Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การวิเคราะห์นโยบายสาธารณะ - Coggle Diagram
การวิเคราะห์นโยบายสาธารณะ
ความสำคัญของการวิเคราะห์นโยบาย
ความสำคัญของการกำหนดนโยบาย คือ การเน้นถึงความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาและการแสดง ความรับผิดชอบต่อประชาชน ทั้งนี้เพราะการตอบสนองต่อความต้องการของ ประชาชนคือหน้าที่หลักของรัฐบาล เมื่อใดก็ตามที่รัฐบาลประสบความล้มเหลวในการสนองตอบความต้องการ ของประชาชน รัฐบาลนั้นก็ไม่อาจดำรงอยู่ต่อไปได้ จึงกล่าวได้ว่าความต้องการของประชาชนหรือมติมหาชน
คือ สาเหตุสำคัญที่มีผลกระทบต่อการกำหนดนโยบาย โดยมติมหาชนจะมีผลกระทบต่อนโยบายมากกว่าการที่นโยบายจะมีผลกระทบต่อมติมหาชน ซึ่งสอดคล้องกับหลักการสำคัญของทฤษฎีประชาธิปไตยเชิงปทัสถาน (mormativ democratic theory) ที่ถือ ว่าเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลในการกำหนดนโยบายให้เป็นไปตามความต้องการของประชาชน
การวิเคราะห์นโยบายเชิงประจักษ์
1.อรรถประโยชน์ของการวิเคราะห์เส้นทาง
การวิเคราะห์เส้นทางจะ ช่วยให้นักวิเคราะห์สามารถแสดงความคิดเกี่ยวกับสาเหตุและผลลัพธ์ของนโยบายสาธารณะในรูปของแผนภาพ ความสัมพันธ์ (diagrammatic fashion) ระหว่างปัจจัยสาเหตุและผลได้อย่างชัดเจน
การวิเคราะห์เส้นทางมีลักษณะทำนองเดียวกับการวิเคราะห์ถดถอย (regression analysis) กล่าวคือ การวิเคราะห์เส้นทางจะแสดงให้เห็นถึงการคาดหมายภาพรวมเกี่ยวกับการอธิบายค่าความสัมพันธ์ระหว่างตัว แปรในตัวแบบทั้งหมด นอกจากนี้การวิเคราะห์เส้นทางยังช่วยในการจำแนกความสัมพันธ์ลวงระหว่างตัวแปร ในตัวแบบอีกด้วย ประการสำคัญที่สุดการวิเคราะห์เส้นทางสามารพทำการทดสอบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุและผล ได้ทั้งความสัมพันธ์ทางตรงและทางอ้อม ระหว่างตัวแปรอิสระและตัวแปรตาม การวิเคราะห์เส้นทางจะ ระบุให้เห็นการกระทำระหว่างตัวแปรอิสระและตัวแปรตามว่า เป็นการกระทำโดยตรงหรือกระทำผ่านตัวแปร แทรกอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่าง และนักวิเคราะห์นโยบายสามารถที่จะเปรียบเทียบอิทธิพลของ ความสัมพันธ์ได้ทั้งจากความสัมพันธ์ทางตรงและทางอ้อม
2.ตัวแบบสาธิตการวิเคราะห์เส้นทาง
ในการศึกษาดังกล่าว Dye ได้กำหนดกรอบความสัมพันธ์เชิงทฤษฎีระหว่างตัวแปรที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ โดยกำหนดให้การจัดอัตรากำลังพลตำรวจเป็นตัวแปรตาม ส่วนตัวแปรอิสระที่มีคุณลักษณะเป็นปัจจัยกำหนด ประกอบด้วย ขนาดของเมือง (size) รายได้ของประชากร (income) เชื้อชาติ (race) และการเป็นเจ้าของ ทรัพย์สิน (home owning) นอกจากนี้ได้กำหนดให้อัตราการเกิดอาชญากรรม (crime rate) และระดับรายรับ ของเมือง (revenue level) เป็นตัวแปรแทรก (mediating variables) Dye เห็นว่าการที่แต่ละชุมชนเมืองมี สภาพเศรษฐกิจและสังคม (socioeconomic characteristics) แตกต่างกัน จะมีผลโดยตรงต่อความต้องการ อัตรากำลังพลตำรวจต่างกันด้วย
กลยุทธ์การวิเคราะห์นโยบาย
สำหรับกลยุทธในการวิเคราะห์นโยบายนั้น นักวิเคราะห์นโยบายมักเริ่มด้วยตรวจสอบคำถามพื้นฐาน 3 ประการ คือ
ประการแรก ค่านิยม (values) โดยทำการตรวจสอบว่า ปัญหาได้รับการแก้ไขหรือไม่โดยพิจารณาว่า ใครเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์จากการแก้ไขหรือไม่แก้ไขปัญหานั้น
ประการที่สอง ความจริง (facts) ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นผู้ตรวจสอบซึ่งอาจจะจำกัดหรือขยายความ ขอบเขตความสำเร็จที่เกิดขึ้นก็ได้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับค่านิยมของผู้ตรวจสอบ ดังนั้น การค้นหาความจริงจึงต้อง พิจารณาโดยรอบคอบ
ประการที่สาม การกระทำ (action) ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นผู้ยอมรับการกระทำซึ่งอาจส่งผลต่อ ความสำเร็จและการแก้ไขปัญหาตามค่านิยมของผู้ยอมรับการกระทำนั้น
ส่วนประโยชน์ของการวิเคราะห์นโยบายนั้น อาจกล่าวโดยสรุปได้ดังนี้
ประการสาม การวิเคราะห์นโยบายช่วยให้ผู้ตัดสินใจนโยบายมุ่งไปสู่สิ่งที่ตนต้องการทั้งนี้เพราะการ วิเคราะห์นโยบายจะทำให้ทราบว่า มีปัจจัยใดบ้างที่จะส่งเสริมให้เกิดความสำเร็จต่อนโยบายที่ตนปรารถนา และมีปัจจัยใดที่เป็นอุปสรรคที่จำเป็นต้องกำจัดออกไป
ประการที่สอง เป็นการแสวงหาแนวทางที่เป็นไปได้สำหรับการแก้ไขปัญหาของสังคม การวิเคราะห์ นโยบายจะครอบคลุมการวิเคราะห์ทางเลือกนโยบายเพื่อนำมาเปรียบเทียบให้ได้ทางเลือกนโยบายที่สามารถ นำไปปฏิบัติให้ปรากฏเป็นจริงได้ และก่อให้เกิดประโยชน์
ประการที่แรก ช่วยประเมินผลที่จะเกิดขึ้นหลังจากการตัดสินใจเลือกทางเลือกแต่ละทางเลือก การ วิเคราะห์นโยบายจะให้ข้อมูลที่ชัดเจนว่าทางเลือกแต่ละทางเลือกมีจุดอ่อน จุดแข็งโอกาสและข้อจำกัด ทั้ง ในทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองอย่างไร
ประการที่สี่ ช่วยจัดลำดับทางเลือกตามเกณฑ์ที่ผู้ตัดสินใจกำหนด หรือเพื่อให้ผู้ตัดสินใจจัดลำดับ ความสำคัญของทางเลือกด้วยข้อมูลที่ถูกต้อง ทั้งนี้เพราะการวิเคราะห์นโยบายจะเลือกใช้ข้อมูลที่มีความเที่ยงตรงและน่าเชื่อถือมากที่สุด
ประการที่ห้า การวิเคราะห์นโยบายจะช่วยทำให้รู้ว่ามีปัญหาใดบ้างที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข เพื่อนำไป ประมวลโครงสร้างใหม่ที่จะต้องดำเนินการแก้ไขให้เหมาะสมกับการตอบสนองความต้องการของประชาชนต่อไป
กระบวนการวิเคราะห์นโยบายสาธารณะ
1.แนวทางการวิเคราะห์นโยบายสาธารณะ
1.แนวทางเชิงประจักษ์ (empirical approach) เป็นแนวทางที่มุ่งแสวงหาข้อเท็จจริง (facts) โดย การตั้งคำถามว่า “มีอะไรปรากฏอยู่บ้าง” เพื่อการอธิบายว่าอะไรคือปัญหานโยบายที่สังคมเผชิญอยู่ โดย พิจารณาจากสาเหตุ (causes) และผล (consequences) ของนโยบายที่ดำเนินการมาแล้ว
2.แนวทางเชิงประเมิน (valuative approach) เป็นแนวทางที่มุ่งจะอธิบายถึงคุณค่า (worth) หรือ ค่านิยม (value) ของสังคมที่มีต่อปัญหานโยบาย โดยการตั้งคำถามว่า “ปัญหานโยบายดังกล่าวมีคุณค่าอะไร” ต่อสังคม และลักษณะของข้อมูลที่จะนำมาใช้ในการวิเคราะห์เชิงประเมินจะประกอบด้วยคุณลักษณะของ ค่านิยมของสังคมเป็นสำคัญ
3.แนวทางเชิงปทัสถาน (normative approach) เป็นแนวทางที่มุ่งเสนอทางเลือกเพื่อการแก้ไข ปัญหาในอนาคต (future courses of action) โดยการตั้งคำถามว่า “ควรจะทำอะไรให้เรียบร้อย” ลักษณะ ของข้อมูลที่ต้องการใช้จะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการเสนอแนะ (prescriptive)
2.กระบวนการวิเคราะห์นโยบายสาธารณะ วัฏจักรของกระบวนการวิเคราะห์นโยบาย
ประการที่ห้า การสร้างและทดสอบตัวแบบ
ประการที่หก การตรวจสอบทางเลือกที่เหมาะสม
ประการที่สี่ การรวบรวมข้อมูลและข่าวสาร
ประการที่เจ็ด การประเมินต้นทุนและประสิทธิผล
ประการที่สาม การค้นหาและกำหนดทางเลือก
ประการที่แปด การแปลผลที่เกิดขึ้น
ประการที่สอง การกำหนดวัตถุประสงค์
ประการที่เก้า การทบทวนฐานคติ
ประการแรก การระบุปัญหานโยบาย
ประการที่สิบ การกำหนดทางเลือกใหม
ระเบียบวิธีและระบบข้อมูลการวิเคราะห์นโยบาย
1.ระเบียบวิธีการวิเคราะห์นโยบาย
ประการที่สาม การเสนอแนะ
ประการที่สี่ การกำกับนโยบาย
ประการที่สอง การทำนาย
ประการที่ห้า การประเมินผล
ประการแรก การกำหนดโครงสร้างของปัญหา
2.ระบบข้อมูลนโยบาย
ประการที่สอง อนาคตนโยบาย
ประการที่สาม การนำนโยบายไปปฏิบัต
ประการแรก ปัญหานโยบาย
ประการที่สี่ ผลลัพธ์นโยบาย
ประการที่ห้า ระดับความสำเร็จของนโยบาย
3.ความสัมพันธ์ระหว่างระเบียบวิธีการวิเคราะห์นโยบายและระบบข้อมูลนโยบาย
จะเห็นได้ว่าระบบข้อมูลนโยบาย ซึ่งประกอบด้วย ปัญหานโยบายการนำนโยบายไปปฏิบัติ ผลลัพธ์ นโยบาย และระดับความสำเร็จของนโยบายคือ โครงสร้างหลักของกระบวนการวิเคราะห์นโยบาย โดยปัญหานโยบายเป็นศูนย์กลางของกระบวนการวิเคราะห์ ส่วนระเบียบวิธีการวิเคราะห์นโยบาย ซึ่งประกอบด้วย โครงสร้างปัญหา การพยากรณ์ การเสนอแนะ การกำกับ และการประเมินผล จะทำหน้าที่ในการเชื่อมโยง ความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบต่าง ๆ ในระบบข้อมูลนโยบาย
องค์ประกอบของการวิเคราะห์นโยบายสาธารณะ
1.วัตถุประสงค์ (Objectives) องค์ประกอบเบื้องแรกของนักวิเคราะห์นโยบายคือ การค้นหา วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของนโยบาย เพื่อให้รู้ว่าสิ่งที่ผู้ตัดสินใจประสงค์ที่จะให้บรรลุผลคืออะไร ซึ่งนักวิเคราะห์ นโยบายมักจะพบกับความยุ่งยากมาก เนื่องจากบ่อยครั้งที่ผู้ตัดสินใจมักกำหนดวัตถุประสงค์ไม่ชัดเจน
2.ทางเลือก (Alternatives) หมายถึง เงื่อนไขหรือวิธีการที่เป็นไปได้ ซึ่งผู้ตัดสินใจคาดหมายว่าจะ นำไปสู่ผลสำเร็จ ลักษณะของทางเลือกขึ้นอยู่กับนโยบายเฉพาะเรื่อง ทางเลือกอาจจะอยู่ในรูปของนโยบาย กลยุทธ์หรือการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ ข้อสำคัญประการหนึ่งคือ ทางเลือกไม่จำเป็นต้องทดแทนกันอย่าง แท้จริงเสมอไป และไม่จำเป็นต้องกระทำในรูปแบบเดียวกัน
5.การจัดลำดับทางเลือก
6.การพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ
7.ผลกระทบ
4.ผลลัพธ์ที่ไม่คาดหมาย
3.ต้นทุน
8.เกณฑ์การวัด
2.ประสิทธิผลของทางเลือก
9.ตัวแบบ
1.สาระสำคัญของทางเลือก
ความหมายของการวิเคราะห์นโยบาย
การวิเคราะห์นโยบายมีจุดเน้นแตกต่างและหลากหลายขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของนักวิเคราะห์ในแต่ ละแนวทางเป็นสำคัญ ดังนั้นการทำความเข้าใจเกี่ยวกับความหมายของการวิเคราะห์นโยบายอย่างกว้างขวาง จะทำให้ผู้ศึกษามีความเข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้น
2.James E. Anderson (1975:8) เห็นว่าการวิเคราะห์นโยบายเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ (examination) และการพรรณนาสาเหตุและผลของนโยบาย โดยทำการวิเคราะห์การก่อรูป ( policy formation) เนื้อหา (policy content) และผลกระทบ (policy impact) ของนโยบายเฉพาะเรื่อง
3.Thomas R. Dye (1984: 7) คือ การวิเคราะห์นโยบายเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการ อธิบาย (explanation) มากกว่าการเสนอแนะ (prescription) เป็นการแสวงหาอย่างจริงจังถึงสาเหตุและผล ของนโยบายโดยใช้ระเบียบวิธีทางวิทยาศาสตร์
1.Susan B. Hansen (1983 : 14-15) ให้ทัศนะว่าการวิเคราะห์นโยบาย หมายถึงการมุ่งเน้นการ วิเคราะห์อย่างเป็นระบบชัดเจนต่อผลผลิต (outputs) และผลกระทบ (effects) ของนโยบายที่มีต่อสังคม