Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 12 ความเป็นครู-ความซื่อสัตย์สุจริต - Coggle Diagram
บทที่ 12
ความเป็นครู-ความซื่อสัตย์สุจริต
บทนำ
กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ , 2544 : 20
มาตรฐานการประเมินคุณภาพการศึกษา ด้านคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ คือ ความซื่อสัตย์สุจริต เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ประหยัด ใช้สิ่งของและทรัพย์สินอย่างประหยัดและคุ้มค่าทั้งของตนเองและของส่วนรวม และมีความกตัญญู
ประภาศรี ศีหอำไพ : 2540
บทบาทที่สำคัญของครูคือชี้ให้เห็นประโยชน์ของการมีคุณธรรมที่ดี มีจริยธรรมในด้านต่างๆ ประโยชน์ของการมีจริยธรรมไว้ว่าคนที่มีจริยธรรมจะเป็นผู้ที่มีความก้าวหน้าในชีวิตครอบครัวและและการทำงาน ผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆได้ดี มีความเข้มแข็ง มีเหตุผล รู้ถูกผิด มีสติและเกิดปัญญา เป็นที่น่ายกย่อง และเกิดความสงบสุขทั้งต่อตนเองและสังคม
กรมวิชาการ , 2545
คุณลักษณะของคนดี ได้แก่ คนที่ดำเนินชีวิตอย่างมีคุณภาพ มีจิตใจที่ดีงาม มีคุณธรรมจริยธรรม มีคุณลักษณะศึกษาที่พึงประสงค์ทั้งทางด้านจิตใจและพฤติกรรมที่แสดงออก เช่นมีความซื่อสัตย์สุจริต มีความเอื้อเฟื้อเกื้อกูล มีเหตุผล รู้หน้าที่ พากเพียรทขยัน ประหยัด มีจิตเป็นประชาธิปไตย เคารพความคิดเห็นและสิทธิ์ของผู้อื่น รักษาสิ่งแวดล้อม สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างสันติสุข
ความหมายของความซื่อสัตย์สุจริต
กรมสามัญศึกษา (2529:22)
ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นคุณธรรมหนึ่งที่ต้องปลูกฝังให้เกิดขึ้นในทุกๆคน เพราะการอยู่ร่วมกันในสังคม ทุกคนจะต้องเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันทางด้านความเป็นอยู่ และการประกอบอาชีพ ถ้าทุกคนมีความซื่อสัตย์ก็ย่อมเกิดสันติสุขขึ้นในสังคม
การรักษาความซื่อสัตย์
การรู้จักข่มใจตัวเอง
การอดทน
การรู้จักละวางความชั่ว
ราชบัณฑิตยสถาน (2542: 317,872)
ความซื่อเป็นการประพฤติตรงและจริงใจ ไม่คิดคดทรยศ ไม่คดโกงหลอกลวงผู้อื่น
สุจริต คือ ความประพฤติชอบ ความประพฤติด้วยตั้งใจดี
ความซื่อสัตย์ จึงหมายถึงความประพฤติซื่อตรง การเป็นคนตรง การประพฤติอย่างตรงไปตรงมาทั้งกาย วาจาและใจ ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น
ความเป็นมาของความซื่อสัตย์สุจริต
ขัตติยา กรรณสูต และคณะ,2547
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเรื่องการทำงานก็ทรงเน้นเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตเป็นสำคัญ "การที่จะทำงานให้สัมฤทธิ์ผลสมปรารถนาคือให้เน้นประโยชน์และยิ้มทำด้วยนั้นจะอาศัยแต่เพียงความรู้อย่างเดียวไม่ได้ จำเป็นต้องอาศัยความสุจริต ความบริสุทธิ์ใจ และความถูกต้องเป็นธรรมประกอบด้วย เพราะความรู้นั้นเสมือนเครื่องยนต์ที่จะทำให้ญวนยานเคลื่อนที่ไปได้ประการเดียวส่วนคุณธรรมดังกล่าวเสมือนหนึ่งพวงมาลัยหรือหางเสือ ซึ่งเน้นปัจจัยที่นำทางให้ยวดยานดำเนินไปถูกทางด้วยความสวัสดี คือ ปลอดภัยจนถึงบรรลุถึงจุดประสงค์"
กายสุจริต
ไม่ละโมบ ไม่เพ่งเล็งคิดหาทางเอาแต่จะได้
ทำใจให้แผลกว้างขวาง
ไม่คิดร้ายต่อผู้อื่น
วจีสุจริต
ละเว้นการพูดเท็จ โกหกหลอกลวง
พูดแต่คำสุภาพ
ละเว้นการพูดเร็วไหลเพ้อเจ้อ
มโนสุจริต
ทำสิ่งที่ถูกต้อง
มีเมตตากรุณา
ช่วยเหลือเกื้อกูลสังเคราะห์กัน
ความสำคัญของความซื่อสัตย์สุจริต
การที่ครูเป็นคนซื่อสัตย์ พูดจริง ทำจริง เป็นคนจริงใจ เป็นคนตรง จะทำให้เขาเป็นคนน่าเชื่อถือ เคารพนับถือของคนอื่น และเป็นผู้ที่เคารพนับถือตัวเองได้
สัจจะเป็นฆราวาสธรรม ซึ่งเป็นหลักธรรมสำหรับการครองชีวิตของคฤหัสถ์
ความจริง(สัจจะ)
การฝึกตน (ทมะ)
การอดทน (ฉันทะ)
การเสียสละ (จาคะ)
แนวทางส่งเสริมความซื่อสัตย์สุจริตของครู
ครูสามารถนำแนวทางส่งเสริมให้จัดกิจกรรมความซื่อสัตย์สุจริตแก่นักเรียนเป็นการจัดการศึกษาเพื่อให้ความซื่อสัตย์สุจริตเจริญงอกงามขึ้นในตัวผู้เรียน จนเป็นผู้พูดจริง ทำจริง จริงใจ และมีความพร้อมทางความประพฤติ
ทฤษฎีพัฒนาการทางจริยธรรมของ kohlberg
เป็นทฤษฎีที่มีรากฐานสืบเนื่องมาจากทฤษฎีของ piaget เเต่ kohlberg ได้ปรับปรุงวิธีการวิจัย การวิเคราะห์
ระดับอ่อนกฎเกณฑ์สังคม
หลักการหลบหลีกการลงโทษ
หลักการแสวงหารางวัล
ระดับเหนือกฎเกณฑ์สังคม
5 หลักการทำตามคำมั่นสัญญา
หลักยึดอุดมการณ์สังคม
ระดับจริยธรรมตามกฎเกณฑ์สังคม
3 หลักการทำตามที่ผู้อื่นเห็นชอบ
4 หลักการทำตามหน้าที่ของสังคม
ทฤษฎีพัฒนาทางสติปัญญา Piaget
เชื่อว่าจริยธรรมเกิดจากแรงจูงใจเบื้องต้น นั่นคือ การได้รับการยอมรับและบรรทัดฐานของจริยธรรมเกิดจากปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
ระดับกฎเกณฑ์จากภายนอก
ขั้นที่ 1 เด็กจะพยายามทำตามคนอื่น
คันที่ 2 เด็กจะมีความคิดคำนึงในการเล่น
ขั้นที่ 3 เด็กจะได้รับความร่วมมือในการเล่น
คันที่ 4 นอกจากเด็กจะให้ความร่วมมือแล้วเด็กยังให้ความสนใจที่จะทำตามกฎเกณฑ์ด้านความรู้สึกรับผิดชอบเฉพาะตัว
ระดับที่เด็กมีกฎเกณฑ์ของตนเอง
ขั้นก่อนจริยธรรม
ขั้นยึดคำสั่ง
ขั้นยึดหลักแห่งตน
ประเภทของความซื่อสัตย์
หน่วยศึกษานิเทศก์ กรมสามัญศึกษา (2525: 129-131)
1 ความซื่อสัตย์ต่อตนเอง
รู้สึกรับผิดชอบชั่วดี
มีความละอายและเกรงกลัวต่อการกระทำผิด
2 ความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่การงาน
ไม่เอาเวลาทำงานในหน้าที่มาใช้ประโยชน์ส่วนตัว
ไม่ใช้อำนาจหน้าที่ทำประโยชน์ส่วนตัว
3 ความซื่อสัตย์ต่อบุคคล
ซื่อสัตย์ต่อผู้อื่น ต่อมิตร ต่อหัวหน้างาน
พฤติกรรมตรงไปตรงมา
4 ความซื่อสัตย์ต่อคณะ สังคม และประเทศชาติ
ร่วมมือร่วมใจในการทำงานด้วยความบริสุทธิ์
ไม่เห็นแก่ประโยชน์ของตนหรือเอาดีเข้าตน
พฤติกรรมความซื่อสัตย์
พฤติกรรมความซื่อสัตย์เป็นลักษณะพฤติกรรม หรือ ความรู้สึกของบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการประพฤติตามกฎเกณฑ์ที่กำหนด
ซื่อตรงต่อเวลา
ซื่อสัตย์ตรงต่องานของตนเองที่กำหนดไว้
ซื่อตรงต่อหน้าที่การงานที่อยู่ในความรับผิดชอบของตนเอง
ซื้อตรงต่อคุณธรรมที่ยึดถือปฏิบัติ
ซื่อตรงต่อการนัดหมาย
ซื่อตรงต่อการให้สัญญา
ซื่อตรงต่อทรัพย์สินของผู้อื่น
ซื่อตรงต่อหน้าที่การงานของผู้อื่น
ซื่อตรงต่อระเบียบแบบแผนประเพณี
ซื่อตรงต่อกฎหมายที่เกี่ยวกับสังคม
ซื่อตรงต่องานที่ได้รับมอบหมาย
ซื่อตรงต่อข้อมูลปัจจุบันโดยรู้จักจำแนกระหว่างข้อมูลและค่าประเมินของผู้อื่นได้เป็นอย่างดี
งานวิจัยด้านความซื่อสัตย์สุจริต
เจริญศรี บุญสว่าง (2543:บทคัดย่อ)
ศึกษาความซื่อสัตย์สุจริตของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ด้วยการใช้นิทานพื้นบ้านและเพลงกล่อมเด็กในการสอนกลุ่มทักษะภาษาไทยของโรงเรียนวัดโมคลานสังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดนครศรีธรรมราชของผู้เรียนจำนวน 60 คนเพื่อเปรียบเทียบระดับความซื่อสัตย์ของผู้เรียนโดยการใช้นิทานพื้นบ้านและเพลงกล่อมเด็กในการสอนกลุ่มทักษะภาษาไทยด้วยการสอนด้วยวิธีปกติ เครื่องมือที่ใช้เป็นแผนการสอนที่ใช้นิทานพื้นบ้านและเพลงกล่อมเด็ก ผลการวิจัยพบว่า ผู้ที่เรียนภาษาไทยด้วยวิธีสอนที่ใช้นิทานพื้นบ้านและเพลงกล่อมเด็กมีระดับความซื่อสัตย์สุจริตสูงกว่าผู้เรียนภาษาไทยด้วยวิธีสอนแบบปกติอย่างมีนัยยะสำคัญทางสถิติที่ 0.05
เสาวนิจ นิจอนันต์ชัย (2547:46)
ได้ศึกษาการปลูกฝังคุณธรรมด้านความซื่อสัตย์ในชุมชนพุทธคริสต์และอิสลามในประเทศไทย การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงคุณภาพโดยใช้แนวคิดหลักและแนวคิดความซื่อสัตย์โครงสร้างทางสังคม กระบวนการขัดเกลาทางสังคม หลักคำสอน หลักการศึกษาในโรงเรียนศาสนา แนวคิดด้านชุมชนนิยม และใช้คนซื่อสัตย์เป็นตัวอย่าง ซึ่งชุมชนเป็นผู้เลือกจำนวน 50 คน โดยใช้การสัมภาษณ์ระดับลึกพบว่า คุณธรรมด้านความซื่อสัตย์ที่เข้มแข็งเกิดจากการอบรมเลี้ยงดูที่ใกล้ชิดของพ่อแม่ ความรับผิดชอบและการพึ่งตนเองเร็วตั้งแต่วัยเด็ก พ่อแม่ ผู้ปกครอง ครู และพระ เป็นแบบอย่างที่ดีและมีความรู้ด้านวิชาการทันยุคสมัย โรงเรียนเน้นศาสนาควบคู่วิชาการ ชุมชนมีขนาดเหมาะสมมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างความสัมพันธ์กันและมีระบบสาธารณูปโภคดี