Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โลกาภิวัตน์ - Coggle Diagram
โลกาภิวัตน์
หมายถึง การแพร่กระจายไปทั่วโลก การที่ประชาคมโลกไม่ว่าจะอยู่ ณ จุดใด สามารถรับรู้สัมพันธ์
หรือรับผลกระทบจากสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วกว้างขวาง อันเนื่องมาจากการพัฒนาระบบสารสนเทศ
-
1.2 นายแอนโทนี ไกเดนส์
Gidens) ผู้อํานวยการของโรงเรียนเศรษฐศาสตร์แห่งลอนดอน เขียนไว้ว่า
โลกาภิวัตน์ เน้นความสัมพันธ์ทางสังคมไปทั่วทั้งโลก โดยเชื่อมโยงท้องที่ต่างๆที่อยู่ไกลกัน
1.3 สถาบันเลวิน
แห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ให้นิยามว่า โลกาภิวัตน์ เป็น กระบวนการดําเนินงานร่วมกันของผู้คน บริษัท และรัฐบาลของชาติต่างๆ ทั้งในด้านการค้า การลงทุนระหว่างชาติ โดยมีเทคโนโลยี
ด้านการสื่อสารเป็นปัจจัยสําคัญที่เร่งให้กระบวนการนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
1.4 เฟรด ดับเบิลยู ริกก์
กล่าวไว้ว่า โลกาภิวัตน์ คือกระบวนการที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ 5000 ปีมาแล้ว แต่เพิ่งจะมาเร่งให้เร็วขึ้นอย่างมากหลังจากการล่มสลายของสหภาพ
โซเวียดในปี ค.ศ. 1991 สาระสําคัญของโลกาภิวัตน์ประกอบด้วย (1) การส่งเงินทุน แรงงาน การจัดการ ข่าวสาร ภาพ
และข้อมูลข้ามเขตประเทศ (2) ตัวจักรกลที่ขับเคลื่อนให้โลกาภิวัตน์ดําเนินไป คือ บริษัทข้ามชาติ องค์กรระหว่าง
รัฐบาล และองค์กรสื่อมวลชนข้ามชาติ
-
นายโธมัส ฟรีดแมน เขียนหนังสือชื่อ The world is flat : A brief history of the twenty firstcentury หนังสือเล่มนี้กล่าวถึงความเป็นมา การเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกที่มีผลมาจากโลกาภิวัตน์จากอดีตจนถึงศตวรรษที่ 21 โดยแบ่งออกเป็น 3 ช่วงเวลา ได้แก่
ช่วงที่ 1
เป็นช่วงเวลาตั้งแต่ ค.ศ. 1492 ถึง 1800ในช่วงเวลาดังกล่าว การติดต่อระหว่างประเทศต่าง ๆ ไม่ว่าจะเพื่อวัตถุประสงค์ใดก็ตาม จะเป็นการเจรจา
ตกลง หรือทําสัญญากันระหว่างประมุขหรือผู้นําของประเทศ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้แทนประเทศเท่านั้นจุดเริ่มต้นเกิดจากการที่ประเทศในทวีปยุโรป ได้แก่ สเปน โปรตุเกส ฮอลันดา (เนเธอร์แลนด์) อังกฤษ ฝรั่งเศส ที่มี
เทคโนโลยีด้านการเดินเรือที่ทันสมัยกว่า เดินเรือไปทางซีกโลกตะวันออกเพื่อแสวงหาอาณานิคมโดยใช้เหตุผลทางด้านการค้า
และการเผยแพร่ศาสนา เส้นทางการเดินเรือผ่านทวีปอัฟริกาเข้าสู่เอเชียและออสเตรเลีย
ช่วงที่ 2
เป็นช่วงเวลาตั้งแต่ ค.ศ. 1800 ถึง 2000 และตั้งชื่อช่วงนี้ว่า Globalization of
Companies ในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมไปจนถึงสิ้นสุดสงครามเย็น การติดต่อระหว่างประเทศโดยเฉพาะ
เพื่อวัตถุประสงค์ทางการค้าสามารถเจรจาตกลงกันในระดับบริษัทได้โดยมีขอบเขตอยู่ภายใต้กฎหมายของทั้งสองฝ่าย ความ
เปลี่ยนแปลงที่มีผลกระทบต่อประชากรโลกอย่างชัดเจน คือ การสร้างเครื่องจักรที่ใช้พลังงานจากไอน้ําและจากน้ํามันขึ้นมา
เพื่อขับเคลื่อนยานพาหนะให้มีความเร็วสูงขึ้นโดยอาศัยธรรมชาติและแรงงานมนุษย์/สัตว์น้อยลง ทําให้ลดระยะเวลาในการ
เดินทาง
ช่วงที่ 3
3.0) เป็นช่วงเวลาตั้งแต่ ค.ศ. 2000 ถึง 2005 และตั้งชื่อช่วงนี้ว่า Globalization ofIndividual หมายถึง การติดต่อกับต่างประเทศในช่วงเวลานี้ประชาชนแต่ละคนสามารถดําเนินการได้เอง ทั้งนี้ต้องไม่ผิดกฎหมายของทั้งสองฝ่าย ในช่วงเวลานี้มีการเปลี่ยนแปลงที่สําคัญในสังคมโลกมากมาย ในหนังสือเล่มนี้ได้กล่าวถึงไว้ดังนี้
3.1 การรวมประเทศของเยอรมันตะวันออกกับเยอรมันตะวันตก ในปี ค.ศ. 1989 ทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและการปกครองของประเทศที่ยิ่งใหญ่ทั้งพื้นที่ ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และพลังทางเศรษฐกิจในทวีปยุโรป
3.2 การเกิดอินเทอร์เน็ต (internet) ในปี ค.ศ. 1976 อินเทอร์เน็ตเป็นเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทําให้เกิดโลกาภิวัตน์
อย่างรวดเร็วและกว้างขวาง
3.3 การเกิด work flow software คือ การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการทํางานเพื่อให้การทํางานมีมาตรฐาน
เดียวกัน ไม่ว่าจะทํางานอยู่ที่ส่วนใดของโลกที่มีระบบอินเทอร์เน็ต
3.4 การเกิด open sourcing คือ การมีโปรแกรมที่เปิดเผยรหัสแก่สาธารณะ ทําให้ประชากรโลกนํามาใช้พัฒนากิจการของตนในรูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งใช้พัฒนาโปรแกรมที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ตอบสนองความต้องการในการดําเนินกิจการของตน
3.5 การเกิด out sourcing คือ การที่องค์กรหนึ่งจ้างหน่วยงานภายนอกให้ดําเนินกิจการบางอย่างให้กับองค์กรของตน
เนื่องจากภายในองค์กรของตนไม่มีหน่วยงานย่อยที่มีหน้าที่ดําเนินกิจการนั้นโดยตรง
3.6 การเกิด in sourcing คือ การที่องค์กรหนึ่งมีการพัฒนา/ปรับปรุง/เปลี่ยนแปลงกิจการ ให้มีเป้าหมายเพิ่มขึ้นจากเดิม กิจการนั้นยังไม่มีหน่วยงานย่อยภายในองค์กรทําหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง แต่ในองค์กรมีกลุ่มบุคลากรหรือหน่วยงานย่อยเดิม กิจการนั้นยังไม่มีหน่วยงานย่อยภายในองค์กรทําหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง แต่ในองค์กรมีกลุ่มบุคลากรหรือหน่วยงานย่อย
3.7 การเกิด off shoring คือ การย้ายโรงงานที่ผลิตสินค้าหรือการให้บริการไปอยู่ในประเทศอื่น เพื่อให้มีกําไรสูงขึ้น
เช่น ย้ายไปยังประเทศที่มีค่าแรงถูกกว่า อัตราการเก็บภาษีน้อยกว่า กฎหมายสิ่งแวดล้อมอ่อนกว่า
3.8 การเกิด supply chaining หรือธุรกิจสายส่ง รูปแบบใหม่ที่ทําให้ผู้ผลิตสินค้าสามารถส่งสินค้าของตนให้ถึง
ผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวาง รวดเร็ว และสินค้าไม่เสื่อมคุณภาพ ทําให้เกิดบริษัทรับส่งสินค้าและวัตถุประเภทต่าง ๆ
3.9 การเกิด informing หรือการให้ข้อมูลข่าวสาร ในรูปแบบที่ต่างไปจากเดิมโดยใช้เครื่องมือ (search engineรูปแบบต่าง ๆ ทําให้การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารมีความรวดเร็วและครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างขวาง ทั้งในรูปแบบของตัวอักษรเสียง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว
3.10 การหลอมรวมของสื่อดิจิตอล (convergence) ทําให้เกิดความหลากหลายด้านศักยภาพในการสื่อสารข้อมูลเครื่องมือสื่อสารเครื่องหนึ่งสามารถทําหน้าที่ได้หลายอย่าง เช่น ใช้เป็น โทรศัพท์ กล้องถ่ายรูป เครื่องบันทึกเสียง เครื่องคอมพิวเตอร์ และโทรทัศน์ รวมอยู่ในเครื่องเดียวกัน