Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่8การส่งเสริมภาวะโภชนาการ - Coggle Diagram
บทที่8การส่งเสริมภาวะโภชนาการ
ความหมายของโภชนาการและภาวะโภชนาการ
ความหมายของโภชนาการ(Nutrition)
โภชนาการ หมายถึง วิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับอาหาร สารอาหาร และสารอื่นที่มีอยู่ในอาหารหรือสารอาหาร ตลอดจนปฏิกิริยาระหว่างกันของสารอาหารที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่สิ่งมีชีวิตย่อย ดูดซึม ขนส่ง นำสารอาหารไปใช้และสะสมในร่างกาย
ภาวะโภชนาการ(Nutritional Status)
ภาวะโภชนาการ หมายถึง สิ่งที่แสดงถึงระดับที่ร่างกายจำเป็นต้องได้รับสารอาหาร เพื่อนำมาใช้ในด้านสรีระอย่างเพียงพอ ความสมดุลของสารอาหารที่ได้รับเข้าไปกับสารอาหารที่ร่างกายใช้มีอิทธิพลจากปัจจัยหลายอย่าง
ภาวะโภชนาการหมายถึง ผล สภาพ หรือภาวะของร่างกายที่เกิดจากการบริโภคอาหาร แบ่งเป็น 2 ลักษณะ ดังนี้
ภาวะโภชนาการไม่ดี
เรียกอีกอย่างว่า ภาวะทุพโภชนาการ(Malnutrition)หมายถึง ภาวะที่ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ หรือได้รับเพียงพอแต่ร่างกายไม่สามารถใช้ประโยชน์จากสารอาหารที่ได้รับ แบ่งได้2ลักษณะ ดังนี้
ภาวะโภชนาการต่ำกว่าเกณฑ์
ภาวะโภชนาการเกิน
ภาวะโภชนาการดี
ภาวะที่ร่างกายได้รับอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ คือ มีสารอาหารครบถ้วน ในปริมาณเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย และร่างกายใช้สารอาหารเหล่านั้นในการเสริมสร้างสุขภาพอนามัยได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่
การประเมินภาวะโภชนาการ
การวัดสัดส่วนของร่างกาย
ดัชนีมวลของร่างกาย (Body Mass Index ; BMI)
BMI= น้ำหนักตัว (กิโลกรัม)/ส่วนสูง(เมตร)^2
การประเมินทางชีวเคมี
เป็นวิธีการเจาะเลือดเพื่อประเมินภาวะโภชนาการ
การประเมินภาวะโลหิตจาง (Anemia) ใช้ค่าของฮีโมโกลบิน (Hb) และค่าฮีมาโตรคิต (Hct) Hemoglobin (Hb) การแปลผลค่าต่ ากว่า 10 mg%แสดงผลภาวะโลหิตจาง
ชายค่าปกติ 14 –18 mg %
หญิงค่าปกติ 12-16mg%
Hematocrit (Hct) การแปลผลค่าต่ำกว่า 30 % แสดงผลภาวะโลหิตจาง
ชายค่าปกติ 40 –54 %
หญิงค่าปกติ 37-47 %
การตรวจร่างกายทางคลินิก
เป็นวิธีการตรวจร่างกายเช่นเดียวกับการประเมินภาวะสุขภาพ แต่จะให้ความสนใจตรวจร่างกายเบื้องต้น ได้แก่ ผิวหนัง ผม ฟัน เหงือก ริมฝีปาก ลิ้น และเปลือกตา
การประเมินภาวะซีด เบื้องต้น ดังนี้
ตรวจConjunctiva ของเปลือกตาล่าง (ปกติจะมีสีชมพูค่อนข้างแดง)
สังเกตดูลักษณะเล็บเรียบเป็นมัน มีสีชมพู (ลักษณะเล็บที่คล้ายรูปช้อน ผิวไม่เรียบ แสดงถึงการขาดธาตุเหล็ก และลักษณะเล็บมีแถบสีขาวพาดขวาง แสดงถึงภาวะขาดโปรตีน)
ตรวจดูฝ่ามือ ให้เทียบกันทั้ง 2ข้าง (ปกติจะมีสีชมพู)
การประเมินจากประวัติการรับประทานอาหาร
ประกอบด้วย ประวัติการรับประทานอาหาร ชนิดของอาหารที่บริโภค พฤติกรรมการรับประทานอาหาร
กระบวนการพยาบาลในการส่งเสริมภาวะโภชนาการ
ตัวอย่าง
ผู้ป่วยรายหนึ่งได้รับการวินิจฉัยโรคเป็นมะเร็งหลอดอาหาร ไม่สามารถรับประทานอาหารทางปากได้ น้ำหนักลดลง 10 กิโลกรัมภายใน 2 สัปดาห์ สีหน้าท่าทางอ่อนเพลีย ไม่สดชื่น ผิวหนังแห้ง เห็นกระดูกชัดเจน ญาติผู้ป่วยบอกไม่สามารถกลืนอะไรได้เลย จิบน้ำแค่เล็กน้อยก็ไหลออกทางปาก แพทย์มีแผนการรักษาให้ Retain NG tube for Feeding BD 250 ml x 5 Feedจงประยุกต์ใช้กระบวนการพยาบาลในการให้อาหารทางสายยางสำหรับผู้ป่วยรายนี้
การประเมินภาวะสุขภาพ
S:ญาติผู้ป่วยบอกไม่สามารถกลืนอะไรได้เลย จิบน้ำแค่เล็กน้อยก็ไหลออกทางปาก O:จากการสังเกต ผู้ป่วยมีสีหน้าท่าทางอ่อนเพลีย ไม่สดชื่น ผิวหนังแห้ง ผอมจนเห็นกระดูกชัดเจน
การวินิจฉัยทางการพยาบาล
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะทุพโภชนาการ เนื่องจากไม่สามารถรับประทานอาหารได้เอง
การวางแผนการพยาบาล
วัตถุประสงค์ เพื่อไม่ให้เกิดภาวะทุพโภชนาการ
เกณฑ์การประเมิน
ผู้ป่วยได้รับสารอาหารตรงตามแผนการรักษาของแพทย์
ผู้ป่วยมีค่าดัชนีมวลกาย อยู่ในเกณฑ์ปกติ
การปฏิบัติการพยาบาล
ตรวจสอบแผนการรักษา ชื่อผู้ป่วย และอาหารปั่นให้ตรงกัน
จัดเตรียมอุปกรณ์ในการใส่สาย NG และอาหารปั่นให้พร้อม ยกไปที่เตียงผู้ป่วย
บอกวัตถุประสงค์ เตรียมความพร้อมของผู้ป่วย จัดท่าให้เหมาะสม ปิดกั้นม่าน
ใส่สายยางทางจมูกถึงกระเพาะอาหารให้แก่ผู้ป่วยตามแนวปฏิบัติ
ให้อาหารทางสายยางทางจมูกถึงกระเพาะอาหารตามแผนการรักษา
การประเมินผลการพยาบาล
ประเมินผลลัพธ์การพยาบาล
ประเมินความสุขสบายของผู้ป่วยสังเกตสีหน้าท่าทางของผู้ป่วย
ประเมินผลกิจกรรมการพยาบาล
ประเมินการปฏิบัติถูกต้องครบและเป็นไปตามขั้นตอนของแนวปฏิบัติ
ประเมินผลภายหลังผู้ป่วยได้รับอาหารทางสายยางทางจมูกถึงกระเพาะอาหารไม่มีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น
การส่งเสริมภาวะโภชนาการในผู้ป่วยที่มีปัญหาภาวะโภชนาการ
Obesity(ภาวะอ้วน)
ภาวะอ้วน คือ ร่างกายมีการสะสมของมวลไขมันในร่างกายมากเกินไป มีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ทั้งเพศชายและเพศหญิง ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป และจากการวัดขนาดรอบเอวในผู้ชายรอบเอวมากกว่า 40 นิ้ว(102 เซนติเมตร)ผู้หญิง 35 นิ้ว (88 เซนติเมตร) อัตราส่วนรอบเอวต่อรอบสะโพก เพศชาย ≥0.9 เพศหญิง ≥0.85
การพยาบาลผู้ที่มีภาวะอ้วน
จำกัดมื้ออาหารและสัดส่วนของอาหารตามพีระมิดอาหาร
จำกัดการใช้น้ำมัน ไขมัน น้ำตาล
คำนวณพลังงานที่ควรได้รับต่อวัน
หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่แป้งและไขมันสูง
รับประทานอาหารครั้งละน้อย แต่บ่อยครั้งและจำกัดอาหารมื้อเย็น
หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารขณะดูโทรทัศน์
เพิ่มการรับประทานอาหารที่มีใยอาหารจากผักผลไม้ และธัญพืชที่ไม่ขัดสี
ส่งเสริมให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอหรือสัปดาห์ละ 3 วัน
Emaciation(ภาวะผอมแห้ง)
ภาวะผอมแห้ง คือ ภาวะที่ผอมมากเกินไป BMI น้อยกว่าหรือเท่ากับ 16กิโลกรัมต่อตารางเมตรและน้ าหนักลดลงตลอดเวลาและลดลงเป็นเวลานานร่วมกับขาดสารอาหาร มีการควบคุมอาหารหรืออดอาหาร
ผู้ป่วยที่มีปัญหาความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร ได้แก่
Anorexianervosa
ภาวะเบื่ออาหารเป็นความรู้สึกไม่อยากรับประทานอาหาร อาจรู้สึกต่อต้าน เมื่อนึกถึงหรือเมื่อเห็นอาหาร
BulimiaNervosa
เป็นความผิดปกติของพฤติกรรมการรับประทานโดยจะรับประทานวันละหลายๆ ครั้ง ครั้งละมากๆ โดยหลังจากรับประทานเสร็จจะรู้สึกไม่สบายใจและรู้สึกผิดที่รับประทานเข้าไปมากมาย
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะAnorexianervosaและBulimianervosa
หาสาเหตุ ที่พบได้บ่อยๆ เช่น โรคปากและฟัน คออักเสบ โรคมะเร็ง เป็นต้นแล้วขจัดสาเหตุ
ส่งเสริมความรู้สึกอยากอาหารให้มากที่สุดและลดความรู้สึกเบื่ออาหารโดยจัดให้รับประทานอาหารในท่าสบาย
ดูแลด้านจิตใจ พยายามให้ช่วงเวลารับประทานอาหารเป็นเวลาที่จิตใจสบาย สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายขณะที่รับประทานอาหารเท่าที่ทำได้
การใช้ยา แพทย์อาจพิจารณาให้ยากระตุ้นความอยากอาหาร ในรายที่ไม่พบโรคทางร่างกายและต้องการให้รับประทานอาหารมากขึ้น
การดูแลให้ผู้ป่วยได้รับอาหารเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
Nausea and vomiting(อาการคลื่นไส้และอาเจียน)
อาการคลื่นไส้ เป็นความรู้สึกอยากขับอาหารที่กินเข้าไปแล้วออกทางปาก มักเป็นอาการนำก่อนอาเจียน แต่อาจเกิดคลื่นไส้โดยไม่อาเจียนได้ อาการที่มักเกิดร่วมด้วย คือ มีน้ำลายมาก อาจเป็นลม ตาลาย เวียนศีรษะ ความดันเลือดลดลง ชีพจรเร็วขึ้นแล้วกลับช้าลง หายใจเร็วขึ้น เหงื่อออกชุ่มที่หน้าผาก และทั่วตัว
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีอาการคลื่นไส้และอาเจียน
การพยาบาลผู้ป่วยขณะอาเจียนเมื่อพบผู้ป่วยจะอาเจียน พยาบาลต้องรีบให้การช่วยเหลือโดยมีเป้าหมายให้ผู้ป่วยปลอดภัยและสุขสบาย
สังเกตสิ่งต่างๆ เพื่อบันทึกและรายงานอย่างถูกต้อง ได้แก่ อาการที่เกิดร่วมกับการอาเจียน ลักษณะของอาเจียน จำนวน เวลาที่อาเจียน สัญญาณชีพ
การพยาบาลผู้ป่วยหลังอาเจียน
ดูแลความสะอาดของร่างกายและเครื่องใช้
จัดสิ่งแวดล้อม ดูแลให้อากาศถ่ายเท วางของให้เป็นระเบียบ ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกผ่อนคลายและพักผ่อนได้
ให้ผู้ป่วยพักผ่อนในบรรยากาศที่สงบ ลดการรบกวนจากภายนอก
การป้องกันและแก้ไขอาการอาเจียน
พยายามหาสาเหตุแล้วแก้ไขที่สาเหตุ
พยายามหลีกเลี่ยงและลดแหล่งของความเครียดต่างๆ ดูแลให้ผู้ป่วยผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ
ให้ผู้ป่วยสูดหายใจเข้าออกลึกๆ ยาวๆ ภายหลังอาเจียน และเมื่อรู้สึกคลื่นไส้
หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวร่างกายหรือเปลี่ยนท่าเร็วๆ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการมองสิ่งที่เคลื่อนไหวเร็วๆ ไปมา ผู้ป่วยควรนอนพักท่าศีรษะสูง หลับตานิ่งๆ
Abdominal distention(ภาวะท้องอืด)
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะท้องอืด
จัดให้นอนศีรษะสูง 45-60 องศา เพื่อช่วยลดอาการแน่นท้อง และผายลมสะดวก
งดอาหารที่ทำให้เกิดแก๊ส เช่น มะม่วงดิบ แตงโม ผักสด เป็นต้น
แสดงความเข้าใจและเห็นใจและยินดีให้การช่วยเหลืออย่างจริงใจ
ค้นหาสาเหตุที่ท าให้เกิดภาวะท้องอืดและช่วยเหลือตามสาเหตุ
Dysphagia and aphagia(ภาวะกลืนลำบากและกลืนไม่ได้)
ภาวะกลืนลำบาก(Dysphagia)เป็นความรู้สึกที่ผู้ป่วยเกิดความล าบากในการกลืน อาจรู้สึกว่ากลืนแล้วติดอยู่ที่ใดที่หนึ่งหรือกลืนแล้วรู้สึกเจ็บทั้งสองอย่าง
ภาวะกลืนไม่ได้(Aphagia)จึงไม่สามารถกลืนได้ไม่ว่าจะเป็นอาหารแข็ง อาหารธรรมดา อาหารอ่อน อาหารเหลว จนกระทั่งรุนแรงมากที่สุด คือ กลืนไม่ได้เลยแม้แต่น้ าหรือน้ำลาย
ความสำคัญของอาหารต่อความเจ็บป่วย และความต้องการพลังงานของร่างกายในภาวะเจ็บป่วย
ความต้องการพลังงานของร่างกายในภาวะเจ็บป่วย
ความต้องการพลังงานหรือพลังงานที่ต้องการใช้(Energy Expenditure:EE)เป็นพลังงานที่เพียงพอหรือเหมาะสมกับความต้องการของร่างกายในการสร้างAdenosine triphosphate: ATP
ความต้องการพลังงานพื้นฐาน(Basal energyexpenditure:BEE) หรือพลังงานที่ต้องการขณะพัก (Resting Energy Expenditure:REE )BEEหมายถึง พลังงานที่น้อยที่สุดที่ทำให้เกิดกระบวนการเมทาบอลิสซึมของร่างกายก่อนที่จะมีการทำงานของอวัยวะอื่น ๆ
สูตร BEE เพศชายBEE = 66.47+ (13.75 x น้ าหนัก(Kg )) + (5.00 x ความสูง (Cm )) –(6.75 x อายุ (ปี))
สูตร BEE เพศหญิงBEE = 655.09 + (9.56 x น้ าหนัก (Kg)) +(1.85 x ความสูง(Cm )) –(4.68 x อายุ(ปี))
ความต้องการพลังงานทั้งหมด (Total EnergyExpenditure:TEE) หมายถึง ผลรวมของพลังงานทั้งหมดใน 1 วัน ซึ่งรวมถึงBEEพลังงานที่ใช้ในการย่อย และดูดซึมสารอาหาร การใช้พลังงานจากการทำงานของร่างกายในแต่ละวัน และการใช้พลังงานของผู้ป่วยเฉพาะโรค
TEE = BEE x Activity factor x stressfactor
อาหาร หมายถึง สิ่งใด ๆซึ่งรับประทานเข้าไปแล้ว เพื่อเสริมสร้างความเจริญเติบโตและการมีโภชนาการที่ดีให้แก่ร่างกาย อาหารได้มาจากพืชและสัตว์
อาหารความสำคัญและมีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งในภาวะปกติ และภาวะเจ็บป่วยภูมิปัญญาของหมอพื้นบ้านเป็นการสืบทอดองค์ความรู้จากบรรพบุรุษในการดูแลสุขภาพของตนเองครอบครัว และชุมชน ภายใต้บริบทของวัฒนธรรม และประเพณีของท้องถิ่น ที่ยังคงอยู่ตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน
ปัจจัยที่มีผลต่อภาวะโภชนาการ
อายุ พบว่าในวัยเด็กมีความต้องการสารอาหารมากกว่าในวัยผู้ใหญ่และวัยสูงอายุ เพราะเด็กต้องการสารอาหารโปรตีนไปสร้างและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
เพศ พบว่าเพศชายต้องการพลังงานในหนึ่งวันมากกว่าเพศหญิง
การใช้ยา พบว่า ยาที่มีผลข้างเคียงให้เกิดอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียนเช่น ยารักษาวัณโรค-พีเอเอส
ภาวะสุขภาพพบว่า การเจ็บป่วยเรื้อรังมีผลต่อภาวะโภชนาการ
ความชอบส่วนบุคคลพบว่าความชอบและไม่ชอบบริโภคอาหารของแต่ละบุคคลมีผลต่อภาวะโภชนาการ
ผลจากการดื่มแอลกอฮอล์พบว่า การดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ทำให้ความรู้สึกอยากอาหารลดลง การบริโภคอาหารเปลี่ยนไป
วิถีชีวิตปัจจุบันมีผู้เลือกดำเนินชีวิตตามวิถีสุขภาพโดยเลือกงดรับประทานสัตว์และผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากสัตว์
เศรษฐานะพบว่า ภาวะเศรษฐกิจดีทำให้ผู้คนเลือกรับประทานอาหารได้ตามความต้องการ ตรงกันข้ามในภาวะเศรษฐกิจไม่ดีการเลือกรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์อาจลดปริมาณลงหรือหยุดรับประทานไปจนกว่าจะมีกำลังซื้อกลับคืนมาอีกครั้ง
วัฒนธรรม ความเชื่อ และศาสนาพบว่าการดำเนินชีวิตตามบริบทของวัฒนธรรม ความเชื่อ และศาสนายังดำเนินชีวิตอยู่ในกระบวนทัศน์เดิม มีผลต่อภาวะโภชนาการทั้งสิ้น
ปัจจัยด้านจิตใจ พบว่าความเครียด และความกลัวทำให้ความอยากอาหารลดลงรู้สึกเบื่ออาหาร กลืนอาหารไม่ลงคอ หรือมีอาการปากคอขมโดยไม่ทราบสาเหตุ
การล้างภายในกระเพาะอาหาร (Gastric lavage)
การล้างภายในกระเพาะอาหาร ใช้มากในกรณีที่รับประทานยาพิษได้รับยาเกินขนาด (Over dose)รวมถึงเป็นการล้างกระเพาะอาหารเพื่อห้ามเลือด สำหรับการตรวจโดยการส่องกล้องเพื่อวินิจฉัยภาวะเลือดออกในกระเพาะอาหาร
วัตถุประสงค์
ล้างกระเพาะอาหารในกรณีที่ผู้ป่วยกินยาหรือสารพิษ
ทดสอบหรือยับยั้งการมีเลือดออกจำนวนน้อยในทางเดินอาหารส่วนบน
ตรวจสอบการอุดตันของสาย
ตรวจหาเชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคปอดและหลอดลม
อุปกรณ์เครื่องใช้
ชุดล้างกระเพาะอาหาร (ภาชนะสำหรับใส่สารละลายทั้งสำหรับเทสารละลายและที่ดูดออกจากผู้ป่วย และ Toomey syringe)
สารละลายที่ใช้ล้างกระเพาะอาหารใช้น้ำเกลือ (Isotonic saline)
ชามรูปไตหรืออ่างกลม
ผ้าเช็ดปากหรือผ้าขนหนูผืนเล็กหรือผ้ากันเปื้อน
สายยางสำหรับใส่ในกระเพาะอาหาร
Ky jelly
ถุงมือสะอาด 1 คู่และ Mask
วิธีปฏิบัติ
ตรวจสอบคำสั่งการรักษา
ประเมินสภาพผู้ป่วยอธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจปิดประตูหรือกั้นม่านให้เรียบร้อย
ล้างมือก่อนจัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้
เตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้ให้พร้อม นำเครื่องใช้ต่างๆ ใส่ถาดหรือรถเข็นแล้วนำไปที่เตียงผู้ป่วย ทำการใส่สายยางก่อนวิธีปฏิบัติเหมือนการใส่สายให้อาหาร
ปูผ้าคลุมบนเตียงและตัวผู้ป่วยตรงที่จะปลดสาย
ใช้Toomey syringe ดูดสารละลาย 50 ซีซี
หักพับสายไว้ก่อนปลดรอยต่อ จากนั้นต่อสายกับกระบอกฉีดยาแล้วปล่อยสายที่หักพับไว้ ค่อยดันสารละลายผ่านกระบอกฉีดยาเข้าทางสาย
ดูดน้ำออกเบาๆ หรือปล่อยให้สารละลายไหลออกเอง ถ้าไม่มีน้ำออกให้ผู้ป่วยพลิกตัวไปมา
ใส่สารละลายเข้าไปแล้วปล่อยหรือดูดน้ำออกเรื่อยๆ จนการไหลผ่านดี หรือครบจำนวนตามแผนการรักษาพับสายไว้ ปลดกระบอกฉีดยา ปิดปลายสาย
ถ้ากรณีล้างกระเพาะอาหาร เพื่อห้ามเลือดในกระเพาะอาหาร ต้องทำการล้างจนสารน้ำมีลักษณะสีแดงจางที่สุด หรือมีลักษณะใส
เมื่อสิ้นสุดการล้างกระเพาะอาหารแล้ว ให้ทำความสะอาดช่องปากและจัดท่าผู้ป่วยในท่าที่สุขสบาย
เก็บเครื่องใช้ทำความสะอาด และเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย
ลงบันทึกทางการพยาบาล
การส่งเสริมภาวะโภชนาการในผู้ป่วยที่รับประทานอาหารเองไม่ได้
การป้อนอาหาร(Feeding)
วัตถุประสงค์
เพื่อให้ผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ได้รับอาหารตามความต้องการของร่างกาย
อุปกรณ์เครื่องใช้
ถาดอาหารพร้อมอาหาร
ช้อนหรือช้อนส้อม
แก้วน้ำพร้อมน้ำดื่ม และหลอดดูดน้ำ
กระดาษหรือผ้าเช็ดปาก
ผ้ากันเปื้อน
วิธีปฏิบัติ
การเตรียมผู้ป่วยและสิ่งแวดล้อม
ก่อนเวลาอาหาร แนะนำให้ผู้ป่วยออกกำลังกายบ้าง โดยเฉพาะในรายที่เคลื่อนไหวด้วยตนเองได้
จัดให้อยู่ในท่านั่ง กรณีที่นั่งไม่ได้จัดให้นอนตะแคงขวาเล็กน้อย
ปูผ้ากันเปื้อนตั้งแต่ใต้คางลงไป หากผู้ป่วยที่อยู่ในท่านอนตะแคง ควรปูบนที่ไหล่และหมอนด้วย
วางถาดอาหารในต าแหน่งที่ผู้ป่วยสามารถมองเห็นชนิดของอาหารได้ บอกรายการอาหารและเชิญชวนให้เกิดความอยากอาหารมื้อนั้น
วางเครื่องใช้อื่นๆ ในตำแหน่งที่สามารถหยิบได้สะดวก
ล้างมือให้สะอาดและเช็ดให้แห้ง
การป้อนอาหาร
ขณะป้อนอาหารตักอาหารให้มีปริมาณที่เหมาะสม
จังหวะในการป้อนต้องสัมพันธ์กับความสามารถในการรับประทานอาหาร เคี้ยวและกลืนของผู้ป่วย
หลังป้อนอาหารให้ผู้ป่วยดื่มน้ำ บ้วนปากหรือแปรงฟันและเช็ดปากให้สะอาด
สำหรับผู้ป่วยพิการ
ถ้าผู้ป่วยจับช้อนไม่ถนัดควรสาธิตการใช้ช้อนและส้อมในการตักอาหารใส่ปากหรือดัดแปลงที่จับของให้จับได้สะดวก
ถ้าผู้ป่วยรับประทานอาหารได้น้อย ควรรับประทานอาหารเหลวที่สอดคล้องกับการแผนรักษาของแพทย์
สำหรับผู้ป่วยกลืนลำบาก
จัดให้ผู้ป่วยอยู่ในท่านั่งหรือศีรษะสูงในลักษณะก้มเล็กน้อย เพื่อป้องกันการสำลัก
สอบถามผู้ป่วยถึงความรู้สึกเกี่ยวกับอาหารในปาก เพื่อดูว่ามีอาหารที่เหลือค้างในปาก
สอนวิธีการใช้ลิ้นและการกลืน เพื่อช่วยให้การกลืนได้ดีขึ้น
ควรเริ่มจากอาหารกึ่งแข็งกึ่งเหลวก่อน เพราะอาหารอ่อนจะง่ายต่อการกลืน แต่อาหารเหลวจะทำให้สำลักง่าย ควรหลีกเลี่ยงอาหารเหลวและอาหารที่ต้องอาศัยการเคี้ยวมาก
การใส่และถอดสายยางให้อาหารจากจมูกถึงกระเพาะอาหาร(Nasogastric intubation)
วัตถุประสงค์
เป็นทางให้อาหาร น้ำ หรือยา ในกรณีที่ผู้ป่วยรับประทานทางปากไม่ได้หรือได้รับไม่เพียงพอ
เป็นการลดแรงดันในกระเพาะอาหารหรือลำไส้
เป็นการเพิ่มแรงดันเข้าไปในระบบทางเดินอาหาร
ล้างภายในกระเพาะอาหาร
เก็บสิ่งตกค้างในกระเพาะอาหารไปตรวจทางห้องปฏิบัติการ
อุปกรณ์เครื่องใช้
ถาดสำหรับใส่เครื่องใช้
สายNG tube เบอร์ 14-18 fr
Toomey syringe ขนาด 50 ml 1 อัน
ถุงมือสะอาด 1 คู่
การให้อาหารทางสายยางให้อาหารจากจมูกถึงกระเพาะอาหาร
วิธีการให้อาหารทางสายยางมี 2 วิธี
Bolus doseเป็นการให้อาหารทางสาย NG โดยใช้ Toomey syringe เหมาะสำหรับผู้ป่วยทั่วไปที่ไม่สามารถรับประทานอาหารทางปากได้เอง
Drip feedingเป็นการให้อาหารทางสาย NG โดยใช้ชุดให้อาหาร(Kangaroo)ดังรูปที่ 8.2 มีลักษณะคล้ายกับชุดให้สารน้ำสามารถปรับจำนวนหยดของอาหารและควบคุมเวลาการให้อาหารได้ตามความต้องการ
การถอดสายยางให้อาหารจากจมูกถึงกระเพาะอาหาร
อุปกรณ์เครื่องใช้
ผ้ากันเปื้อนหรือผ้าเช็ดตัว
ชามรูปไต
น้ำยาบ้วนปาก
สำลีชุบ70%Alcohol
ไม้พันสำลีชุบเบนซิน (Benzene)และน้ำเกลือ (Normal saline)
ถุงมือสะอาด
ผ้าก๊อซสะอาด
การให้อาหารทางสายยางให้อาหารที่ใส่เข้าทางรูเปิดของกระเพาะอาหาร
วัตถุประสงค์
เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับอาหารตามความต้องการของร่างกาย
อุปกรณ์เครื่องใช้
เหมือนกับการให้อาหารทางสาย NG tube