Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

CBL 2 ANC, เคยเเท้ง, ไตรมาสเเรก, ทารกอยู่ในท่าก้น ส่วนนำคือก้น…

- - - - ไม่ได้การคัดกรองและติดตามประเมินภาวะผิดปกติต่างๆ
      - ไม่รับการคัดกรองโรคธาลัสซีเมีย
      - ไม่รับการให้คำแนะนำในการปฏิบัติตนในขณะตั้งครรภ์
      - ได้รับยาเม็ดเสริมธาตุเหล็กไม่ครบขณะการตั้งครรภ์
  - - - ความสูงยอดมดลูกคลาดเคลื่อนได้
  - - - การใช้ท่าเดิน ยืน นั่ง ในการทำงานมากเกิดไป หรือการใส่รองเท้าส้นสูงในการทำงานเป็นเวลานาน ไม่มีเวลาดูแลตนเอง
        
        อาการปวดหลัง
        
        เส้นเลือดขอด
        
        อาการบวมที่ข้อเท้าได้
  - - - สตรีวัยเจริญพันธุ์
        อายุ 20-35 ปี
    - - -ทุพโภชนาการ -คลอดก่อนกำหนด
    - - การตั้งครรภ์อายุมาก
        
        Down’s syndrome
        
        รกเกาะต่ำ
  - - - กล้ามเนื้อหน้าท้องยังกระชับ
        
        ขนาดครรภ์มักจะไม่โชว์ให้เห็นชัด
    - - กล้ามหน้าท้องผ่านการยืดขยาย
        
        จะโชว์เห็นใกล้เคียงอายุครรภ์
- - - - ให้ยาเสริมธาตุเหล็กเเละไอโอดีน
      - เเนะนำเรื่องโภชนาการ
      - เหงื่อออก ตัวเย็น หน้ามืด ตาลาย
        
        ต้องมาพบเเพทย์
  - - - เจ็บครรภ์จริง
      - น้ำเดิน หรือ มูกเลือด
  - - - Hoffman's maneuver
    - - จะทำให้การอักเสบกระจายไปทั่ว
        
        พบทันตเเพทย์เพื่อเเก้ไข
        
        การดูเเลฟัน
        
        เเปรงฟันก่อนเเละหลังตื่นนอน หลังมื้ออาหาร
    - - ยกเท้าให้สูงกว่าระดับสะโพก
      - นอนตะเเคง
        
        เพิ่ม Venous return
        
        Fluid retention ลดลง
    - - นวด
    - - แนะนำงดน้ำหลังเวลา 18.00 น.
      - งดดื่มชา กาแฟ
      - ไม่กลั้นปัสสาวะ
    - - เเนะนำรับประทานอาหารครั้งละน้อยๆ เเต่บ่อยครั้ง
      - ขับถ่ายตรงเวลา
      - รับประทานอาหารที่มีกากใยมาก ผลไม้
      - ดื่มน้ำให้มาก
    - - อย่ายืนๆนาน เเต่หากต้องยืน ให้เดินบ่อยๆ
      - เวลานั่งให้ยกขาสูงไ
  - - - บวม
      - ปวดศรีษะ
      - เลือดออกทางช่องคลอด
      - ตาพร่ามัว
      - ปัสสาวะเเสบขัด
      - การดิ้นของทารกในครรภ์น้อยลง
      - อาการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด
  - - - การซักประวัติส่วนบุคคลเเละประวัติทางสังคม
      - ประวัติการเจ็บป่วยในอดีตเเละปัจจุบัน
      - ประวัติทางสูติกรรม
    - - วัดความสูงของยอดมดลูก
      - วัดความดัน
      - ชั่งน้ำหนักเเละส่วนสูง เพื่อประเมินภาวะโภชนาการ
      - ฟังเสียงการหายใจเเละเสียงหัวใจ
    - - ตรวจ VLDL, Anti-HIV, HbsAG, CBC, OF,MCV, DCIP
      - ตรวจปัสสาวะ
    - - ให้ยาเสริมธาตุเหล็กเเละโฟเลต
      - อาการคลื่นใส้อาเจียน
        
        ทานอาหารครั้งละน้อยๆ แต่บ่อยมื้อ
        
        ทานอาหารที่มีโปรตีน หรือคาร์โบไฮเดรตสูงร่วมกัน
        
        ไข่สุก
        
        ขนมปังปิ้ง
        
        หลังตื่นนอน ควรดื่มน้ำผลไม้ หรือทานขนมขบเคี้ยวที่ไม่หวานเพื่อแก้อาการวิงเวียน คลื่นไส้ เช่น บิสกิตหรือขนมปังกรอบ และอาจนอนพักสัก 20-30 นาที ก่อนลุกจากเตียง
- - - - Ankle edema
        
        BP < 140/90 mmHg
        
        ไม่พบโปรตีนในปัสสาวะ
    - - Ankle edema
        
        BP > 140/90 mmHg
        
        พบโปรตีนในปัสสาวะ
      - น้ำหนักเพิ่มขึ้นมาก
    - - ให้นอนตะแคงซ้าย เพื่อให้ปริมาณเลือดไหลผ่านการกรองที่ไตมากขึ้นและเร็วขึ้น
        
        นั่งพัก ยกเท้าสูง ประมาณ 30 นาที ในช่วงเวลาบ่ายและเวลาเย็น
        
        บริหารปลายท้า โดยการกระดกปลายเท้าขึ้นลง และหมุนปลายเท้าเข้าออก
        -หลีกเลี่ยงการสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไป หรือสวมถุงน่องที่ยาวระดับหัวเข่า ซึ่งจะกีดขวางการไหลเวียนกลับของเลือดที่บริเวณส่วนปลาย
        
        ควรปรึกษาแพทย์ ถ้าพบอาการบวมที่เท้า ร่วมกับพบโปรตีนในปัสสาวะ ความดันโลหิตมากกว่าหรือเท่ากับ 140/90 mmHg หรือมีน้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น อาจเป็นอาการของภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ (Pregnancy Induced Hypertension, PIH) ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง
  - - - ส่วนนำของทารกลงมากดเบียดกระเพาะปัสสาวะ
        
        ไม่มีน้ำตาลออกมากับปัสสาวะ
    - - เมื่อฮอร์โมนอินซูลินที่ตับอ่อนผลิตได้ไม่เพียงพอหรือไม่สามารถผลิตได้
        
        น้ำตาลออกมากับปัสสาวะ
    - - อธิบายให้สตรีตั้งครรภ์เข้าใจถึงสาเหตุของการปัสสาวะบ่อย เนื่องจากเป็นภาวะปกติที่เกิดขึ้นได้กับสตรีตั้งครรภ์ทุกคน
        
        หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีดเฟอื่น เช่น กาแฟ ซา น้ำอัดลม
        -ไม่ควรกลั้นปัสสาวะ เพื่อป้องกันการติดเชื้อระบบปัสสาวะ
        
        ควรดื่มน้ำให้น้อยลงในช่วงกลางคืนก่อนเข้านอน แต่ไม่ควรงดดื่มน้ำ ควรดื่มน้ำ 8 แก้วเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
        
        ถ้าสตรีตั้งครรภ์ปัสสาวะเล็ดหรือกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ (stress incontinence) ควรแนะนำการบริหารช่องคลอด โดยการขมิบกล้ามเนื้อรอบช่องคลอด (Kegel exercise) เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ Pubococcygeus ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่อยู่ใต้กระดูกหัวหน่าวมีลักษณะเป็นวงล้อมรอบท่อปัสสาวะ ช่องคลอด และทวารหนัก การฝึกขมิบทำได้โดยหายใจเข้าลึกๆ และขมิบไว้นาน 5 วินาที หรือนับเลข 1-5 จากนั้นหายใจออกพร้อมกับคลายกล้ามเนื้อนาน 5 วินาที หรือนับเลข 1-5 การขมิบ 1 ครั้ง และคลาย 1 นับเป็น 1 เที่ยว ให้ทำเป็นชุด ชุดละ 30 เที่ยว ในไตรมาสแรกอาจใช้ท่านอน แต่เมื่อเข้าไตรมาสที่สามของการตั้งครรภ์ควรใช้ทนั่หรือยืน ซึ่งท่าที่ดีที่สุดคือท่ายืน เพราะเป็นท่าที่มีความดันบนกระเพาะปัสสาวะมากที่สุด ซึ่งในขณะที่ฝึกต้องถ่ายปัสสาวะออกให้หมด ให้ทำเป็นประจำทุกวัน ใช้เวลานาน 6-12 สัปดาห์จึงจะเริ่มเห็นผล และควรฝึกต่อไปอย่างสม่ำเสมอ
  - - - Metabolism สูง
      - N/V
      - ปัสสาวะบ่อยในตอนกลางคืน
        
        ต้องไม่มีอาการอื่นร่วม
      - นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ
    - - อาการหายใจลำบากที่รุนแรง หรือเป็นช่วง ๆ ตอนกลางคืน
      - อาการนอนราบไม่ได้
      - เจ็บหน้าอกที่สัมพันธ์กับการออกแรง
      - เส้นเลือดดำที่คอขอดหรือโป่งพอง
    - - เมื่อรู้สึกเหนื่อยล้า ให้พักผ่อนหรือนอนหลับในช่วงเวลาสั้นๆ ตอนกลางวัน
        
        หลีกเลี่ยงความครียดโดยใช้เทคนิคผ่อนคลาย เช่น การหายใจ (breathing relaxation) นั่งสมาธิ (Meditation) หรือฟังเพลง (sound)
        
        เข้านอนเร็วขึ้น และนอนในท่าตะแคงซ้าย (Sim's position) โดยใช้หมอนเล็กๆ หนุนที่บริเวณท้อง และระหว่างขาทั้งสองข้าง เพื่อให้น้ำหนักทารกทับลงบนเตียง
        
        สตรีตั้งครรภ์ที่ทำงานนอกบ้านควรหาเวลานั่งพัก ยกเท้าสูงในช่วงเวลากลางวัน สำหรับงานบ้าน อาจให้สามีหรือญาติแบ่งเบาภาระ
        
        สตรีตั้งครรภ์ที่นั่งทำงานอยู่กับที่ และไม่ค่อยได้ทำกิจกรรม ควรออกกำลังกายโดยการเดิน เพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือดบริเวณส่วนปลายของร่างกาย
  - - - พฤติกรรมการรับประทานอาหารเสริมของสตรีตั้งครรภ์
        
        การไม่รับประทานธาตุเหล็ก
      - ความวิตกกังวล
      - ค่า lab
        
        Hb <10.5-11 g/dL , Hct <33%
        อ้างอิงจาก : ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
    - - ค่า Lab
        
        OF positive
        
        Beta Thalassemia or alpha Thalassemia
        
        DCIP Positive
        
        แปลผลว่า มี Hb E
        
        Hb <7-9 g/dL , Hct <33%
        อ้างอิงจาก : ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
    - - ให้ความรู้เกี่ยวกับ โรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก สาเหตุ การประเมิน และผลกระทบต่อมารดาและทารก
        
        ให้คำแนะนำการรับประทานอาการ โดยเลือกรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น ตับหมู เห็ดฟาง ไก่เป็นต้น รวมถึงอาหารที่ช่วยในการดูดซึม เช่น น้ำส้ม เนื้อปลา น้ำฝรั่ง เป็นต้น
        
        ให้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ระหว่างสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะโลหิตจาง
        
        ติดตาม และกระตุ้นเตือนการรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็ก ยาบำรุงธาตุเหล็กอย่างต่อเนื่อง
        
        สนับสนุนครอบครัว หรือสามี มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ ปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสม
        
        ให้ยาบำรุงะาตุเหล็ก Ferrous sulfate 300 mg วันละ 1-3 เม็ด ก่อนอาหาร ร่วมกับอาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่นน้ำส้ม
  - - - อาการที่เกิดจากภาวะความดันโลหิตต่ำขณะเปลี่ยนอิริยาบถอย่างรวดเร็ว เช่น ท่านั่งเป็นยืน
        
        หน้ามืด ตาลาย
      - ความวิตกกังวลขณะ Ultrasounds
        
        เหงื่อออก ตัวเย็น
    - - เหงื่อออกมาก ตัวเย็น
      - กระสับกระส่าย
      - ใจเต้นผิดจังหวะ
      - แขนขาไม่มีแรง ตาโปน
      - ต่อมไทรอยด์โต
    - - ให้เปลี่ยนอิริยาบถช้าๆ
        
        ถ้าต้องนั่ง หรือยืนนานๆ ให้มีการเคลื่อนไหวที่ปลายเท้า
        
        ถ้ามีอาการหน้ามืด ให้นอนตะแคง หรือให้ศีรษะต่ำกว่าปลายเท้าเล็กน้อย
        
        อธิบายขั้นตอนการ Ultrasound
        
        บอกทุกครั้งว่าจะทำอะไรแก่สตรีตั้งครรภ์บ้าง
        
        เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้ระบายความรู้สึก พูดคุย ซักถาม และรับฟังอย่างตั้งใจ
- - - - Hct 32.6 % ค่าปกติ 33%
        
        มีภาวะ Anemia
      - VDRL reactive
        
        แปลผล พบเชื้อซิฟิลิส
      - OF positive (One tube Osmotic fragility test)
        
        Beta Thalassemia or alpha Thalassemia
  - - - Hct 29 % ค่าปกติ 33%
    - - ระดับยอดมดลูก ¼>•
        
        แปลผล มีระดับยอดมดลูกกับหน้าท้องน้อยกว่าอายุครรภ์
  - - - Hct 29 % ค่าปกติ 33%
      - VDRL reactive
        
        แปลผล พบเชื้อซิฟิลิส
    - - ขนาดมดลูกน้อยกว่าเกณฑ์
      - ระดับยอดมดลูก 2/4>•
        
        แปลผล มีระดับยอดมดลูกกับหน้าท้องน้อยกว่าอายุครรภ์
- - - - -ความเชื่อ
      - -การใช้ยาและสารเสพติด
      - -ฐานะทางเศรษฐกิจและรายได้
      - -ประวัติของครอบครัวโรคทางพันธุกรรม
    - - ระบบอวัยวะสืบพันธุ์สตรีตั้งครรภ์
        
        ประวัติการการขูดมดลูก
        
        การเกิดภาวะรกเกาะต่ำหรือรกเกาะลึก
        
        การผ่าตัดมดลูก
        
        มดลูกแตกขนาดเจ็บครรภ์
      - เชิงกราน
        
        โรคที่เกี่ยวกับระบบเชิงกรานหรืออุบัติเหตุ
        
        ทำให้ส่วนศีรษะทารกและช่องเชิงกรานไม่เข้ากัน
      - โรคอื่นๆ
        
        การแข็งตัวของเลือด
        
        โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
        
        การได้รับเลือด
        
        โลหิตจาง ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ปอด ไต เบาหวาน ไทรอยด์ อาการชัก ไมเกรน
        
        เกิดการแท้งบุตร การคลอดก่อนกำหนด การเจริญเติบโตช้าในครรภ์ และน้ำหนักน้อย
    - - การใช้ผ้าอนามัยปริมาณเกิน 2-3 แผ่นต่อวัน โดยมีประจำเดือนออกมาชุ่มแผ่น มีประจำเดือนเกิน 7 วัน
        
        ความผิดปกติเกี่ยวกับมดลูก ผนังที่มดลูก ซึ่งมีผลต่อการฝังตัว และหดรัดตัวของมดลูก
    - - การรับประทานยาฮอร์โมนเดี่ยว ซึ่งมีส่วนประกอบของโปรเจสเตอโรนที่ทำให้มดลูกคลายตัว เมื่อมีปริมาณมากและคงค้างอยู่
        
        อาจเกิดการคลอดหลังกำหนดหรือคลอดบุตรยาก เนื่องจากประสิทธิภาพการหดรัดตัว
    - - สาเหตุการแท้งบุตร
        
        ข้อมูลมาวิเคราะห์ภาวะความเสี่ยงสูงมากน้อยเพียงใดในการตั้งครรภ์รายต่อไปและสามารถเฝ้าระวัง ป้องกันการแท้งได้ทันท่วงที
        
        ครรภ์แรกแท้ง ครรภ์สองมีโอกาสPre-term
    - - มีการดิ้นกี่ครั้งในแต่ละวัน
        
        เพื่อป้องกันทารกขาดออกซิเจนเรื้อรัง
      - พัฒนาการในทารกในครรภ์
      - ประเมินการเคลื่อนไห
    - - อาการคล้ายหัดเยอรมันขณะตั้งครรภ์ไม่ถึง 2 เดือน
        
        อาจต้องยุติการตั้งครรภ์และให้คำปรึกษาแก่คู่สมรส
  - - - ท่าเดิน
        
        ดินขากระเผลก
        
        ความผิดปกติของกระดูกเชิงกราน
        
        คลอดยาก
      - ลำคอ
        
        อาจพบคอโตจากต่อมไทยด์รอยมีขนาดโตในระยะตั้งครรภ์
  - - - ขนาดหน้าท้อง
        
        ขนาดหน้าท้องใหญ่มากผิดปกติ
        
        น้ำคร่ำมาก ทารกตัวใหญ่หรือมีครรภ์แฝด
      - ลักษณะทั่วไปของท้อง
        
        หน้าท้องหย่อน (Pendulous abdomen)
        
        อาจทำให้มารดามีแรงเบ่งในระยะคลอดไม่ดี
        
        กล้ามเนื้อหน้าท้อง แยกห่างจากกัน (Diastasis)
    - - 4 ขั้นตอน
        
        Fundal grip
        
        การคลำบริเวณยอดมดลูกเพื่อตรวจหาระดับยอดมดลูก (Fundus) และส่วนของทารกที่อยู่บริเวณยอดมดลูก
        
        Umbilical grip
        
        การคลำหาส่วนของทารกว่าอยู่ทางด้านไหนของลำตัวแม่
        
        Pawlick’s grip
        
        เป็นการตรวจหาส่วนนำ (Presenting part) ของทารก
        
        Bilateral inguinal grip
        
        Engagement หรือไม่
  - - - ทุกรายตรวจ urine protein- urine glucose ทุกครั้งที่มารับการฝาก
      - Pyelonephritis
        
        การตรวจ mid-stream urine
        
        เลือดขาวตั้งแต่ 5 ตัวขึ้นไปต่อ 1 high powered field
        
        การอักเสบของระบบทางเดินปัสสาวะ
    - - HBsAg ทุกราย
        
        เพื่อป้องกันไม่ให้ทารกติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีจากมารดา
        
        หากมีการติดเชื้อจากมารดาสู่ทารก
        
        เสี่ยงคลอดก่อนกำหนด
- - - - เป็นช่วงที่ทารกมีการเจริญเติบโตมากที่สุด
        
        คำแนะนำ
        
        1.แนะนำให้ทานอาหารหลากหลายเพื่อให้ได้สารอาหารทั้งคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนไขมัน โดยต้องการโปรตีนเพิ่มขึ้นจากปกติ 2 ช้อนโต๊ะต่อวัน (60 gm/day) เพื่อเพิ่มกรดอะมิโน ซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์
        
        แนะนำในรับประทาน Ferous 30 mg/day เพื่อเพิ่มธาตุเหล็กในแม่มารดาและทารกในครรถ์ ควรรับประทานวิตามินซี ช่วยเพิ่มการดูดซึมของธาตุเหล็ก การดูดซึมธาตุดหล็กจะถูกขัดขวางโดยแคลเซียมและแมกนีเซียม ดังนั้นจึงไม่ควรรับประทานร่วมกับยาลดกรดหรือนม หากจะทานนมควรเว้นห่าง 2 ชั่วโมง
        
        3.หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง เพราะอาจมีสารพิษปนเปื้อนที่อาจจะเป็นอันตรายได้
        
        4.หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสจัด เช่น เค็ม เผ็ด หวาน มัน
        
        5.หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ท้องเสีย
        
        6.หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้มีอาการแพ้
        
        7.เครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะเข้าสู่กระแสเลือดผ่านทางสายสะดือไปสู่ทารก ทำให้พัฒนาการทารกหยุดชะงัก หยุดยั้งการเจริญเติบโตของสมอง เกิด Fetal Alcohol syndrome
        
        8.เครื่องดื่มประเภทมีสารกาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ ทำให้ท้องผูกง่าย ใจสั่น นอนไม่หลับ พักผ่อนน้อยลง ซึ่งทารกก็จะเกิดอาการเดียวกันกับมารดา สตรีตั้งครรภ์ควรบริโภคคาเฟอีนน้อยกว่า 200mgต่อวัน )เนื่องจากมีการศึกษาพบว่าเพิ่มความเสี่ยงในการแท้งบุตร
        
        9.หลีกเลี่ยงโรคที่มากับอาหารสามารถทำให้เกิดโรคในหญิงตั้งครรภ์รวมไปถึงภาวะแท้ง คลอดก่อนกำหนด ความพิการในทารก และทำให้ทารกตายได้ โดยเชื้อโรคที่มักมากับอาหาร ได้แก่ Toxoplasmosis มักมาจากอาหารดิบ, Listeria monocytogenes พบในอาหารสำเร็จรูป, Brucellosis พบในนมที่ไม่ได้ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์
        
        10.ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีตับเป็นส่วนประกอบหลักในปริมาณมากเนื่องจากทำให้ได้รับ vitamin A มากเกิน
        
        • 11.รับประทานผักและผลไม้ที่ผ่านการล้างอย่างน้อย 30วินาที หลีกเลี่ยงการรับประทานผักดิบบางชนิดเนื่องจากมีเชื้อโรคปนอยู่โดยไม่สามารถล้างออกได้ เช่น หัวไชเท้า ถั่วเขียว เป็นต้น ล้างมือ ภาชนะใส่อาหาร และเครื่องครัวให้สะอาด
      - รับไม่เพียงพอ
        
        ปัญหากับเซลล์ในสมอง สติปัญญาต่ำ สมองเล็ก
- - - - ให้ใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
    - - หลีกเลี่ยงท่าที่กดทับหน้าท้องเเละมดลูก
        
        Side by side position
        
        Women on top position
        
        Spoon position
        
        Rear entry position
        
        Edge of bed position
    - - ปากมดลูกอ่อนตัว
        
        ทำให้มดลูกบีบตัว
        
        เจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด
- - - - กดเบียดกระเพาะปัสสาวะ
        
        ปัสสาวะบ่อย (Frequent urination)
        
        ปัสสาวะบ่อยกลางคืน (Nocturia)
    - - คลื่นไส้อาเจียน (Nausea and vomiting)
        
        กลืนน้ำลายไม่ได้
        
        ภาวะหลั่งน้ำลายมาก (Ptyalism)
    - - ท่อน้ำนม และต่อมน้ำนมขยาย
        
        เต้านมคัดตึง (Breast tenderness)
    - - หน้ามืดเป็นลม (Faintness)
    - - เหนื่อยล้า (Fatigues)
  - - - กดเบียดกระเพาะปัสสาวะ
        
        ปัสสาวะบ่อย (Frequent urination)
      - กดเบียดกะบังลม
        
        หายใจไม่สะดวก
        ไม่เต็มที่
        
        หายใจลำบากหรือหายใจสั้นๆ
        (Dyspnea or Shortness of breath)
      - กดเบียดกระเพาะอาหาร
        
        อาการท้องอืด (Flatulence)
        
        อาการท้องผูก (Constipation)
      - กดทับเส้นเลือดดำ
        
        เกิดการคั่งของเลือด
        
        ริดสีดวงทวาร (Hemorrhoids)
        
        การไหลเวียนเลือดลดลง
        
        ตะคริว (Leg Cramp)
        
        เกิดการคั่งของน้ำ
        
        อาการบวมที่ข้อเท้า (Ankle edema)
        
        ความดันในเส้นเลือดสูง
        
        เส้นเลือดขยายตัว
        
        เส้นเลือดขอด (Varicosities)
        
        กดทับหลอดเลือด Inferior vena cava และ Descending aorta
        
        เลือดไหลเวียนกลับไปที่หัวใจห้องบนขวาน้อยลง
        
        COลดลง
        
        ความดันโลหิตต่ำ เนื่องจากการนอนหงาย
        (Supine hypotension)
        
        ความดันโลหิตต่ำขณะเปลี่ยนอิริยาบถ (Postural hypotension)
      - น้ำหนักมากขึ้น
        
        กระดูกสันหลังโค้งแอ่น (Lordosis)
        
        ปวดหลัง (Backahes or Back pain)
      - กดเบียดเส้นเอ็นRound ligament
        
        ปวดเส้นเอ็นที่ยึดมดลูก (Round ligament pain)
    - - กล้ามเนื้อเรียบคลายตัว
        
        กล้ามเนื้อหูรูดคลายตัว
        
        อาการแสบร้อนยอดอก หรืออาการจุกเสียดท้อง (Heartburn or Pyrosis)
        
        กล้ามเนื้อลำไส้คลายตัว
    - - ระดับแคลเซียมลดลง
      - ฟอสฟอรัสเพิ่มขึ้น
    - - เพิ่มแรงดันในเส้นเลือดในสมอง
        
        อาการปวดศีรษะ (Headache)
- - - - 40 % ในเนื้อสัตว์
        
        ปลา ตับ ไข่ เลือด
      - 60% ในผัก ผลไม้ ถั่ว ขนมปัง
        
        ยอดเเค ผักขม ใบเเมงลัก
  - - - เน้นรับประทานอาหารประเภทโปรตีน
        
        60 g/day
      - เน้นกินอาหารให้หลากหลาย ให้ได้ทั้ง คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามิน
- - - - เจตคติต่อการตั้งครรภ์
      - ความเชื่อ
      - การใช้ยา และสารเสพติด
      - ประวัติโรคทางพันธุกรรมของครอบครัว
    - - ระบบอวัยวะสืบพันธุ์
      - เชิงกราน
      - โรคหรือภาวะอื่นๆ
    - - เพื่อช่วยวินิจฉัยการตั้งครรภ์ และใช้คาดคะเนกำหนดคลอด และอายุทารกในครรภ์ ปกติรอบเดือน มี 28 วัน บวกลบได้ครั้งละไม่เกิน 7 วัน ปริมาณ 2-3 ผืนผ้าอนามัยต่อวัน ไม่มีอาการปวดท้องผิดปกติ
    - - อาจทำให้การคาดคะเนกำหนดการคลอดผิดพลาดได้ จากการใช้ฮอร์โมนคุมกำเนิด เช่น ยาฉีดคุมกำเนิด ซึ่งอาจทำให้ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังช่วยให้ทราบถึงการวางแผนการคุมกำเนิดเพื่อการแนะนำการคุมกำเนิดต่อไป ภายหลังคลอด
    - - วันเดือนปีของการตั้งครรภ์ครั้งก่อน และรายละเอียด ของชนิดของการแท้งบุตร
      - ภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์และคลอดครั้งก่อน
      - ภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (gestational diabetes)
      - การล้วงรก
  - - - ตรวจหาหมู่เลือด (ABO และ Rh)
      - Blood smear
      - ตรวจหาไวรัสตับอักเสบบี หรือ HBsAg
    - - ตรวจปัสสาวะ โดยตรวจ dipstick test
- - - - กินหลังอาหาร ให้รับประทานห่างกัน 2 hr.
    - - น้ำส้ม
      - น้ำฝรั่ง