Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พยาธิสรีรวิทยา หู คอ จมูก, นางสาว ศศิวิมล ดวงคิด นักศึกษาชั้นปีที่2 …
พยาธิสรีรวิทยา หู คอ จมูก
ความผิดปกติโดยกําเนิดที่พบบ่อย
Preauricular fistula:จะมีรูเล็กๆข้างๆหู เกิดจากการเชื่อมของเนื้อเยื่อ ไม่สมบูรณ์ตั้งแต่ในครรภ์
คอ
กายวิภาคคอ
ช่องคอ( throat) เป็นส่วนหน้าของคอ ด้านหน้าต่อกระดูกสันหลัง ประกอบด้วยคอหอย (pharynx) และกล่องเสียง(larynx) โครงสร้างที่สำคัญของช่องคอคือฝาปิดกล่องเสียง (epiglottis) ซึ่งเป็นแผ่นที่แยกหลอดอาหาร (esophagus) และท่อลม (trachea) และป้องกันไม่ให้อาหารหรือเครื่องดื่มตกลงไปในท่อลม
หน้าที่ของต่อมทอนซิล
ต่อมทอนซิล (Tonsil) เป็นต่อมน้ำเหลือง 2 ต่อมที่ตั้งอยู่ในช่องปาก มี หน้าที่หลักคือ การจับและทำลายเชื้อโรคที่จะเข้าสู่ร่างกายทางช่องทางเดินอาหารว่าเป็นด่าน แรก หน้าที่รองคือ สร้างภูมิคุ้มกันแต่ไม่ใช่ส่วนที่สำคัญ หน้าที่หลักคือ การทำลายเชื้อโรคในช่องปากมากกว่า เป็นกับดักของเชื้อโรค ต่อมทอนซิลจะทำงานร่วมกับต่อมน้ำเหลืองอีก 2 ต่อมบริเวณคอ คือ ต่อมอดีนอยด์และต่อมน้ำเหลืองที่โคนลิ้น ต่อมอดีนอยด์และต่อมทอนซิลจะหลั่งอิมมูโนโกลบูลิน ซึ่งทำหน้าที่ดักจับเชื้อโรคที่ลงมาในลำคอ เพื่อคอยต่อสู้กับเชื้อโรคที่มาทางจมูกและลำคอ
จมูกและไซนัส
หน้าที่ของจมูก
เป็นทางผ่านของอากาศ 2. เพิ่มความชุ่มชื้นของอากาศ 3. การรับกลิ่น 4. ป้องกันสิ่งแปลกปลอม5. ช่วยทําให้เสียงก้อง
Allergic Rhinitis
เป็นปฏิกิริยาทางภูมิคุ้มกันที่มากเกิน ต่อสิ่งที่แพ้
อาการ หายใจ้วยจมูกไม่สะดวก ขอบตาคล้ำ น้ำมูกใส จามเป็นประจำ คันจมูกและคอ
โรคหวัด ( Common cold )
➢ เป็นการติดเชื้อไวรัสที่พบบ่อยที่สุดในคน ➢ พบบ่อยในเด็ก และน้อยลงในคนสูงอายุ ➢ คนหนุ่มสาวเฉลี่ยเป็นได้ปีละ2-3 ครั้ง
➢ ติดต่อได้ทาง droplet ( นํ้ามูก นํ้าลาย)
การมีน้ำมูกข้น(Mucoid) หรือเปลี่ยนเป็นสีเหลือง(Purulent)
เป็นการดำเนินโรคหวัดทั้งนี้ สีของเสมหะในกรณีที่เกิดจากเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดpolymorphonuclear(PMN)ซึ่งหลั่งไหลมาสู่บริเวณที่มีการอักเสบตามหลังการติดเชื้อไวรัส ไม่เกี่ยวข้องกับแบคทีเรียแต่อย่างใด
ไม่มีข้อบ่งชี้ให้สั่งยาปฏิชีวนะ เนื่องจากลักษณะดังกล่าว
ไซนัสอักเสบ
เป็นการอักเสบเยื่อบุโพรงไซนัส มักเกิดตามหลังการติดเชื้อหวัดหรือมีภูมิแพ้อยู่
อาการ
ปวดบริเวณใบหน้า แน่นจมูก น้ำมูกข้นเป็นหนอง หรือเสมหะไหลลงคอ จมูกมีกลิ่นเหม็น หรือได้กลิ่นลดลง ไอ มีกลิ่นปาก หูอื้อ
กายวิภาคหูของมนุษย์
หูชั้นกลาง
ป็นส่วนที่ถัดจากแก้วหูเข้ามา ภายในหูตอนกลางจะมีท่อยูสเตเชียน (Eustachian tube) มีลักษณะเป็นท่อกลวงขนาดเล็ก เชื่อมติดระหว่างคอหอยและหูชั้นกลาง มีหน้าที่ปรับความดันภายในหูให้ภายในหูมีความดันเท่ากับความดันภายนอก ถ้าหากระดับความดันของทั้งสองแห่งไม่เท่ากัน จะมีผลทำให้รู้สึก หูอื้อ และถ้าเกิดความแตกต่างมากจะทำให้รู้สึกปวดหู ภายในหูส่วนกลางนี้มีกระดูก 3 ชิ้นคือ กระดูกค้อน (malleus) กระดูกทั่ง (incus) และกระดูกโกลน (stapes) เรียงตามลำดับจากด้านนอกเข้าสู้ด้านใน มีหน้าที่ในการขยายการสั่นสะเทือนของคลื่นเสียงให้มากขึ้น และจึงส่งต่อการสั่น สะเทือนเข้าสู่หูส่วนในเพื่อแปลเป็นความรู้สึกเพื่อส่งต่อไปยังสมอง
หูชั้นใน
หรือ โคเคลีย (cochlea) – ประกอบด้วยน้ำและเซลล์ "ขน" ซึ่งสามารถรับและตอบสนองด้วยความไวสูง โครงสร้างขนเล็กๆ เหล่านี้จะเคลื่อนไหวเมือถูกกระตุ้นด้วยความสั่นสะเทือนของเสียง ระบบการทรงตัว (Vestibular system) –ประกอบด้วยเซลล์ที่ควบคุมสมดุลการทรงตัว
เส้นประสาทรับเสียง (Auditory nerve) – ทำหน้าที่ส่งเสียงจากโคเคลียไปยังสมอง
หูส่วนนอก
(External ear) ซึ่งประกอบด้วย
1.ใบหู (Pinna) มีหน้าที่ในการรวบรวมคลื่นเสียงที่มาจากที่ต่างๆ ส่งเข้าสู่รูหู ใบหู มีกระดูกอ่อนอีลาสติก เป็นแกนอยู่ภายใน ทำให้โค้งพับงอได้
2.ช่องหู หรือ รูหู (Auditory canal) เป็นส่วนที่อยู่ถัดใบหูเข้ามาจนถึงเยื่อแก้วหู ทำหน้าที่เป็นทางเดินของคลื่นเสียงเข้าสู่หูส่วนกลาง รูหูมีขนและต่อมสร้างขี้หู (Ceruminous gland) ทำหน้าที่สร้างขี้หูไว้ดักฝุ่นละออง หรือสิ่งแปลกปลอมไม่ให้เข้าไปในรูหู
3.แก้วหู หรือ เยื่อแก้วหู (Tympanic membrane หรือ ear drum) มีลักษณะเป็นเยื่อบางๆ และเป็นเส้นใยที่มีความยาวเท่าๆกันจึงสั่นสะเทือนเมื่อมีเสียงมากระทบและแยกคลื่นเสียงที่แตกต่างกันได้โดยมีความว่องไวต่อการเปลี่ยนแปลงความดัน แต่จะไม่ไวต่อการเปลี่ยนแปลงความเร็ว (คลื่นเสียงจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแรงดันในช่องหู)
การอักเสบของ หูชั้นนอกที่พบบ่อย
Otomycosis : เกิดจากเชื้อรา มีอาการคันหู
Acute otitis externa : เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย : เจ็บมากเวลาขยับหู หรือกด tragus
การอักเสบของ หูชั้นกลาง
Acute otitis media
:โรคหูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลัน เป็นการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนมักพบในผู้ป่วยเด็ก : สัมพันธ์กับการเป็นหวัด ซึ่งอาจจะเป็นเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรีย มักจะผ่านจากจมูก และ โพรงหลังจมูก เข้าสู่หูชั้นกลางผ่านทางท่อยูสเตเชียน ซึ่งเป็นท่อที่เชื่อมระหว่างโพรงหลังจมูก (nasopharynx)ในเด็กเล็ก ท่อยูสเตเชียนนี้ มักจะอยู่ในแนวขนานกับแนวราบ (ทำมุมกับแนวราบเพียงเล็กน้อย) ต่างจากผู้ใหญ่ ซึ่งท่อยูสเตเชียนทำมุมกับแนวราบมากกว่า นอกจากนั้นท่อยูสเตเชียนของเด็กสั้นกว่าท่อยูสเตเชียนของผู้ใหญ่ ทำให้เชื้อโรคจากจมูก และโพรงหลังจมูกเข้าสู่หูชั้นกลางของเด็กได้ง่ายกว่าในผู้ใหญ่ ทำให้พบโรคหูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลันในเด็กมากกว่าในผู้ใหญ่
Chronic otitis media : ภาวะที่มีการอักเสบของหูชั้นกลาง และ/หรือโพรงกระดูกมาสตอยด์นานเกินกว่า 3 เดือน ผู้ป่วยบางรายมีของเหลว หรือหนองไหลจากหูชั้นกลาง ผู้ป่วยมีหนองไหลออกหูเป็นๆ หายๆ ตรวจพบมักมีแก้วหูทะลุ
ขี้หูอุดตัน
: ทําให้การได้ยินลดลง มีเสียงดังในหู มักเกิดจากการปั่นหู ปวดหูมาก ทันทีหลังนํ้าเข้าหู
การสูญเสียการได้ยินจากประสาทรับเสียงเสื่อม
หูตึงในผู้สูงอายุ : เริ่มเกิดในวัยกลางคน มีการเสื่อมการได้ยินมากขึ้นเรื่อยๆ เป็น 2 ข้างเท่ากัน , มักเสียการได้ยินที่ความถี่สูง , ฟื้นฟูด้วยเครื่องช่วยฟัง
หูตึงจากเสียงดัง
แบ่งเป็น
Acoustic trauma: การสูญ เสียการได้ยินทันทีที่ได้ยินเสียงดังมากๆ
Noise-induced hearing loss:การสูญเสียการได้ยินที่ค่อยๆเกิดขึ้นจากการสัมผัสกับเสียงเป็น เวลานาน ( ความดัง 85 dB ติดต่อ กัน 8 ชม.)
เจ็บคอจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
-ลิ้นไก่บวมแดง มีจุดหนองที่ต่อมทอนซิล ทอนซิลบวมแดง คอแดง มีฝ้าสีเทาที่ลิ้นเป็นบริเวณกว้าง อาการ ส่วนใหญ่ไม่มีอาการไอและและมักไม่มีน้ำมูก พบเจอน้อยกว่าการเจ็บคอจากการติดเชื้อไวรัส การรักษา ไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยว่าควรใช้ยาปฏิชีวนะหรือไม่
เจ็บคอจากการติดเชื้อไวรัส
ทอนซิลบวมแดง คอแดง อาการส่วนใหญ่มักมีน้ำมูก และไอ อาจมีเสียงแหบและเจ็บคอร่วมด้วย หายได้เองด้วยภูมิต้านทานของร่างกาย การพักผ่อน และการกลั้วคอด้วยน้ำเกลือจะทำให้หายเร็วขึ้น
โรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน
*กรณีที่ควรได้รับยาปฏิชีวนะ:คอหอยและทอนซิลอักเสบ
-ไข้สูง เจ็บคอมาก มีจุดขาวที่ทอนซิล ต่อมน้ำเหลืองใต้คอโต ลิ้นไก่บวมแดง มีจุดเลือดออกที่เพดานปาก
ยาที่ควนใช้ Penicilin , Amoxicilin , roxithromycin 10วัน
หินปูนต่อมทอนซิล
เป็นการรวมตัวกันของแบคทีเรียและเซลล์ที่ตายแล้ว ซึ่งอาจเกิดจากการมีเศษอาหารเข้าไปติดอยู่ตามซอกหลืบและเกิดอุดที่บริเวณท่อทอนซิลเมื่อเกิดการสะสมมากยิ่งขึ้น แบคทีเรียและเอนไซม์จะทำการย่อยสลายตามกระบวนการธรรมชาติ จนมีลักษณะเป็นก้อนสีขาวเหลืองมักจะออกมาจากบริเวณร่องของต่อมทอมซิล
โรคตุ่มบนเส้นเสียงหรือริดสีดวงเส้นเสียง
: เกิดจากรใช้เสียงมากเกินไป หรือ เกินกว่าเส้นเสียงจะทนได้อย่างต่อเนื่องใช้เสียงอย่างผิดวิธีอย่างต่อเนื่อง ขาดการดูแลรักษา/พักเสียงที่ดีพอ หลังจากการใช้เสียงมากเกิน กรณีอื่นๆ เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มที่มี alcohol
อาการที่ปรากฏโดยทั่วไป คือ
เสียงแหบขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 2. เส้นเสียงขาดความชุ่มชื้นได้ง่าย 3. ควบคุมเสียงได้ลำบากโดยเฉพาะการลากเสียงยาว
4.ไม่สามารถใช้เสียงได้มากๆ5. ช่องเสียงปกติมีปัญหาอาการเสื่อมทางคุณภาพของเส้นเสียงอื่นๆ เช่น เส้นเสียงแตก
การรักษา
1.การพักผ่อนที่เพียงพอ 2.การหยุดใช้เสียง 3.รักษาเส้นเสียงใช้ชุ่มชื้น เช่น ดื่มน้ำมากๆ 4.ยาระงับการอักเสบ 5.การผ่าตัด
การผ่าตัดมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้ไม่สามารถใช้เสียงได้เหมือนปกติอีก
นางสาว ศศิวิมล ดวงคิด นักศึกษาชั้นปีที่2
เลขที่78 รหัสนักศึกษา622401078