Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
อาหารตามธาตุ
กับวัฒนธรรมจีน image - Coggle Diagram
อาหารตามธาตุ
กับวัฒนธรรมจีน 
ข้อมูลทั่วไป
-
ประเทศจีน
ตั้งอยู่ด้านตะวันออกของทวีปเอเชีย มีพื้นที่ 9.6 ล้านตารางกิโลเมตร นับว่าเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดของทวีปเอเชียมีพรมแดนติดต่อประเทศต่าง โดยรอบ 15 ประเทศ ได้แก่เกาหลีเหนือ รัสเซีย มองโกเลีย คาซัคสถาน เคอร์กิซสถาน ทาจิกิสถาน อัฟกานิสถาน ปากีสถาน อินเดีย เนปาล สิกขิม ภูฐาน พม่า ลาว และเวียดนาม โดยมีเส้นพรมแดนทางบกยาวกว่า 2 หมื่นกิโลเมตรขณะที่ทิศตะวันออกและทิศใต้จดทะเลเหลือง ทะเลจีนตะวันออก และทะเลจีนใต้มีชนชาติต่างๆอยู่รวมกัน 56ชนชาติ โดยเป็นชาวฮั่น ร้อยละ 93.3 ที่เหลือเป็นชนกลุ่มน้อยอื่นๆที่สำคัญ ได้แก่ ชนเผ่าจ้วง ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเขตปกครองตนเองกวางสีและมณฑลยูนนาน
ประเพณีจีน
เป็นเทศกาลที่ถือปฏิบัติกันมาตั้งแต่สมัยอดีตมาจนถึงปัจจุบัน ขนบธรรมเนียมประเพณีความเชื่อ อันเป็นจุดกำเนิดของชาวจีนเช่น เทศกาลกินเจ จุดประสงค์ของการกินเจ แบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ กินเพื่อสุขภาพ กินด้วยจิตเมตตากินเพื่อเว้นกรรมเทศกาลเช็งเม้ง เป็น การไหว้บรรพบุรุษที่สุสาน ฮวงซุ้ย(แต้จิ๋ว) หรือ บ่องซุ่ย(ฮกเกี้ยน) เป็นการแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ เป็นต้น
วัฒนธรรมจีน
อาหารจีน
-
-
-
-
อาหารบ่งชี้ชนชั้น
นอกจากอาหารจะสะท้อนความเชื่อ ความหมายอันแฝงไว้ซึ่งความเป็นมงคล มันจึงยังเป็นการแสดงสถานะทางสังคมรูปแบบหนึ่งในวัฒนธรรมจีน อาหารจึงเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจและสถานะทางสังคม แสดงถึงตัวตนของผู้กิน
การแพทย์และยาแผนจีน
การแพทย์แผนโบราณของจีน
คนจีนมีความเชื่อพื้นฐานว่ามนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติซึ่งประกอบขึ้นจากธาตุหยินและหยาง หากสภาพความสมดุลของหยินและหยางถูกทำลาย ก็ย่อมทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บขึ้น ด้วยเหตุนี้การวินิจฉัยโรคของการแพทย์แผนจีน จึงให้ความสำคัญกับปัจจัยด้านเวลาสิ่งแวดล้อมและสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลมาก
-
-
-
-
สถานการณ์
หญิงชาวจีน อายุ 45 ปี
เข้ารับการรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ โดยมีอาการสำคัญคือ มีไข้สูง ปวดเมื่อยตามร่างกายอ่อนเพลีย หนาวสั่น มีประวัติเป็นโรคความดันโลหิตสูง ตรวจวัดความดันโลหิตได้ 180/96 mm/Hg รักษาด้วยการรับประทาน นกพิราบตุ๋นยาจีนต้มรากบัว ชาร้อน เป็นประจำ เพราะมีความเชื่อว่าเป็นอาหารเสริมบำรุงกำลัง
ทำให้ร่างกายแข็งแรง บำรุงโลหิต แล้วช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดียิ่งขึ้นยิ่งเมื่อเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลก็ปฏิเสธการรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งและต่อรองว่าต้องการที่จะรับประทานอาหารตามความเชื่อของตนมากกว่า
- การประยุกต์ใช้ซันไลท์ โมเดล
sunrise model
ข้อมูลเกี่ยวกับความเจ็บป่วย: มีประวัติโรคความดันโลหิตสูง และโรคไข้หวัดใหญ่ รักษาด้วยการรับประทานอาหารตามความเชื่อ
การรับรู้และดูแลสุขภาพ: รับรู้ว่าตัวเองเป็นโรคความดันโลหิตสูงและโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งตนรับประทานอาหารเสริมกำลังอย่างนกพิราบตุ๋นยาจีน ต้มรากบัว ชาร้อนเป็นประจำแทนการรับประทานยารักษาโรคแผนปัจจุบัน
-
อาหารและการเผาผลาญสารอาหาร: รับประทานนกพิราบตุ๋นยาจีน ต้มรากบัว ชาร้อน เป็นประจำ เพื่อเป็นการบำรุงร่างกาย รับประทานอาหารตรงเวลา และผู้ป่วยแจ้งว่าจะไม่รับประทานอาหารหรือยาของโรงพยาบาลแต่จะให้สามีหรือลูกนำอาหารมาจากที่บ้านให้
สัมพันธภาพในครอบครัว: อาศัยอยู่กับสามีและลูกชาย 2 คน จบการศึกษาปริญญาตรี มีสัมพันธภาพที่ดีในครอบครัว
คุณค่าและความเชื่อ: มีควาเชื่อเกี่ยวกับการกินอาหารเพื่อเสริมกำลัง บำรุงร่างกายและป้องกันโรค ยึดหลักทฤษฎีการรับประทานอาหารตามธาตุอย่างเคร่งครัด
- การกำหนดข้อวินิจฉัยการพยาบาลมีโอกาสที่จะควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติได้แต่อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนเนื่องจากผู้ป่วยรับประทานนกพิราบตุ๋นยาจีน
- การวางแผนการพยาบาลและการปฏิบัติการพยาบาล
- แนะนำให้รับประทานอาหารที่ที่มีรสจืด(หยาง)
หลีกเลียงอาหารที่มีรสจัด เช่น เค็มจัด หวานจัด
และอาหารจำพวกของหมักดอง ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารตามความเชื่อของผู้ป่วยได้ แต่ควรลดอาหารจำพวกรสเค็มที่จะตามตำราที่จะไปช่วยเสริมธาตุหยิน เพราะ ในธาตุมีรสเค็มที่จะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น แนะนำให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารธาตุน้ำ ธาตุไม้ และธาตุทอง
- อธิบายให้ผู้ป่วยทราบว่าผู้ป่วยสามารถนำอาหารมาจากบ้านได้โดยไม่ต้อง รับประทานอาหารของโรงพยาบาลและให้รับประทานอาหารตามเวลาของผู้ป่วยได้แต่ต้องรับประทานยาตามที่โรงพยาบาลจัดไว้ให้ และแนะนำให้ลดการรับประทานนกพิราบตุ๋นยาจีน บอกถึงสาเหตุที่แนะนำให้รับประทานนกพิราบตุ๋นยาจีน
- ทฤษฎีการพยาบาล
ข้ามวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้อง
-
4) มีความไวเชิงวัฒนธรรม(cultural sensitivity) รู้จักสังเกต ค้นหา ค่านิยม ความเชื่อ วิถีการดาเนินชีวิตตลอดจนพฤติกรรมการปฏิบัติตนเมื่อเจ็บป่วยซึ่งสะท้อนแนวคิดด้านวัฒนธรรมของแต่ละบุคคล
2) มีความเข้าใจ ตื่นตัว ใฝ่รู้ เกี่ยวกับ ขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมความเชื่อ เชื้อชาติ เพศ และพฤติกรรมต่างๆ ของผู้ใช้บริการที่มีความแตกต่างทางวัฒนธรรม
5) มีบุคลิกภาพ ท่าทางเป็นมิตร เข้าใจในวัฒนธรรมการสื่อสารของผู้ใช้บริการที่มีความแตกต่างด้านเชื้อชาติ วัฒนธรรม
-
-
-
-
-
-
- การพยาบาลที่ให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วม
-
-
- ติดตามประเมินระดับความดันโลหิตหลังปรับอาหารตามแผนการรักษาหาเล็กน้อย
- ผู้ป่วยมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคของตนเอง
- ระดับความดันโลหิตของผู้ป่วยอยู่ในเกณฑ์ปกติ
-
-
4.สามารถลดการรับประทานอาหารรสเค็มอาหารที่ทำจากนกพิราบ
และบอกให้สามีเปลี่ยนจากเมนูนกพิราบตุ๋นยาจีนเป็นเมนูอื่น
-
อาหารประจำธาตุ
อาหารประจำธาตุดิน
ได้แก่ อาหารที่มีสีเหลือง เช่นถั่วเหลือง ข้าวฟ่าง ลูกเดือย เม็ดบัว ฟักทอง ข้าวโพด แครอทเต้าหู้ ตลอดจนอาหารรสหวาน ช่วยบำรุงระบบย่อยอาหารลดอาการท้องอืด ถ่ายเป็นก้อนดีขึ้น รักษาพลังงานดีขึ้นด้วยเหมาะกับคนธาตุดินที่มีลักษณะกล้ามเนื้อใหญ่และแน่น แต่ระบบย่อยอาหารรวนง่าย เช่น มักมีอาการปวดท้องทันทีเมื่อกินผิดเวลา
อาหารประจำธาตุไฟ
ได้แก่ อาหารที่มีสีแดง เช่น ทับทิมเรดเบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ เห็ดหลินจือแดง ตลอดจนอาหารรสขม เช่น สะเดา มะระ ตามหลักวิทยาศาสตร์อธิบายไว้ว่า ธาตุเหล็กทำให้อาหารเป็นสีแดงตามธรรมชาติ อาหารเหล่านี้ช่วยปรับธาตุไฟในร่างกาย ช่วยบำรุงเลือด รวมถึงเสริมสร้างความแข็งแรงแก่หลอดเลือดอย่างตรงจุด
อาหารประจำธาตุน้ำ
ได้แก่ อาหารที่มีสีดำ เช่น งาดำถั่วดำ เห็ดหลินจือ เห็ดหอม แบล็กเบอร์รี่ ตลอดจนอาหารรสเค็ม เช่น เกลือ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยบำรุงไต (ตามศาสตร์แพทย์แผนจีนถือว่าไตเป็นรากฐานของชีวิต) ช่วยรักษาสมดุลของระดับน้ำในร่างกาย ช่วยให้ไตขับน้ำมากขึ้น และช่วยให้คนธาตุน้ำที่ตัวบวมน้ำมีอาการดีขึ้น
อาหารประจำธาตุโลหะ
ได้แก่ อาหารที่มีสีขาว เช่นหัวไช้เท้า ผักกาดขาวอาหารประจำธาตุโลหะ ได้แก่ อาหารที่มีสีขาว เช่นหัวไช้เท้า ผักกาดขาว
อาหารประจำธาตุไม้ได้แก่ อาหารที่มีสีเขียวเหลือง ตามสีของน้ำดีจากตับ ตลอดจนอาหารรสเปรี้ยว อาหารกลุ่มนี้ช่วยบำรุงตับ เส้นเอ็น และดวงตา เหมาะกับคนธาตุไม้ที่มักมีอาการเส้นเอ็นอักเสบบ่อยๆ และอักเสบเรื้อรัง
-
การกินตามหยิง-หยาง
สิ่งแรกที่ทุกคนมักคิดถึงคือหลักของความสมดุลที่เรียกว่า หยิน – หยาง“คนจีนเน้นเรื่องความสมดุลหยิน – หยาง"
กล่าวคือปกติคนเราต้องมีหยินและหยางเท่ากันหากอย่างใดอย่างหนึ่งมากหรือน้อยไปจะเกิดโรคในการกินอาหารจึงต้องสังเกตว่าสภาพร่างกายของตัวเองร้อนหรือเย็นเช่นถ้าตัวร้อนจะกินของเย็น คืออาหารที่เป็นหยิน แต่ถ้าร่างกายเย็นให้กินของร้อน คืออาหารที่เป็นหยาง เพื่อปรับสมดุล”
รสทั้งห้าของอาหาร
รสเปรี้ยว (รวมรสฝาด) เป็นอาหารจำพวกหยิน ช่วยหยุดการหลั่งของเหลวและเพิ่มน้ำในร่างกาย
มักใช้บำบัดอาการเหงื่อออกผิดปกติขณะหลับ ปัสสาวะบ่อย ม้ามพร่อง สตรีตกขาว
-
รสเค็ม เป็นอาหารจำพวกหยิน ช่วยระบาย และขับของเหลวในร่างกาย บำรุงไต และเลือด
มักใช้บำบัดอาการท้องผูก ฝี ตัวบวม ไตพร่อง ขาดเลือด
-
รสหวาน (รวมรสจืด) เป็นอาหารจำพวกหยาง ช่วยปรับโจงชี่ให้สมดุล มักใช้บำบัดม้ามและกระเพาะอ่อนแอ อาหารไม่ย่อย สตรีร่างกายอ่อนแอหลังคลอด ปวดตามกระดูกและเอว
-
รสขม เป็นอาหารจำพวกหยิน ช่วยขับร้อน สลายชื้น ปรับสภาวะพลังย้อนกลับ มักใช้บำบัดอาการ
หวัดแดด เป็นไข้ ตามัว ดีซ่าน
-
-
-