Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การติดเชื้ออื่น ๆ ขณะตั้งครรภ์ - Coggle Diagram
การติดเชื้ออื่น ๆ ขณะตั้งครรภ์
การติดเชื้อไวรสัตับอักเสบชนิดบี
(Hepatitis B virus)
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารกในครรภ์
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์
เสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนในขณะตั้งครรภ์
เพิ่มความเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนด
ผลต่อทารก
ทารกแรกเกิดน้ำหนักตัวน้อย
ทารกตายในครรภ์
ทารกที่คลอดมามีโอกาสที่จะ ติดเชื้อ
การพยาบาล
ระยะคลอด
หลีกเลี่ยงการเจาะถุงน้ำคร่ำ
ดูดมูก เลือดและสิ่งคัดหลั่งต่าง ๆ ออกจากปากและจมูกของทารกให้มากที่สุด
ทำความสะอาดทารกทันทีที่คลอด
แลให้ทารกได้รับภูมิคุ้มกันภายหลังคลอด
ประเมินการเต้นของหัวใจทารกใน ครรภ์ ติดตามความก้าวหน้าของการคลอด
ให้การดูแลผู้คลอดโดยยึดหลักการป้องกันการแพร่กระจายเชื้ออย่างเคร่งครัด
ระยะหลังคลอด
เน้นการรักษาความสะอาดของร่างกาย
แนะนำให้นำทารกมารับวัคซีน
ไม่จำเป็นต้องงดให้นมมารดาแก่ทารก
ระยะตั้งครรภ์
อธิบายแก่สตรีตั้งครรภ์เข้าใจความสำคัญของการมาตรวจตามนัด
แนะนำการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
ให้คำแนะนำแก่สตรีตั้งครรภ์
ตรวจคัดกรองสตรีตั้งครรภ์ทุกคน
พยาธิสรีรภาพ
ระยะที่สอง ประมาณ 2-3 เดือนหลังจากได้รับเชื้อ Hepatitis B virus ร่างกายจะสร้าง anti-HBe ขึ้นมาเพื่อทำลาย HBeAg ดังนั้นหากตรวจเลือดจะพบ anti-HBe ให้ผลบวกและจำนวน Hepatitis B virus DNA ลดลง
ระยะที่สามเป็นระยะที่ anti-HBe ทำลาย HBeAg จนเหลือน้อยกว่า 105 copies/mL (20,000 IU/mL) และเข้าสู่ระยะโรคสงบ (inactive carrier)
ระยะแรก เชื้อ Hepatitis B virus เข้าสู่ร่างกาย เชื้อจะแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว ไม่มีอาการแสดง ตรวจเลือดจะ พบ HBeAg ให้ผลบวก และพบ Hepatitis B virus DNA (viral load) จำนวนมาก
ระยะที่สี่ เชื้อกลับมามีการแบ่งตัวขึ้นมาใหม่ (re-activation phase)ากตรวจเลือดเลือดจะพบ HBeAg ให้ผลลบ และ anti-HBe ให้ผลบวก
หัดเยอรมัน (Rubella/German measles)
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารก
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์
ไม่เกิดผลกระทบต่อมารดา
ผลกระทบต่อทารกในครรภ์
ความผิดปกติถาวร หูหนวก หัวใจพิการ ตาบอด (ต้อกระจก, ต้อหิน) สมองพิการ และปัญญาอ่อน
ปรากฏภายหลัง ภาวะเบาหวาน โรคต่อมไทรอยด์ สูญเสีย การได้ยิน ลิ้นหัวใจผิดปกติ ความดันโลหิตสูง สมองอักเสบ
ไม่เกิดผลกระทบต่อมารดา ตับม้ามโต ตัวเหลือง โลหิตจาง เกล็ดเลือดต่ำ ปอดบวม กระดูกบาง
การพยาบาล
แนะนำให้มาฝากครรภ์อย่างสม่ำเสมอ
ประเมินสุขภาพของสตรีตั้งครรภ์
ลีกเลี่ยงการเข้าชุมชน หรือหลีกเลยี่งการสัมผัสกับผู้ที่สงสยัว่าจะเป็นพาหะ
เปิดโอกาสให้สตรีตั้งครรภ์และครอบครัวได้ระบายความรู้สึกและซักถามข้อสงสัย
อธิบายข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจ การดำเนินของโรค ผลของโรคต่อการตั้งครรภ์และต่อทารกในครรภ์ และ การรักษาพยาบาล
ให้วัคซีน
เตรียมร่างกายและจิตใจของสตรีตั้งครรภ์
ดูแลด้านจิตใจของมารดาและ ครอบครัว
สตรีที่ไม่มีภูมิคุ้มกันควรได้รับการฉีดวัคซีน
พยาธิสรีรภาพ
กลุ่มไม่มีอาการทางคลินิก ตรวจพบภูมิคุ้มกันต่อเชื้อหัดเยอรมันอย่างเดียว และกลายเป็นพาหะของโรค
กลุ่มที่มีอาการทางคลินิกมีผื่นที่ใบหน้า ลามไปที่ลำตัวและแขนขา ลักษณะของผื่นจะเป็นตุ่ม เกิดได้ ตั้งแต่วันที่ 7-10 หลังได้รับเชื้อ และจะคงอยู่ 4 สัปดาห์
โรคโควิด-19 กับการตั้งครรภ์
(COVID-19 during Pregnancy)
ผลกระทบต่อการสตรีตั้งครรภ์และทารก
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์
ถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด
รกเสื่อม
การติดเชื้อของเยื่อหุ้มเด็ก
การคลอดก่อนกำหนด
รก ลอกตัวก่อนกำหนด
ผลกระทบต่อทารกในครรภ์
ทารกในครรภ์พัฒนาการล่าช้า
คลอดน้ำหนักตัวน้อย
คลอดก่อนกำหนด
การพยาบาล
การดูแลทารกแรกเกิด ในกรณีมารดาเป็นผู้ที่สงสัยติดเชื้อและติดเชื้อ COVID-19
แนวทางการปฏิบัติในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
การดูแลสตรีตั้งครรภ์ มารดาหลังคลอด ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีประวัติการเดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง
ให้ข้อแนะนำการปฏิบัติสำหรับมารดาหลังคลอด
การดูแลและการพยาบาลสตรีตั้งครรภ์และมารดาหลังคลอด
พยาธิสภาพ
โรคโควิด-19 เป็นโรคอุบัติใหม่ที่ระบาดได้รวดเร็วจนแพร่กระจายทั่วโลกเกิดจากเชื้อไวรัสตระกูล Corona ชื่อ SARS-CoV-2 การติดต่อส่วนใหญ่ผ่านทางสัมผัสละอองฝอยจากการไอ หรือจาม อาการของโรคคล้ายกับ ไข้หวัดใหญ่
สุกใส (Varicella-zoster virus: VZV)
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารก
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์
ภาวะปอดอักเสบ หรือปอดบวม
บางรายจะมีอาการทางสมอง
ผลกระทบต่อทารก
การติดเชื้อในครรภ์
การติดเชื้อปริกำเนิด
การพยาบาล
ระยะตั้งครรภ์
แนะนำให้พักผ่อนอย่างเต็มที่ และรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง
ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
เปิดโอกาสให้สตรีตั้งครรภ์และครอบครัวได้ระบายความรู้สึก
ระยะคลอด
ให้การดูแลในระยะคลอดเหมือนผู้คลอดทั่วไป
ขณะคลอดควรดูดเมือกออกจากปากและจมูกทารกโดยเร็ว
ระยะก่อนตั้งครรภ์
แนะนำให้สตรีวัยเจริญพันธุ์ที่วางแผนตั้งครรภ์ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันสุกใสก่อนการตั้งครรภ์
ระยะหลังคลอด
มารดามีการตกสะเก็ดแล้ว สามารถแนะนำเกี่ยวกับการให้นมมารดาได้
ดูแลให้ทารกรับวัคซีน VariZIG แก่ทารกแรกเกิดทันที
ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรค
แนะนำการรับประทานอาหารโปรตีนและวิตามินซีสูง
มารดามีอาการ ให้แยกทารกแรกเกิดจากมารดาในระยะ 5 วันแรกหลังคลอด
เน้นย้ำให้เห็นความสำคัญของการมาตรวจตามนัด
พยาธิสรีรภาพ
เมื่อรับเชื้อเข้าสู่ร่างกายผ่านทางเยื่อเมือกบุทางเดินหายใจฟักตัวนาน 10-20 วัน
การติดเชื้อโปรโตซัว
(Toxoplasmosis)
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารก
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารก
ถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด
รกลอกตัวก่อน กำหนด
ถุงน้ำคร่ำและเยื่อหุ้มทารกอักเสบ
คลอดก่อนกำเนิด
การแท้ง
ผลกระทบต่อทารกในครรภ์
ทารกมีการติดเชื้อแต่กำเนิด
ทารกมักเสียชีวิตหลังคลอด
การพยาบาล
ระยะคลอด
ให้การดูแลในระยะคลอดเหมือนผู้คลอดทั่วไป
ภายหลังทารกคลอดเช็ดตาด้วย 0.9%NSS เช็ดตาทันที จากนั้นป้ายตาด้วย 1% tetracycline ointment หรือ 0.5% erythromycin ointment หรือ 1% Silver nitrate (AgNO3) หยอดตาตาทารก หลัง คลอด
ระยะหลังคลอด
เฝ้าระวังการตกเลือดและการติดเชื้อหลังคลอด
แนะนำการปฏิบัติตนหลังคลอด
ระยะตั้งครรภ์
เน้นการรักษาอย่างต่อเนื่อง
แนะนำเกี่ยวกับการสัมผัสเชื้อ
ติดตามผลการตรวจเลือด
ให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับโรค
พยาธิสภาพ
เกิดจาก ปรสิตคือToxoplasma gondii ซึ่งเป็นโปรโตซัวชนิดอาศัยในเซลลโ์ดยติดเชื้อได้ทั้งในคนและสตัว์ มีพาหะหลักคือ แมว ส่วนพาหะชั่วคราวคือ หนู กระต่าย แกะ รวมทั้งคน การติดต่อเกิดขึ้นได้โดยการรับประทานผัก หรือผลไม้ที่ ปนเปื้อนดินที่มี oocyte ของเชื้อ
โรคติดเชื้อไซโทเมกะโรไวรัส
(Cytomegalovirus: CMV)
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารกในครรภ์
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์
คลอดก่อนกำหนด
รกลอกตัวก่อน กำหนด
เสี่ยงต่อการแท้ง
มีการติดเชื้อของถุงน้ำคร่ำ
ผลกระทบต่อทารก
fetal distress
คลอดก่อนกำหนด
แท้ง
น้ำหนักแรกเกิดน้อย
IUGR
ทารก เสียชีวิตในครรภ์
ตายคลอด
การพยาบาล
ระยะคลอด
ให้การดูแลในระยะคลอดเหมือนผู้คลอดทั่วไป
ขณะคลอดควรดูดเมือกออกจากปากและจมูกทารกโดยเร็ว
ระยะหลังคลอด
งดให้นมมารดา หากมารดาหลังคลอดมีการติดเชื้อ
แนะนำการปฏิบัติตนหลังคลอด
ให้การดูแลในระยะหลังคลอดเหมือนมารดาทั่วไป
แนะนำให้สังเกตอาการผิดปกติของทารก
ระยะตั้งครรภ์
อธิบายสตรีตั้งครรภ์และครอบครัวทราบเกี่ยวกับโรค
งดมีเพศสัมพันธ์
ซักประวัติ
พยาธิสรีรภาพ
เชื้อ CMV ติดต่อเข้าสู่ร่างกายทั้งทางตรงและทางอ้อม ได้แก่ ได้รับเชื้อจากมารดาในครรภ์ ระยะคลอด ระยะให้นม การถ่ายเลือด การปลูกถ่ายอวัยวะ เพศสัมพันธ์ ทางหายใจ และทางการสัมผัส เชื้อ CMV พบได้จากสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย ปัสสาวะ น้ำอสุจิ สารคัดหลั่งจากปากมดลูก น้ำนม น้ำตา อุจจาระ และเลือด
การติดเชื้อไวรัสซิก้า (Zika)
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารก
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์
มีผื่นขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์
ผลกระทบต่อทารก
ทารกในครรภ์เจริญเติบโตช้า
ทารกตายในครรภ์
ภาวะศีรษะเล็กในทารก
การพยาบาล
ตรวจร่างกายทารกแรกเกิด
การดูแลในระยะคลอดให้การดูแลเหมือนผู้คลอดทั่วไป
ควรให้การพยาบาลในรายที่มีการติดเชื้อในระยะตั้งครรภ์
การดูแลมารดาหลังคลอดให้การดูแลเหมือนมารดาทั่วไป
ให้คำแนะนำในการป้องกันสาเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคติดเชื้อไวรัสซิกา
พยาธิสภาพ
เกิดจากเชื้อฟลาวิไวรัส (Flavivirus) โดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรคแพร่โดยยุงลายที่มีเชื้อแล้วไปกัดคน สามารถติดต่อได้โดยการถูกยงุลายที่มี เชื้อกัด และโรคนี้ยังสามารถติดต่อ จากคนสู่คนได้โดยผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์มีระยะฟักตัว 3-12 วัน ก่อน แสดงอาการ สามารถพบเชื้อนี้ในน้ำอสุจิได้นาน 6 เดือน
การติดเชื้อไวรสัรับอักเสบชนิดเอ
(hepatitis A virus: HAV)
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารก
ร่างกาย มารดาจะสร้าง antibody ต่อเชื้อ HAV ซึ่งสามารถผ่านไปยังทารกในครรภ์ได้
การพยาบาล
อธิบายให้สตรีตั้งครรภ์และครอบครัวเข้าใจเกี่ยวกับโรค การรักษา การดูแลตนเองที่เหมาะสม
แนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตัว ดังนี้
รับประทานอาหารที่สุก สะอาด และย่อยง่าย
มาตรวจตามนัด
พักผ่อนอย่างเพียงพอ
หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีผลต่อตับ
พยาธิสภาพ
เกิดจากการติดเชื้อ hepatitis A virus ซึ่งเชื้อ ไวรัสสามารถทำให้ตับเกิดการอักเสบ ไวรัสตับอักเสบเอ ติดต่อโดยการรับประทานอาหารหรือน้ำที่มีการปนเปื้อน เชื้อโรคตับอักเสบเอเข้าไป เชื้อไวรัสจะผ่านกระเพาะไปยังลำไส้ จากนั้นประมาณ 15-50 วัน (เฉลี่ย 28 วัน) เชื้อจะ กระจายเข้าสู่ตับทำให้ตับเกิดการอักเสบเฉียบพลัน