Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การส่เสริมการขับปัสสาวะ - Coggle Diagram

- - - - วัยเด็ก
        
        กระเพาะปัสสาวะมีความจุน้อย
      - ผู้สูงอายุ
        
        น้ำปัสสาวะเพียง 150-200 มิลลิลิตร กระเพาะปัสสาวะจะบีบตัว
        ทำให้รู้สึกอยากถ่ายปัสสาวะทำให้อยากปัสสาวะบ่อยครั้ง
    - - จำนวนน้ำที่ร่างกายได้รับ
      - จำนวนน้ำที่ร่างกายสูญเสีย
      - อาหารที่ร่างกายได้รับ
    - - ขับออกทางปัสสาวะ
    - - ความเครียดความวิตกกังวล
    - - สังคมและวัฒนธรรมประเพณี
    - - ผู้ชายบางรายจะมีปัญหาในการขับถ่ายปัสสาวะ
        เมื่ออยู่ในท่านอนราบส่วนผู้หญิงจะใช้ท่านั่ง
    - - การออกกำลังกายสม่ำเสมอ
      - ผู้ป่วยที่คาสายสวนปัสสาวะไว้เป็นเวลานาน
      - สตรีในภาวะหมดประจำเดือน
      - ผู้ที่นอนอยู่บนเตียงนาน ๆ
    - - ผลต่อการสร้างปัสสาวะทั้งปริมาณและคุณภาพ
    - - ความเครียดและความวิตกกังวล
      - การตรวจวินิจฉัย
      - การฉีดยาชาที่ไขสันหลัง
  - - - แบบแผนการขับถ่ายปัสสาวะในคนปกติ
        
        อยากถ่ายปัสสาวะเมื่อมีปริมาณปัสสาวะ 100-400 มิลลิลิตร
        
        ภาวะที่ไม่สามารถถ่ายปัสสาวะได้ทันที
        
        เวลาที่ใช้ในการถ่ายปัสสาวะมักไม่เกิน 30 วินาที
        
        ตลอดการถ่ายปัสสาวะจะไม่มีอาการเจ็บปวด
        
        ลำปัสสาวะช่วงแรกจะพุ่งแรงและใหญ่กว่าตอนสุด
        
        ปัสสาวะประมาณ 4-6 ครั้งต่อวัน
        
        มักถ่ายปัสสาวะก่อนนอน ตอนเช้าหลังตื่นนอน ก่อนหรือหลังรับประทานอาหาร
        
        การถ่ายปัสสาวะจะเว้นช่วงห่างประมาณ 2–4 ชั่วโมง
        
        จำนวนปัสสาวะประมาณ 250-400 มิลลิลิตรต่อครั้ง
        
        Residual urine ไม่ควรเกิน 50 มิลลิลิตร
      - ลักษณะของปัสสาวะที่ปกติ
        
        ปริมาณปัสสาวะปกติในผู้ใหญ่ 800–1,600 มิลลิลิตร
        
        ลักษณะใส ไม่ขุ่น ไม่มีตะกอน
        
        สีเหลืองจางจนถึงสีเหลืองเข้ม
        
        pH ประมาณ 4.6-8.0
        
        มีความถ่วงจำเพาะประมาณ 1.015-1.025
        
        ตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ ไม่พบ Casts,Bacteria, Albumin
        
        ปัสสาวะใหม่มีกลิ่นแอมโมเนียอ่อนๆ
    - - ไม่มีปัสสาวะ
      - ปัสสาวะน้อยกว่าปกติ
      - ปัสสาวะมากกว่าปกติ
      - ปัสสาวะตอนกลางคืน
      - ปัสสาวะขัด ปัสสาวะลำบาก
      - ถ่ายปัสสาวะบ่อยหรือกะปริบกะปรอย
      - ปัสสาวะรดที่นอน
      - ปัสสาวะคั่ง
      - กลั้นปัสสาวะไม่อยู่
        
        กลั้นปัสสาวะไม่อยู่โดยสิ้นเชิง
        
        กลั้นปัสสาวะไม่ทัน
        
        ปัสสาวะเล็ด
        
        ปัสสาวะท้น
        
        ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ที่เกิดจากภาวะหรือโรคอื่น ๆ
- - - - ผู้ใหญ่
        
        ควรได้รับน้ำวันละ 6-8 แก้ว หรือประมาณ 1,500-2,000 มิลลิลิตร
      - ผู้ป่วยที่เสี่ยงติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ
        
        จะต้องได้รับน้ำประมาณวันละ 2,00-3,000 มิลลิลิตร
    - - ดื่มน้ำ
        
        อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว (แก้วละ 240 มิลลิลิตร)
      - ฝึกถ่ายปัสสาวะบ่อยๆ ทุก 2-4 ชั่วโมง
      - ดื่มน้ำ 2 แก้วก่อนและหลังมีเพศสัมพันธ์
      - อาบน้ำด้วยฝักบัวแทนอาบในอ่างอาบน้ำ
      - ใส่ชุดชั้นในที่ทำด้วยผ้าฝ้ายดีกว่าทำด้วยไนล่อน
      - หลีกเลี่ยงการใส่กางเกงที่แน่นหรือคับเกินไป
      - เพิ่มความเป็นกรดของปัสสาวะ
      - ใช้ Estrogen cream ตามแผนการรักษาของแพทย์
    - - กล้ามเนื้อภายในอุ้งเชิงกรานและช่องคลอดหย่อนสมรรถภาพ
        จะทำให้ปัสสาวะไม่ออกและกลั้นปัสสาวะไม่ได้
    - - จัดให้ผู้ป่วยอยู่คนเดียวในที่มิดชิดขณะถ่ายปัสสาวะ
      - ช่วยให้ผู้ป่วยได้ถ่ายปัสสาวะในท่าที่สะดวกเป็นธรรมชาติ
      - การเปิดก๊อกน้ำให้ได้เห็น หรือได้ยินเสียงน้ำไหล
      - ใช้ความร้อนช่วยในการขับถ่ายปัสสาวะ
      - ให้เวลาในการขับถ่ายปัสสาวะ
      - ช่วยกดหน้าท้องเบาๆ
    - - นำหม้อนอน ในกรณีที่ผู้ป่วยเป็นผู้หญิง
      - กระบอกปัสสาวะในกรณีที่ผู้ป่วยเป็นผู้ชายมาให้ผู้ป่วยที่เตียง
    - - ใช้สำหรับผู้ป่วยที่มีความบกพร่องเกี่ยวกับ
        ความรู้ความเข้าใจในช่วงเวลาถ่ายปัสสาวะ
      - ใช้วิธีกระตุ้นให้ผู้ป่วยไปปัสสาวะ ชมเชย และให้กำลังใจ
    - - ใช้มือนวดเบาๆ ที่ท้องน้อยเหนือกระดูกหัวเหน่า
- - - - การสวนปัสสาวะเป็นครั้งคราว
      - การสวนคาสายสวนปัสสาวะ
  - - - เป็นครั้งคราว
        
        ใช้แบบ Straight catheter
        
        การสวนคาสายสวนปัสสาวะ
        
        ควรใช้ Foley catheter
        
        สายสวนปัสสาวะ
        
        แบบ 2 หาง
        
        แบบ 3 หาง
      - ขนาดของสายสวนปัสสาวะ
  - - - จัดท่า ปิดตา คลุมผ้าผู้ป่วย
      - ทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์
      - เทน้ำยาลงในถ้วย บีบ KY-jelly ลงในผ้าก๊อซ
      - ตรวจสอบประสิทธิภาพของบอลลูนที่ปลาย Foley catheter
      - ใช้มือซ้ายแหวก Labia ให้กว้างจนเห็นรูเปิดของท่อปัสสาวะ
      - ใช้มือข้างที่ถนัดหยิบสายสวนปัสสาวะหล่อลื่น KY-Jelly
      - ใช้ Forcepsจับสายสวนปัสสาวะให้มั่นคง
      - ค่อยๆ สอดสายสวนปัสสาวะเข้าไปในรูเปิด
      - ใส่สายสวนเข้าไป 2-3 นิ้ว (เพศหญิง) หรือ
        6-8 นิ้ว (เพศชาย)จะเห็นปัสสาวะไหลออกมา
      - สอดปลายสายของถุงรองรับปัสสาวะลอด
      - เช็ดบริเวณ Vulva ให้แห้ง
    - - ต่อ Syringe เข้ากับหางของสายสวนปัสสาวะ
      - ใช้กระดาษชำระเช็ดบริเวณ Perineum ให้แห้ง
      - สังเกตลักษณะ จำนวนปัสสาวะในถุงก่อนเอาไปเททิ้ง
      - กระตุ้นให้ผู้ป่วยดื่มน้ำมาก ๆ
      - ใส่ถุงมือทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์