Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การส่งเสริมภาวะโภชนาการ - Coggle Diagram
การส่งเสริมภาวะโภชนาการ
ปัจจัยที่มีผลต่อภาวะโภชนาการ
ความชอบส่วนบุคคล
พบว่าความชอบและไม่ชอบบริโภคอาหารของแต่ละบุคคลมี ผลต่อภาวะโภชนาการ
ผลจากการดื่มแอลกอฮอล์
พบว่า การดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ทำให้ความรู้สึกอยากอาหารลดลง การบริโภคอาหารเปลี่ยนไป
ภาวะสุขภาพ
พบว่า การเจ็บป่วยเรื้อรังมีผลต่อภาวะโภชนาการ
วิถีชีวิต
ปัจจุบันมีผู้เลือกดำเนินชีวิตตามวิถีสุขภาพโดยเลือกงดรับประทานสัตว์และ ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากสัตว์ ผู้ที่เลือกรับประธานอาหารเจ เป็นเวลานาน ๆ หรือเลือกรับประทานตลอด ชีวิต
การใช้ยา
พบว่า ยาที่มีผลข้างเคียงให้เกิดอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน
เศรษฐานะ
พบว่า ภาวะเศรษฐกิจดีทำให้ผู้คนเลือกรับประทานอาหารได้ตามความ ต้องการ ตรงกันข้ามในภาวะเศรษฐกิจไม่ดีการเลือกรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์อาจลดปริมาณ ลง
เพศ
พบว่าเพศชายต้องการพลังงานในหนึ่งวันมากกว่าเพศหญิง
วัฒนธรรม ความเชื่อ และศาสนา
พบว่าการด าเนินชีวิตตามบริบทของวัฒนธรรม ความเชื่อ และศาสนา ยังดำเนินชีวิตอยู่ในกระบวนทัศน์เดิม มีผลต่อภาวะโภชนาการทั้งสิ้น
อายุ
พบว่าในวัยเด็กมีความต้องการสารอาหารมากกว่าในวัยผู้ใหญ่และวัยสูงอายุ
ปัจจัยด้านจิตใจ
พบว่า ความเครียด และความกลัวทำให้ความอยากอาหารลดลง รู้สึกเบื่ออาหาร กลืนอาหารไม่ลงคอ หรือมีอาการปากคอขมโดยไม่ทราบสาเหตุ
การประเมินภาวะโภชนาการ
การวัดสัดส่วนของร่างกาย (Anthropometric measurement: A)
ดัชนีมวลของร่างกาย (Body Mass Index ; BMI)
BMI = น้ำหนักตัว (กิโลกรัม)หารส่วนสูง (เมตร)2
การประเมินทางชีวเคมี (Biochemical assessment: B)
การประเมินภาวะโลหิตจาง (Anemia) ใช้ค่าของฮีโมโกลบิน (Hb) และค่าฮีมาโตรคิต
Hematocrit (Hct)
ค่าต่ ากว่า 30 % แสดงผลภาวะโลหิตจาง - ชาย ค่าปกติ 40 –54 % - หญิง ค่าปกติ 37-47 %
Hemoglobin (Hb)
ค่าต่ ากว่า 10 mg% แสดงผลภาวะโลหิตจาง - ชาย ค่าปกติ 14 –18 mg % - หญิง ค่าปกติ 12-16 mg%
การตรวจร่างกายทางคลินิก (Clinical assessment: C)
สังเกตดูลักษณะเล็บเรียบเป็นมัน มีสีชมพู (ลักษณะเล็บที่คล้ายรูปช้อน ผิวไม่ เรียบ แสดงถึงการขาดธาตุเหล็ก และลักษณะเล็บมีแถบสีขาวพาดขวาง แสดงถึงภาวะขาดโปรตีน) กด ตรงกลางเล็บแล้วปล่อย (ปกติจะกลับมาสีชมพูเหมือนเดิมไม่เกิน 2 วินาที)
ตรวจดูฝ่ามือ ให้เทียบกันทั้ง 2 ข้าง (ปกติจะมีสีชมพู)
ตรวจ Conjunctiva ของเปลือกตาล่าง (ปกติจะมีสีชมพูค่อนข้างแดง)
การประเมินจากประวัติการรับประทานอาหาร(Dietary assessment: D)
ชนิดของอาหารที่บริโภค
พฤติกรรมการรับประทาน อาหาร
ประวัติการรับประทานอาหาร
การประเมินภาวะโภชนาการเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยให้พยาบาลสามารถประเมินปัญหา ของผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสม และให้การพยาบาลได้ตรงจุดอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ความสำคัญของอาหารต่อภาวะเจ็บป่วยและความต้องการพลังงานของร่างกายใน ภาวะเจ็บป่วย
ผู้ป่วยได้รับสารอาหารและพลังงานไม่เพียงพอ
การหายของแผลช้า
ความแข็งแรงและโครงสร้างของผิวหนังผิดปกติ
ภูมิคุ้มกันโรคลดลง
วันนอนโรงพยาบาลนานขึ้น เสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น
เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
อัตราการเสียชีวิตสูงขึ้น
ภาวะเจ็บป่วยความต้องการพลังงานต้องมากกว่าในภาวะปกติ เพราะต้องช่วย ในการสร้างฟื้นฟู และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอทำให้ร่างกายหายเป็นปกติ มีสุขภาวะสมบูรณ์ และมี คุณภาพชีวิตดี
ความต้องการพลังงานของร่างกายในภาวะเจ็บป่วย
ขึ้นอยู่กับ
เพศ
น้ำหนัก
ส่วนสูง
ความรุนแรงของโรค
อายุ
สูตร BEE เพศชาย BEE = 66.47+ (13.75 x น้ าหนัก (Kg )) + (5. 00 x ความสูง (Cm )) – (6.75 x อายุ (ปี))
สูตร BEE เพศหญิง BEE = 655.09 + (9.56 x น้ าหนัก (Kg)) +(1.85 x ความสูง (Cm )) –(4.68 x อายุ (ปี))
TEE = BEE x Activity factor x stress factor
Activity factor หมดสติและใช้ เครื่องช่วยหายใจ = 1.0 มีกิจกรรมเฉพาะบนเตียง = 1.2 มีกิจกรรมนอกเตียงได้ = 1.3
Stress factor ขาดอาหาร = 0.7 มีไข้ = 1.0 + 0.13 (ต่อองศาเซลเซียส) การติดเชื้อที่รุนแรงน้อย = 1.0 การติดเชื้อที่รุนแรงปานกลาง = 1.2-1.3 การติดเชื้อที่รุนแรงมาก = 1.4-1.5 ไตวายไม่ได้ล้างไต = 1.0 ผ่าตัดไม่มีภาวะแทรกซ้อน = 1.0 ติดเชื้อในช่องท้อง = 1.2-1.37 ติดเชื้อในกระแสเลือด = 1.4-1.8 แผลไหม้ น้อยกว่าร้อยละ 20 = 1.0-1.5 แผลไหม้ ร้อยละ 20-40 = 1.5-1.85 แผลไหม้ ร้อยละ 41-100 = 1.5-2.05 การบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อ = 1.8-2.0 กระดูกหัก = 1.2-1.37 บาดเจ็บที่ศีรษะ = 1.4-1.6
ความหมายของโภชนาการและภาวะโภชนาการ
ความหมายของโภชนาการ (Nutrition)
วิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับอาหาร สารอาหาร และสารอื่นที่มีอยู่ ในอาหารหรือสารอาหาร ตลอดจนปฏิกิริยาระหว่างกันของสารอาหารที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่ สิ่งมีชีวิตย่อย ดูดซึม ขนส่ง นำสารอาหารไปใช้และสะสมในร่างกาย
วิทยาศาสตร์แขนงหนึ่งที่ศึกษาถึงการเปลี่ยนแปลงของอาหารทั้ง ทางด้านอินทรีย์เคมี อนินทรีย์เคมี ชีววิทยา และฟิสิกส์ของอาหาร
โภชนาการมิได้มุ่งหวังเพียงจัดการปรุงแต่งอาหารให้มีรสชาติดี สีสัน สวยงาม ราคาถูกมาบริโภคเท่านั้น แต่ยังต้องมุ่งเน้นเรื่องคุณภาพของอาหาร หรือปริมาณของ สารอาหารที่ร่างกายจะนำมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด
ภาวะโภชนาการ (Nutritional Status)
ความหมาย
สิ่งที่แสดงถึงระดับที่ร่างกายจำเป็นต้องได้รับสารอาหาร เพื่อ นำมาใช้ในด้านสรีระอย่างเพียงพอ
ผล สภาพ หรือภาวะของร่างกายที่เกิดจากการบริโภค อาหาร
ภาวะโภชนาการดี (Good nutritional status)
มีสารอาหารครบถ้วน ในปริมาณเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย และ ร่างกายใช้สารอาหารเหล่านั้นในการเสริมสร้างสุขภาพอนามัยได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่
ภาวะโภชนาการไม่ดี (Bad nutritional status)
เรียกอีกอย่างว่า ภาวะทุพ โภชนาการ (Malnutrition) ภาวะที่ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ หรือได้รับเพียงพอ แต่ร่างกายไม่สามารถใช้ประโยชน์จากสารอาหารที่ได้รับ
ภาวะโภชนาการต่ำกว่าเกณฑ์ (Malnutrition)
ภาวะที่ร่างกายได้รับ สารอาหารไม่เพียงพอกับความต้องการ โดยอาจขาดสารอาหารเพียง 1 ชนิด หรือมากกว่า และอาจ ขาดพลังงานด้วยหรือไม่ก็ได้
ภาวะโภชนาการเกิน (Over nutrition)
ภาวะที่ร่างกายได้รับอาหาร มากเกินความต้องการของร่างกาย และเก็บสะสมไว้จนเกิดอาการปรากฏ
การส่งเสริมภาวะโภชนาการในผู้ป่วยที่รับประทานอาหารเองไม่ได้
การป้อนอาหาร (Feeding)
วัตถุประสงค์
เพื่อให้ผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ได้รับอาหารตาม ความต้องการของร่างกาย
อุปกรณ์เครื่องใช้
ช้อนหรือช้อนส้อม
แก้วน้ำพร้อมน้ำดื่ม และหลอดดูดน้ำ
ถาดอาหารพร้อมอาหาร
กระดาษหรือผ้าเช็ดปาก
ผ้ากันเปื้อน
วิธีปฏิบัติ
การเตรียมผู้ป่วยและสิ่งแวดล้อม
ปูผ้ากันเปื้อนตั้งแต่ใต้คางลงไป
วางถาดอาหารในตำแหน่งที่ผู้ป่วยสามารถมองเห็นชนิดของอาหารได้
จัดให้อยู่ในท่านั่ง
วางเครื่องใช้อื่น ๆ ในตำแหน่งที่สามารถหยิบได้สะดวก
ก่อนเวลาอาหาร แนะน าให้ผู้ป่วยออกกำลังกายบ้าง
ล้างมือให้สะอาดและเช็ดให้แห้ง
การป้อนอาหาร
จังหวะในการป้อนต้องสัมพันธ์กับความสามารถในการรับประทานอาหาร เคี้ยวและกลืนของผู้ป่วย
ไม่ควรจ้องหน้าผู้ป่วย ระวังการตักอาหารไม่ทำอาหารหกรดผู้ป่วย และ เช็ดปากให้เมื่อเปื้อนอาหาร
ขณะป้อนอาหารตักอาหารให้มีปริมาณที่เหมาะสม
หลังป้อนอาหารให้ผู้ป่วยดื่มน้ำ บ้วนปาก หรือแปรงฟัน และเช็ดปากให้ สะอาด
เก็บถาดอาหาร และเครื่องใช้ต่าง ๆ เมื่อผู้ป่วยรับประทานเสร็จ
ลงบันทึกทางการพยาบาล
สำหรับผู้ป่วยพิการ
ถ้าผู้ป่วยจับช้อนไม่ถนัดควรสาธิตการใช้ช้อนและส้อมในการตักอาหารใส่ ปากหรือดัดแปลงที่จับของให้จับได้สะดวก
ถ้าผู้ป่วยรับประทานอาหารได้น้อย ควรรับประทานอาหารเหลวที่ สอดคล้องกับการแผนรักษาของแพทย์
สำหรับผู้ป่วยกลืนลำบาก
จัดให้ผู้ป่วยอยู่ในท่านั่งหรือศีรษะสูงในลักษณะก้มเล็กน้อย
สอบถามผู้ป่วยถึงความรู้สึกเกี่ยวกับอาหารในปาก
สอนวิธีการใช้ลิ้นและการกลืน เพื่อช่วยให้การกลืนได้ดีขึ้น
ควรเริ่มจากอาหารกึ่งแข็งกึ่งเหลวก่อน
ให้อาหารครั้งละน้อยแต่บ่อยครั้ง
ในขณะรับประทานอาหารควรหยุดพักเป็นระยะ ๆ จะช่วยให้ได้ รับประทานอาหารได้มากขึ้น
การใส่และถอดสายยางให้อาหารจากจมูกถึงกระเพาะอาหาร (Nasogastric intubation)
วัตถุประสงค์
เป็นการเพิ่มแรงดันเข้าไปในระบบทางเดินอาหาร (Compression)
ล้างภายในกระเพาะอาหาร (Gastric lavage)
เป็นการลดแรงดันในกระเพาะอาหารหรือลำไส้ (Decompression)
เก็บสิ่งตกค้างในกระเพาะอาหารไปตรวจทางห้องปฏิบัติการ
เป็นทางให้อาหาร น้ำ หรือยา
อุปกรณ์เครื่องใช้
แก้วน้ำ
หลอดดูดน้ำ
สารหล่อลื่น เช่น K.Y. jelly เป็นต้น
พลาสเตอร์
Stethoscope
ถุงมือสะอาด 1 คู่
Toomey syringe ขนาด 50 ml 1 อัน
สาย NG tube เบอร์ 14-18 fr.
ถาดสำหรับใส่เครื่องใช้
ผ้าเช็ดตัว
ชามรูปไต
กระดาษเช็ดปาก
วิธีปฏิบัติ
เปิดซองสาย NG tube จากนั้นบีบ K.Y. jelly ลงด้านในของซองสาย NG tube โดยยังไม่หล่อลื่นสาย NG tube
นำสาย NG tube วัดตำแหน่งที่จะใส่สาย
เปิดห่อ Toomey syringe แล้วใส่ Plunger ให้เรียบร้อย
บอกให้ผู้ป่วยตั้งศีรษะให้ตรงหรือเงยหน้าเล็กน้อย
เมื่อสายผ่านถึงคอ (Posterior nasopharynx)
ตรวจสอบว่าสาย NG เข้าไปถึงกระเพาะอาหาร
ใช้พลาสเตอร์พันสายติดกับจมูก
ทำความสะอาดปาก และจมูก
นำเครื่องใช้ไปทำความสะอาด เก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย
ลงบันทึกทางการพยาบาล
ตรวจสอบความถูกต้องของคำสั่งการรักษา
ล้างมือให้สะอาด
นำอุปกรณ์ที่เตรียมไว้ไปที่เตียงผู้ป่วย ตรวจสอบโดยดูป้ายชื่อ และสอบถาม ชื่อ-สกุลผู้ป่วยให้ถูกต้อง (ถูกคนถูกเตียง)
บอกให้ผู้ป่วยทราบถึงวัตถุประสงค์ของการใส่สายยางจากจมูกถึงกระเพาะ อาหารปิดประตูหรือกั้นม่านให้เรียบร้อย
จัดท่าให้ผู้ป่วย จัดให้ผู้ป่วยอยู่ในท่านั่งหรือนอนศีรษะสูง
ใส่ถุงมือสะอาด และ Mask ตรวจดูรูจมูก ผนังกั้นจมูก โดยให้ผู้ป่วย หายใจเข้าออกแรง ๆ ทีละข้าง ดูการผ่านของลมหายใจ
การให้อาหารทางสายยางให้อาหารจากจมูกถึงกระเพาะอาหาร
วิธีการให้อาหารทางสายยาง
Bolus dose เป็นการให้อาหารทางสาย NG โดยใช้ Toomey syringe เหมาะ ส าหรับผู้ป่วยทั่วไปที่ไม่สามารถรับประทานอาหารทางปากได้เอง
Drip feeding เป็นการให้อาหารทางสาย NG โดยใช้ชุดให้อาหาร (Kangaroo)
อุปกรณ์เครื่องใช้
ถุงมือสะอาด 1 คู่
Stethoscope
Toomey syringe ขนาด 50 ml 1 อัน
แก้วน้ำ
ผ้ากันเปื้อน
ในกรณีที่มียาหลังอาหารบดยาเป็นผงและละลายน้ าประมาณ 15-30 ซซีี
อาหารเหลวสำเร็จรูป หรืออาหารปั่น (Blenderized diet)
ถาดสำหรับใส่เครื่องใช้
ชุดทำความสะอาดปาก ฟัน และจมูก
ส าลีชุบ 70% Alcohol 2 ก้อน
กระดาษหรือผ้าเช็ดปาก
วิธีปฏิบัติ
หักพับปลายสายให้อาหาร และเช็ดปลายสายด้วยสำลีชุบ 70% Alcohol
ปิดจุกสาย NG ใช้ก๊อสปิดไว้ให้เรียบร้อย
เทอาหารใส่กระบอก Syringe คลายรอยพับออก และปล่อยให้อาหารไหลลง ช้า ๆ ต่อเนื่องกันไปไม่ให้ขาดระยะ เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศเข้ากระเพาะอาหาร
ให้ผู้ป่วยอยู่ในท่าเดิมอย่างน้อย 30 นาที
หักพับสาย ถอด Toomey syringe แล้วดึง Plunger ออก และต่อกระบอก สูบเข้ากับส่วนปลายของสาย NG
เก็บเครื่องใช้ทำความสะอาด และเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย
ทดสอบตำแหน่งของสายให้อาหาร
ลงบันทึกทางการพยาบาล
ปลดผ้าก๊อซที่หุ้มปลายสายให้อาหารออกทำความสะอาดปลายสายด้วย สำลีชุบ 70% Alcohol
ปูผ้ากันเปื้อนรองตรงปลายสายให้อาหาร
ท าความสะอาดปาก ฟัน
ไขหัวเตียงสูงเพื่อจัดให้ผู้ป่วยอยู่ในท่านั่ง ในกรณีที่ผู้ป่วยนั่งไม่ได้จัดให้นอน ตะแคงขวา
อธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจเหตุผล ข้อดีและประโยชน์ในการให้อาหารทางสายให้ อาหาร
การถอดสายยางให้อาหารจากจมูกถึงกระเพาะอาหาร
อุปกรณ์เครื่องใช้
สำลีชุบ 70% Alcohol
ไม้พันสำลีชุบเบนซิน (Benzene) และน้ำเกลือ (Normal saline)
น้ ายาบ้วนปาก
ถุงมือสะอาด
ชามรูปไต
ผ้าก๊อสสะอาด
ผ้ากันเปื้อนหรือผ้าเช็ดตัว
วิธีปฏิบัติ
หักพับสาย และดึงสายออก
เช็ดรอยพลาสเตอร์ด้วยเบนซิน เช็ดตามด้วยน้ าเกลือและแอลกอฮอล์แล้วเช็ด ให้แห้ง
ปูผ้ากันเปื้อนหรือผ้าขนหนู และแกะพลาสเตอร์ที่ยึดสายจมูกออก
ท าความสะอาดปาก ฟัน และจมูก เพื่อช่วยให้รู้สึกสะอาด และสดชื่น
ล้างมือให้สะอาด เช็ดให้แห้งและใส่ถุงมือ สวมmask
ตรวจคำสั่งการรักษา เพื่อยืนยันแผนการรักษา
ไขหัวเตียงสูงเพื่อจัดให้ผู้ป่วยอยู่ท่านั่ง
อธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจเหตุผล
การให้อาหารทางสายยางให้อาหารที่ใส่เข้าทางรูเปิดของกระเพาะอาหาร
วัตถุประสงค์
เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับอาหารตามความต้องการของร่างกาย
อุปกรณ์เครื่องใช้
เหมือนกับการให้อาหารทางสาย NG tube
วิธีปฏิบัติ
เช็ดปลายสายให้อาหารด้วยสำลีชุบ 70% Alcohol
หักพับปลายสายให้อาหาร เพื่อป้องกันอากาศเข้าไปในกระเพาะอาหาร
เทอาหารใส่กระบอก Syringe และปล่อยให้อาหารไหลเข้าช้า ๆ ต่อเนื่องกัน ไปไม่ให้ขาดระยะ
ปิดปลายสายอาหารให้เรียบร้อย
หักพับสาย ถอด Syringe แล้วดึง Plunger ออก และต่อกระบอกสูบเข้ากับ สายให้อาหาร
ใช้ Toomey syringe ต่อกับปลายสายดูด Gastric content เพื่อตรวจสอบ ความสามารถของกระเพาะอาหารในการบีบไล่อาหารไปยังลำไส้เล็ก
ปลดผ้าก๊อซที่หุ้มปลายสายให้อาหารออกทำความสะอาดปลายสายด้วยสำลี ชุบ 70% Alcohol
ให้ผู้ป่วยอยู่ในท่าเดิมอย่างน้อย 30 นาที เพื่อป้องกันอาหารไหลย้อน และ สำลักได้
ตรวจสอบคำสั่งการรักษา
แจ้งและอธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจจุดประสงค์และวิธีทำ
เก็บเครื่องใช้ทำความสะอาด และเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย
ลงบันทึกทางการพยาบาล
จัดให้อยู่ในท่านั่ง หรือนอนในท่าศีรษะสูง
เปิดเสื้อผ้าบริเวณ Gastrostomy tube หรือ Jejunostomy tube ออก ปูผ้า กันเปื้อนไว้ใต้ Tube
ล้างมือให้สะอาด ใส่ Mask
กระบวนการพยาบาลในการส่งเสริมภาวะโภชนาการ
การประเมินภาวะสุขภาพ (Assessment)
การวินิจฉัยทางการพยาบาล (Nursing diagnosis)
การวางแผนการพยาบาล (Planning)
เกณฑ์การประเมิน
วัตถุประสงค์
การปฏิบัติการพยาบาล (Implementation)
การประเมินผลการพยาบาล (Evaluation)
ประเมินผลลัพธ์การพยาบาล
ประเมินผลกิจกรรมการพยาบาล
คำศัพท์ที่ควรทราบ
Abdominal distention ภาวะท้องอืด
Dysphagia ภาวะกลืนลำบาก
Nausea and vomiting อาการคลื่นไส้และอาเจียน
Aphagia ภาวะกลืนไม่ได้
Bulimia nervosa ความผิดปกติของพฤติกรรมการรับประทานอาหาร
Nasogastric intubation การใส่สายยางทางจมูกถึงกระเพาะอาหาร
Anorexia nervosa ภาวะเบื่ออาหาร
Nasograstric feeding การให้อาหารทางสายให้อาหารทางจมูกถึงกระเพาะอาหาร
Emaciation ภาวะผอมแห้ง
Jejunostomy feeding การให้อาหารทางสายให้อาหารทางรูเปิดส่วนjejunum
Obesity ภาวะอ้วน
Gastric lavage การล้างกระเพาะอาหาร
Body mass index: BMI ดัชนีมวลของร่างกาย, ดัชนีมวลกาย
Gastrostomy feeding การให้อาหารทางสายให้อาหารทางรูเปิดของกระเพาะอาหาร
Malnutrition ทุพโภชนาการ
Nutritional assessment การประเมินภาวะโภชนาการ
Nutrition โภชนาการ
การล้างภายในกระเพาะอาหาร (Gastric lavage)
วัตถุประสงค์
ทดสอบหรือยับยั้งการมีเลือดออกจำนวนน้อยในทางเดินอาหารส่วนบน
ตรวจสอบการอุดตันของสาย
ล้างกระเพาะอาหารในกรณีที่ผู้ป่วยกินยาหรือสารพิษ
ตรวจหาเชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคปอดและหลอดลม ในกรณีที่ไม่สามารถนำ เสมหะจากผู้ป่วยไปตรวจได้ ปัจจุบันไม่นิยมใช้เพราะใช้เครื่องดูดเสมหะได้
อุปกรณ์เครื่องใช้
สารละลายที่ใช้ล้างกระเพาะอาหาร ใช้น้ำเกลือ (Isotonic saline)
ชามรูปไตหรืออ่างกลม
ชุดล้างกระเพาะอาหาร (ภาชนะส าหรับใส่สารละลายทั้งสำหรับเทสารละลาย และที่ดูดออกจากผู้ป่วย และ Toomey syringe)
ผ้าเช็ดปาก หรือผ้าขนหนูผืนเล็ก หรือผ้ากันเปื้อน
สายยางสำหรับใส่ในกระเพาะอาหาร
Ky jelly
ถุงมือสะอาด 1 คู่ และ Mask
วิธีปฏิบัติ
เตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้ให้พร้อม นำเครื่องใช้ต่าง ๆ ใส่ถาดหรือรถเข็นแล้ว นำไปที่เตียงผู้ป่วย
ปูผ้าคลุมบนเตียงและตัวผู้ป่วยตรงที่จะปลดสาย
ล้างมือก่อนจัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้
ใช้ Toomey syringe ดูดสารละลาย 50 ซซีี
ประเมินสภาพผู้ป่วย อธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจ ปิดประตูหรือกั้นม่านให้เรียบร้อย
หักพับสายไว้ก่อนปลดรอยต่อ จากนั้นต่อสายกับกระบอกฉีดยาแล้วปล่อยสาย ที่หักพับไว้ ค่อยดันสารละลายผ่านกระบอกฉีดยาเข้าทางสาย
ตรวจสอบคำสั่งการรักษา
ดูดน้ำออกเบา ๆ หรือปล่อยให้สารละลายไหลออกเอง ถ้าไม่มีน้ำออกให้ผู้ป่วย พลิกตัวไปมา ถ้ายังดูดไม่ออกให้รายงานแพทย์
ใส่สารละลายเข้าไปแล้วปล่อยหรือดูดน้ำออกเรื่อย ๆ จนการไหลผ่านดี
ถ้ากรณีล้างกระเพาะอาหาร เพื่อห้ามเลือดในกระเพาะอาหาร
เมื่อสิ้นสุดการล้างกระเพาะอาหารแล้ว ให้ทำความสะอาดช่องปากและจัด ท่าผู้ป่วยในท่าที่สุขสบาย
เก็บเครื่องใช้ทำความสะอาด และเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย
ลงบันทึกทางการพยาบาล
การส่งเสริมภาวะโภชนาการในผู้ป่วยที่มีปัญหาภาวะโภชนาการ
Obesity (ภาวะอ้วน)
การพยาบาลผู้ที่มีภาวะอ้วน
หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่แป้งและไขมันสูง
รับประทานอาหารครั้งละน้อย แต่บ่อยครั้งและจำกัดอาหารมื้อเย็น
จำกัดการใช้น้ำมัน ไขมัน น้ำตาล
หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารขณะดูโทรทัศน์
จำกัดมื้ออาหารและสัดส่วนของอาหารตามพีระมิดอาหาร
เพิ่มการรับประทานอาหารที่มีใยอาหารจากผักผลไม้ และธัญพืชที่ไม่ขัดสี
คำนวณพลังงานที่ควรได้รับต่อวัน
ส่งเสริมให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอหรือสัปดาห์ละ 3 วัน
Emaciation (ภาวะผอมแห้ง)
BMI น้อยกว่าหรือเท่ากับ 16 กิโลกรัมต่อ ตารางเมตร
Anorexia nervosa
ภาวะเบื่ออาหารเป็นความรู้สึกไม่อยากรับประทาน อาหาร
Bulimia Nervosa
เป็นความผิดปกติของพฤติกรรมการรับประทาน โดยจะ รับประทานวันละหลาย ๆ ครั้ง ครั้งละมาก ๆ
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะ Anorexia nervosa และ Bulimia nervosa
หาสาเหตุ ที่พบได้บ่อย ๆ แล้วขจัดสาเหตุ
ส่งเสริมความรู้สึกอยากอาหารให้มากที่สุดและลดความรู้สึกเบื่ออาหาร
ดูแลด้านจิตใจ พยายามให้ช่วงเวลารับประทานอาหารเป็นเวลาที่จิตใจสบาย
การใช้ยา
การดูแลให้ผู้ป่วยได้รับอาหารเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
พิจารณาและแนะนำเลือกอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ
ส่งเสริมให้มีการเคลื่อนไหวของร่างกาย
พยายามให้รับประทานอาหารทางปากมากที่สุด
การให้อาหารด้วยวิธีพิเศษ
Nausea and vomiting (อาการคลื่นไส้และอาเจียน)
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีอาการคลื่นไส้และอาเจียน
การพยาบาลผู้ป่วยขณะอาเจียน
จัดหาภาชนะรองรับอาเจียน
จัดให้ผู้ป่วยอยู่ในท่าที่อาเจียนออกได้สะดวก ช่วยลูบหลังลงเบา ๆ
คอยอยู่เป็นเพื่อนขณะที่ผู้ป่วยกำลังอาเจียน พยาบาลควรเฝ้าดูด้วยความ เห็นใจ สงบ ไม่ตื่นเต้น ไม่แสดงท่าทีรังเกียจ
สังเกตสิ่งต่าง ๆ เพื่อบันทึกและรายงานอย่างถูกต้อง
การพยาบาลผู้ป่วยหลังอาเจียน
จัดสิ่งแวดล้อม ดูแลให้อากาศถ่ายเท
ให้ผู้ป่วยพักผ่อนในบรรยากาศที่สงบ ลดการรบกวนจากภายนอก
ดูแลความสะอาดของร่างกายและเครื่องใช้
น้ำและอาหาร ในระยะแรกให้งดอาหารและน้ำและเริ่มให้ทีละน้อย เมื่อ อาการดีขึ้นจึงให้อาหารธรรมดา
การป้องกันและแก้ไขอาการอาเจียน
พิจารณาให้ยาระงับอาเจียน (Antiemetic drug) ตามแผนการรักษา
ถ้าผู้ป่วยมีอาเจียนอย่างต่อเนื่องมักใส่สายเข้าทางจมูกลงสู่กระเพาะ อาหาร
หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวร่างกายหรือเปลี่ยนท่าเร็ว ๆ รวมทั้งหลีกเลี่ยง การมองสิ่งที่เคลื่อนไหวเร็ว ๆ ไปมา
ให้ผู้ป่วยสูดหายใจเข้าออกลึก ๆ ยาว ๆ ภายหลังอาเจียน และเมื่อรู้สึก คลื่นไส้
พยายามหลีกเลี่ยงและลดแหล่งของความเครียดต่าง ๆ
พยายามหาสาเหตุแล้วแก้ไขที่สาเหตุ
ดูแลความสะอาดร่างกาย ปาก ฟัน เครื่องใช้ สิ่งแวดล้อม
เตรียมพร้อมถ้ามีการอาเจียนซ้ า
Abdominal distention (ภาวะท้องอืด)
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะท้องอืด
งดอาหารที่ทำให้เกิดแก๊ส
แสดงความเข้าใจและเห็นใจ
จัดให้นอนศีรษะสูง 45-60 เพื่อช่วยลดอาการแน่นท้อง และผายลมสะดวก
ค้นหาสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะท้องอืดและช่วยเหลือตามสาเหตุ
Dysphagia and aphagia (ภาวะกลืนลำบากและกลืนไม่ได้)
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะกลืนลำบากและกลืนไม่ได้
ระมัดระวังการสำลัก
ดูแลด้านความสะอาดของร่างกาย โดยเฉพาะความสะอาดของปากและฟัน
ดูแลการได้รับยาตามแผนการรักษา
การเตรียมผู้ป่วยเพื่อตรวจหรือรักษา
ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับสารน้ำและอาหารอย่างเพียงพอ
การดูแลด้านจิตใจ ปลอบโยน ให้กำลังใจ
สังเกตและประเมินอาการเกี่ยวกับการกลืนไม่ได้หรือกลืนลำบาก