Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การส่งเสริมภาวะโภชนาการ - Coggle Diagram
การส่งเสริมภาวะโภชนาการ
8.1ความหมายของโภชนาการและภาวะโภชนาการ
8.1.1ความหมายของโภชนาการ
วิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับอาหารสารอาหารและสารอื่นที่มีอยู่ในอาหารหรือสารอาหารตลอดจนปฏิกิริยาระหว่างกันของสารอาหาร
8.1.2ภาวะโภชนาการ
ผลสภาพหรือภาวะของร่างกายที่เกิดจากการบริโภคอาหาร
แบ่งเป็น2ลักษณะ
1.ภาวะโภชนาการดีหมายถึงภาวะที่ร่างกายได้รับอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ
2.ภาวะโภชนาการไม่ดีหมายถึงภาวะที่ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ
ภาวะโภชนาการต่ำกว่าเกณฑ์
ภาวะโภชนาการเกิน
8.2ปัจจัยที่มีผลต่อภาวะโภชนาการ
อายุ
เพศ
การใช้ยา
ภาวะสุขภาพ
ความชอบส่วนบุคคล
ผลจากการดื่มแอลกอฮอล์
วิถีชีวิต
เศรษฐานะ
วัฒนธรรม
ปัจจัยด้านจิตใจ
8.3ความสำคัญของอาหารต่อภาวะเจ็บป่วยและความต้องการพลังงานของร่างกายในภาวะเจ็บป่วย
อาหารจึงมีความสำคัญและมีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งในภาวะปกติและภาวะเจ็บป่วยภูมิปัญญาของหมอพื้นบ้าน
ความต้องการพลังงานของร่างกายในภาวะเจ็บป่วย
8.3.1ความต้องการพลังงานของร่างกายในภาวะเจ็บป่วย
BEEหมายถึงพลังงานที่น้อยที่สุด
TEEหมายถึงผลรวมของพลังงานทั้งหมดใน1วัน
8.4การประเมินภาวะโภชนาการ
8.4.1การวัดสัดส่วนของร่างกาย(A)
1.ดัชนีมวลของร่างกาย(MBI)
BMI= น้ำหนักตัว(กิโลกรัม)/ส่วนสูง(เมตร)2
8.4.2การประเมินทางชีวเคมี(B)
เป็นวิธีการเจาะเลือด
8.4.3การตรวจร่างกายทางคลินิก(C)
เป็นวิธีการตรวจร่างกาย
8.4.4การประเมินจากประวัติการรับประทานอาหาร(D)
8.5การส่งเสริมภาวะโภชนาการในผู้ป่วยที่มีปัญหาภาวะโภชนาการ
8.5.1Obesity(ภาวะอ้วน)
จากการวัดขนาดรอบเอวในผู้ชายรอบเอวมากกว่า40นิ้ว(102เซนติเมตร)ผู้หญิง35นิ้ว(88เซนติเมตร)อัตราส่วนรอบเอวต่อรอบสะโพกเพศชาย≥0.9เพศหญิง≥0.85
8.5.2Emaciation(ภาวะผอมแห้ง)
ภาวะที่ผอมมากเกินไปBMIน้อยกว่าหรือเท่ากับ16กิโลกรัมต่อตารางเมตรและน้ำหนักลดลงตลอดเวลาและลดลงเป็นเวลานานร่วมกับขาดสารอาหาร
8.5.3Nauseaandvomiting(อาการคลื่นไส้และอาเจียน)
8.5.3.1การพยาบาลผู้ป่วยที่มีอาการคลื่นไส้และอาเจียน
1.การพยาบาลผู้ป่วยขณะอาเจียนเมื่อพบผู้ป่วยจะอาเจียนพยาบาลต้องรีบให้การช่วยเหลือ
2.สังเกตสิ่งต่างๆเพื่อบันทึกและรายงานอย่างถูกต้อง
3.การพยาบาลผู้ป่วยหลังอาเจียน
4.การป้องกันและแก้ไขอาการอาเจียน
5.ดูแลความสะอาดร่างกาย
6.เตรียมพร้อมถ้ามีการอาเจียนซ้ำ
8.5.4Abdominaldistention(ภาวะท้องอืด)
8.5.4.1การพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะท้องอืด
1.จัดให้นอนศีรษะสูง45-60องศา
2.งดอาหารที่ทำให้เกิดแก๊ส
3.แสดงความเข้าใจและเห็นใจและยินดีให้การช่วยเหลืออย่างจริงใจ
4.ค้นหาสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะท้องอืดและช่วยเหลือตามสาเหตุ
8.5.5Dysphagiaandaphagia(ภาวะกลืนลำบากและกลืนไม่ได้)
8.5.5.1การพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะกลืนลำบากและกลืนไม่ได้
1.สังเกตและประเมินอาการเกี่ยวกับการกลืนไม่ได้หรือกลืนลำบากว่าเกิดขึ้นทันที
2.ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับสารน้ำและอาหารอย่างเพียงพอ
3.ดูแลการได้รับยาตามแผนการรักษา
4.ระมัดระวังการสำลัก
5.ดูแลด้านความสะอาดของร่างกายโดยเฉพาะความสะอาดของปากและฟัน
6.การเตรียมผู้ป่วย
7.การดูแลด้านจิตใจ
8.6การส่งเสริมภาวะโภชนาการในผู้ป่วยที่รับประทานอาหารเองไม่ได้
8.6.1การป้อนอาหาร
8.6.1.1วัตถุประสงค์
เพื่อให้ผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ได้รับอาหารตามความต้องการของร่างกาย
8.6.1.2อุปกรณ์เครื่องใช้
ถาดอาหารพร้อมอาหาร
ช้อนหรือช้อนส้อม
แก้วน้ำพร้อมน้ำดื่มและหลอดดูดน้ำ
กระดาษหรือผ้าเช็ดปาก
ผ้ากันเปื้อน
8.6.1.3วิธีปฏิบัติ
1.การเตรียมผู้ป่วยและสิ่งแวดล้อม
1.ก่อนเวลาอาหารแนะนำให้ผู้ป่วยออกกำลังกายบ้างและควรหลีกเลี่ยงการกระทำที่ทำให้เกิดความเจ็บปวด
2.จัดให้อยู่ในท่านั่ง
3.ปูผ้ากันเปื้อนตั้งแต่ใต้คางลงไปหากผู้ป่วยที่อยู่ในท่านอนตะแคงควรปูบนที่ไหล่และหมอนด้วย
4.วางถาดอาหารในตำแหน่งที่ผู้ป่วยสามารถมองเห็นชนิดของอาหารได้
5.วางเครื่องใช้อื่นๆในตำแหน่งที่สามารถหยิบได้สะดวก
6.ล้างมือให้สะอาดและเช็ดให้แห้ง
2.การป้อนอาหาร
1.ขณะป้อนอาหารตักอาหารให้มีปริมาณที่เหมาะสม
2.จังหวะในการป้อนต้องสัมพันธ์กับความสามารถในการรับประทานอาหารเคี้ยวและกลืนของผู้ป่วย
3.ไม่ควรจ้องหน้าผู้ป่วย
4.หลังป้อนอาหารให้ผู้ป่วยดื่มน้ำบ้วนปากหรือแปรงฟันและเช็ดปากให้สะอาด
5.เก็บถาดอาหารและเครื่องใช้ต่างๆเมื่อผู้ป่วยรับประทานเสร็จ
6.ลงบันทึกทางการพยาบาล
8.6.2การใส่และถอดสายยางให้อาหารจากจมูกถึงกระเพาะอาหาร
อุปกรณ์เครื่องใช้
ถาดสำหรับใส่เครื่องใช้
สายNGtubeเบอร์14-18fr.
Toomeysyringeขนาด50ml1อัน
ถุงมือสะอาด1คู่
Stethoscope
สารหล่อลื่น
แก้วน้ำ
หลอดดูดน้ำ
พลาสเตอร์
กระดาษเช็ดปาก
ชามรูปไต
ผ้าเช็ดตัว
วิธีปฏิบัติ
1.ตรวจสอบความถูกต้องของคำสั่งการรักษา
2.ล้างมือให้สะอาด
3.นำอุปกรณ์ที่เตรียมไว้ไปที่เตียงผู้ป่วยตรวจสอบโดยดูป้ายชื่อและสอบถามชื่อ-สกุลผู้ป่วยให้ถูกต้อง
4.บอกให้ผู้ป่วยทราบถึงวัตถุประสงค์ของการใส่สายยางจากจมูกถึงกระเพาะอาหารปิดประตูหรือกั้นม่านให้เรียบร้อย
5.จัดท่าให้ผู้ป่วยจัดให้ผู้ป่วยอยู่ในท่านั่งหรือนอนศีรษะสูง
6.ใส่ถุงมือสะอาด และMask
7.เปิดซองสายNGtubeจากนั้นบีบ
8.นำสายNGtubeวัดตำแหน่งที่จะใส่สาย
9.เปิดห่อToomeysyringeแล้วใส่Plungerให้เรียบร้อยพันสายNGให้อยู่ในมือซ้ายพร้อมใส่สายNGโดยใช้มือขวาจับปลายสายNGแล้วหล่อลื่oปลายสายNGด้วยK.Y.jellyประมาณ5-6นิ้ว
10.บอกให้ผู้ป่วยตั้งศีรษะให้ตรงหรือเงยหน้าเล็กน้อยใช้มือขวาจับปลายสายด้านที่หล่อลื่นแล้วโดยให้ห่างจากปลายสาย3-4นิ้วค่อยๆสอดเข้าทางรูจมูกแนวด้านข้างของจมูก
11.เมื่อสายผ่านถึงคอผู้ใส่หักข้อมือเล็กน้อยให้ผู้ป่วยก้มศีรษะลงบอกให้ผู้ป่วยช่วยกลืนสายโดยกลืนน้ำลายหรือดูดน้ำที่เตรียมไว้พร้อมทั้งค่อยๆดันสายอย่างนุ่มนวลตามจังหวะ
12.ตรวจสอบว่าสายNGเข้าไปถึงกระเพาะอาหาร
13.ใช้พลาสเตอร์พันสายติดกับจมูกให้สายอยู่ตรงกลางรูจมูกโค้งปลายสายติดด้วยพลาสเตอร์ข้างโหนกแก้มแล้วกลัดด้วยเข็มกลัดติดกับเสื้อ
14.ทำความสะอาดปากและจมูก
15.นำเครื่องใช้ไปทำความสะอาดเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย
16.ลงบันทึกทางการพยาบาล
8.6.3การให้อาหารทางสายยางให้อาหารจากจมูกถึงกระเพาะอาหาร
8.6.4การถอดสายยางให้อาหารจากจมูกถึงกระเพาะอาหาร
8.6.4.1อุปกรณ์เครื่องใช้
ผ้ากันเปื้อนหรือผ้าเช็ดตัว
ชามรูปไต
น้ำยาบ้วนปาก
สำลีชุบ70%Alcohol
ไม้พันสำลีชุบเบนซินและน้ำเกลือ
ถุงมือสะอาด
ผ้าก๊อสสะอาด
8.6.4.2วิธีปฏิบัติ
1.อธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจเหตุผล
2.ไขหัวเตียงสูงเพื่อจัดให้ผู้ป่วยอยู่ท่านั่ง
3.ตรวจคำสั่งการรักษา
4.ล้างมือให้สะอาดเช็ดให้แห้งและใส่ถุงมือสวมmask
5.ปูผ้ากันเปื้อนหรือผ้าขนหนูและแกะพลาสเตอร์ที่ยึดสายจมูกออก
6.หักพับสายและดึงสายออกขณะดึงสายให้ผู้ป่วยอ้าปากหายใจยาวๆ
7.เช็ดรอยพลาสเตอร์ด้วยเบนซินเช็ดตามด้วยน้ำเกลือและแอลกอฮอล์แล้วเช็ดให้แห้ง
8.ทำความสะอาดปากฟันและจมูก
8.7การล้างภายในกระเพาะอาหาร
8.7.1วัตถุประสงค์
1.ล้างกระเพาะอาหารในกรณีที่ผู้ป่วยกินยาหรือสารพิษ
2.ทดสอบหรือยับยั้งการมีเลือดออกจำนวนน้อยในทางเดินอาหารส่วนบน
3.ตรวจสอบการอุดตันของสาย
4.ตรวจหาเชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคปอดและหลอดลมในกรณีที่ไม่สามารถนำเสมหะจากผู้ป่วยไปตรวจได้ปัจจุบันไม่นิยมใช้เพราะใช้เครื่องดูดเสมหะได้
8.7.2 อุปกรณ์เครื่องใช้
1.ชุดล้างกระเพาะอาหาร
2.สารละลายที่ใช้ล้างกระเพาะอาหารใช้น้ำเกลือ
3.ชามรูปไตหรืออ่างกลม
4.ผ้าเช็ดปากหรือผ้าขนหนูผืนเล็กหรือผ้ากันเปื้อน
5.สายยางสำหรับใส่ในกระเพาะอาหาร
6.Kyjelly
7.ถุงมือสะอาด1คู่และMask
8.7.3วิธีปฏิบัติ
1.ตรวจสอบคำสั่งการรักษา
2.ประเมินสภาพผู้ป่วยอธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจปิดประตูหรือกั้นม่านให้เรียบร้อย
3.ล้างมือก่อนจัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้
4.เตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้ให้พร้อมนำเครื่องใช้ต่างๆใส่ถาดหรือรถเข็นแล้วนำไปที่เตียงผู้ป่วย
5.ปูผ้าคลุมบนเตียงและตัวผู้ป่วยตรงที่จะปลดสาย
6.ใช้Toomeysyringeดูดสารละลาย50ซีซี
7.หักพับสายไว้ก่อนปลดรอยต่อจากนั้นต่อสายกับกระบอกฉีดยาแล้วปล่อยสายที่หักพับไว้ค่อยดันสารละลายผ่านกระบอกฉีดยาเข้าทางสาย
8.ดูดน้ำออกเบาๆหรือปล่อยให้สารละลายไหลออกเอง
9.ใส่สารละลายเข้าไปแล้วปล่อยหรือดูดน้ำออกเรื่อยๆจนการไหลผ่านดี
10.ถ้ากรณีล้างกระเพาะอาหารต้องทำการล้างจนสารน้ำมีลักษณะสีแดงจางที่สุดหรือมีลักษณะใส
11.เมื่อสิ้นสุดการล้างกระเพาะอาหารแล้วให้ทำความสะอาดช่องปากและจัดท่าผู้ป่วยในท่าที่สุขสบาย
12.เก็บเครื่องใช้ทำความสะอาดและเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย
13.ลงบันทึกทางการพยาบาล