Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การส่งเสริมภาวะโภชนาการ - Coggle Diagram
การส่งเสริมภาวะโภชนาการ
8.1 ความหมายของโภชนาการและภาวะโภชนาการ
อาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ของการดารงชีวิตของมนุษย์ การรับประทานอาหารให้ครบทั้ง5 หมู่ทาให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วนมีประโยชน์ต่อร่างกายและภาวะโภชนาการ
8.1.1 ความหมายของโภชนาการ (Nutrition)
โภชนาการ หมายถึง วิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับอาหาร สารอาหาร และสารอื่นที่มีอยู่ในอาหารหรือสารอาหาร
8.1.2 ภาวะโภชนาการ (Nutritional Status)
1) ภาวะโภชนาการดี (Good nutritional status)
2) ภาวะโภชนาการไม่ดี (Bad nutritional status)
(1) ภาวะโภชนาการต่ากว่าเกณฑ์ (Malnutrition)
(2) ภาวะโภชนาการเกิน (Over nutrition)
8.2 ปัจจัยที่มีผลต่อภาวะโภชนาการ
3) การใช้ยา พบว่า ยาที่มีผลข้างเคียงให้เกิดอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน เช่น ยารักษาวัณโรค-พีเอเอส(Paraaminobenzoic acid: PAS) ยาลดความอ้วน
4) ภาวะสุขภาพ พบว่า การเจ็บป่วยเรื้อรังมีผลต่อภาวะโภชนาการ
2) เพศ พบว่าเพศชายต้องการพลังงานในหนึ่งวันมากกว่าเพศหญิง
5) ความชอบส่วนบุคคล พบว่าความชอบและไม่ชอบบริโภคอาหารของแต่ละบุคคลมีผลต่อภาวะโภชนาการ เช่น บางคนชอบรับประทานอาหารหวานจัด อาหารไขมันสูง
1) อายุ พบว่าในวัยเด็กมีความต้องการสารอาหารมากกว่าในวัยผู้ใหญ่และวัยสูงอายุเพราะเด็กต้องการสารอาหารโปรตีนไปสร้างและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
6) ผลจากการดื่มแอลกอฮอล์ พบว่า การดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ทำให้ความรู้สึกอยากอาหารลดลง การบริโภคอาหารเปลี่ยนไป
7) วิถีชีวิต ปัจจุบันมีผู้เลือกดาเนินชีวิตตามวิถีสุขภาพโดยเลือกงดรับประทานสัตว์และผลิตภัณฑ์ที่ทามาจากสัตว์ ผู้ที่เลือกรับประธานอาหารเจ เป็นเวลานาน ๆ
8) เศรษฐานะ พบว่า ภาวะเศรษฐกิจดีทาให้ผู้คนเลือกรับประทานอาหารได้ตามความต้องการ ตรงกันข้ามในภาวะเศรษฐกิจไม่ดีการเลือกรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์
9) วัฒนธรรม ความเชื่อ และศาสนา พบว่าการดาเนินชีวิตตามบริบทของวัฒนธรรมความเชื่อ และศาสนา ยังดาเนินชีวิตอยู่ในกระบวนทัศน์เดิม มีผลต่อภาวะโภชนาการทั้งสิ้น
10) ปัจจัยด้านจิตใจ พบว่า ความเครียด และความกลัวทาให้ความอยากอาหารลดลงรู้สึกเบื่ออาหาร กลืนอาหารไม่ลงคอ หรือมีอาการปากคอขมโดยไม่ทราบสาเหตุ
8.3 ความสาคัญของอาหารต่อภาวะเจ็บป่วยและความต้องการพลังงานของร่างกายในภาวะเจ็บป่วย
อาหาร หมายถึง สิ่งใด ๆ ซึ่งรับประทานเข้าไปแล้ว เพื่อเสริมสร้างความเจริญเติบโตและการมีโภชนาการที่ดีให้แก่ร่างกาย อาหารได้มาจากพืชและสัตว์
8.3.1 ความต้องการพลังงานของร่างกายในภาวะเจ็บป่วย
8.4 การประเมินภาวะโภชนาการ
6.4.1 การวัดสัดส่วนของร่างกาย (Anthropometric measurement: A)
1) ดัชนีมวลของร่างกาย (Body Mass Index ; BMI)
เป็นการประเมินมวลของร่างกายทั้งหมด โดยวัดส่วนสูงและน้าหนักแล้ว
8.4.2 การประเมินทางชีวเคมี (Biochemical assessment: B)
8.4.3 การตรวจร่างกายทางคลินิก (Clinical assessment: C)
1) ตรวจ Conjunctiva ของเปลือกตาล่าง (ปกติจะมีสีชมพูค่อนข้างแดง)
2) สังเกตดูลักษณะเล็บเรียบเป็นมัน มีสีชมพู (ลักษณะเล็บที่คล้ายรูปช้อน ผิวไม่เรียบ แสดงถึงการขาดธาตุเหล็ก และลักษณะเล็บมีแถบสีขาวพาดขวาง แสดงถึงภาวะขาดโปรตีน)
3) ตรวจดูฝ่ามือ ให้เทียบกันทั้ง 2 ข้าง (ปกติจะมีสีชมพู)
8.4.4 การประเมินจากประวัติการรับประทานอาหาร(Dietary assessment: D)
มีประวัติรับประทานอาหารเจตลอดชีวิตผลการประเมิน: มีโอกาสขาดสารอาหารที่จาเป็นต่อร่างกาย
มีประวัติชอบรับประทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆผลการประเมิน: มีโอกาสเกิดโรคพยาธิใบไม้ในตับ
มีประวัติเลือกรับประทานอาหารประเภททอด และอาหารรสหวานผลการประเมิน: มีโอกาสเกิดภาวะโภชนาการเกิน (น้าหนักเกินมาตรฐาน)
8.5 การส่งเสริมภาวะโภชนาการในผู้ป่วยที่มีปัญหาภาวะโภชนาการ
8.5.2 Emaciation (ภาวะผอมแห้ง)
8.5.2.1 Anorexia nervosa ภาวะเบื่ออาหารเป็นความรู้สึกไม่อยากรับประทานอาหาร อาจรู้สึกต่อต้าน เมื่อนึกถึงหรือเมื่อเห็นอาหาร รับประทานแล้วไม่ค่อยรู้สึกอร่อย
8.5.2.2 Bulimia Nervosa เป็นความผิดปกติของพฤติกรรมการรับประทาน โดยจะรับประทานวันละหลาย ๆ ครั้ง ครั้งละมาก ๆ โดยหลังจากรับประทานเสร็จจะรู้สึกไม่สบายใจ
8.5.2.3 การพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะ Anorexia nervosa และ Bulimia nervosa
2) ส่งเสริมความรู้สึกอยากอาหารให้มากที่สุดและลดความรู้สึกเบื่ออาหาร โดยจัดให้รับประทานอาหารในท่าสบาย รักษาความสะอาดโดยเฉพาะปากและฟัน
3) ดูแลด้านจิตใจ พยายามให้ช่วงเวลารับประทานอาหารเป็นเวลาที่จิตใจสบายสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายขณะที่รับประทานอาหารเท่าที่ทาได้
1) หาสาเหตุ ที่พบได้บ่อย ๆ เช่น โรคปากและฟัน คออักเสบ โรคมะเร็ง เป็นต้นแล้วขจัดสาเหตุ
4) การใช้ยา แพทย์อาจพิจารณาให้ยากระตุ้นความอยากอาหาร ในรายที่ไม่พบโรคทางร่างกายและต้องการให้รับประทานอาหารมากขึ้น
5) การดูแลให้ผู้ป่วยได้รับอาหารเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
5.1 พยายามให้รับประทานอาหารทางปากมากที่สุด โดยอานวยความสะดวกและช่วยเหลือเกี่ยวกับการรับประทานตามความเหมาะสม เช่น ช่วยป้อน ตัก หรือแบ่งอาหาร เป็นต้น
5.2 พิจารณาและแนะนาเลือกอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เช่น ไข่
นม อาหารเสริมสาเร็จรูป เพิ่มมื้ออาหาร เป็นต้น
5.3 ส่งเสริมให้มีการเคลื่อนไหวของร่างกาย หรือทากิจกรรมตามสภาพ
ร่างกายของผู้ป่วย ซึ่งจะทาให้ระบบทางเดินอาหารทางานได้ดีขึ้น
5.4 การให้อาหารด้วยวิธีพิเศษ เช่น การให้อาหารทางสายที่ใส่ทางจมูกถึงกระเพาะอาหาร การให้สารน้าทางหลอดเลือดดา การให้สารอาหารทางหลอดเลือดดา เป็นต้น
8.5.1 Obesity (ภาวะอ้วน)
การพยาบาลผู้ที่มีภาวะอ้วน
1) คานวณพลังงานที่ควรได้รับต่อวัน
2) จากัดมื้ออาหารและสัดส่วนของอาหารตามพีระมิดอาหาร
3) จากัดการใช้น้ามัน ไขมัน น้าตาล
4) หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่แป้งและไขมันสูง
5) รับประทานอาหารครั้งละน้อย แต่บ่อยครั้งและจากัดอาหารมื้อเย็น
6) หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารขณะดูโทรทัศน์
7) เพิ่มการรับประทานอาหารที่มีใยอาหารจากผักผลไม้ และธัญพืชที่ไม่ขัดสี
8) ส่งเสริมให้ออกกาลังกายอย่างสม่าเสมอหรือสัปดาห์ละ 3 วัน
8.5.3 Nausea and vomiting (อาการคลื่นไส้และอาเจียน)
8.5.3.1 การพยาบาลผู้ป่วยที่มีอาการคลื่นไส้และอาเจียน
2) สังเกตสิ่งต่าง ๆ เพื่อบันทึกและรายงานอย่างถูกต้อง ได้แก่ อาการที่เกิดร่วมกับการอาเจียน ลักษณะของอาเจียน จานวน เวลาที่อาเจียน สัญญาณชีพ
3) การพยาบาลผู้ป่วยหลังอาเจียน
1) การพยาบาลผู้ป่วยขณะอาเจียน เมื่อพบผู้ป่วยจะอาเจียน พยาบาลต้องรีบให้การช่วยเหลือโดยมีเป้าหมายให้ผู้ป่วยปลอดภัยและสุขสบาย
4) การป้องกันและแก้ไขอาการอาเจียน
6) เตรียมพร้อมถ้ามีการอาเจียนซ้า
5) ดูแลความสะอาดร่างกาย ปาก ฟัน เครื่องใช้ สิ่งแวดล้อม
8.5.4 Abdominal distention (ภาวะท้องอืด)
8.5.4.1 การพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะท้องอืด
1) จัดให้นอนศีรษะสูง 45 ํ-60 ํ เพื่อช่วยลดอาการแน่นท้อง และผายลมสะดวก
2) งดอาหารที่ทาให้เกิดแก๊ส เช่น มะม่วงดิบ แตงโม ผักสด เป็นต้น
3) แสดงความเข้าใจและเห็นใจ และยินดีให้การช่วยเหลืออย่างจริงใจ
4) ค้นหาสาเหตุที่ทาให้เกิดภาวะท้องอืดและช่วยเหลือตามสาเหตุ
8.5.5 Dysphagia and aphagia (ภาวะกลืนลาบากและกลืนไม่ได้)
8.5.5.1 การพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะกลืนลาบากและกลืนไม่ได้
1) สังเกตและประเมินอาการเกี่ยวกับการกลืนไม่ได้หรือกลืนลาบากว่าเกิดขึ้นทันทีทันใดหรือค่อย ๆ มากขึ้น
2) ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับสารน้าและอาหารอย่างเพียงพอ
3) ดูแลการได้รับยาตามแผนการรักษา
4) ระมัดระวังการสาลัก
5) ดูแลด้านความสะอาดของร่างกาย โดยเฉพาะความสะอาดของปากและฟัน
6) การเตรียมผู้ป่วยเพื่อตรวจหรือรักษา การตรวจรักษาโดยการส่องกล้องเข้าไปดูที่หลอดอาหาร (Esophagoscopy) หลังการตรวจผู้ป่วยอาจรู้สึกเจ็บและมีเสมหะมาก
7) การดูแลด้านจิตใจ ปลอบโยน ให้กาลังใจ การสังเกตและการดูแลเอาใจใส่ที่ดีสามารถบอกถึงสาเหตุและอาจแก้ไขอาการได้
8.6 การส่งเสริมภาวะโภชนาการในผู้ป่วยที่รับประทานอาหารเองไม่ได้
8.6.1 การป้อนอาหาร (Feeding)
8.6.1.1 วัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ได้รับอาหารตามความต้องการของร่างกาย
8.6.1.2 อุปกรณ์เครื่องใช้
1) ถาดอาหารพร้อมอาหาร
2) ช้อนหรือช้อนส้อม
3) แก้วน้าพร้อมน้าดื่ม และหลอดดูดน้า
4) กระดาษหรือผ้าเช็ดปาก
5) ผ้ากันเปื้อน
8.6.1.3 วิธีปฏิบัติ
1) การเตรียมผู้ป่วยและสิ่งแวดล้อม
2) การป้อนอาหาร
4) สาหรับผู้ป่วยกลืนลาบาก
3) สาหรับผู้ป่วยพิการ
8.6.2 การใส่และถอดสายยางให้อาหารจากจมูกถึงกระเพาะอาหาร (Nasogastricintubation)
8.6.2.1 วัตถุประสงค์
1) เป็นทางให้อาหาร น้า หรือยา ในกรณีที่ผู้ป่วยรับประทานทางปากไม่ได้หรือได้รับไม่เพียงพอ
2) เป็นการลดแรงดันในกระเพาะอาหารหรือลาไส้ (Decompression) เพื่อให้แก๊ส สิ่งที่ค้างอยู่หรือน้าคัดหลั่งระบายออก มักต้องต่อกับเครื่องดูดสุญญากาศ
3) เป็นการเพิ่มแรงดันเข้าไปในระบบทางเดินอาหาร (Compression) โดยใช้สายที่มีลูกโป่งทางด้านนอกสามารถเป่าลมเข้าไปทาให้โป่งขึ้นบางส่วนของทางเดินอาหาร
4) ล้างภายในกระเพาะอาหาร (Gastric lavage) ใช้มากในกรณีที่กินยาพิษได้รับยาเกินขนาด (Over dose)
5) เก็บสิ่งตกค้างในกระเพาะอาหารไปตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การใส่สายยางให้อาหาร เพื่ออธิบายวัตถุประสงค์ของการใส่สายยางให้อาหารข้างต้น
8.6.2.2 อุปกรณ์เครื่องใช้
1) ถาดสาหรับใส่เครื่องใช้
2) สาย NG tube เบอร์ 14-18 fr.
3) Toomey syringe ขนาด 50 ml 1 อัน
4) ถุงมือสะอาด 1 คู่
5) Stethoscope
6) สารหล่อลื่น เช่น K.Y. jelly เป็นต้น
7) แก้วน้า
8) หลอดดูดน้า
9) พลาสเตอร์
10) กระดาษเช็ดปาก
11) ชามรูปไต
12) ผ้าเช็ดตัว
8.6.2.3 วิธีปฏิบัติ
1) ตรวจสอบความถูกต้องของคาสั่งการรักษา
2) ล้างมือให้สะอาด
3) นาอุปกรณ์ที่เตรียมไว้ไปที่เตียงผู้ป่วย ตรวจสอบโดยดูป้ายชื่อ และสอบถามชื่อ-สกุลผู้ป่วยให้ถูกต้อง (ถูกคนถูกเตียง)
4) บอกให้ผู้ป่วยทราบถึงวัตถุประสงค์ของการใส่สายยางจากจมูกถึงกระเพาะอาหารปิดประตูหรือกั้นม่านให้เรียบร้อย
5) จัดท่าให้ผู้ป่วย จัดให้ผู้ป่วยอยู่ในท่านั่งหรือนอนศีรษะสูง
8.6.3 การให้อาหารทางสายยางให้อาหารจากจมูกถึงกระเพาะอาหาร
วิธีการให้อาหารทางสายยางมี 2 วิธี ได้แก่
1) Bolus dose เป็นการให้อาหารทางสาย NG โดยใช้ Toomey syringe เหมาะสาหรับผู้ป่วยทั่วไปที่ไม่สามารถรับประทานอาหารทางปากได้เอง
2) Drip feeding เป็นการให้อาหารทางสาย NG โดยใช้ชุดให้อาหาร (Kangaroo) ดังรูปที่ 8.2 มีลักษณะคล้ายกับชุดให้สารน้าสามารถปรับจานวนหยดของอาหาร
8.6.4 การถอดสายยางให้อาหารจากจมูกถึงกระเพาะอาหาร
8.6.4.1 อุปกรณ์เครื่องใช้
1) ผ้ากันเปื้อนหรือผ้าเช็ดตัว
2) ชามรูปไต
3) น้ายาบ้วนปาก
4) สาลีชุบ 70% Alcohol
5) ไม้พันสาลีชุบเบนซิน (Benzene) และน้าเกลือ (Normal saline)
6) ถุงมือสะอาด
7) ผ้าก๊อสสะอาด
8.6.5 การให้อาหารทางสายยางให้อาหารที่ใส่เข้าทางรูเปิดของกระเพาะอาหาร
8.6.5.1 วัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับอาหารตามความต้องการของร่างกาย
8.6.5.2 อุปกรณ์เครื่องใช้ เหมือนกับการให้อาหารทางสาย NG tube
8.6.5.3 วิธีปฏิบัติ
1) แจ้งและอธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจจุดประสงค์และวิธีทา
2) จัดให้อยู่ในท่านั่ง หรือนอนในท่าศีรษะสูง
3) เปิดเสื้อผ้าบริเวณ Gastrostomy tube
4) ล้างมือให้สะอาด ใส่ Mask
5) ตรวจสอบคาสั่งการรักษา
6) ปลดผ้าก๊อซที่หุ้มปลายสายให้อาหารออกทาความสะอาดปลายสายด้วยสาลีชุบ 70% Alcohol
7) ใช้ Toomey syringe ต่อกับปลายสายดูด Gastric content
8.7 การล้างภายในกระเพาะอาหาร (Gastric lavage)
8.7.1 วัตถุประสงค์
1) ล้างกระเพาะอาหารในกรณีที่ผู้ป่วยกินยาหรือสารพิษ
2) ทดสอบหรือยับยั้งการมีเลือดออกจานวนน้อยในทางเดินอาหารส่วนบน
3) ตรวจสอบการอุดตันของสาย
4) ตรวจหาเชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคปอดและหลอดลม
8.7.2 อุปกรณ์เครื่องใช้
1) ชุดล้างกระเพาะอาหาร (ภาชนะสาหรับใส่สารละลายทั้งสาหรับเทสารละลายและที่ดูดออกจากผู้ป่วย และ Toomey syringe)
2) สารละลายที่ใช้ล้างกระเพาะอาหาร ใช้น้าเกลือ (Isotonic saline)
3) ชามรูปไตหรืออ่างกลม
4) ผ้าเช็ดปาก หรือผ้าขนหนูผืนเล็ก หรือผ้ากันเปื้อน
5) สายยางสาหรับใส่ในกระเพาะอาหาร
6) Ky jelly
7) ถุงมือสะอาด 1 คู่ และ Mask
8.8 กระบวนการพยาบาลในการส่งเสริมภาวะโภชนาการ
การประเมินภาวะสุขภาพ (Assessment)
การปฏิบัติการพยาบาล (Implementation)
การประเมินผลการพยาบาล (Evaluation)
5.1 ประเมินผลลัพธ์การพยาบาล
5.2 ประเมินผลกิจกรรมการพยาบาล
การวางแผนการพยาบาล (Planning)
การวินิจฉัยทางการพยาบาล (Nursing diagnosis)