Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Antiviral Agentsยาต้านไวรัส 🔬💊🩺💉🦠🧫🧹🌡🧪, 🌡🔬🌙🦠🧫จัดทำโดย🌈✨💕🏥…

- - - - เม็ดเลือดขาวต่ำ และ พิษต่อระบบประสาท
      - ปวดศรีษะ มีอาการเปลี่ยนแปลงทางจิต ชัก
- - - - Saquinavir /
        ซาควินาเวียร์
        
        กลไกการออกฤทธิ์: ยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อ HIV โดยออกฤทธิ์ยับยั้ง HIV-Protease
        
        ข้อบ่งใช้: ใช้ในการรักษาผู้ป่วยโรคเอดส์
        
        ข้อห้ามใช้: ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่มีประวัติเสพสุรา ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน
        
        ผลข้างเคียง: ท้องร่วง คลื่นไส้ ไม่สบายท้อง
        
        คำแนะนำ แนะนำให้ใช้ในผู้ป่วยที่ตั้งครรภ์มากที่สุด
      - indinavir /
        อินดินาเวียร์
        
        กลไกการออกฤทธิ์: ยับยั้งเอนไซม์ protease ของไวรัส ซึ่งมีความจำเป็นต่อ viral Replication และการเจริญเติบโตของไวรัส
        
        ข้อบ่งใช้: ใช้ลดจำนวนเชื้อ HIV ได้ดีมาก ในผู้ป่วยติดเชื้อ HIV
        
        ผลข้างเคียง: ภาวะไขมันในเลือดสูง ภาวะนิ่วในไต
        
        ข้อห้ามใช้: ระหว่างใช้ยา ห้ามหยุดใช้ หรือสมุนไพรที่มีส่วนผสมของเซนต์จอห์นเวิร์ต
        
        คำแนะนำ: -ควรทานขณะท้องว่าง
        -หลีกเลี่ยงการขับรถ หรือทำกิจกรรมที่ต้องอาศัยความตื่นตัวขณะใช้ยานี้
      - nelfinavir /
        เนวฟินนาเวียร์
        
        ข้อห้ามใช้: ห้ามใช้ยาเกินขนาดที่ระบุไว้ จะทำให้อาการไม่ขึ้น แต่อาจเป็นพิษ หรือผลข้างเคียงร้ายแรงแทน
        
        คำแนะนำ: ไม่ควรขับขี่ยานพาหนะ หรือใช้งานเครื่องจักรขณะใช้ยา
        
        กลไกการออกฤทธิ์: ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์รีเวิร์สทรานสคริปเตส ซึ่งเป็นเอมไซม์ที่ช่วยสร้างสารพันธุกรรม
        
        ข้อบ่งใช้: ใช้เป็นยาในสูตรต้านไวรัส hiv ลำดับที่ 3
        
        ผลข้างเคียง: ท้องร่วง
      - amprenavir / แอมปรีนาเวียร์
        
        กลไกการออกฤทธิ์: ยับยั้งเอนไซม์โปรตีเอสที่ใช้รักษาการติดเชื้อ HIV
        
        ข้อบ่งใช้: ใช้สำหรับรักษาไวรัสภูมิคุ้มกันบกพร่องของมนุษย์ และอาการ อื่นๆ
        
        ข้อห้ามใช้: หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารประเภทไขมัน ขณะทานยา
        
        ผลข้างเคียง คลื่นไส้ อาเจียน ชารอบปาก
        
        คำแนะนำ ไม่ควรขับถี่ยานพาหนะหรือใช้งานเครื่องจักรขณะใช้ยา
        -อาจส่งผลให้คลื่นไส้อาเจียน หรือความดันโลหิตต่ำลง
      - Ritonavir /ริโทนาเยียร์
        
        กลไกการออกฤทธิ์ :ยับยั้งเอนไซม์โปรติเอส หรือกระบวนการสร้างส่วนประกอบโปรตีนของไวรัส hiv ไม่สมบูรณ์
        
        ข้อบ่งใช้: ยับยั้งเอนไซม์โปรติเอส หรือกระบวนการสร้างส่วนประกอบโปรตีนของไวรัส hiv ไม่สมบูรณ์
        
        คำแนะนำ: การใช้ยาร่วมกับ pis ชนิดอื่น ทำให้ช่วยเพิ่มระดับยา pis ชนิดอื่นๆ ร่วมกับ saquinavir
        
        ข้อห้ามใช้: ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่แพ้ยา ritonavir
        -ระวังการใช้ยากับผู้ป่วยที่แพ้ยากลุ่ม protease inhibitors
        
        ผลข้างเคียง: อาการชา ภาวะไตรกลีเซอไรด์สูง ระดับ aminotransferanse เพิ่มขึ้น
    - - Enfuvirtide
        
        กลไกการออกฤทธิ์:ยับยั้งการหลอมตัวของไวรัสกับเนื้อเยื้อ , กระตุ้นของตัวรับปัจจัย chemotactic, formyl เปปไทด์รับ 1 และจึงเปิดใช้งาน phagocytes และเซลล์อื่น ๆ
        
        ข้อบ่งใช้: รักษาและป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี
        
        ผลข้างเคียง: อาการแพ้ยา หายใจลำบาก เบื่ออาหาร และอาจเกิด Hypersensitivity บริเวณที่ฉีด
        
        ข้อห้ามใช้ : ห้ามใช้ในผู้ที่เป็นโรคความดันต่ำ ห้ามฉีดเข้าหลอดเลือดดำหรือบริเวณเข้ากล้ามเนื้อ
        
        คำแนะนำ: ควรค่อยๆลดปริมาณ หรือไม่ควรหยุดใช้ยาทันที อาจจะเกิดอาการดื้อยาได้ , หากมีอาการผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์
    - - กลุ่มที่ 1 2.2.1.1 Nucleoside reverse transciptase inhibitor (NRTIs)
        
        zidovudine/ซิโดวูดีน (Azidothymidine/อะซิโดไทมิดีน,AZT)
        
        กลไกการออกฤทธิ์:
        AZT เป็นDeoxythymidine analong ที่ดูดซึมจากทางเดินอาหารและถูกเปลี่ยนที่ตับ และขับออกทางไต
        
        ข้อบ่งใช้:
        การใช้ยา AZT จะช่วยลดการเกิดอาการแสดงทางคลินิกช่วยทำให้ผู้ป่วยมีชีวิตยืนยาวขึ้น ทำให้ระบบภูมคุ้มกันของผู้ป่วยดีขึ้น และการให้ยาแก่มารดาที่ติดเชื้อก่อนคลอดและให้ยาแก่เด็กแรกเกิดจะช่วยลดการติดเชื้อเอดส์จากแม่สู่ลูกได้
        
        ผลข้างคียง:
        จะทำให้เกิด Anemia และ Neutropenia นอกจากนี้ยังพบ
        GI intolerance, Headache , insomnia, thrombocytopenia และ Myopathy
        
        คำแนะนำการใช้ยา:
        ควรให้ยาในรูป Combination กับยาชนิดอื่นด้วยและการใช้ยาบางชนิดบางชนิดจะเพิ่มระดับความเข้มข้นของยา AZT
        
        ข้อห้ามใช้: ห้ามใช้ยาตัวนี้เดี่ยวๆ
        อาจเกิดการดื้อต่อยา AZT
        
        Didanosine /ไดดาโนซีน(ddI)
        
        กลไกการออกฤทธิ์:
        Didanosine ออกฤทธิ์เพียงยับยั้งการเจริญของเชื้อโดยไม่มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อไวรัส didanosine จึงเป็น virustatic agent เท่านั้น
        
        ข้อบ่งใช้:
        เป็น Deoxyadenosine analog ใช้ในการรักษาผู้ป่วยผู้ใหญ่ที่มีการติดเชื้อ HIV อย่างรุนแรง ที่เคยได้รับการรักษาด้วยยา Zidovudine มาก่อนเป็นระยะนานและใช้รักษาผู้ใหญ่เเละเด็ก(อายุเกินกว่า 6 เดือน)
        
        ผลข้างคียง:
        อาจทำให้ปลายประสาทเสื่อมหรือปลายประสาทอักเสบ ท้องเสีย ตับอักเสบและตับอ่อนอักเสบ
        
        คำแนะนำในการให้ยา:
        -ยานี้ควรให้ในขณะท้องว่าง
        -ถ้าผู้ป่วยแสดงอาการปวดท้อง
        คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีระดับเอนไซม์ Amylase เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจเป็นอาการจากตับอ่อน ควรหยุดยาทันที
        
        ข้อห้ามใช้: ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่เคยมีประวัติการแพ้ยาในกลุ่มนี้มาก่อน
        
        Lamivudine /ลามิวูดีน(3TC)
        
        กลไกการออกฤทธิ์:
        เป็น Cytosine analogดูดซึมได้ดี
        ไม่ขึ้นกับอาหารยาถูกขับออกในรูปที่ไม่เปลี่ยนทางปัสสสาวะ
        
        ข้อบ่งใช้:
        ใช้ในผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV โดยใช้ร่วมกับ
        Zidovudine ไม่ใช้ Lamivudine เดี่ยวๆ
        เนื่องจากเชื้อดื้อยาเร็วมาก
        
        ผลข้างคียง:
        Headache, insomnia และFatigue
        
        คำแนะนำการใช้ยา: ระหว่างที่ใช้ยาผู้ป่วยอาจต้องรับการตรวจเลือดอยู่บ่อยครั้ง รวมไปถึงตรวจการทำงานของไตและตับ หากพบว่าเด็กมีน้ำหนักตัวเปลี่ยนแปลงในระหว่างที่ใช้ยานี้ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ เพราะอาจจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนปริมาณการใช้ยา
        
        ข้อห้ามใช้:
        ไม่ควรใช้ยาLamivudine รักษาการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีชนิดอื่น หากกำลังใช้ยาอื่นที่มีส่วนประกอบของยานี้หรือยาเอ็มตริไซตาบีนแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยานี้
        
        Zalcitabine /ซัลซิตาบีน(ddC)
        
        กลไกการออกฤทธิ์: เป็นDeoxythymidineanalongที่ดูดซึมจากทางเดินอาหารและถูกเปลี่ยนที่ตับ
        และขับออกทางไต
        
        ข้อบ่งใช้:
        รักษาโรคติดเชื้อHIV ซึ่งไม่สามารถทนต่อหรือดื้อต่อยาอื่นๆ หรือใช้ยาตัวอื่นแล้วไม่ได้ผล
        
        ผลข้างเคียง:
        ก่อให้เกิด peripheral neuropathy, pancreatitis อาการที่ไม่พึงประสงค์จะขึ้นอยู่กับขนาดยาที่ใช้
        
        คำแนะนำในการใช้ยา : รับประทานยาตามที่กำหนด
        ทุกมื้อและทุกวัน อย่าเปลี่ยนยาด้วยตนเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์
        
        ข้อห้ามใช้: ไม่ควรใช้ยานี้ร่วมกับยาที่มีอาการไม่พึงประสงค์ เช่น Stavudine , ddI ,Isoniazid
        
        Stavudine
        
        กลไกการออกฤทธิ์:
        Stavudineจะถูก phosphorylate โดย cellular kinase ได้เป็น stavudine
        triphosphate ซึ่งอยู่ในรูปของ triphosphate นี้จะออกฤทธิ์ยับยั้งการเกิด replication ของเชื้อ HIV
        
        ข้อบ่งใช้:
        รักษาโรคติดเชื้อHIV ซึ่งไม่สามารถทนต่อหรือดื้อต่อยาอื่นๆ หรือใช้ยาตัวอื่นแล้วไม่ได้ผล
        
        ผลข้างเคียง:โรคระบบประสาทส่วนปลาย,ตับอ่อนอักเสบ,อาการปวดข้อ
        
        คำแนะนำในการใช้ยา: ให้หลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ในหญิงมีครรภ์
        ซึ่งอาจทำให้มีปัจจัยเสี่ยงของการติดเชื้อเอดส์
        
        ข้อห้ามใช้ ไม่ควรให้ยาร่วมกับ AZT
        
        Abacavirอะบาคาเวียร์(ABC)
        
        กลไกการออกฤทธิ์: เป็นGuanosinen along ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่ายาอื่นๆอีกทั้งยังอยู่ในกลุ่ม NRTIs Abacavirเป็นยาที่จัดอยู่ใน Category โดยสามารถผ่านออกทางรกและขับออกทางน้ำนมได้
        
        ผลข้างเคียง: ผิวหนังแพ้ง่าย คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย
        
        ข้อบ่งใช้
        ช่วยลดจำนวนเชื้อเอชไอวีในร่างกายของผู้ป่วยที่ติดเชื้อ
        
        คำแนะนำการใช้ยา
        
        -ผู้ป่วยอาจต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพขณะใช้ยานี้บ่อยครั้งเพื่อติดตามอาการและตรวจผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
        
        -หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงให้ตับถูกทำลายมากขึ้น
        
        -ห้ามมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันไม่ใช้มีดโกนหรือแปรงสีฟันร่วมกับผู้อื่นยานี้ไม่อาจยับยั้งการแพร่เชื้อเอชไอวีไปสู่ผู้อื่นได้
        
        ข้อห้ามใช้
        ไม่ควรใช้ยานี้หากผู้ป่วยเป็นโรคตับ
        ในระดับปานกลางถึงรุนแรงหรือ
        หากผู้ป่วยมียีน HLA-B*5701 อัลลีล
        เพราะอาจเสี่ยงต่อการแพ้ยาอย่างรุนแรงได้
      - กลุ่มที่ 2.2.1.2 Non-nucleoside reverse transcriptase inhibitors (NNRTIs)
        
        ยาในกลุ่มนี้ มี 3 ชนิด เช่น
        
        Delaviradine/ดีลาเวอร์ดีน
        
        ข้อบ่งใช้
        ใช้ร่วมกับ ddIและ AZT ในการรักษาโรคเอดส์จะให้ผลดีกว่าใช้ AZT ตัวเดียว
        
        ข้อห้ามใช้ ไม่ควรใช้ Delavirdine ขณะที่ตั้งครรภ์เนื่องจากมีผลการศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่าทำให้ทารกพิการได้
        
        ผลข้างเคียง ได้แก่ skin rash ผิวหนังบวมแดง, Headache ปวดศรีษะ ,Fatigue ,เมื่อยล้า. Nausea และ Diarrhea การให้Delavirdine ร่วมกับยาหลายชนิดจะสามารถลดระดับความเข้มข้นในเลือดได้
        
        คำแนะนำการใช้ยา
        -หลีกเลี่ยงการขับรถ หรือการทำกิจกรรมที่ต้องใช้สติและความตื่นตัว จนกว่าจะแน่ใจว่ายานี้ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง จึงค่อยกลับมาทำกิจกรรมดังกล่าวตามปกติ
        -ผู้ป่วยต้องเข้ารับการตรวจเลือดตามที่แพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอระหว่างที่ใช้ยานี้
        
        กลไกการออกฤทธิ์ ยับยั้งการเปลี่ยน transcriptase แบบสังเคราะห์ที่ไม่ใช่นิวคลีโอไซด์
        
        Efavirenz/เอฟฟาไวเร็นซ์
        
        กลไกการออกฤทธิ์ ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์รีเวิร์สทรานสคริปเตส (Reverse Transcriptase enzyme) เป็นเอนไซม์ที่ช่วยสร้างสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) ให้แก่ไวรัสเอชไอวีเพื่อให้สามารถเพิ่มจำนวนและอาศัยในดีเอ็นเอของมนุษย์ได้ ดังนั้นส่งผลต่อการเชื่อมต่อDNA ของมนุษย์ได้ เชื้อไวรัสจึงไม่สามารถเพิ่มจำนวนได้
        
        ข้อบ่งใช้ ควรให้ยาวันละครั้ง เนื่องจากยามี. half lift ที่ยาว
        
        ผลข้างเคียง เช่น Dizzinessเวียนหัว, Drowsiness ง่วงนอน ,Insomnia นอนไม่หลับ,Headacheปวดศรีษะ , confusion ,Amnesia, Depression
        
        ข้อห้ามใช้ ควรระมัดระวังการใช้ยาในผู้ป่วยโรคตับที่มีอาการรุนเเรงไม่ควรใช้ยานี้ในหญิงตั้งครรภ์
        
        คำแนะนำการใช้
        -หลีกเลี่ยงการขับรถ หรือการทำกิจกรรมที่ต้องใช้สติและความตื่นตัว จนกว่าจะแน่ใจว่ายานี้ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง จึงค่อยกลับมาทำกิจกรรมดังกล่าวตามปกติ
        -ผู้ป่วยต้องเข้ารับการตรวจเลือดตามที่แพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอระหว่างที่ใช้ยานี้
        
        Nevirapine/เนวิราปีน
        
        กลไกการออกฤทธิ์
        ออกฤทธิ์โดยการจับกับ reverse transcriptase enzymes ของเชื้อ HiV ในจุดที่ ต่างไปจากNRTIs โดยที่ NNRTIs ไม่เเย่ง
        การออกฤทธิ์ NRTIs
        
        ข้อบ่งใช้
        ยานี้ใช้เป็นหนึ่งใน Combination ในการรักษาการติดเชื้อHIV นอกจากนี้ ยังพบว่าการให้ single does ของ Nevrirapineยังสามารถป้องกัน การเกิด transmissionของ HIV จากแม่สู่ลูกได้
        
        ข้อห้ามใช้ ไม่ควรให้ยาซ้ำเพราะอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้อย่างรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต
        
        ผลข้างเคียงอาการที่รุนแรง ได้แก่ skin rash ผิวหนังบวมแดง,คลื่นไส้
        
        คำแนะนำการใช้ยา
        ไม่ควรรับประทานพร้อมกับอาหารที่มีไขมันสูง
    - - Raltegravir ( RAL )/
        เรียลทิกราเวียร์
        
        กลไกการออกฤทธิ์: ยับยั้งการทำงานของ HIV-1 integrase ซึ่งขัดขวางการแทรกตัวของ HIV-1 DNA
        
        ข้อบ่งใช้: รักษา และป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี
        
        คำแนะนำในการใช้ยา: ไม่ควรขับรถหรือใช้เครื่องจักรกลหนักขณะใช้ยา , หากมีอาการผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์
        
        ผลข้างเคียง: ไข้ อ่อนเพลีย อาเจียน ปัสสาวะสีเข้ม
        
        ข้อห้ามใช้: ห้ามใช้ในผู้ที่มีความผิดปกติของกล้ามเนื้อ และมีความผิดปกติของตับอย่างรุนแรง
      - Elvitegravir/
        เอลวิทีกราเวียร์
        
        กลไกการออกฤทธิ์: ยับยั้งเอนไซม์ integrase ของ HIV-1 และ HIV-2 ในระดับที่น้อยกว่าไวรัส
        
        ข้อบ่งใช้: รักษา และป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี
        
        ผลข้างเคียง: ท้องร่วง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศรีษะ อ่อนเพลีย
        
        ข้อห้ามใช้: ห้ามใช้กับผู้ที่เคยแพ้ยานี้, ห้ามใช้คู่กับยารักษาวัณโรค และยารักษาโรคลมชัก
      - Dolutegravir/โดลูทีกราเวียร์
        
        ข้อบ่งใช้: รักษาการติดเชื้อ HIV ในผู้ใหญ่ที่ไม่เคยใช้ยารักษา HIV มาก่อน
        
        คำแนะนำในการใช้ยา: ควรทานรับประทานยาหลังอาหาร , หากมีอาการผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์
        
        กลไกการออกฤทธิ์: ขัดขวางการกระจายไวรัสในผู้ที่ติดเชื้อ
        ยับยั้งการถ่ายโอนสายพันธุ์เอชไอวีรุ่นที่สอง
        
        ผลข้างเคียง : นอนหลับยาก ปวดศีรษะ แพ้ยา ไตทำงานผิดปกติในผู้ป่วยที่เป็นไวรัสตับอักเสบ
        
        ข้อห้ามใช้: ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่มีประวัติภูมิไวเกิน