Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การส่งเสริมการขับถ่ายปัสสาวะ - Coggle Diagram
การส่งเสริมการขับถ่ายปัสสาวะ
ปัจจัยมีที่ผลต่อการขับถ่ายปัสสาวะ
อายุ หรือ พัฒนาการในวัยต่าง ๆ (Developmental growth)
น้ําและอาหาร (Food and fluid)
ยา (Medication)
ด้านจิตสังคม (Psychosocial factors)
สังคมและวัฒนธรรม (Sociocultural factor)
ลักษณะท่าทาง (Body position)
กิจกรรมและความตึงตัวของกล้ามเนื้อ (Activity and Muscle tone)
พยาธิสภาพ (Pathologic conditions)
การผ่าตัดและการตรวจเพื่อการวินิจฉัยต่าง ๆ
(Surgical and diagnostic procedure)
แบบแผนการขับถ่ายปัสสาวะ
และการขับถ่ายปัสสาวะที่ผิดปกติ
แบบแผนการขับถ่ายปัสสาวะ
การขับถ่ายปัสสาวะที่ผิดปกติ
ไม่มีปัสสาวะ(Anuria/Urinarysuppression)
ปัสสาวะน้อยกว่าปกติ(Oliguria)
ปัสสาวะมากกว่าปกติ(PolyuriaหรือDiuresis)
ปัสสาวะตอนกลางคืน (Nocturia)
ปัสสาวะขัดปัสสาวะลําบาก(Dysuria)
ถ่ายปัสสาวะบ่อยหรือกะปริบกะปรอย (Pollakiuria)
ปัสสาวะรดที่นอน(Enuresis)
ปัสสาวะคั่ง(Urinaryretention)
กลั้นปัสสาวะไม่อยู่หรือกลั้นปัสสาวะไม่ได้
(Urinaryincontinence)
กลั้นปัสสาวะไม่อยู่โดยสิ้นเชิง (True Incontinence)
กลั้นปัสสาวะไม่ทัน หรือ ภาวะกระเพาะปัสสาวะไวเกิน
(Urge incontinence/ Urgency/ Overactive bladder)
ปัสสาวะเล็ด (Stress incontinence)
ปัสสาวะท้น (Overflow incontinence)
ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ที่เกิดจากภาวะหรือโรคอื่น ๆ
(Functional Incontinence)
ส่วนประกอบของปัสสาวะที่ผิดปกติ
ปัสสาวะเป็นเลือด (Hematuria)
น้ําตาลในปัสสาวะ (Glycosuria)
โปรตีนในปัสสาวะ (Proteinuria หรือ Albuminuria)
คีโตนในปัสสาวะ (Ketonuria)
ปัสสาวะมีสีเหลืองน้ําตาลของบิลิรูบิน (Bilirubinuria หรือ Choluria)
ปัสสาวะมีสีดําของฮีโมโกลบิน (Hemoglobinuria)
ปัสสาวะเป็นหนอง (Pyuria)
นิ่วในปัสสาวะ (Calculi)
ไขมันในปัสสาวะ (Chyluria)
หลักการส่งเสริมสุขภาพในระบบทางเดินปัสสาวะ
ส่งเสริมให้ได้รับน้ําอย่างเพียงพอ
ป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
ส่งเสริมให้กล้ามเนื้อทํางานอย่างเต็มที่
การช่วยเหลือผู้ป่วยในการขับถ่ายปัสสาวะ กรณีปัสสาวะไม่ออก
สอนให้นวดกระเพาะปัสสาวะ
เสริมสร้างนิสัยของการถ่ายปัสสาวะ
การช่วยเหลือผู้ป่วยในการขับถ่ายปัสสาวะ กรณีท่ีไม่สามารถไปห้องน้ําได้
การสวนปัสสาวะ
วัตถุประสงค์ของการสวนปัสสาวะ
เพื่อระบายเอาน้ําปัสสาวะออกในผู้ป่วยที่ไม่สามารถถ่ายปัสสาวะเองได้
เพื่อช่วยให้กระเพาะปัสสาวะว่างในผู้ป่วยท่ีต้องทําหัตถการต่างๆ
เพื่อตรวจสอบจํานวนน้ําปัสสาวะท่ีเหลือค้างในกระเพาะปัสสาวะ
เพื่อเก็บน้ําปัสสาวะส่งตรวจเพาะเชื้อ
เพื่อสวนล้างกระเพาะปัสสาวะ หรือใส่ยาในกระเพาะปัสสาวะ
เพื่อศึกษาความผิดปกติของท่อปัสสาวะ
เพื่อตรวจสอบจํานวนน้ําปัสสาวะท่ีขับออกมาในผู้ป่วยอาการหนักอย่างถูกต้อง
ชนิดของการสวนปัสสาวะ
การสวนปัสสาวะเป็นครั้งคราว(Intermittentcatheterization)
การสวนคาสายสวนปัสสาวะ
(Indwelling catheterization or retained catheterization)
อุปกรณ์
ชุดทําความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ 1 ชุด หม้อนอน
ถุงมือสะอาด 1 คู่ ถุงกระดาษหรือถุงพลาสติกสําหรับทิ้งสําลีใช้แล้ว
ชุดสวนปัสสาวะที่ปราศจากเชื้อ (Sterile catheterization set)
สารหล่อลื่นสายสวนชนิดละลายน้ําได้ เช่น KY-jelly เป็นต้น
น้ํากลั่นปลอดเชื้อ (Sterile water) และน้ํายาทําลายเชื้อ (Antiseptic solution)
กระบอกฉีดยาปลอดเชื้อ (Sterile syringe) ขนาด 10 มิลลิลิตร 1 อัน
Transfer forceps
ถุงรองรับปัสสาวะปลอดเชื้อและเป็นระบบปิด (Sterile urine bag) 1 ใบ
โคมไฟ หรือไฟฉาย
พลาสเตอร์, เข็มกลัด, ผ้าปิดตา
สายสวนปัสสาวะ
วิธีการสวนปัสสาวะ
การสวนคาสายสวนปัสสาวะ (Indwelling หรือ Retention catheter)
การถอดสายสวนปัสสาวะที่คาไว้ (Removing Indwelling or Retention catheters)
หลักการพยาบาลผู้ป่วยได้รับการใส่ถุงยางอนามัย
เพื่อระบายปัสสาวะ (Condom catheter)
วัตถุประสงค์
เพื่อรักษาความสะอาด และป้องกันการระคายเคืองของผิวหนัง
ป้องกันการเกิดแผลกดทับในรายที่ต้องรักษาตัวนาน ๆ
ป้องกันการติดเชื้อจากการใส่สายสวนปัสสาวะค้างไว้
ป้องกันการอักเสบในรายที่มีแผล
การใส่ถุงยางอนามัย
เป็นการระบายปัสสาวะภายนอก ในผู้ชายให้ปัสสาวะไหลไปตามท่อลงสู่
ภาชนะหรือถุงรองรับปัสสาวะ
ต้องเปลี่ยนถุงยางอนามัยอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
ต้องทําความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ทุกครั้งที่เปลี่ยนถุงยางอนามัย
การเก็บปัสสาวะส่งตรวจ
วิธีการเก็บปัสสาวะแบบรองเก็บปัสสาวะช่วงกลาง (Clean mid-stream urine)
วิธีการเก็บปัสสาวะจากสายสวนปัสสาวะที่คาไว้
วิธีการเก็บปัสสาวะ 24 ชั่วโมง
กระบวนการพยาบาลในการส่งเสริมและ
ช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีปัญหาการขับถ่ายปัสสาวะ
การประเมิน
การซักประวัติ
ตรวจร่างกายในระบบทางเดินปัสสาวะ
วิเคราะห์ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การวินิจฉัยทางการพยาบาล
มีการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
การวางแผนการพยาบาล
และการปฏิบัติการพยาบาล
ประเมินอาการและอาการแสดงของการติดเชื้อ
ประเมินสัญญาณชีพ
ให้การพยาบาลโดยยึดหลัก Aseptic technique
Force oral fluid มากกว่า 2,000-3,000 มิลลิลิตรต่อวัน ถ้าไม่มีข้อห้าม
ทําความสะอาดบริเวณฝีเย็บให้สะอาด วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น และหลังถ่ายอุจจาระทุกครั้ง
ใช้สบู่อ่อนและน้ําหรือน้ํายาทําความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก
รักษาระบบการระบายปัสสาวะให้เป็นระบบปิดอยู่เสมอ
อย่าปล่อยให้ปัสสาวะเต็มถุงรองรับ ควรเททิ้งอย่างน้อยทุก 8 ชั่วโมง
ส่งเสริมให้ปัสสาวะเป็นกรด
การเปลี่ยนสายสวนปัสสาวะควรทําเมื่อจําเป็น
ดูแลให้ถุงรองรับปัสสาวะอยู่ต่ำกว่าระดับกระเพาะปัสสาวะเสมอ
ตรวจดูสายสวนและท่อระบายของถุงรองรับปัสสาวะเป็นระยะไม่ให้หักพับงอ
กระตุ้นให้ผู้ป่วยลุกขึ้นเคลื่อนไหวและออกกําลังกาย
ถ้าเป็นไปได้ให้แยกห้องผู้ป่วยที่ติดเชื้อจากการสวนคาสายสวนปัสสาวะออกจาก
ผู้ป่วยที่ไม่ติดเชื้อจากการสวนคาสายสวนหรือไม่ควรอยู่เตียงติดกัน
ดูแลให้ได้รับยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษา
ติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
รายงานแพทย์เมื่อพบความผิดปกติ
ประเมินผลการพยาบาล
ภายหลังให้การพยาบาลควรมีการประเมินทุกครั้งตามเกณฑ์ การประเมินผล