Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่4 การรับสารด้วยการอ่าน - Coggle Diagram
บทที่4
การรับสารด้วยการอ่าน
ความหมายและความสำคัญของการอ่าน
1.การอ่านเป็นวิธีการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของมนุษย์ ที่นับวันยิ่งมีความสำคัญและมีความจำเป็นมากขึ้น
2.การอ่าน เป็นกระบวนการทางความคิดที่ต้องอาศัยกลไกการเรียนรู้และสมองตีความ
3.เรียบเรียงข้อมูลที่อ่านเข้าไปให้กลายเป็น ความรู้ ความจ า ความชชำนาญการ ตลอดจนความคิด
สร้างสรรค
4.การอ่านเป็นเครื่องมือแสวงหาความรู้ที่ส าคัญที่สุด โดยเฉพาะสมัยปัจจุบันวิทยาการต่างๆ เจริญก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว
5.การอ่านช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์ ประสบการณ์บางอย่างผู้อ่านไม่สามารถพบได้ในชีวิตจริงของตนเองแต่สามารถเรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ
6.การอ่านเป็นทักษะพื้นฐานที่จ าเป็นในการด ารงชีวิตในปัจจุบัน เพราะผู้อ่านหนังสือไม่ออกมักจะเสียเปรียบ กลายเป็นคนไม่ทันโลก
7.การอ่านทำให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิต ผู้อ่านมากย่อมมีแนวคิด และวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล
8.การอ่านช่วยท าให้เกิดความเพลิดเพลิน ด้วยการอ่านหนังสือที่ตนเองชอบ อีกทั้งยังช่วยผ่อนคลายความเครียด
9.การอ่านให้ประโยชน์ต่อการนำไปใช้ในการพูดและการเขียน และน าไปสู่ความประสบผลสำเร็จในชีวิต
จุดมุ่งหมายของการอ่าน
อ่านเพื่อศึกษาหาความร
การศึกษาเรื่องราวต่าง ๆ โดยละเอียดนั้น บางทีได้ยินได้ฟัง
จากผู้อื่นโดยย่อ
ทำให้อยากทราบเรื่องราวนั้น ๆ โดยละเอียดต่อไป จึงจำเป็นต้องไปศึกษาหาหนังสือประเภทนั้น ๆ มาอ่านเพิ่มเติม
อ่านเพื่อสนองความอยากรู้อยากเห็น
ความอยากรู้อยากเห็นหรือความสงสัยเป็น
สัญชาตญาณอย่างหนึ่งของมนุษย์ เ
อ่านเพื่อต้องการทราบข่าวสารข้อเทจ็จริง
การอ่านแบบนี้เป็นการอ่านที่รวดเร็ว
สิ่งที่เราต้องการอ่านคือค าตอบสั้นๆ
หัวข้อส าคัญหรือแนวความคิดเด่น ๆ ของข้อความทั้งหมด เช่น
การอ่านประกาศ การอ่านป้ายโฆษณา การอ่านพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์
อ่านเพื่อศึกษาค้นคว้า
เป็นการอ่านที่ผู้อ่านตั้งใจจะ “จับ” หรือ “อ่าน” บางสิ่ง
บางอย่างที่ได้อ่านเพื่อนำมาเป็นประโยชน์ต่อไป
สามารถประเมินค่า ตีความ วิพากษ์วิจารณ์ให้
กว้างขวางออกไปได้
อ่านเพื่อสนองความเพลิดเพลิน
หนังสือเป็นเครื่องให้ความบันเทิงได้เป็นอย่างดี
ก่อให้เกิดความรู้สึกทั้งที่เป็นความรื่นเริงบันเทิงใจความอ่อนหวาน ซาบซึ้งทำให้เกิดความสุขทำให้จิตใจมีสมรรถภาพดี
อ่านเพื่อก้าวหน้าในอาชีพ
งานทุกอาชีพทุกชนิดต้องการความก้าวหน้าอย่างมี
ระเบียบ
เพื่อปรับปรุงเพิ่มพูน
สมรรถภาพในการท างานของตนอย่างไม่หยุดยั้ง การอ่านหนังสือเกี่ยวกับอาชีพนั้น ๆ
การอ่านเร็วอย่างเข้าใจ
การอ่านเร็ว หมายถึง ความสามารถในการรับรู้และเข้าใจความหมายของคำที่อ่านได้เป็นจำนวนมากในเวลาอันสั้น
อ่านทีละคำทำให้ข้อความไม่ต่อกันและอ่านได้ช้า เหตุที่เด็กอ่านทีละคำเนื่องจากความสามารถในการจำคำต่าง ๆ
อ่านออกเสียง บางคนเวลาอ่านหนังสือจะต้องออกเสียง หรือทำปากขมุบขมิบตามไปด้วยบ้างก็ทำเสียงอยู่ในลำคอ ที่เป็นเช่นนี้เนื่องมาจากถูกฝึกในเรื่องอ่านดัง ๆ
การหยุดหาคำศัพท์หรือหยุดพิจารณาความหมายศัพท์ท าให้จังหวะการอ่านไม่ต่อกัน
ใช้นิ้วจิ้มตามตัวอักษร ทำให้ไม่สามารถกวาดสายตาอย่างรวดเร็วได้ เท่ากับเป็นการบังคับให้ตาต้องเคลื่อนไปตามจังหวะของนิ้ว
ส่ายศีรษะตามบรรทัด ทำให้กล้ามเนื้อตึงเครียดเวลาอ่าน เหนื่อยง่ายเพราะศีรษะเคลื่อนช้ากว่าสายตามาก
อ่านข้ามหัวเรื่องสำคัญที่ผู้เขียนต้องการเน้น ทำให้ไม่เข้าใจเรื่องอย่างตลอด
อ่านย้อนต้น อ่านซ ้า อ่านใหม่ วิธีดังกล่าวนี้ได้มีผู้ท าการวิจัยแล้ว พบว่าไม่ได้ช่วยใหผู้อ่านมีความเข้าใจสิ่งที่อ่านเพิ่มขึ้นเท่าใดนัก
ฝันกลางวัน เป็นลักษณะของการอ่านที่ขาดสมาธิ ทำให้ขาดความตั้งใจในการอ่านวิธีแก้คือ เมื่อรู้ตัวว่าขาดสมาธิหรือจิตใจเริ่เลื่อนลอย
การอ่านวิเคราะห์และวินิจสาร
รูปแบบการเขียน อาจวิเคราะห์ตามรูปแบบของงานเขียนว่างานเขียนชนิดใดจัดรูปแบบงานเขียนอย่างไร เพราะงานเขียนแต่ละชนิดมีรูปแบบเฉพาะ
1.2 งานเขียนร้อยกรอง มีลักษณะค าประพันธ์หลายชนิด คือ โคลง ฉันท์ กาพย์กลอน ร่าย ลิลิต นิราศ บทเห่กล่อม บทสวด
เนื้อเรื่อง หมายถึง เรื่องราวที่ผู้เขียนได้เขียนขึ้นตามรูปแบบที่ได้กล่าวมาข้างต้น
กลวิธี หมายถึง วิธีการที่ผู้เขียนน าเสนอให้ผู้อ่านสนใจติดตามอ่าน เช่น กลวิธีการเขียนเรื่องสั้น หรือนวนิยาย
การใช้ภาษา เป็นส่วนประกอบที่ส าคัญอย่างยิ่ง เพราะจะเป็นเครื่องมือในการสื่อให้ผู้อ่านทำความเข้าใจ
การอ่านจับใจความสำคัญ
การอ่านจับใจความสำคัญ เป็นการอ่านขั้นพื้นฐานเพื่อให้เกิดความเข้าใจ
ฉะนั้นจะต้องให้ได้สาระที่สำคัญว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร เพราะอะไร และผลเป็นอย่างไร
เป็นผลจากการอ่านจับใจความส าคัญ แล้วน ามาเขียนสรุปเป็นข้อความให้เข้าใจสาระส าคัญมากขึ้น
ประสิทธิภาพในการอ่าน
ประสิทธิภาพในการอ่าน เป็นกระบวนการรับสารที่ผู้อ่านสามารถเข้าใจความหมายของสิ่งที่อ่านได้ถูกต้องรวดเร็ว
ความคิดของผู้เขียนที่ต้องการน าเสนอ ซึ่งความสามารถในการ
นักอ่านที่ดีต้องพัฒนาประสิทธิภาพในการอ่านของตนไปสู่ระดับความเข้าใจ สูงสุดและสามารถน าผลการอ่านไปใช้ประโยชน์ได้
การอ่านสรุปความ
การรวบรวมนาใจความสาคัญของเรื่อง มาเรียบเรียงใหม่แบบสั้นๆ
โดยใช้ สานวนภาษาของตนเองโดยคลอบคลุมเนื้อหาทั้งหมด
สรุปข้อความที่อ่านให้ตรงกับจุดมุ่งหมายของเนื้อเรื่องที่ ทำให้ผู้อ่านเข้าใจ
การอ่านวิจารณ์และประเมินค่า
การพิจารณาลักษณะของบทประพันธ์แยกแยะส่วนประกอบที่ส าคัญ และหยิบยกออกมาแสดงว่าไพเราะงดงามเพียงไร วิเคราะห์
ถ้าความหมายซ่อนเร้นอยู่ก็ใช้ปัญญาหยั่งไปให้เห็นทะลุปรุโปร่ง
และแสดงให้ผู้อ่านเห็นตาม
หลักความเห็นที่ใช้พิจารณาว่าสิ่งใดเป็นศิลปกรรม ดีหรือเลวอย่างไร และยังได้จำแนกการวิจารณ์ออกเป็น 3 อย่างคือ
อรรถวิจารณ์ เป็นวิจารณ์ในแง่แปลหรือตีความหมาย
วิพากษ์วิจารณ์ เป็นการวิจารณ์ในแง่ให้ค าพิพากษา
จิตวิจารณ์ เป็นการวิจารณ์ในแง่ความรู้สึกนึกคิดของตน