Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 10 การประเมินโครงการด้านสาธารณสุข - Coggle Diagram
บทที่ 10
การประเมินโครงการด้านสาธารณสุข
การประเมินทางเศรษฐศาสตร์(Economic evaluation)
ป็นวิธีการที่ได้รับการพัฒนาโดยนัก
เศรษฐศาสตร์ เพื่อช่วยในการตัดสินใจเมื่อต้องการเลือกบางโครงการจากโครงการที่มีอยู่ทั้งหมด การประเมินผลประโยชน์ของโครงการในหลายๆลักษณะเป็นเรื่องที่ยากล าบากมาก การประเมินต้นทุนผลประโยชน์ ไปใช้การประเมินที่เรียกว่า “การประเมิน
ประสิทธิผลของทุน”
.แนวคิดและโมเดลการประเมินแบบซิป หรือ “CIPP Model”
Stufflebeam ได้เสนอแนวคิดและโมเดลการประเมินแบบซิป หรือ “CIPP Model” เน้นการแบ่งแยก
บทบาทของการทำงานระหว่างฝ่ายประเมินกับฝ่ายบริหารออกจากกันอย่างเด่นชัด
การประเมินออกเป็น 4 ประเภท
1.การประเมินสภาวะแวดล้อม (Context Evaluation : C )
การประเมินก่อนการดำเนินการโครงการ เพื่อพิจารณาหลักการและเหตุผล ความจำเป็นที่ต้องดำเนิน
โครงการ
การประเมินปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation : I )เป็นการประเมินเพื่อพิจารณาถึงความเป็นไปได้ของโครงการความเหมาะสม และความพอเพียงของ
ทรัพยากรที่จะใช้ในการดำเนินโครงการ เช่น งบประมาณบุคลากร วัสดุอุปกรณ์เวลา ฯลฯ
การประเมินกระบวนการ (Process Evaluation : P )เป็นการประเมินเพื่อหาข้อบกพร่องของการดำเนินโครงการ ที่จะใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนา แก้ไขปรับปรุง
ให้การดำเนินการช่วงต่อไปมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การประเมินผลผลิต (Product Evaluation : P )เป็นการประเมินเพื่อเปรียบเทียบผลผลิตที่เกิดขึ้นกับวัตถุประสงค์ของโครงการ หรือมาตรฐานที่กำหนดไว้
รวมทั้งการพิจารณาในประเด็นของการยุบ เลิกขยาย
เกณฑ์และตัวชี้วัดความสำเร็จ
เกณฑ์ประสิทธิภาพ (Efficiency) มีตัวชี้วัด เช่น สัดส่วนของผลผลิตต่อค่าใช้จ่าย ผลิตผลต่อหน่วย
เวลาผลิตภาพต่อก าลังคน ระยะเวลาในการให้บริการ
เกณฑ์ประสิทธิผล (Effectiveness) มีตัวชี้วัดเช่น ระดับการบรรลุเป้าหมาย ระดับการบรรลุตาม
เกณฑ์มาตรฐาน ระดับการมีส่วนร่วม ระดับความเสี่ยงของโครงการ
เกณฑ์ความพอเพียง (Adequacy) มีตัวชี้วัดเช่น ระดับความพอเพียงของทรัพยากร
เกณฑ์ความพึงพอใจ(Satisfaction) มีตัวชี้วัดเช่น ระดับความพึงพอใจ
เกณฑ์ความเป็นธรรม (Equity) มีตัวชี้วัดคือ การให้โอกาสกับผู้ด้อยโอกาส ความเป็นธรรมระหว่างเพศ
ระหว่างกลุ่มอาชีพ ฯลฯ
เกณฑ์ความก้าวหน้า (Progress) มีตัวชี้วัดเช่น ผลผลิตเปรียบเทียบกับเป้าหมายรวมกิจกรรมที่ท า
แล้วเสร็จ ทรัพยากรและเวลาที่ใช้ไป
แนวคิดและเทคนิค PERT และ CPM
เทคนิคการประเมินผลและทบทวนโครงการ (Program Evaluation and Review Technique : PERT) และ ระเบียบวิธีวิกฤต (Critical Path Method : CPM)
ความเป็นมาของ PERT และ CPM
PERT พัฒนาขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2501โดยกองทัพเรือสหรัฐร่วมกับ บูซ แอลเลน และ แฮมิลตัน (Booz Allen
and Hamilton) และ ล๊อกฮีด แอร์คราฟต์ (Lockheed Aircraft) เพื่อใช้ในการบริหารโครงการขีปนาวุธโพ
ลาริส (Polaris) CPM พัฒนาขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2500 โดเคลลี (J.E. Kelly) แห่งเรมิงตัน แรนด์ (Remington Rand) ร่วมกับ
วอล์กเกอร์ (M.R. Walker) แห่งบริษัทดูปองต์ (Dopont)
ความแตกต่างระหว่าง PERT และ CPM
ข้อแตกต่างชัดเจนระหว่าง PERT และ CPM คือ เวลาในการทำกิจกรรม กล่าวคือ เวลาในการท ากิจกรรม
ของ PERT จะเป็นเวลาโดยประมาณซึ่งคำนวณได้ด้วยการใช้ความน่าจะเป็น PERT CPM นั้น เวลาที่ใช้ในกิจกรรมจะเป็นเวลาที่แน่นอน ซึ่งค านวณได้จากข้อมูลที่เคยทำมาก่อน
การประเมินตามกรอบตรรกของโครงการ (Log-fram)
1.จุดมุงหมายของโครงการ (Objectives)1.1 เป้าหมายสูงสุด(Goal) หรือเป้าประสงค์ หมายถึง จุดมุ่งหมายของแผนงานหรือผลกระทบของ
โครงการที่เราคาดหวังวาจะเกิดขึ้น (Planned impact)
1.2 วัตถุประสงค์(Purpose) หรือ Immediate objective คือผลงานหรือผลลัพธ์ของแผนงาน
1.3 ผลผลิต (Outputs) คือ ผลที่ไดรับ(Results) จากการที่ใช้ปัจจัย (Input) ในโครงการนั้นและเป็น
ผลที่ผู้ดำเนินงานโครงการประสงค์
1.4 กิจกรรม (Activities) คือกระบวนการ (Process) หรือการกระทำ(Actions)ที่จำเป็นในการ
เปลี่ยนแปลงทรัพยากรและปัจจัยการผลิตให้บังเกิดผลผลิต (Output)
การใช้ประโยชน์ของการประเมินโครงการในงานด้านสาธารณสุข
1) ทางเลือกในการป้องกันการเจ็บป่วยการป้องกันเบื้องต้น และการป้องกันขั้นทุติยภูมิ
ซึ่งการป้องกัน ขั้นเบื้องต้นได้แก่ การฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ
2) ทางเลือกในวิธีการตรวจหาสาเหตุของโรคหรือชนิดของเชื้อโรคหรือแม้แต่การหาส่วนของ
ร่างกายที่ท าให้เกิดความไม่สบาย
3) ทางเลือกในวิธีการรักษา เมื่อทราบที่มาหรือสาเหตุของการเจ็บป่วยแล้ว แพทย์ยังต้องตัดสินใจ
ว่าจะใช้วิธีการรักษาผู้ป่วยนั้นด้วยวิธีใดจึงจะมีประสิทธิภาพทั้งทางด้านการแพทย์และทางเศรษฐกิจ
4) ทางเลือกเกี่ยวกับสถานที่จะให้การดูแลรักษาผู้ป่วย ปัญหาสถานที่ที่ผู้ป่วยควรจะไปรับการ
รักษา รวมทั้งสถานที่ที่ผู้ป่วยควรพักอยู่ในระหว่างการรักษา
5) ทางเลือกในการจัดองค์การจัดการเพื่อการสาธารณสุข แยกได้เป็น 3 กลุ่มคือ (1) การจัดการทางด้านคลินิกวิทยาและการบริการเสริม(2) การใช้วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์
(3) การเปลี่ยนแปลงกลุ่มผู้ให้บริการทางด้านสาธารณสุข
รูปแบบในการวิเคราะห์โครงการด้านสาธารณสุขในเชิงเศรษฐศาสตร
1) การวิเคราะห์ต้นทุนต่ าสุด CMA (Cost-minimization analysis),
2) การวิเคราะห์ต้นทุนประสิทธิผล CEA (Cost-Effectiveness analysis)
3) การวิเคราะห์ต้นทุนผลได้CBA (Cost - Benefit Analysis)
4) การวิเคราะห์ต้นทุนอรรถประโยชน์ CUA (Cost-utility Analysis)
การประเมินต้นทุนของโครงการการสาธารณสุขแบ่งออกได้ 3 กลุ่ม
1) การระบุต้นทุน
ต้นทุนที่เกิดกับหน่วยงานที่ให้บริการหรือบริหารโครงการนั้นๆ
2) การวัดต้นทุน
ต้นทุนที่เกิดกับตัวผู้ป่วยและครอบครัว
3) การให้ค่าต้นทุน ต้นทุนที่เกิดกับบุคคลอื่นหรือหน่วยงานอื่นนอกเหนือจากหน่วยงานที่ให้บริการผู้ป่วยและ
ครอบครัว
การประเมินมูลค่าของชีวิต (Value of life) โดยแบ่งออกได้ 3 แนวทาง ได้แก่
1) แนวทางทุนมนุษย์ (Livelihood or Human Capital Approach)
2) แนวทางประเมินแบบแฝงจากการตัดสินใจในอดีต (Valuation implicit in past decision)
3) แนวทางความเต็มใจจ่าย (Willingness to pay approach)
การประเมินการเพิ่มคุณภาพชีวิต
1) แบ่งระดับของประสิทธิภาพหรือสุขภาพโดยพิจารณาจากระดับความสามารถในการทำงาน
2) แปลงระดับต่างๆข้างต้นให้เป็นดัชนีสุขภาพ
3) ใช้กระบวนการบางอย่างแปลงค่าดัชนีสุขภาพให้เป็นมูลค่าในรูปของเงิน