Law in Nursing and midwifery professional
1.กฎหมายวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์สาระสำคัญมีอะไรบ้าง
2.ข้อบังคับสภาการพยาบาลเกี่ยวกับการรักษาโรคเบื้องต้น มีความหมายว่าอย่างไร และมีสาระสำคัญอะไรบ้าง
3.อำนาจหน้าที่ของสภาการพยาบาลมีอย่างไรบ้าง
4.ขอบเขตการรักษาโรคเบื้องต้นใน รพสต.คืออะไร และมีสาระสำคัญอะไรบ้าง
5.บทบาทของพยาบาลวิชาชีพทั้งด้านบทบาทอิสระและด้านบทบาทรวมมีอะไรบ้าง
6.องค์กรวิชาชีพการพยาบาลมีเกณฑ์ สิทธิ และหน้าที่ อย่างไรบ้าง?
7.ผลกระทบหรือโทษของการไม่ปฏิบัติตามกฏหมายวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์มีอะไรบ้าง
8ประโยชน์ของกฎหมายควบคุมประกอบวิชาชีพที่สำคัญประกอบด้วยอะไรบ้าง
9.ขอบเขตในการปฏิบัติงานของการพยาบาลและการผดุงครรภ์ มีอะไรบ้าง และมีข้อจำกัดอย่างไร
พระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. 2528และที่แก้ไขเพิ่มเติมโดย
พระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2540
ภายใต้บังคับกฎหมายการแพทย์ (พระราชบัญญัติการแพทย์พ.ศ.2466) ต่อมาได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติควบคุมการประกอบโรคศิลปะพ.ศ.2479 ซึ่งกฎหมายฉบับดังกล่าวได้ปรับปรุงแก้ไขมาจากพระราชบัญญัติการแพทย์ จนในท้ายที่สุดวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ได้ออกกฎหมายของตนเอง คือพระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์พ.ศ.2528 ซึ่งมีการแก้ไขเพิ่มเพื่อให้ทันต่อเหตุการณ์และความเปลี่ยนแปลงของสังคมใน ฉบับที่ 2 เมื่อ พ.ศ. 2540
แม้จะมีพระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ.2528 ขึ้นแล้วก็ตามแต่พระราชบัญญัติควบคุมการประกอบโรคศิลปะพุทธศักราช 2479 ยังคงมีผลใช้บังคับได้ เพียงแต่ถูกยกเลิกเฉพาะส่วนที่ควบคุมผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาลและผดุงครรภ์แผนปัจจุบันเท่านั้น
คำนิยามที่ควรทราบ
การพยาบาล หมายความว่า การกระทำต่อมนุษย์เกี่ยวกับการดูแลและการช่วยเหลือเมื่อเจ็บป่วย การฟื้นฟูสภาพ การป้องกันโรค และการส่งเสริมสุขภาพ รวมทั้งการช่วยเหลือแพทย์กระทำการรักษาโรค
การผดุงครรภ์ หมายความว่า การกระทำเกี่ยวกับการดูแลและการช่วยเหลือหญิงมีครรภ์ หญิงหลังคลอด และทารกแรกเกิด รวมถึงการตรวจ การทำคลอด การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันความผิดปกติในระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด และระยะหลังคลอดรวมทั้งการช่วยเหลือแพทย์กระทำการักษาโรค
"ผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาล" หมายความว่า บุคคลซึ่งได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลจากสภาการพยาบาล
"การประกอบวิชาชีพการพยาบาล" หมายความว่า การปฏิบัติหน้าที่การพยาบาลต่อบุคคล ครอบครัวและชุมชนโดยกระทำการต่อไปนี้
click to edit
(1) การสอน การแนะนำ การให้คำปรึกษาและการแก้ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพอนามัย
(2) การกระทำต่อร่างกายและจิตใจของบุคคล รวมทั้งการจัดสภาพแวดล้อมเพื่อการแก้ปัญหาความเจ็บป่วย การบรรเทาอาการของโรค การลุกลามของโรค และการฟื้นฟูสภาพ
(3) การกระทำตามวิธีที่กำหนดไว้ในการรักษาโรคเบื้องต้นและการให้ภูมิคุ้มกันโรค
(4) ช่วยเหลือแพทย์กระทำการรักษาโรคทั้งนี้โดยอาศัยหลักวิทยาศาสตร์และศิลปะการพยาบาลในการประเมิน สุขภาพการวินิจฉัยปัญหา การวางแผน การปฏิบัติ และการประเมินผล
click to edit
- รับขึ้นทะเบียนและออกใบอนุญาต เพื่อควบคุมมาตรฐานการประกอบวิชาชีพ
- สั่งพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพฯ ในกรณีที่ผู้ประกอบวิชาชีพฯ ประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพฯ
- รับรองหลักสูตรการพยาบาลและการผดุงครรภ์ในระดับประกาศนียบัตรและ
ให้ความเห็นชอบหลักสูตรการพยาบาลและการผดุงครรภ์ใน ระดับอุดมศึกษาของสถาบันการศึกษา
เพื่อเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ)
- รับรองหลักสูตรการฝึกอบรมต่าง ๆ ของสถาบันการศึกษาที่ฝึกอบรมในวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
- รับรองวิทยฐานะของสถาบันการศึกษาที่ทำการสอนและฝึกอบรม
- รับรองปริญญา ประกาศนียบัตรเทียบเท่าปริญญา ประกาศนียบัตรหรือวุฒิบัตรในวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ของสถาบันการศึกษา
- ออกหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตรเกี่ยวกับความรู้ หรือความชำนาญเฉพาะทาง
หรือหนังสือแสดงวุฒิอื่นในวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
- ดำเนินการอื่น ๆ ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสภาการพยาบาล
ตามข้อกำหนดในการรักษาพยาบาลเบื้องต้นและการให้ภูมิคุ้มกันโรคพ.ศ.2545 ให้ความหมาย การรักษาโรคเบื้องต้น ว่า การตรวจ การวินิจฉัย การบำบัดรักษาเบื้องต้น เพื่อแก้ปัญหาการบาดเจ็บ ความเจ็บป่วย บรรเทาความรุนแรงหรืออาการของโรคให้ผู้ป่วยพ้นภาวะความเจ็บป่วย หรือภาวะวิกฤต ทั้งนี้รวมถึงการประเมินผลการรักษาเบื้องต้นด้วย
การักษาโรคเบื้องต้นในรพสต.ประกอบด้วย การคัดกรอง และหรือประเมินสภาวะสุขภาพเบื้องต้น ตามเกณฑ์ในแต่ละกลุ่มอายุ
click to edit
กลุ่มป่วย : ส่งต่อเพื่อการรักษาที่ถูกวิธี
กลุ่มเสี่ยง : ดำเนินการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและสภาวะสุขภาพ เพื่อป้องกันการเกิดโรค โดยดำเนินการร่วมกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง สำหรับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมขึ้นอยู่กับหลักสูตรที่สถานบริการกำหนด โดยอ้างอิงจากกรมอนามัย กรมสุขภาพจิต กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และกรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มปกติ : ให้บริการแบบองค์รวม ส่งเสริมศักยภาพในการดูแลตนเองในด้านการส่งเสริม สุขภาพตามกลุ่มอายุ
บทบาทหน้าที่ในการปฏิบัติงานของพยาบาล จึงแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะใหญ่ ๆ ได้แก่
- บทบาทอิสระ หมายถึง พยาบาลปฎิบัติหน้าที่โดยใช้ความรู้จาก
ศาสตร์ทั้งทางด้านการพยาบาลและความรู้ที่เกี่ยวข้องในศาสตร์สา
ขาอื่นๆ ตัดสินใจวางแผนเพื่อให้การดูแลผู้เจ็บป่วย ป้องกันการเกิด
ภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ช่วยฟื้นฟูและสร้างเสริมสุขภาพ อย่างเป็น
อิสระภายใต้ขอบเขตของการพยาบาล
เกณฑ์และสิทธิขององค์กรวิชาชีพการพยาบาล
บทบาทหน้าที่ขององค์กรวิชาชีพการพยาบาล
click to edit
- การจัดระบบเกื้อหนุนให้พยาบาลปฏิบัติการพยาบาล โดยยึดหลักและแนวทางการพิทักษ์สิทธิ์ผู้ปุวย/ ผู้รับบริการบนพื้นฐานจริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ
- มีระบบการติดตามประเมินบุคลากรที่ให้การพยาบาลด้วยความเคารพสิทธิของผู้รับบริการ ตามมาตรฐานและจริยธรรมวิชาชีพ
- มีการนำผลการติดตามการประเมินไปใช้ในการไปพัฒนาเพื่อให้บุคคลากรมีความรู้ความเข้าใจและนำ ไปปฏิบัติได้
- มีระบบการพัฒนาบุคลากรทางการพยาบาลที่เหมาะสมครอบคลุมทุกระดับ ทั้งบุคลากรระหว่างประจำ การ การปฐมนิเทศบุคลากรใหม่ หัวหน้างาน/หัวหน้าหอผู้ป่วยที่ได้รับแต่งตั้งใหม่ ส่งเสริมให้มีการอบรม/ฝึกทักษะแก่บุคลากรทุกระดับเกี่ยวกับการพิทักษ์สิทธิ์ กฎหมายและจริยธรรมวิชาชีพในการปฏิบัติงานตามแผนและระบบที่กำหนด
- มีแนวทางการกำกับดูแลการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการพยาบาลและการประเมินพฤติกรรมด้าน จริยธรรม ปรับปรุงวิธีการพัฒนาบุคลากรทางการพยาบาล การประเมินผลกระทบต่อการให้บริการอย่างเป็นระบบ และต่อเนื่อง ครอบคลุมประเด็น
จริยธรรม 6 ประการ
click to edit
- สิทธิของผู้ป่วยในการตัดสินใจอย่างเป็นอิสระ (Autonomy)
- การกระทำเพื่อประโยชน์ของผู้ป่วยเป็นสำคัญ (Beneficence)
- การกระทำเพื่อหลีกเลี่ยงสาเหตุหรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้น (Normal efficiency)
- การกระทำด้วยความซื่อสัตย์ตามพันธะสัญญาของวิชาชีพ (Fidelity)
- การกระทำต่อผู้ป่วยและครอบครัวด้วยความยุติธรรม (Justice)
- การบอกความจริง (Veracity)
จรรยาบรรณพยาบาล 9 ข้อ
click to edit
- พยาบาลรับผิดชอบต่อประชาชนผู้ต้องการพยาบาลและบริการสุขภาพ
- พยาบาลประกอบวิชาชีพด้วยความเมตตา กรุณา เคารพในคุณค่าของชีวิต ความมีสุขภาพดีและ ความผาสุกของเพื่อนมนุษย์
- พยาบาลมีปฏิสัมพันธ์ทางวิชาชีพกับผู้ใช้บริการ ผู้ร่วมงาน และประชาชน ด้วยความเคารพใน ศักดิ์ศรี และสิทธิมนุษยชนของบุคคล
- พยาบาลยึดหลักความยุติธรรม และความเสมอภาคในสังคมมนุษย์
- พยาบาลประกอบวิชาชีพโดยมุ่งความเป็นเลิศ
- พยาบาลพึงป้องกันอันตรายต่อสุขภาพและชีวิตของผู้ใช้บริการ
- พยาบาลรับผิดชอบในการปฏิบัติให้สังคมเกิดความเชื่อถือ ไว้วางใจต่อพยาบาลและต่อวิชาชีพการพยาบาล
- พยาบาลพึงร่วมในการทำความเจริญก้าวหน้าให้แก่วิชาชีพการพยาบาล
- การจัดการบริการการพยาบาลและการผดุงครรภ์ดำเนินการ
โดยองค์กรการพยาบาล ที่มีโครงสร้าง ขอบเขตงาน และบทบาท
หน้าที่ในความรับผิดชอบชัดเจนตามลักษณะของวิชาชีพ
2.องค์กรการพยาบาล มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบในการกำหนดทิศทางการจัดบริการและการปฏิบัติของทุกหน่วยงานบริการการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ขั้นต่ำผ่านระดับ 3)
click to edit
- กำหนดปรัชญาวิสัยทัศน์ พันธกิจนโยบาย เป้าหมายขององค์กรการพยาบาลให้สอดคล้องกับ โรงพยาบาลค่านิยม (Core value) ขององค์กรวิชาชีพและทิศทางการศึกษาพยาบาล
- กำหนดขอบเขตหน้าที่ความรับผิดชอบทางการบริหารของผู้บริหารการพยาบาลทุกระดับเป็นลายลักษณ์อักษร
- กำหนดนโยบายเป้าหมายและแผนยุทธศาสตร์ขององค์กรพยาบาลครอบคลุมการส่งเสริมคุณภาพบริการ พยาบาลและการส่งเสริมเอกสิทธิ์ในการปฏิบัติการพยาบาลที่ชัดเจน
ตามพระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ได้กำหนดโทษไว้มี 2 ประเภท คือ
- โทษสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพที่ประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพตามที่กำหนดไว้
- โทษทางอาญาตามที่กฎหมายวิชาชีพกำหนดไว้
ในการประกอบวิชาชีพ กฎหมายกำหนดให้ผู้ที่จะมาประกอบวิชาชีพฯ ต้องรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพ ตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับ (มาตรา 32) ดังนั้นหากมีการฝ่าฝืนต้องได้รับโทษ ซึ่งบทโทษสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพ มีสาระสำคัญดังนี้ คือ
click to edit
1) ว่ากล่าวตักเตือน
2) ภาคทัณฑ์
3) พักใช้ใบอนุญาต
4) เพิกถอนใบอนุญาต
การว่ากล่าวตักเตือนหรือการภาคทัณฑ์เป็นโทษที่ใช้สำหรับความผิดที่ไม่ร้ายแรง และให้โอกาสแก่ผู้กระทำผิดได้ปรับปรุงแก้ไขพฤติกรรมในการประกอบวิชาชีพของตนส่วนการพักใช้ใบอนุญาตและการเพิกถอนใบอนุญาตนั้นถือว่าเป็นโทษที่ร้ายแรงใช้สำหรับผู้ประกอบวิชาชีพที่ประพฤติผิดอย่างร้ายแรง ในการประกอบวิชาชีพ สำหรับการพักใช้ใบอนุญาตและการเพิกถอนใบอนุญาต ถือว่าเป็นการลิดรอนสิทธิของผู้ประกอบวิชาชีพ จึงจำเป็นต้องมีการกลั่นกรองจากสภานายกพิเศษเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด (มาตรา 26 (4))
หลักการควบคุมวิชาชีพ
โดยกำหนดคุณสมบัติของพยาบาลที่จะขอทะเบียนเเละรับใบอนุญาตประกอบวิขาชีพการพยาบาลเเละการผดุงครรภ์ตลอดจนกำหนดให้พยาบาลปฏิบัติตามมรรยาทแห่งวิชาชีพโดยมีสภาการพยาบาลเป็นองค์กรที่ดูเเลความประพฤติเเละมีอำนาจในการสอบสวนพยาบาลที่ถูกกล่าวหาว่าประพฤติผิดจริยธรรมเเห่งวิชาชีพการพยาบาลเเละการผดุงครรภ์รวมทั้งลงโทษตามที่กฏหมายกำหนด
ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจำกัดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. 2550
click to edit
ข้อ 1 ข้อบังคับนี้เรียกว่า ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจำกัดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. 2550
ข้อ 2 ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ 3 ให้ยกเลิก ข้อบังคับข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจำกัดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ และการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ. 2530 และ พ.ศ. 2534
หมวด 1 บททั่วไป
ข้อ 4 ในข้อบังคับนี้
การเจ็บป่วยฉุกเฉิน หมายความว่า การเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน จำเป็นต้องดำเนินการช่วยเหลือและการดูแลรักษาทันที การเจ็บป่วยวิกฤต หมายความว่า การเจ็บป่วยที่มีความรุนแรงถึงขั้นที่อาจทำให้ผู้ป่วยถึงแก่ชีวิตหรือพิการได้
หมวด 2 การประกอบวิชาชีพการพยาบาล
ส่วนที่ 1 การพยาบาล
click to edit
ข้อ 5 ให้กระทำการพยาบาลที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนตามแผนการพยาบาล ในกรณีที่เป็นปัญหายุ่งยากซับซ้อนให้กระทำร่วมกับผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง
ข้อ 6 ผู้ จะให้ยาผู้ป่วยได้เฉพาะที่แพทย์ซึ่งเป็นผู้บำบัดโรคได้ระบุไว้ในแผนการรักษาพยาบาลหรือเมื่อเป็นการปฐม
พยาบาล ทั้งนี้การให้ยาผู้ป่วย ห้ามมิให้ยาหรือสารละลายทางหลอดเลือดดำ ทางช่องรอบเยื่อบุไขสันหลังหรือช่องไขสันหลัง
ข้อ 7 จะให้ยาผู้ป่วยได้เฉพาะที่แพทย์ซึ่งเป็นผู้บำบัดโรคได้ระบุไว้ในแผนการรักษาพยาบาลหรือเมื่อเป็นการปฐมพยาบาล ทั้งนี้การให้ยาผู้ป่วยดังกล่าวให้อยู่ภายใต้เงื่อนไข ดังนี้ ห้ามมิให้ยาหรือสารละลายทางช่องรอบเยื่อบุไขสันหลังหรือช่องไขสันหลัง ห้ามมิให้ยาหรือสารละลายทางหลอดเลือดดำเฉพาะที่สภาการพยาบาลกำหนด (กลุ่มสารละลายทึบรังสี)
ส่วนที่ 2 การทำหัตถการ
ขอบเขตของการประกอบวิชาชีพการพยาบาล การทำหัตถการและการรักษาโรคเบื้องต้น ดังนี้
ข้อ 8 ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง กระทำการพยาบาลโดยการทำหัตถการตามขอบเขตที่กำหนด ดังนี้
ข้อ 9 ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง กระทำการพยาบาลโดยการทำหัตถการต่อไปนี้ จะต้องผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่สภาการพยาบาลประกาศกำหนดและได้รับรองจากสภาการพยาบาล ตามขอบเขตที่กำหนด ดังนี้
click to edit
- การทำแผล การตกแต่งบาดแผล การเย็บแผล การตัดไหม การผ่าฝี ในตำแหน่งซึ่งไม่อันตรายต่ออวัยวะสำคัญของร่างกาย การถอดเล็บ และการจี้หูดหรือจี้ตาปลา
- การผ่าตัดเอาสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในตำแหน่งซึ่งไม่เป็นอันตราย
ต่ออวัยวะสำคัญของร่างกายออก โดยฉีกยาระงับความรู้สึกทางผิวหนัง
- การล้างตา
click to edit
- การใส่และถอดห่วง (IUD)
- การฝังและถอดยาคุมกำเนิด (Norplant)
- การผ่าตัดตาปลา
- การเลาะก้อนใต้ผิวหนัง บริเวณที่ไม่อันตราย
- การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี VIA (visual inspection using acetic acid)
- การจี้ปากมดลูกด้วยความเย็น (cryotherapy)
ส่วนที่ 3 การรักษาโรคเบื้องต้น
click to edit
ข้อ 10 ให้กระทำการประกอบวิชาชีพการพยาบาลตามข้อกำหนดในการรักษาโรคเบื้องต้นและการให้ภูมิคุ้มกันโรคได้จะต้องได้รับการศึกษา/อบรมหลักสูตรที่สภาการพยาบาลกำหนด และจะต้องขึ้นทะเบียนเป็นผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรการพยาบาลเฉพาะทางสาขาเวชปฏิบัติทั่วไป (การรักษาโรคเบื้องต้น) ตามประกาศของสภาการพยาบาล
ข้อ 11 ผู้ ที่ได้รับวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญเฉพาะทางการพยาบาลและการผดุงครรภ์ สาขาการพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน กระทำการประกอบวิชาชีพการพยาบาลตามข้อที่กำหนดในการรักษาโรคเบื้องต้นและการให้ภูมิคุ้มกันโรคได้จะต้องขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลตามข้อกำหนดในการการรักษาโรคเบื้องต้นและการให้ภูมิคุ้มกันโรค ตามประกาศของสภาการพยาบาล
ข้อ 12 ผู้ประกอบวิชาชีพกตามข้อ 10 และ 11 ต้องกระทำการรักษาโรคเบื้องต้นตามข้อกำหนดในการการรักษาโรคเบื้องต้นและการให้ภูมิคุ้มกันโรคของสภาการพยาบาลโดยเคร่งครัด
ข้อ 13 ผู้ประกอบวิชาชีพตามข้อ 12 ถ้าจำเป็นต้องใช้ยาให้ใช้ยาตามคู่มือการใช้ยาที่สภาการพยาบาลกำหนด
ข้อ 14 ผู้ประกอบวิชาชีพตามข้อ 12 จะให้ภูมิคุ้มกันโรค ต้องปฏิบัติตามแนวทางการให้ภูมิคุ้มกันโรค ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
ข้อ 15 ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่งตามข้อ 12 จะต้องบันทึกรายงานเกี่ยวกับประวัติผู้ป่วย หรือผู้รับบริการ อาการ การเจ็บป่วย การให้การรักษาโรค หรือการให้บริการตามความเป็นจริง ตามแบบของสภาการพยาบาลและต้องเก็บบันทึกรายงานไว้เป็นหลักฐาน
หมวด 3 การประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์
click to edit
ข้อ 16 จะให้ยาผู้ป่วยได้เฉพาะที่แพทย์ซึ่งเป็นผู้บำบัดโรคได้ระบุไว้ในแผนการรักษาพยาบาลหรือเมื่อเป็นการปฐมพยาบาล ทั้งนี้การให้ยาผู้ป่วย ห้ามมิให้ยาหรือสารละลายทางหลอดเลือดดำ ทางช่องรอบเยื่อบุไขสันหลังหรือช่องไขสันหลัง
ข้อ 17 จะทำการผดุงครรภ์ได้แต่เฉพาะรายที่มีครรภ์ปกติ และคลอดอย่างปกติ รวมทั้งการพยาบาลมารดาทารก
ข้อ 18 ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง จะให้ยาผู้ป่วยได้เฉพาะที่แพทย์ซึ่งเป็นผู้บำบัดโรคได้ระบุไว้ในแผนการรักษาพยาบาลหรือเมื่อเป็นการปฐมพยาบาล ทั้งนี้การให้ยาผู้ป่วยดังกล่าวให้อยู่ภายใต้เงื่อนไข ดังนี้ ห้ามมิให้ยาหรือสารละลายทางช่องรอบเยื่อบุไขสันหลังหรือช่องไขสันหลัง ห้ามมิให้ยาหรือสารละลายทางหลอดเลือดดำเฉพาะที่สภาการพยาบาลกำหนด
ข้อ 19 จะทำการผดุงครรภ์ได้แต่เฉพาะรายที่มีครรภ์ปกติ และการคลอดอย่างปกติ รวมทั้งการพยาบาลมารดาทารกในรายที่ครรภ์ผิดปกติหรือคลอดผิดปกติ ถ้าไม่สามารถหาผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมทำการคลอดได้ภายในเวลาอันสมควร
ข้อ 21
จะต้องบันทึกการรับฝากครรภ์ และการทำคลอดทุกรายในสมุดบันทึกการผดุงครรภ์ตามแบบของสภาการพยาบาลและต้องรักษาสมุดนั้นไว้เป็นหลักฐาน
ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายวิชาชีพ
กฎหมายวิชาชีพ เกิดจากความพยายามของสมาชิกในอันที่จะควบคุมการให้บริการวิชาชีพและยังประโยชน์สุขแก่สังคมซึ่งทุกๆวิชาชีพจะต้องพยายามสร้างความเชื่อถือยอมรับไว้วางใจจากประชาชนสังคม
กฎหมายวิชาชีพทุกฉบับเป็นกฎหมายมหาชนแบ่งได้เป็น 2 ส่วน ได้แก่
1.กฎหมายปกครองเป็นการว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรทางการปกครองสำหรับสมาชิกในวิชาชีพนั้น ๆ ซึ่งอาจมีในรูปของสภาหรือสมาคมโดยจะมีการกำหนดอำนาจหน้าที่วิธีการควบคุมการประกอบวิชาชีพขององค์กรเพื่อให้ผู้ประกอบวิชาชีพทุกคนอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานและสามารถรับประกันในเรื่องคุณภาพได้นั่นเอง
แนวทางในการป้องกันการเกิดปัญหาทางกฎหมายจากการปฏิบัติการพยาบาล
click to edit
1.จะต้องทำการศึกษาเกี่ยวกับกฎหมายวิชาชีพการพยาบาลและกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นการปกป้องตนเองมิให้ล่วงละเมิดและเตรียมตัวเองให้พร้อมอยู่เสมอ
2.จะต้องเข้าใจในเรื่องของจรรยาบรรณวิชาชีพการพยาบาลเพื่อการเป็นพยาบาลที่มีเต็มเปี่ยมด้วยความดีความงามในขณะปฏิบัติงาน
- จะต้องตระหนักในเรื่องของสิทธิของมนุษยชนสิทธิผู้ป่วย
สิทธิเด็กและสิทธิของพยาบาลในขณะปฏิบัติงานการพยาบาล
4.ต้องได้ปฏิบัติงานในสภาพการณ์ งานอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆต้องมั่นใจว่าต้องปลอดภัยเมื่อนำไปใช้กับผู้รับบริการ
- ต้องมีการสื่อสารกับบุคลากรสายวิชาชีพอื่นในทีมสุขภาพโดยต้องมีการพูดจาเปิดเผย
และชัดเจนกัน
6.มีการเสริมสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างบุคคลทั้งในทีมสุขภาพและกับผู้รับบริการ
61117735 นางสาวจิราพัชร บุญเพ็ง
พระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
click to edit
- อิสระ
-ประเมินภาวะสุขภาพ
-ให้การช่วยเหลือผู้ป่วยเพื่อบรรเทาอาการและการลุกลามของโรค
-ให้คำแนะนำและสอนเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวเมื่อเจ็บป่วย
-การส่งเสริมและการฟื้นฟูสุขภาพการป้องกันโรค
-ดูแลช่วยเหลือเกี่ยวกับความต้องการพื้นฐานของผู้ป่วยเพื่อตอบสนองความต้องการซึ่งผู้ป่วยไม่สามารถทำได้เองเมื่อเจ็บป่วย
click to edit
2.กึ่งอิสระ
-ร่วมมือกับแพทย์หรือทีมสุขภาพเพื่อไม่ให้ผู้ป่วยเกิดอันตราย
-สังเกตุการเปลี่ยนแปลงและรายงานแพทย์เมื่อผิดปกติ
click to edit
3.ไม่อิสระ
-ช่วยเหลือแพทย์รักษาโรค
-ทำตามแผนการรักษาของแพทย์
Reference
เกีตรติกำจร กุศล และคณะ.(2563), จริยศาสตร์และกฎหมายวิชาชีพทางสุขภาพ.เอกสารประกอบการสอน NuR60-315 จริยศาสตร์และกฎหมายวิชาชีพทางสุขภาพ,นครศรีธรรมราช: มหาวิทยาลัยวัยลักษณ์
แสงทองธีระ ทองธรรม.(2560).กฎหมายสำหรับพยาบาล.(ฉบับเรียบเรียงครั้งที่ 2 พิมพ์ครั้งที่ 1),กรุงเทพมหานคร,คณะแพทย์ศาตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
อัมราภัสร์ อรรถชัยวัจนล์,ธีรพร สถิรอังกูร,นวลขนิษฐ์ ลิขิตลือชาและคณะ.(2561). บทบาทหน้าที่ของพยาบาลวิชาชีพ.(พิมพ์ครั้งที่ 1),บริษัท สำนักพิมพ์สื่อตะวัน จำกัด
- บทบาทร่วม หมายถึง พยาบาลปฎิบัติหน้าที่
โดยทำงานร่วมกับแพทย์และทีมสหสาขาโดย
นำแผนการรักษาของแพทย์สู่การปฏิบัติดูแล
ช่วยเหลือผู้ป่วยเพื่อให้หายจากโรคหรือ
ควบคุมโรคได้
- ขอบเขตงาน และบทบาทหน้าที่ ความรับผิดชอบ
ขององค์กรพยาบาลที่ครอบคลุมหน่วยงานบริการ
พยาบาลเป็นไปตามขอบเขตของวิชาชีพการ
พยาบาลและการผดุงครรภ์ในโรงพยาบาล และ
ลักษณะวิชาชีพของผู้ประกอบวิชาชีพ
- กฎหมายอาญาเป็นส่วนของการคุ้มครองผู้
ใช้บริการโดยได้กำหนดความผิดอาญาเพื่อ
ให้ประชาชนทั่วไปที่ได้รับความเสียหายฟ้อง
ร้องได้โดยเฉพาะหากมีบุคคลภายนอก
วิชาชีพมาให้บริการวิชาชีพแก่สังคมเช่นการ
เปิดคลินิกเถื่อนเพื่อทำการรักษาประชาชน
- โครงสร้างการบริหารการพยาบาลที่เป็นปัจจุบันสอดคล้องกับเป้าหมาย
ของโรงพยาบาล/ ระบุหน่วยงานในความรับผิดชอบครอบคลุมสายการ
บังคับบัญชางานการพยาบาล
กฎหมายควบคุการประกอบวิชาชีพได้ตรไว้เพื่อผลประโยชน์ที่สำคัญ 6 ประการ คือ
click to edit
- เพื่อคุ้มครองผู้รับบริกรจากการถูกเอารัดเอาเปรียบ การกลั่นแกล้งหรือภยันตรายอันเกิดจากผู้ประกอบวิชาชีพ
- เพื่อมิให้ผู้ที่ขาดความรู้ ความสมารถหรือขาดคุณสมบัติด้านวิชาชีพ ทำการประกอบอาชีพอันเป็นผลเสียหายต่อผู้รับบริการ
- กำหนดขอบเขต หน้าที่และความรับผิดชอบของแต่ละวิชาชีพเพื่อให้สามารถกระทำการได้
- เพื่อคุ้มครองผู้ประกอบวิชาชีพที่มีคุณธรรมและจริยธรรมในการประกอบวิชาชีพให้มีความปลอดภัยและได้รับความเป็นธรรม
- วางมาตรการในการลงโทษผู้ที่ประพฤติผิดมรรยาทแห่วิชาชีพหรือประพฤติผิดกฎหมายรวมทั้งการฝ่าฝืนกฎระเบียบ ข้อบังคับในการประกอบวิชาชีพ
- เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นและความศรัทธาของสังคมต่อการบริการวิชาชีพการได้
- พยาบาลพึงรับผิดชอบต่อตนเองเช่นเดียวกับรับผิดชอบต่อผู้อื่น