก ปลอดภัย แต่การดูดซึมยาเข้ากระแสโลหิตขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง
1.2 sublingual ตัวยาถูกดูดซึมผ่านเยื่อเมือกในช่องปากเข้าสู่หลอดเลือดดำ และเข้าสู่ superior vena cava โดยไม่ผ่านกระเพาะอาหารและลำไส้ เข้าสู่กระแส โลหิตโดยไม่ผ่านตับ มักใช้กับยาพวก intensive first pass effect
1.3 Rectal administration ยาที่ให้ทางทวารหนัก อาจให้ในรูปยาเหน็บ(suppositories)หรือยาสวนทวาร(enemas)ยาถูกดูดซึมเข้ากระแสโลหิตที่มาเลี้ยงลำไส้ส่วนปลายโดยไม่ผ่านตับ แต่ถ้าสอดลึกเกินไปอาจซึมเข้าหลอดเลือดไปยังตับได้
2.Parenteral administration
เข้าใต้ผิวหนัง(Subcutaneous)SC
เข้ากล้ามเนื้อ(Intramuscular)IM
เข้าหลอดเลือดดำ/เข้าเส้น(Intravenous) IV
เข้าเส้นเลือดแดง(intra-arterial)IR
เข้าใต้สันหลัง(Intrathecal) เช่น spinal block
เข้าข้อกระดูก(Intraarticular)IA
3.Topical/local ยาที่ใช้เฉพาะที่
ยาป้ายปาก(oral paste)
ยาสูดพ่น(inhaler)
ยาครีม(cream)
ยาเหน็บช่องคลอด(vaginal suppositories)
ยาหยอดตา
ยาเหน็บทวาร(suppositories)
ยาสวนทวาร(enemas)
ยาแผ่นแปะผิวหนัง(transdermal)