Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กรณีศึกษาที่ 4 กระเพาะปัสสาวะอักเสบ(Cystisis), นางสาวจิรัญญา เป้าพะเนา…
กรณีศึกษาที่ 4
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ(Cystisis)
การประเมินภาวะสุขภาพ
2.การตรวจร่างกาย
ตรวจร่างกายตามระบบรวมทั้งการคลำและการตรวจหน้าท้อง อาจกดเจ็บบริเวณหน้าท้องน้อย abdominal regions Abdomen: mild tenderness at LLQ , no guarding & rigidity
3.การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การเก็บปัสสาวะส่งตรวจทางห้องปฏิบัติ ด้วยการวิเคราะห์ปัสสาวะ พบเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะ อาจพบคาสท์ (cast) และนำปัสสาวะส่งเพาะเชื้อ อาจพบเชื้อโรคที่ทำให้มีการติดเชื้อในปัสสาวะ Urine Analysis, WBC 10-20 cells/HPF ,Squamous epithelial cell 1-2 cells/HPF , Bacteria numerous
1.การซักประวัติ
อาการปวด ตำแหน่งที่ปวด ลักษณะการปวด
อาหารและน้ำที่ดื่มเป็นประจำ
แหล่งที่อยู่อาศัยและลักษณะงานที่ทำ
สอบถามอาการถ่ายปัสสาวะผิดปกติ สอบถามลักษณะที่ออกมา อาการไข้ และระยะเวลาที่เริ่มมีอาการถ่ายปัสสาวะผิดปกติ
สาเหตุและปัจจัยในการเกิดโรค
สาเหตุ :
มีการเกิดเชื้อแบคทีเรีย เพราะชอบอั้นปัสสาวะ จึงทำให้แบคทีเรียที่อยู่ในน้ำปัสสาวะเพิ่มจำนวนขึ้นทำให้มีการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะชั้นเยื่อเมือก ส่งผลให้เกิดทางเดินปัสสาวะอุดตันผู้ป่วยจึงมีอาการปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะกะปริดกะปรอย และปวดหน่วงท้องน้อย
ปัจจัย :
ปัสสาวะตอนกลางวันวันละ 3 – 5 ครั้ง ชอบอั้นปัสสาวะเนื่องจากทำงานในไร่ทำให้เข้าห้องน้ำไม่สะดวก จึงทำให้แบคทีเรียที่อยู่ในน้ำปัสสาวะเพิ่มจำนวนขึ้นทำให้มีการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะชั้น
อาการและอาการแสดง
อาการปวดหน่วงท้องน้อย ปัสสาวะกะปริดกะปรอย ปัสสาวะแสบขัดตอนถ่ายสุด
การวินิจฉัย
ตรวจพบแบคทีเรียในปัสสาวะ จึงสงสัยว่ามีการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะและไปพบแพทย์ แพทย์อาจจะส่งทำการตรวจปัสสาวะเพิ่มเติมเพื่อยืนยันว่ามีการอักเสบหรือติดเชื้อ และอาจส่งเพื่อการเพาะเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุ เพื่อช่วยในการพิจารณาที่จะให้ยาปฏิชีวนะที่เหมาะสม
การรักษา
การให้ยา
การให้ยาปฏิชีวนะ
(antibiotic) นาน 3-7 วัน ที่ใช้ในการรักษา ในกรณีเป็นการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะหรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบในชุนอาจมีการใช้ยาปฏิชีวนะตามแนวทาง (ดังตาราง) เนื่องจากอาจมีการดื้อยา เพราะฉะนั้นการรักษาต้องร่วมกับการปรับพฤติกรรม หรือการหาสาเหตูอื่นร่วมด้วย ในกรณีที่มีการติดเชื้อบ่อยๆ ควรได้รับการส่องกล้องทางปัสสาวะ (cystoscopy) เป็นการตรวจด้านในของกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะเพื่อหารสาเหตุการติดเชื้อซ้ำ
การให้ยาฆ่าเชื้อ
ยาที่ใช้ในการรักษากระเพาะปัสสาวะอักเสบ คือ cinocaxin , Methanamine mandelate , Nalidix acid และ Nitrofurantion
ยาบรรเทาปวด
ยาที่ใช้ในการรักษากระเพาะปัสสาวะอักเสบ คือ phenzopyridine
การทำให้ปัสสาวะเป็นกรด
ยา
ยาที่ทำให้ปัสสาวะเป็นกรด คือ Methamine , Sodium biphoshate และวิตามินซี
น้ำผลไม้
เช่น น้ำลูกแลนเบอร์รี, น้ำกระเจี๊ยบแดง
อาหาร
ได้จากการรับประทานอาหารที่มีภาวะเป็นกรด เช่น ไข่ นม เป็ด ไก่ ปลา ผัก สำหรับผัก เช่น มะเขือเทศ ข้าวโพด ฟักทอง ฯลฯ
การดื่มน้ำ
ควรดื่มน้ำวันละ 2-3 ลิตร เพื่อให้เชื้อในปัสสาวะเจือจาง และเป็นการขับถ่ายแบคทีเรียออก
พยาธิสภาพของโรค
พยาธิกำเนิดของการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะเริ่มจากเชื้อที่คาดว่าเป็นสาเหตุ ซึ่งอาจมาจากลำไส้หรือช่องคลอด มา colonize บริเวณ periurethal muscosa และเคลื่อนที่จากท่อทางเดินปัสสาวะมายังกระเพาะปัสสาวะ โดยเชื้อที่เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของการเกิดโรคปัสสาวะอักเสบ คือ Escherichia coli (E.coli) ซึ่งพบประมาณร้อยละ 70-95 เมื่อเกิดการติดเชื้อขึ้นทำให้เกิดการอักเสบที่กระเพาะปัสสาวะ (Inflammatory) ที่บริเวณชั้น mucosa และ sub-mucosa เมื่อเชื้อโรคเข้าไปในกะเพาะปัสสาวะ การขับถ่ายปัสสาวะจะมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากกระเพาะปัสสาวะมีการรคายเคืองและเก็บปัสสาวะได้ไม่ดี การระคายเคืองจะทำให้ประสิทธิภาพการทำลายเชื้อของเยื่อเมือกลลดลง แบคทีเรียจึงรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน นอกจากนั้นกระเพาะปัสสาวะยังมีความจุลดลง เนื่องจากกะเพาาะปัสสาวะสูญเสีย elasticity ผลที่ตามมาคือ ปัสสาวะบ่อย กลั้นปัสสาวะไม่ได้ ปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะขุ่น ปัสสาวะมีกลิ่นเหม็น ปวดหัวเหน่า และปัสสาวะมีเลือดปน
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
3.มีโอกาสเกิดการอักเสบซ้ำเนื่องจากขาดความรู้ในการปฏิบัติตนที่ถูกต้อง
วัตถุประสงค์
เพื่อให้มีความรู้และเข้าใจข้อมูลการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องในการป้องกันโรค
กิจกรรมการพยาบาล
1.อธิบายชี้แจงให้ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจเกี่ยวกับความเป็นไปของโรค เช่น สาเหตุ อาการ การรักษา ภาะแทรกซ้อน อาการข้างเคียงของยา การปฏิบัติตนเมื่ออยู่ในโรงพยาบาลหรือกลับบ้าน
2.ให้ความรู้เรื่องด้านสุขภาพ การถ่ายปัสสาวะทันทีที่รู้สึกปวดและไม่ควรกลั้นปัสสาวะ เพื่อจะได้มีแบคทีเรียในปัสสาวะลดลง บรรเทาอาการถ่ายปัสสาวะและป้องกันการติดเชื้ออีกครั้ง โดยการดื่มน้ำมากๆ หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำชา กาแฟ การถ่ายปัสสาวะทุก 2-3 ชั่วโมงในตอนกลงวัน และควรถ่ายปัสสาวะให้สุดทุกครั้งที่ถ่ายปัสสาวะ ดูแลทำความสะอาดบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์หลังการขับถ่ายปัสสาวะอย่างถูกต้องอย่างถูกวิธี การรับประทานยา การนำปัสสาวะส่งตรวจ การสังเกตอาการผิดปกติ บอกให้ทราบถึงความสำคัญของการมาตรวจตามนัด ฯลฯ
3.ให้โอกาสผู้ป่วยและครอบครัวได้พูดคุยและซักถามเพิ่มเติม หากมีข้อสงสัยหรือยังไม่เข้าใจ
ข้อมูลสนับสนุน
Subjective data :
ชอบอั้นปัสสาวะจากการทำงานในไร่ทำให้เข้าห้องน้ำไม่สะดวก
Objective data :
Abdomen : mild tenderness at LLQ , no guarding & rigidity การตรวจทางห้องปฏิบัติการ / การตรวจพิเศษ Urine Analysis, WBC 10-20 cells/HPF Squamous epithelial cell 1-2 cells/HPF Bacteria numerous
2. ไม่สุขสบาย เนื่องจากการขับถ่ายปัสสาวะแสบขัดและมีอาการปวดหน่วงท้องน้อย
วัตถุประสงค์
เพื่อให้มีความสุขสบาย มีการขับถ่ายปัสสาวะปกติและไม่ปวด
กิจกรรมการพยาบาล
1.ประเมินความเจ็บปวด (Pain score) และบันทึกสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง สังเกตและบันทึกจำนวนน้ำที่ได้รับและปัสสาวะที่ออกมา เช่น ปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะขุ่น ปัสสาวะน้อยลง สังเกตและซักถามอาการกลั้นปัสสาวะไม่ได้ ถ่ายปัสสาวะบ่อย ถ่ายปัสสาวะขัด เป็นต้น สังเกตและสอบถามอาการถ่ายปัสสาวะปวด
2.เก็บสิ่งตรวจ เช่น ปัสสาวะและเลือด ตามแผนการรักษาและติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการของปัสสาวะ ถ้าพบความผิดปกติบันทึกในรายงานและรายงานแพทย์
3.ให้ยาตามแผนการรักษา เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาแก้ปวด ยาantispasmodic ยาที่ทำให้ปัสสาวะเป็นกรด โดยถูกต้องตามหลักการให้ยา สังเกตอาการภายหลังได้รับยา และประเมินอาการข้างเคียงของยา
4.ให้ความรู้แก่ผู้ป่วยเรื่องการดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 3,000 ml. กรณีไม่มีข้อห้ามเรื่องการจำกัดน้ำ
5.ให้การพยาบาลเพื่อส่งเสริมความสุขสบาย เช่น แช่ก้น หรือวางกระเป๋าน้ำร้อนที่ท้องน้อย
ข้อมูลสนับสนุน
Subjective data :
ผู้ป่วยขับถ่ายปัสสาวะแสบขัดและปวดหน่วงท้องน้อย
Objective data :
Abdomen : mild tenderness at LLQ , no guarding & rigidity การตรวจทางห้องปฏิบัติการ / การตรวจพิเศษ Urine Analysis, WBC 10-20 cells/HPF Squamous epithelial cell 1-2 cells/HPF Bacteria numerous
1.มีภาวะการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะเนื่องจากมีการกลั้นปัสสาวะ
ข้อมูลสนับสนุน
Objective data :
Abdomen : mild tenderness at LLQ , no guarding & rigidity การตรวจทางห้องปฏิบัติการ / การตรวจพิเศษ Urine Analysis, WBC 10-20 cells/HPF Squamous epithelial cell 1-2 cells/HPF Bacteria numerous
Subjective data :
ผู้ป่วยบอกว่าชอบอั้นปัสสาวะ
วัตถุประสงค์
เพื่อลดภาวะการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะ
กิจกรรมการพยาบาล
1.ประเมินอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบจาการ ซักประวัติอาการ มีอาการปัสสาวะแสบขัด ขณะถ่ายปัสสาวะจะรู้สึกปวดท้องน้อย
2.การเก็บปัสสาวะเพื่อส่งตรวจ (UA) และเพาะเชื้อปัสสาวะ แนะนำให้ผู้ป่วยทำความสะอาดบริเวณปัสสาวะก่อนขับปัสสาวะ
3.ให้ความรู้แก่ผู้ป่วยเรื่องการดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 3,000 ml. กรณีไม่มีข้อห้ามเรื่องการจำกัดน้ำ
4.วัดอุณหภูมิและสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง
อ้างอิง
คณะกรรมการกลุ่มผลิตชุดวิชาการพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ.
การพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ หน่วยที่ 1-5.
พิมพ์ครั้งที่ 10 :สำนักพิมพ์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช , 2553.
คณาจารย์พระบรมราชชนก.
การพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ เล่ม 1
.พิมพ์ครั้งที่ 12 (ปรับปรุงครั้งที่ 1).นนทบุรี : บริษัท ยุทธรินทร์การพิมพ์จำกัด , 2553.
นางสาวจิรัญญา เป้าพะเนา รหัสนักศึกษา 624N46105 นักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 2