Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ (Bladder stones) - Coggle Diagram
นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ (Bladder stones)
1.พยาธิสภาพของโรค
พยาธิสภาพจะเกิดขึ้นมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับขนาด รูปร่าง และระยะเวลาที่ก้อนนิ่วที่อุดกั้นอยู่ถ้าปรากฏนิ่วเป็นสาเหตุของการอุดกั้น มักจะมีการติดเชื้อตั้งแต่ระยะแรก ซึ่งเป็นผลทำให้กระเพาะปัสสาวะหดเล็กลง มักพบได้เร็วกว่าปกติเนื่องจากไฟโบรลีสผนังกระเพาะปัสสาวะหนาขึ้น เพราะมีรอยแผลเป็น(Trabeculation)ไม่ค่อยพบว่ามีกระเพาะปัสสาวะโป่งขยาย
2.สาเหตุและปัจจัยในการเกิดโรค
สาเหตุของนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ มักจะเกิดขึ้นเมื่อมีปัสสาวะตกค้างอยู่ในกระเพาะปัสสาวะและมีการตกตะกอน หรืออาจเกิดจากการติดเชื้อบางประเภท และภาวะบางอย่างที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของกระเพาะปัสสาวะ รวมไปถึงสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในกระเพาะปัสสาวะก็ทำให้เกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้เช่นกัน ภาวะที่ทำให้เกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะบ่อยที่สุด
ต่อมลูกหมากโต เพราะไปขวางกั้นการไหลของปัสสาวะทำให้ปัสสาวะออกมาได้ไม่หมดและตกค้างอยู่ใน
ภาวะกระเพาะปัสสาวะทำงานผิดปกติจากระบบประสาท (Neurogenic Bladder) เพราะโดยทั่วไปสมองจะทำหน้าที่สั่งการกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะให้รัดหรือปล่อย ซึ่งหากเส้นประสาทสมองเกิดความเสียหายจากโรคหลอดเลือดสมอง การบาดเจ็บของไขสันหลัง หรือปัญสุขภาพอื่น ๆ อาจทำให้ปัสสาวะได้ไม่สุด
3.อาการและอาการแสดง
3.1 อาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นจะมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับขนาดของก้อนนิ่วว่าโตขนาดไหนระยะเวลานานเท่าใด
3.2 นิ่วก้อนเล็กๆ กลิ้งไปมาได้สะดวกในกระเพาะปัสสาวะอาการที่ชัดเจนคือ ขณะถ่ายปัสสาวะถ่ายปัสสาวะพุ่งเป็นลำเสมอกันดี สายน้ำปัสสาวะจะสะดุดหยุดทันทีทันใดและมีอาการปวดบริเวณหัวเหน่าอย่างรุ่นแรง
3.3 นิ่วค่อนข้างโต และกดทับอยู่ที่ส่วนคอคอดจองกระเพาะปัสสาวะจะมีอาการถ่ายปัสสาวะขัด สายปัสสาวะพุ่งไม่แรงบางคนอาจมีท่าเฉพาะขณะถ่าย
3.4 มีอาการถ่ายปัสสาวะบ่อย ถ้าก้อนนิ่วโตมากขึ้นและถ้ามีการติดเชื้อก็ยิ่งมีการขับถ่ายปัสสาวะบ่อยขึ้นอีก
3.5 บางรายมีเม็ดนิ่วเล็กๆ หรือเม็ดทรายออกมากับน้ำปัสสาวะด้วย
4.การวินิจฉัย
4.1 ตรวจร่างกาย แพทย์อาจตรวจดูบริเวณท้องส่วนล่าง คลำดูว่ากระเพาะปัสสาวะขยายใหญ่ขึ้นหรือไม่ หรืออาจตรวจทางทวารหนักเพื่อดูว่าต่อมลูกหมากขยายใหญ่ขึ้นหรือไม่ รวมไปถึงสอบถามเกี่ยวกับอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วย
4.2 ตรวจปัสสาวะ นำตัวอย่างปัสสาวะไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ เพื่อตรวจหาเลือด แบคทีเรีย หรือผลึกของแร่ธาตุ ซึ่งจะช่วยให้พิจารณาได้ว่ามีการติดเชื้อทางเดินปัสสาววะหรือไม่ เพราะอาจเกิดจากนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้
4.3 เอกซเรย์คอมพิวเตอร์หรือซีทีสแกน (Computerized Tomography: CT) เป็นการเอกซเรย์ที่จะช่วยให้ได้ภาพของอวัยวะภายในร่างกายอย่างรวดเร็ว เพื่อตรวจจับก้อนนิ่วที่มีขนาดเล็กได้ และเป็นวิธีที่มีประโยชน์ในการช่วยวินิจฉัยนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้หลายประเภท
4.4อัลตราซาวด์ (Ultrasound) เป็นการใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเพื่อตรวจอวัยวะและโครงสร้างส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งมีประโยชน์ช่วยตรวจจับนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
4.5 เอกซเรย์ (X-ray) การเอกซเรย์ไต ท่อไตและกระเพาะปัสสาะวะ ช่วยให้แพทย์สามารถพิจารณาได้ว่ามีนิ่วอยู่ในระบบทางเดินปัสสาวะหรือไม่ อย่างไรก็ตาม การเอกซเรย์อาจไม่สามารถทำให้เห็นนิ่วบางประเภทได้
5.การรักษา
ทั่วไปแพทย์จะแนะนำให้นำออก เบื้องต้นอาจใช้วิธีดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้นิ่วที่มีขนาดเล็กออกมาตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม นิ่วในกระเพาะปัสสาวะมักเกิดจากกระเพาะปัสสาวะไม่สามารถปัสสาวะออกไปจนหมดได้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จึงจำเป็นต้องใช้วิธีการทางการแพทย์เพื่อช่วยในการนำนิ่วออกจากระเพาะปัสสาวะ
วิธีที่มักใช้ในการนำนิ่วออกจากกระเพาะปัสสาวะเรียกว่าการขบนิ่ว (Cystolitholapaxy)เป็นการนำท่อขนาดเล็กที่มีกล้องตรงส่วนปลาย สอดเข้าไปทางท่อปัสสาวะเพื่อส่องดูนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ จากนั้นแพทย์จะใช้เลเซอร์ อัลตราซาวด์ หรือเครื่องมือบางอย่างเข้าไปสลายนิ่วให้แตกเล็กลงและล้างออกจากกระเพาะปัสสาวะ
6.การประเมินภาวะสุขภาพ
6.1 ประวัติ จากประวัติการขับถ่ายปัสสาวะข้างต้น คือ ขณะถ่ายน้ำปัสสาวะจะสะดุดหยุดกลางคันหรือพุ่งไม่แรง
6.2 การตรวจร่างกาย กดเจ็บบริเวณหัวเหน่า เมื่อมีอาการอกเสบของกระเพาะปัสสาวะอย่างรุนแรงอาจคลพหรือเคาะได้ว่ากระเพาะปัสสาวะโปร่งขึ้นเมื่อมีการคั่งของน้ำปัสสาวะ
7.ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
7.1 ข้อมูลสนับสนุน
S : วิตกกังวลและกลัวกับการเป็นโรคนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
O : คลำได้กระเพาะปัสสาวะโป่งตึงเหนือหัวเหน่า
O : มีอาการปวดท้อง
7.2 วัตถุประสงค์
1.ลดความวิตกกังวลและความกลัว
2.ป้องกันภาวะติดเชื้อของระบบกระเพาะปัสสาวะและการมีเลือด
3.ช่วยให้มีการฟื้นฟูสมรรถภาพของร่างกายได้เร็วขึ้น
กิจกรรมการพยาบาล
1.สังเกตอาการและอาการแสดงทุกๆ 4 ชั่วโมง
-แนะนำให้ดื่มน้ำวันละ 3-4 ลิตร
3.ดูแลให้ได้รับสารน้ำอย่าง
เพียงพอ
ประเมินลักษณะของการปวดท้องจัดท่านอนให้รู้สึกผ่อนคลาย
อ้างอิง APA
การพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ เล่ม1/คณาจารย์สถาบันพระบรมราชชนก.-พิมพ์ครั้งที่ 11 (ปรับปรุงครั้งที่ 1) นนทบุรี : โครงการสวัสดิการวิชาการ สถาบันพระบรมราชชนก, / 2551 714 หน้า : ภาพประกอบ; 26 ซม.