Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การส่งเสริมภาวะโภชนาการ - Coggle Diagram
การส่งเสริมภาวะโภชนาการ
ความหมายของโภชนาการและภาวะโภชนาการ
ความหมายของโภชนาการ (Nutrition)
โภชนาการ หมายถึง วิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับอาหาร สารอาหาร และสารอื่นที่มีอยู่ในอาหารหรือสารอาหาร
โภชนาการ หมายถึง วิทยาศาสตร์แขนงหนึ่งที่ศึกษาถึงการเปลี่ยนแปลงของอาหารทั้งทางด้านอินทรีย์เคมี อนินทรีย์เคมี ชีววิทยา และฟิสิกส์ของอาหาร โดยเริ่มตั้งแต่อาหารเข้าสู่ร่างกาย
ภาวะโภชนาการ (Nutritional Status)
ภาวะโภชนาการ หมายถึง สิ่งที่แสดงถึงระดับที่ร่างกายจ าเป็นต้องได้รับสารอาหาร เพื่อนำมาใช้ในด้านสรีระอย่างเพียงพอ
ภาวะโภชนาการ หมายถึง ผล สภาพ หรือภาวะของร่างกายที่เกิดจากการบริโภคอาหาร
ภาวะโภชนาการดี (Good nutritional status) หมายถึง ภาวะที่ร่างกายได้รับอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ
สารอาหารครบถ้วน ในปริมาณเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
ร่างกายใช้สารอาหารเหล่านั้นในการเสริมสร้างสุขภาพอนามัยได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มที
ภาวะโภชนาการไม่ดี (Bad nutritional status)หมายถึง ภาวะที่ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ หรือได้รับเพียงพอแต่ร่างกายไม่สามารถใช้ประโยชน์จากสารอาหารที่ได้รับ
ภาวะโภชนาการต่ำกว่าเกณฑ์ (Malnutrition)
ภาวะโภชนาการเกิน (Over nutrition)
ปัจจัยที่มีผลต่อภาวะโภชนาการ
อายุ
พบว่าในวัยเด็กมีความต้องการสารอาหารมากกว่าในวัยผู้ใหญ่และวัยสูงอายุ
เพราะเด็กต้องการสารอาหารโปรตีนไปสร้างและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
ต้องการพลังงานจากสารอาหารคาร์โปรไฮเดรตและไขมันในปริมาณที่มากกว่าวัยอื่น ๆ
เพศ พบว่าเพศชายต้องการพลังงานในหนึ่งวันมากกว่าเพศหญิง
การใช้ยา
ยาที่มีผลข้างเคียงให้เกิดอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน เช่น ยารักษาวัณโรค-พีเอเอส (Paraaminobenzoic acid: PAS)
ยาลดความอ้วน ยารักษาโรคเบาหวานบางตัว เช่น เฟนฟอร์มิน (Phenformin) เมตฟอร์มิน (Metformin)
ถ้าต้องใช้เป็นระยะเวลานาน ๆ จะท าให้เกิดภาวะทุโภชนาการได้ เช่น
เตตราซัยคลีน (Tetracycline) ซึ่งเป็นยาฆ่าเชื้อโรค
ภาวะสุขภาพ พบว่า การเจ็บป่วยเรื้อรังมีผลต่อภาวะโภชนาการ
ความชอบส่วนบุคคลพบว่าความชอบและไม่ชอบบริโภคอาหารของแต่ละบุคคลมีผลต่อภาวะโภชนาการ
บางคนชอบรับประทานอาหารหวานจัด อาหารไขมันสูง ท าให้เกิดภาวะ
โภชนาการเกินได้
ส่วนผู้ที่เลือกประเภทของอาหารรับประทานเรียกว่า “เป็นคนกินยาก” หรือมีนิสัยไม่ชอบรับประทานเพราะกลัวอ้วน ท าให้มีภาวะโภชนาการต่ าได้เ
ผลจากการดื่มแอลกอฮอล์
การดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ทำให้ความรู้สึกอยากอาหารลดลง
การบริโภคอาหารเปลี่ยนไป แบบแผนการรับประทานอาหาร
เปลี่ยนไป หรือเบื่ออาหาร
วิถีชีวิต
ผู้ที่เลือกรับประธานอาหารเจ เป็นเวลานาน ๆ หรือเลือกรับประทานตลอด
ชีวิต
พบว่ามักขาดสารอาหารโปรตีนจึงควรต้องเสริมอาหารโปรตีนที่ท ามาจากพืชให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
เลือดดำเนินชีวิตโดยการรับประทานอาหารเพียงมื้อเดียว
ปัจจุบันมีผู้เลือกดำเนินชีวิตตามวิถีสุขภาพโดยเลือกงดรับประทานสัตว์และผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากสัตว
เศรษฐานะ
ภาวะเศรษฐกิจดีท าให้ผู้คนเลือกรับประทานอาหารได้ตามความ
ต้องการ
ตรงกันข้ามในภาวะเศรษฐกิจไม่ดีการเลือกรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์อาจลดปริมาณลง
วัฒนธรรม ความเชื่อ และศาสนา
พบว่าการดำเนินชีวิตตามบริบทของวัฒนธรรมความเชื่อ และศาสนา ยังดำเนินชีวิตอยู่ในกระบวนทัศน์เดิม มีผลต่อภาวะโภชนาการทั้งสิ้น
การรับประทานของดิบ ๆ สุก ๆ ตามความเชื่อว่าจะท าให้ร่ากายแข็งแรงอาจก่อให้เกิดพยาธิใบไม้ในตับได้
ปัจจัยด้านจิตใจ
ความเครียด และความกลัวท าให้ความอยากอาหารลดลงรู้สึกเบื่ออาหาร กลืนอาหารไม่ลงคอ หรือมีอาการปากคอขมโดยไม่ทราบสาเหตุ
ความสำคัญของอาหารต่อภาวะเจ็บป่วยและความต้องการพลังงานของร่างกายในภาวะเจ็บป่วย
อาหาร หมายถึง สิ่งใด ๆซึ่งรับประทานเข้าไปแล้ว เพื่อเสริมสร้างความเจริญเติบโตและการมีโภชนาการที่ดีให้แก่ร่างกาย อาหารได้มาจากพืชและสัตว
อาหาร (Food) และสารอาหาร (Nutrient) มีความสำคัญต่อภาวะการเจ็บป่วย และด้วยศาสตร์การดูแลสุขภาพด้วยการแพทย์ทางเลือก การแพทย์ผสมผสาน
ภาวะเจ็บป่วยภูมิปัญญาของหมอพื้นบ้าน
เป็นการสืบทอดองค์ความรู้จากบรรพบุรุษในการดูแลสุขภาพของตนเองครอบครัว และชุมชน ภายใต้บริบทของวัฒนธรรม และประเพณีของท้องถิ่น
ที่ยังคงอยู่ตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน พยาบาลจึงควรมีความรู้ ความเข้าใจในวิถีการด าเนินชีวิตของผู้ป่วย
นำองค์ความรู้ของศาสตร์การแพทย์แผนปัจจุบันมาประยุกต์ใช้กับภูมิปัญญาพื้นบ้านในการดูแลสุขภาพจะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ
เป็นการร่วมอนุรักษ์ภูมิปัญญาไทยซึ่งเป็นมรดกอันล้ำค่าของชาติ
ภาวะเจ็บป่วยความต้องการพลังงานต้องมากกว่าในภาวะปกติ
ต้องช่วยในการสร้างฟื้นฟู
ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอท าให้ร่างกายหายเป็นปกติ มีสุขภาวะสมบูรณ์ และมีคุณภาพชีวิตดี
ผู้ป่วยได้รับสารอาหารและพลังงานไม่เพียงพอ
เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
ภูมิคุ้มกันโรคลดลง
การหายของแผลช้า
ความแข็งแรงและโครงสร้างของผิวหนังผิดปกติ
วันนอนโรงพยาบาลนานขึ้น เสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น
อัตราการเสียชีวิตสูงขึ้น
ความต้องการพลังงานของร่างกายในภาวะเจ็บป่วย
ขึ้นอยู่กับ เพศ อายุส่วนสูง น้ำหนัก และความรุนแรงของโรค
ความต้องการพลังงานหรือพลังงานที่ต้องการใช้
ความต้องการพลังงานพื้นฐานหรือพลังงานที่ต้องการขณะพัก
ความต้องการพลังงานทั้งหมด
การประเมินภาวะโภชนาการ
การวัดสัดส่วนของร่างกาย (Anthropometric measurement: A)
ดัชนีมวลของร่างกาย (Body Mass Index ; BMI)
เป็นการประเมินมวลของร่างกายทั้งหมด
โดยวัดส่วนสูงและน้ำหนักแล้ว นำมาประเมินภาวะโภชนาการโดยคำนวณหาดัชนีมวลของร่างกายมีหน่วยเป็นกิโลกรัมต่อตารางเมตร
การประเมินทางชีวเคมี (Biochemical assessment: B)
เป็นวิธีการเจาะเลือด เพื่อประเมินภาวะโภชนาการ
การประเมินภาวะโลหิตจาง (Anemia)
ใช้ค่าของฮีโมโกลบิน (Hb)
ค่าฮีมาโตรคิต(Hct) Hemoglobin (Hb)
ค่าต่ำกว่า 10 mg% แสดงผลภาวะโลหิตจาง
ค่าต่ ากว่า 30 % แสดงผลภาวะโลหิตจาง
การตรวจร่างกายทางคลินิก (Clinical assessment: C)
เป็นวิธีการตรวจร่างกายเช่นเดียวกับการประเมินภาวะสุขภาพ แต่จะให้ความสนใจตรวจร่างกายเบื้องต้น
การประเมินภาวะซีด ถ้าไม่มีการเจาะเลือด
ตรวจ Conjunctiva ของเปลือกตาล่าง
สังเกตดูลักษณะเล็บเรียบเป็นมัน มีสีชมพู
การประเมินจากประวัติการรับประทานอาหาร(Dietary assessment: D)
ประวัติการรับประทานอาหาร
ชนิดของอาหารที่บริโภค
พฤติกรรมการรับประทานอาหาร
การส่งเสริมภาวะโภชนาการในผู้ป่วยที่มีปัญหาภาวะโภชนาการ
Obesity (ภาวะอ้วน)
ภาวะอ้วน คือ ร่างกายมีการสะสมของมวลไขมันในร่างกายมากเกินไป
การพยาบาลผู้ที่มีภาวะอ้วน
คำนวณพลังงานที่ควรได้รับต่อวัน
จ ากัดมื้ออาหารและสัดส่วนของอาหารตามพีระมิดอาหาร
จำกัดการใช้น้ำมัน ไขมัน น้ำตาล
หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่แป้งและไขมันสูง
รับประทานอาหารครั้งละน้อย แต่บ่อยครั้งและจำกัดอาหารมื้อเย็น
หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารขณะดูโทรทัศน์
เพิ่มการรับประทานอาหารที่มีใยอาหารจากผักผลไม้ และธัญพืชที่ไม่ขัดสี
ส่งเสริมให้ออกก าลังกายอย่างสม่ าเสมอหรือสัปดาห์ละ 3 วัน
Emaciation (ภาวะผอมแห้ง)
Anorexia nervosa
ภาวะเบื่ออาหารเป็นความรู้สึกไม่อยากรับประทานอาหาร อาจรู้สึกต่อต้าน
เมื่อนึกถึงหรือเมื่อเห็นอาหาร รับประทานแล้วไม่ค่อยรู้สึกอร่อย
วามรู้สึกอยากอาหาร (Appetite) อาการเบื่ออาหารอาจเกิดควบคู่กับคลื่นไส้ อาเจียน
Bulimia Nervosa
เป็นความผิดปกติของพฤติกรรมการรับประทาน โดยจะรับประทานวันละหลาย ๆ ครั้ง ครั้งละมาก ๆ
โดยหลังจากรับประทานเสร็จจะรู้สึกไม่สบายใจและรู้สึกผิดที่รับประทานเข้าไปมากมาย
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะ Anorexia nervosa และ Bulimia nervosa
หาสาเหตุ ที่พบได้บ่อย ๆ เช่น โรคปากและฟัน คออักเสบ โรคมะเร็ง
ส่งเสริมความรู้สึกอยากอาหารให้มากที่สุดและลดความรู้สึกเบื่ออาหาร
ดูแลด้านจิตใจพยายามให้ช่วงเวลารับประทานอาหารเป็นเวลาที่จิตใจสบาย
การใช้ยา แพทย์อาจพิจารณาให้ยากระตุ้นความอยากอาหาร
การดูแลให้ผู้ป่วยได้รับอาหารเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
3 Nausea and vomiting (อาการคลื่นไส้และอาเจียน)
อาการคลื่นไส้ เป็นความรู้สึกอยากขับอาหารที่กินเข้าไปแล้วออกทางปาก
มักเป็นอาการนำก่อนอาเจียน แต่อาจเกิดคลื่นไส้โดยไม่อาเจียนได้
อาการที่มักเกิดร่วมด้วย คือ มีน้ าลายมากอาจเป็นลม ตาลาย เวียนศีรษะ ความดันเลือดลดลง ชีพจรเร็วขึ้นแล้วกลับช้าลง หายใจเร็วขึ้น
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีอาการคลื่นไส้และอาเจียน
การพยาบาลผู้ป่วยขณะอาเจียน
สังเกตสิ่งต่าง ๆ เพื่อบันทึกและรายงานอย่างถูกต้อง
กาพยาบาลผู้ป่วยหลังอาเจียน
การป้องกันและแก้ไขอาการอาเจียน
Abdominal distention (ภาวะท้องอืด)
ภาวะท้องอืด เป็นความรู้สึกแน่น อึดอัด ไม่สบายในท้องที่เกิดจากมีแรงดันในท้องเพิ่มทำให้เกิดอาการที่ตามมา
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะท้องอืด
จัดให้นอนศีรษะสูง 45องศา-60องศาเพื่อช่วยลดอาการแน่นท้อง
งดอาหารที่ทำให้เกิดแก๊ส
แสดงความเข้าใจและเห็นใจ
ค้นหาสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะท้องอืด
Dysphagia and aphagia (ภาวะกลืนลำบากและกลืนไม่ได้)
เป็นความรู้สึกที่ผู้ป่วยเกิดความลำบากในการกลืน อาจรู้สึกว่ากลืนแล้วติดอยู่ที่ใดที่หนึ่งหรือกลืนแล้วรู้สึกเจ็บทั้งสองอย่าง
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะกลืนลำบากและกลืนไม่ได้
สังเกตและประเมินอาการเกี่ยวกับการกลืนไม่ได้หรือกลืนลำบากว่าเกิดขึ้น
ทันทีทันใดหรือค่อย ๆ มากขึ้น
ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับสารน้ำและอาหารอย่างเพียงพอ
ดูแลการได้รับยาตามแผนการรักษา
ระมัดระวังการสำลัก
ดูแลด้านความสะอาดของร่างกาย
การเตรียมผู้ป่วยเพื่อตรวจหรือรักษา
การดูแลด้านจิตใจ ปลอบโยน ให้กำลังใจ
การส่งเสริมภาวะโภชนาการในผู้ป่วยที่รับประทานอาหารเองไม่ได้
การป้อนอาหาร (Feeding)
เพื่อให้ผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ได้รับอาหารตาม
ความต้องการของร่างกาย
อุปกรณ์เครื่องใช้
ถาดอาหารพร้อมอาหาร
ช้อนหรือช้อนส้อม
แก้วน้ำพร้อมน้ำดื่ม และหลอดดูดน้ำ
กระดาษหรือผ้าเช็ดปาก
ผ้ากันเปื้อน
วิธีปฏิบัติ
การเตรียมผู้ป่วยและสิ่งแวดล้อม
การป้อนอาหาร
สำหรับผู้ป่วยพิการ
สำหรับผู้ป่วยกลืนลำบาก
การใส่และถอดสายยางให้อาหารจากจมูกถึงกระเพาะอาหาร
การใส่สายยางให้อาหารจากจมูกถึงกระเพาะอาหาร นิยมเรียกสั้น ๆ ว่า การใส่ NGtube
วัตถุประสงค์
เป็นทางให้อาหาร น้ำหรือยา
เป็นการลดแรงดันในกระเพาะอาหารหรือลำไส้ พื่อให้
แก๊ส สิ่งที่ค้างอยู่หรือน้ำคัดหลั่งระบายออก
เป็นการเพิ่มแรงดันเข้าไปในระบบทางเดินอาหาร
ล้างภายในกระเพาะอาหาร
เก็บสิ่งตกค้างในกระเพาะอาหารไปตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การให้อาหารทางสายยางให้อาหารจากจมูกถึงกระเพาะอาหาร
Bolus doseเป็นการให้อาหารทางสาย NG โดยใช้ Toomey syringe เหมาะสำหรับผู้ป่วยทั่วไปที่ไม่สามารถรับประทานอาหารทางปากได้เอง
Drip feeding เป็นการให้อาหารทางสาย NG โดยใช้ชุดให้อาหาร
การถอดสายยางให้อาหารจากจมูกถึงกระเพาะอาหาร
การถอดสายให้อาหารจากจมูกถึงกระเพาะอาหาร เป็นการถอดสายยางที่เคยใส่ไว้เพื่อวัตถุประสงค์ใดวัตถุประสงค์หนึ่ง
การถอดสายให้อาหารออกนั้นเป็นบทบาทกึ่งอิสระของพยาบาล
เมื่อแผนการรักษาเปลี่ยนไป
ให้เริ่มรับประทานอาหารหลังจากแผนการรักษาให้งดอาหารและน้ า
ทางปาก
ผู้ป่วยรูสึกตัวดีสามารรับประทานอาหารเองได้
การให้อาหารทางสายยางให้อาหารที่ใส่เข้าทางรูเปิดของกระเพาะอาหาร
เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับอาหารตามความต้องการของร่างกาย
อุปกรณ์เครื่องใช้เหมือนกับการให้อาหารทางสาย NG tube
การใส่สายยางทางจมูกถึงกระเพาะอาหารยังเป็นการลดแรงดันใน
กระเพาะอาหารหรือล าไส้ (Decompression)
การเพิ่มแรงดันเข้าไปในระบบทางเดินอาหาร(Compression) เพื่อยับยั้งการมีเลือดออก ที่ใช้มาก
เมื่อหลอดเลือดที่ส่วนล่างของหลอดอาหารโป่งพอง (Esophageal varies) แตกออก (Ruptured)
จะใช้สาย Sengstraken-Blakemore tube
การล้างภายในกระเพาะอาหาร (Gastric lavage)
วัตถุประสงค์
ล้างกระเพาะอาหารในกรณีที่ผู้ป่วยกินยาหรือสารพิษ
ทดสอบหรือยับยั้งการมีเลือดออกจำนวนน้อยในทางเดินอาหารส่วนบน
ตรวจสอบการอุดตันของสาย
ตรวจหาเชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคปอดและหลอดลม
อุปกรณ์เครื่องใช้
ชุดล้างกระเพาะอาหาร
สารละลายที่ใช้ล้างกระเพาะอาหาร ใช้น้ำเกลือ
ชามรูปไตหรืออ่างกลม
ผ้าเช็ดปาก หรือผ้าขนหนูผืนเล็ก หรือผ้ากันเปื้อน
สายยางส าหรับใส่ในกระเพาะอาหาร
Ky jelly
ถุงมือสะอาด 1 คู่และ Mask
การล้างกระเพาะอาหารยังสามารถเก็บสิ่งตกค้างในกระเพาะอาหาร
เพื่อส่งตรวจ ได้ด้วย โดยปฏิบัติหลังจากการใส่สายยางแล้วดูด Content ออกใส่ภาชนะส่งตรวจ
เก็บจากสารน้ำที่ออกมาขณะล้างกระเพาะอาหารส่งตรวจก็ได้
กระบวนการพยาบาลในการส่งเสริมภาวะโภชนาการ
การประเมินภาวะสุขภาพ (Assessment)
การวินิจฉัยทางการพยาบาล (Nursing diagnosis)
การวางแผนการพยาบาล (Planning)
วัตถุประสงค์เพื่อไม่ให้เกิดภาวะทุพโภชนาการ
เกณฑ์การประเมิน
ผู้ป่วยได้รับสารอาหารตรงตามแผนการรักษาของแพทย์
ผู้ป่วยมีค่าดัชนีมวลกาย อยู่ในเกณฑ์ปกติ
การปฏิบัติการพยาบาล (Implementation)
ตรวจสอบแผนการรักษา ชื่อผู้ป่วย และอาหารปั่นให้ตรงกัน
จัดเตรียมอุปกรณ์ในการใส่สาย NG และอาหารปั่นให้พร้อม
บอกวัตถุประสงค์ เตรียมความพร้อมของผู้ป่วย จัดท่าให้เหมาะสม ปิดกั้นม่าน
ใส่สายยางทางจมูกถึงกระเพาะอาหารให้แก่ผู้ป่วยตามแนวปฏิบัติ
ให้อาหารทางสายยางทางจมูกถึงกระเพาะอาหารตามแผนการรักษา
จัดให้ผู้ป่วยอยู่ในท่าศีรษะสูง อย่างน้อย 30 นาที หลังให้อาหารทางสายยาง
ลงบันทึกทางการพยาบาล
ติดตาม ประเมินน้ำหนักตัวของผู้ป่วย โดยชั่งน้ำหนักทุกเช้า วันเว้นวัน
การประเมินผลการพยาบาล (Evaluation)
ประเมินผลลัพธ์การพยาบาล
ประเมินความสุขสบายของผู้ป่วย สังเกตสีหน้าท่าทางของผู้ป่วย
ประเมินผลกิจกรรมการพยาบาล
ประเมินการปฏิบัติถูกต้องครบและเป็นไปตามขั้นตอนของแนวปฏิบัติ
ประเมินผลภายหลังผู้ป่วยได้รับอาหารทางสายยางทางจมูกถึงกระเพาะ
อาหาร ไม่มีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น