Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การดูแลผู้ป่วยที่ได้รับออกซิเจนและการดูดเสมหะ - Coggle Diagram
การดูแลผู้ป่วยที่ได้รับออกซิเจนและการดูดเสมหะ
1 ความสำคัญของก๊าซออกซิเจนที่มีต่อร่างกาย
แบ่งการทำงานเป็น 3 ส่วนหลักดังนี้
2.ความดันออกซิเจนทำให้เกิดการขนส่งออกซิเจนสู่เนื้อเยื่อ
3.การหมุนเวียนเพื่อกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
1.การทำงานของเม็ดเลือดแดงมีหน้าที่ขนส่งก๊าซเม็ดเลือดแดง
2 ปัจจัยที่มีผลต่อการไดรับออกซิเจนของบุคคล
3.การเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายหนัก ๆ
4.ความเครียด
2.อยู่ในที่ที่มีมลพิษสูง
5.อาหารที่มีไขมันมาก
6.ผู้สูงอายุ
7.การสูบบุหรี่
1.การเดินทางหรืออาศัยในที่สูง
8.การดื่มสุราและเครื่องดื่มที่เป็นแอลกอฮอล์
3 การประเมินภาวะพร่องออกซิเจน
การประเมินสภาพร่างกาย
1) ระบบทางเดินหายใจ
4) ระบบผิวหนัง
2) ระบบหัวใจและหลอดเลือด
5) ระบบทางเดินอาหาร
3) ระบบประสาทส่วนกลาง
การประเมินการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ระดับค่าก๊าซในหลอดเลือดแดง (Arterial blood gas: ABG)
ค่าการอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (Arterial oxygen saturation)
การตรวจหาระดับฮีโมโกลบิน (Hemoglobin: Hb)
4สาเหตุและการพยาบาลผู้ป่วยที่มีอาการผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ
1อาการไอ (Cough)
สาเหตุ
1.การอักเสบหรือการบวมบริเวณทางเดินหายใจ
ฝุุน ควัน สารเคมี อาหารหรือน้ำที่สำลักเข้าไป
ความร้อน -เย็นของอากาศ
ลักษณะของอาการไอ
ไอแห้งๆ ไม่มีเสมหะ
ไอมีเสมหะซึ่งเสมหะที่เป็นหนอง
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีอาการไอ
1.ประเมินประสิทธิภาพการไอ
สังเกตและบันทึกลักษณะ
ถ้าไอมีเสมหะให้สังเกต บันทึก
4.ดูแลความสะอาดของปากฟันและสิ่งแวดล้อม
5.กระตุ้นให้ดื่มน้ำอุ่นบ่อยๆ
กระตุ้นให้เปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ
สอนการไออย่างมีประสิทธิภาพ
ดูแลให้ยาเพื่อช่วยบรรเทาอาการไอ
2Hemoptysis
ชนิดของการไอเป็นเลือด
ไอจนมีเลือดปนออกมา
ไอจนมีเลือดออกเป็นสาย
ไอจนมีเลือดสดออกมา
ไอจนมีเสมหะสีคล้ายสนิม
สาเหตุของการไอเป็นเลือด
2.การอักเสบ
3.เนื้องอก และมะเร็ง
1.อุบัติเหตุ
ความผิดปกติของหลอดเลือด
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีอาการไอเป็นเลือด
ประเมินชีพจร หายใจ และความดันโลหิต
ถ้าเสียเลือดมากอาจต้องให้เลือด
1.ให้ผู้ป่วยพักผ่อนและให้การหายใจเคลื่อนไหวน้อยที่สุด
4.พยาบาลต้องคอยปลอบโยน ให้กำลังใจ
3 Hiccup
สาเหตุ
กินอิ่มมากเกินไป
ดื่มเครื่องดื่มพวกที่ทำให้เกิดแก๊ส
ดื่มแอลกอฮอล์
การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของกระเพาะอาหารทันที
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีอาการสะอึก
ให้ดมสารที่มีกลิ่นฉุน
ให้ชิมของเปรี้ยวจัด
แนะนำให้หายใจเข้าออกในถุงปิด
แนะนำให้กลั้นหายใจเป็นพักๆ
ใช้เทคนิคเบี่ยงเบนความสนใจ
ดูแลความปลอดภัยจากสิ่งแวดล้อม
4 Dyspnea
สาเหตุ
2.สาเหตุเกี่ยวกับหัวใจ
3.สาเหตุเกี่ยวกับประสาท ท
1.สาเหตุเกี่ยวกับทางเดินหายใจ
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีอาการหายใจลำบาก
ดูแลให้ยาขยายหลอดลม
ดูแลให้ออกซิเจนชนิดละอองฝอย
เตรียมอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ
ฝึกให้ผู้ป่วยหายใจและการไออย่างมีประสิทธิภาพ
ดูแลประคับประคองด้านจิตใจ
ดูแลให้ผู้ป่วยนอนศีรษะสูง และให้ออกซิเจนร่วมด้วย
5 Chest pain
สาเหตุ
อาการเจ็บหน้าอก
กล้ามเนื้ออักเสบ
เยื่อหุ้มปอดอักเสบ
เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ
จากหัวใจ
หลอดลมอักเสบ
เส้นประสาท
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บหน้าอก
1.สังเกตอาการ
2.ประเมินหาสาเหตุของอาการ
จัดเตรีมอุปกรณ์การให้ออกซิเจน
5บทบาทพยาบาลในการส่งเสริมการได้รับออกซิเจน
การให้ออกซิเจนเพื่อการรักษา(Oxygen therapy)
1 อาการและอาการแสดงของภาวะขาดออกซิเจน
ระดับความรู้สึกตัวลดลง
ความอ่อนเพลีย
ระดับการมีสมาธิลดลง
มีอาการวิงเวียนศีรษะคล้ายบ้านหมุน
วิตกกังวลกระสับกระส่าย
แสดงพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป
อัตราการเต้นของชีพจรเร็วขึ้น
ในช่วงแรกอัตราการหายใจเร็วและลึกต่อมาจะเปลี่ยนเป็นหายใจสั้นและตื้น
ความดันโลหิตลดลง
กรณีเป็นภาวะขาดออกซิเจนเรื้อรัง
มีอาการเขียวคล้ า
อาการหายใจล าบาก
หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
มีภาวะซีด
2 วัตถุประสงค์ของการให้ออกซิเจนเพื่อการรักษา
เป็นการลดอาการขาดออกซิเจนเรื้อรัง
เป็นการช่วยการทำงานของระบบทางเดินหายใจหัวใจและระบบการไหลเวียนโลหิตหลอดเลือดจากภาวะพร่องออกซิเจน
เป็นการรักษาภาวะพร่องออกซิเจน
3 ข้อชี้บ่งของการให้ออกซิเจน
ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดชนิดเฉียบพลัน
การให้ออกซิเจนเป็นเวลาช่วงสั้น ๆ ในการทำผ่าตัด
เกิดภาวะบาดเจ็บขั้นรุนแรง(severe trauma)
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะ hypoxemia
1.มีภาวะขาดออกซิเจนในเลือด
4 ข้อควรระวังและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการให้ออกซิเจน
3.ควรระวังการให้ออกซิเจนในผู้ปุวยที่ได้รับพิษ
ขณะทำผ่าตัดด้วยวิธีเลเซอร์ในทางเดินหายใจ
อาจเกิดภาวะปอดแฟบ
ควรระวังการให้ความชื้นร่วมกับออกซิเจน
อาจเกิดภาวะกดการหายใจผู้ปุวยที่หายใจเอง
การมีความเข้มข้นระดับสูงของออกซิเจน
5 การพยาบาลผู้ป่วยที่ได้รับออกซิเจน
5.ดูแลด้านจิตใจ เพื่อลดความวิตกกังวลของผู้ป่วยและญาติ
ดูแลความสะอาดของจมูกและปากบ่อยๆ หรือ ทุก2-3 ชั่วโมง
3.ดูแลทางเดินหายใจโดยท่าทางเดินหายใจ(Clear air way)
2.หมั่นตรวจดูอุปกรณ์ที่ให้ออกซิเจน
1.หมั่นสังเกตและประเมินภาวะของผู้ป่วย
6 เทคนิคการพยาบาลที่เกี่ยวข้องในการให้ออกซิเจนแบบต่างๆ
ระบบการให้ออกซิเจน ได้แก่
1) ระบบการไหลของออกซิเจนชนิดต่ำ (Low flow system)
1.การให้ออกซิเจนชนิดเขี้ยว (nasal cannula)
การให้ออกซิเจนทางหน้ากาก (mask)
Simple mask
Reservoir bag
Non rebreathing mask
2) ระบบการไหลของออกซิเจนชนิดสูง (High flow system)
การให้ออกซิเจนชนิดT-piece
การให้ออกซิเจนทางท่อหลอดลม (tracheostomy collar)
การให้ออกซิเจนชนิด croupette tent
การให้ออกซิเจนชนิด hood หรือ oxygen box
การให้ออกซิเจนทางท่อช่วยหายใจ
ระบบให้ความชื้น (Humidification)
ชนิดละอองโต (Bubble)
ชนิดละอองฝอย (Jet)
แหล่งให้ออกซิเจน (Oxygen source)
ถังบรรจุออกซิเจน (Oxygen tank)
ระบบท่อ(Oxygen pipeline)
ภาวะบ่งชี้ในการรักษาด้วยออกซิเจนความกดบรรยากาศสูง
air or gas Embolism
CO poisoning and smoke inhalation
clostridial gas gangrene
(crush Injury: compartment syndrome, acute traumatic ischemia
decompression sickness
chronicwounds
diabetic ulcers
(pressure ulcers
(ischemic ulcers
exceptional blood loss
necrotizing soft tissue infection
refractory osteomyelitis
compromised skin graft or flap
radiation Injury
osteoradionecrosis
radiation caries
thermal burn
intracranial abscess
ชนิดและลักษณะของห้องปรับบรรยากาศ
มีระบบสื่อสาร
สามารถทนความกดบรรยากาศ
ลักษณะคล้ายหลอดแก้วใหญ่
สามารถจุผู้ป่วยนอนได้ครั้งละ 1 คน
เพิ่มความกดบรรยากาศด้วยออกซิเจนผู้ป่วย
ผู้ป่วยสามารถผ่อนคลาย นอนพัก หรืดูโทรทัศน์
บทบาทพยาบาลในการส่งเสริมการได้รับออกซิเจน
1 การจัดท่าผู้ป่วย
2 การบริหารการหายใจ
การหายใจโดยใช้กล้ามเนื้อหน้าท้องหรือกระบังลม
การหายใจโดยการห่อปาก
การหายใจเข้าลึกๆ (deep breathing)
3 การดูดเสมหะ(suction)
การช่วยทำให้ทางเดินหายใจโล่ง
การเพิ่มความสามารถในการขยายตัวของทรวงอกและปอด
การเพิ่มปริมาณออกซิเจนที่เข้าปอด
การลดความต้องการปริมาณออกซิเจนในร่างกาย
การผ่อนคลายความวิตกกังวล
วิธีการดูดเสมหะ
ใช้เครื่องดูดเสมหะชนิดเคลื่อนที่
ใช้ชนิดติดฝาผนัง
1.การดูดเสมหะทางจมูก
2.การดูดเสมหะทางท่อช่วยหายใจ
การดูดเสมหะทางปาก
สิ่งที่ต้องประเมิน
สังเกตแบบแผนและลักษณะการหายใจ
ฟังเสียงปอดได้ยินเสียงเสมหะ
ประเมินอาการไอ
สังเกตอาการเหนื่อย หายใจลำบาก
สังเกตลักษณะสีผิว เล็บ และริมฝีปาก
สังเกตอาการซึมลงของผู้ปุวย
สังเกตลักษณะเสมหะ
สังเกตอาการอาเจียน
การเตรียมเครื่องใช้
oral airway
ท่อต่อ
สายดูดเสมหะ
เครื่องดูดเสมหะ
สายหล่อลื่นหรือน้ำกลั่น
ไม้กดลิ้นที่สะอาด
ถุงมือสะอาด
ขวดน้ำเกลือใช้ภายนอก
อาการแทรกซ้อน
1.แรงกด
มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย
3.เกิดการระคายเคืองของเยื่อบุทางเดินหายใจ
5.ริมฝีปากแห้ง
อาจเกิดการส าลัก
6.อาจเกิดความผิดปกติในผู้ป่วยโรคหัวใจดันโลหิตสูง
การเก็บเสมหะ
การตรวจเสมหะแบบเพาะเชื้อ
การเก็บเสมหะส่งตรวจ
7ความปลอดภัยขณะผู้ป่วยได้รับออกซิเจน
ข้อควรปฏิบัติและต้องคำนึงถึง
1.อาจเกิดการติดเชื้อโรคแทรกซ้อน
อาจเกิดการทำลายเนื้อเยื่อในปอด
อาจเกิดอันตรายกับดวงตา
อาจทำให้เยื่อบุทางเดินหายใจแห้ง
5.อาจเกิดการหยุดหายใจ
6.อาจเกิดอุบัติเหตุจาการเกิดไฟไหม้หรือการระเบิด
หลักปฏิบัติในการให้ออกซิเจนชนิดต่าง ๆ
หมุนปุุมเปิด flow meter
ให้ nasal cannula
ปรับระดับลูกลอยใน flow meter
ให้ mask
ต่อกระบอกความชื้นที่ใส่น้ ากลั่นปลอดเชื้อ
ให้ oxygen hood (oxygen box)
ใส่flow meter
ให้ T-piece
2.ประเมินสัญญาณชีพและระดับความรู้สึกตัว
ลงบันทึกทางการพยาบาล
1.ล้างมือให้สะอาด สวมmask
8กระบวนการพยาบาลในการส่งเสริมการได้รับออกซิเจน
การวางแผนการพยาบาล
การวินิจฉัยทางการพยาบาล
การประเมินภาวะสุขภาพ
การปฏิบัติการพยาบาล
5.การประเมินผลการพยาบาล