Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การติดเชื้ออื่น ๆ ขณะตั้งครรภ์ - Coggle Diagram
การติดเชื้ออื่น ๆ ขณะตั้งครรภ์
hepatitis A virus: HAV
อาการและอาการแสดง
อ่อนเพลีย
เบื่ออาหาร
ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อ และปวดศีรษะ
พบน้ำดีในปัสสาวะแสดงว่าตับมีการทำงานผิดปกติ
พบ alkaline phosphatase เพิ่มขึ้น
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ์และทารก
อาจมีการแพร่กระจายเชื้อไปยังทารกในระยะคลอด หรือระยะหลังคลอด
การประเมินและการวินิจฉัย
อาจมีอาการตัวเหลืองตาเหลือง
antibody-HAV และ IgM-anti HAV และตรวจการทำงานของตับ
การป้องกันและการรักษา
รักษาแบบประคับประคองตามอาการที่ปรากฏ
ให้ immune serum globulin (ISG) ในรายที่สัมผัสเชื้อ
การพยาบาล
อธิบายให้สตรีตั้งครรภ์และครอบครัวเข้าใจเกี่ยวกับโรค
แนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตัว
พักผ่อนอย่างเพียงพอ
รับประทานอาหารที่สุก สะอาด และย่อยง่าย
มาตรวจตามนัดเพื่อประเมินสภาวะ
หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีผลต่อตับ ได้แก่ acetaminophen และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
Hepatitis B virus
พยาธิสรีรภาพ
ระยะที่สอง
ระยะที่สองผู้ติดเชื้อจะมีอาการอ่อนเพลียคล้ายเป็นหวัด คลื่นไส้อาเจียน จุกแน่นใต้ชายโครงจากตับโต ปัสสาวะเข้ม ตัวเหลืองตาเหลือง ตับเริ่มมีการอักเสบชัดเจน ตรวจพบเอนไซม์ตับสูงขึ้น ในระยะนี้ร่างกายจะสร้าง anti-HBe ขึ้นมาเพื่อทำลาย HBeAg ตรวจเลือดจะพบ anti-HBe ให้ผลบวกและจำนวน Hepatitis B virus DNA ลดลง
ระยะที่สาม
anti-HBe ทำลาย HBeAg จนเหลือน้อยกว่า 105 copies/mL อาการตับอักเสบจะค่อย ๆ ดีขึ้น ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกัน และเข้าสู่ระยะโรคสงบ (inactive carrier) ซึ่งหากตรวจเลือดจะพบ HBeAg ให้ผลลบ anti-HBe ให้ผลบวก และค่าเอนไซม์ ตับปกติ
ระยะแรก
เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกาย เชื้อจะแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว แต่ผู้ที่ได้รับเชื้อจะยังไม่มีอาการแสดง แต่หากตรวจเลือดจะพบ HBeAg ให้ผลบวก และพบ Hepatitis B virus DNA (viral load) จำนวนมาก
ระยะที่สี่
เชื้อกลับมามีการแบ่งตัวขึ้นมาใหม่ (re-activation phase) ทำให้เกิดการอักเสบของตับ ตรวจเลือดพบ HBeAg ผลลบ และ anti-HBe ผลบวก ในระยะนี้ถ้า anti-HBe ไม่สามารถทำลาย HBeAg ได้จนเหลือน้อยกว่า 105 copies/mL จะเข้าสู่ภาวะตับอักเสบเรื้อรังจนเนื้อตับเสียหาย มีพังผืดแทรกจนเป็นตับแข็งและกลายเป็นมะเร็งตับ
อาการและอาการแสดง
มีอาการจะเริ่มด้วยมีไข้ต่ำ ๆ เบื่ออาหาร
ปวดทั่วไปหรือปวดบริเวณชายโครงขวา คลำพบตับโต กดเจ็บ ปัสสาวะมีสีเข้มขึ้นเป็นสีชาแก่
ผลกระทบ
ต่อสตรีตั้งครรภ์
ติดเชื้อในไตรมาส 3 จะเพิ่มความเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนด
ต่อทารก
ตายในครรภ์
น้ำหนักตัวน้อย
เป็นโรคตับแข็งและมะเร็งตับในอนาคต
การประเมินและการวินิจฉัย
แนวทางการป้องกันและรักษา
.
รักษา ด้วยยา Tenofovir Disoproxil Fumarate (TDF) ขนาด 300 mg รับประทานวันละ 1 ครั้ง เริ่มรับประทานเมื่ออายุครรภ์ 28-32 สัปดาห์
พาสมาชิกในครอบครัวและสามีมาตรวจเลือด
รักษาประคับประคองตามอาการ
รับประทานอาหารอ่อนย่อยง่าย
พักผ่อนอย่างเพียงพอ
ทาทรกควรได้รับการฉีด (HBIG) ให้เร็วที่สุด
การพยาบาล
ระยะตั้งครรภ์
ให้คำแนะนำ
ในรายที่มีการติดเชื้อเรื้อรัง แนะนำการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
ตรวจคัดกรองสตรีตั้งครรภ์ทุกคน
อธิบายถึงความสำคัญของการมาตรวจตามนัด
ระยะคลอด
เลี่ยงการเจาะถุงน้ำคร่ำ
ฉีด Hepatitis B immunoglobulin (HBIG) ให้เร็วที่สุดหลังเกิด และให้ Hepatitis B vaccine (HBV) 3 ครั้ง ให้ครั้งแรกภายใน 1 สัปดาห์แรกหลังคลอด
ยึดหลักการป้องกันการแพร่กระจายเชื้ออย่างเคร่งครัด
ดูดมูก เลือดและสิ่งคัดหลั่งต่าง ๆ ออกจากปากและจมูก
ทำความสะอาดทารกทันทีที่คลอด
ระยะหลังคลอด
หากมีหัวนมแตกและมีการอักเสบติดเชื้อให้งดให้บุตรดูดนม
เน้นการรักษาความสะอาดของร่างกาย
แนะนำให้นำทารกมารับวัคซีนเพื่อป้องกันไวรัสตับอักเสบบี
Rubella/German measles
พยาธิสรีรภาพ
กลุ่มไม่มีอาการทางคลินิก
พบภูมิคุ้มกันต่อเชื้อและกลายเป็นพาหะ
กลุ่มที่มีอาการทางคลินิก
เชื้อหัดเยอรมันจะเข้าไปทำลายผนังหลอดเลือดและเนื้อรกทำให้เป็นเนื้อตาย ส่วนในทารกเชื้อจะเข้าไปในเซลล์ที่กำลังแบ่งตัว ทำให้เซลล์ติดเชื้อ การสร้างอวัยวะต่าง ๆ บกพร่อง เกิดเป็นความพิการแต่กำเนิด
อาการและอาการแสดง
ไข้ต่ำ ๆ ครั่นเนื้อครั่นตัว เบื่ออาหาร ตาแดง
ตรวจเลือดจะพบภูมิคุ้มกันเชื้อหัดเยอรมัน
maculopapular
ต่อน้ำเหลืองบริเวณหลังหูโต
ผลกระทบ
ต่อสตรีตั้งครรภ์
อาจรู้สึกไม่สุขสบายเล็กน้อย
ต่อทารกในครรภ์
ความผิดปกติที่เกิดขึ้นชั่วคราว
ตับม้ามโต
โลหิตจาง
ตัวเหลือง
ความผิดปกติถาวร
ปัญญาอ่อน
หัวใจพิการ
หูหนวก ตาบอด
การประเมินและการวินิจฉัย
อาจพบผื่นสีแดงคล้ายหัด ตาแดง ไอ จาม เจ็บคอ ปวดเมื่อย
HAI titer ครั้งที่ 2 สูงกว่าครั้งแรกอย่างน้อย 4 เท่า แสดงว่ามีการติดเชื้อ
ตรวจ IgM antibody และ IgG antibody
การป้องกันและการรักษา
ให้ภูมิคุ้มกัน
เก็บเลือดจากสายสะดือส่งตรวจเ
การพยาบาล
แนะนำให้มาฝากครรภ์อย่างสม่ำเสมอ
ประเมินสุขภาพของสตรีตั้งครรภ์เกี่ยวกับการได้รับภูมิคุ้มกัน
ในสตรีที่มาฝากครรภ์ควรตรวจดูภูมิคุ้มกัน
เปิดโอกาสให้สตรีตั้งครรภ์และครอบครัวได้ระบายความรู้สึก
ให้วัคซีนเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
อธิบายข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจ
สตรีที่ไม่มีภูมิคุ้มกันหรือไม่เคยฉีดวัคซีน ควรได้รับการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันหัดเยอรมันหลังคลอดทุกราย และหลังการให้วัคซีนจะต้องคุมกำเนิดต่อไปอีกอย่างน้อย 3 เดือน
Varicella-zoster virus: VZV
พยาธิสภาพ
โรคสุกใสเกิดขึ้นตั้งแต่แรกคลอด จะเรียกว่า congenital varicella syndrome ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อตั้งแต่อยู่ในครรภ์ โดยมารดาติดเชื้อไวรัสสุกใสขณะตั้งครรภ์ ซึ่งจะมีผลต่อความพิการของทารกในครรภ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดเชื้อในช่วง 3 เดือน ของการตั้งครรภ์ ซึ่งส่งผลต่อความพิการของทารกในครรภ์ได้สูง
อาการและอาการแสดง
มักจะมีไข้ต่ำ ๆ นำมาก่อนประมาณ 1-2 วันแล้วค่อยมีผื่นขึ้น
ตุ่มเหมือนหยาดน้ำค้างบนกลีบกุหลาบ
มีอาการปวดเมื่อยตามตัวร่วม
คล้ายอาการของไข้หวัดใหญ่
ผลกระทบ
ต่อสตรีตั้งครรภ์
ให้ระบบ
หายใจล้มเหลว
ภาวะปอดอักเสบ หรือปอดบวม
มีอาการทางสมอง
ต่อทารก
การติดเชื้อปริกำเนิด
การติดเชื้อในครรภ์
การประเมินและการวินิจฉัย
ตรวจหาแอนติบอดีชนิด IgM
ผื่นชนิดนูนแดง (Papule) ตุ่มใส (Vesicle) และตกสะเก็ด (Scab) เกิดขึ้นพร้อม ๆ กันทั่วร่างกาย
การตรวจหาแอนติบอดีชนิด IgG
แนวทางการป้องกันและการรักษา
รักษาแบบประคับประคอง เพื่อบรรเทาอาการ
หลีกเลี่ยงคนที่ป่วยเป็นสุกใส
การรักษาแบบเจาะจง โดยการใช้ยาต้านเชื้อไวรัสสุกใส Acyclovir
การพยาบาล
ระยะตั้งครรภ์
ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
พักผ่อนอย่างเต็มที่
ปิดโอกาสให้สตรีตั้งครรภ์และครอบครัวได้ระบายความรู้สึก
ระยะคลอด
เน้นหลัก Universal precaution
ขณะคลอดควรดูดเมือกออกจากปากและจมูกทารกโดยเร็ว
ระยะก่อนตั้งครรภ์
ฉีดวัคซีนป้องกันสุกใส
เลี่ยงการรับวัคซีนในระยะตั้งครรภ์
ระยะหลังคลอด
universal precaution
แนะนำการรับประทานอาหารโปรตีนและวิตามินซีสูง
ดูแลให้ทารกรับวัคซีน VariZIG
แยกทารกแรกเกิดจากมารดาในระยะ 5 วันแรกหลังคลอด
Cytomegalovirus: CMV
อาจได้รับเชื้อทางการให้เลือด สัมผัสทางปาก หรือทางเพศสัมพันธ์
พยาธิสรีรภาพ
แหล่งของเชื้อ CMV พบได้จากสารคัดหลั่งหลายชนิด เช่น น้ำลาย ปัสสาวะ น้ำอสุจิ สารคัดหลั่งจากปากมดลูก
อาการและอาการแสดง
มีอาการแสดงของ mononucleosis syndrome
hepatosplenomegaly
microcephaly
chorioretinitis
petechiae
thrombocytopenia
ผลกระทบ
ต่อสตรีตั้งครรภ์
แท้ง
คลอดก่อนกำหนด
ระบบภูมิคุ้มกันจะลดลง
รกลอกตัวก่อนกำหนด
ติดเชื้อของถุงน้ำคร่ำ
ต่อทารก
fetal distress
IUGR
น้ำหนักแรกเกิดน้อย
อาการรุนแรง
petechiae
microcephaly
thrombocytopenia
chorioretinitis
hepatosplenomegaly
การประเมินและการการวินิจฉัย
เจาะเลือดส่งตรวจพบ Atypical Lymphocytes
เอ็นไซน์ตับสูง
พบเชื้อ CMV
Amniocentesis for CMV DNA PCR
Plasma specimen for culture หรือ quantitative real-time PCR
แนวทางการป้องกันและการรักษา
การป้องกัน
สตรีที่เคยมีประวัติการติดเชื้อ ควรเว้นระยะการมีบุตรอย่างน้อย 2 ปี
รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล
เลี่ยงการสัมผัสกับผู้ที่มีการติดเชื้อ
การรักษา
การให้ยาต้านไวรัส เช่น Valtrex, Ganciclovil, Valavir
การประเมินอาการและอาการแสดงของทารกแรกเกิดที่มีการติดเชื้อ
immunoglobulin ของ anti-cytomegalo viral human
การพยาบาล
ระยะคลอด
ขณะคลอดควรดูดเมือกออกจากปากและจมูกทารกโดยเร็ว
เน้นหลัก Universal precaution
ระยะหลังคลอด
งดให้นมมารดา หากมารดาหลังคลอดมีการติดเชื้อ
เน้นย้ำเกี่ยวกับการรักษาความสะอาดและการมาตรวจตามนัด
เน้นหลัก Universal precaution
สังเกตอาการผิดปกติของทารกที่ต้องรีบพามาพบแพทย์
ระยะตั้งครรภ์
อธิบายสตรีตั้งครรภ์และครอบครัวทราบเกี่ยวกับโรค
ซักประวัติ เพื่อคัดกรอง
แนะนำและเน้นย้ำให้เห็นความสำคัญของการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
Toxoplasmosis
พาหะ
พาหะหลัก
พาหะหลักคือ แมว
พาหะชั่วคราว
รับประทานเนื้อสัตว์ที่ติดเชื้อปรุงไม่สุก
คน
การรับประทานผัก หรือผลไม้ที่ปนเปื้อนดินที่มี oocyte
หนู กระต่าย แกะ
อาการและอาการแสดง
น้อย
Mononucleosis
อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ
รุนแรง
ปอดบวม กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
พยาธิที่สมอง Chorioretinitis
ผลกระทบ
ต่อทารกในครรภ์
ทารกหัวบาตร microcephaly
Cerebral calcification
chorioretinitis
ติดเชื้อในครรภ์
ตับและม้ามโต ตาและตัวเหลือง
ต่อสตรีตั้งครรภ์
ถุงน้ำคร่ำและเยื่อหุ้มทารกอักเสบ
รกลอกตัวก่อนกำหนด
คลอดก่อนกำเนิด
การแท้ง
การประเมินและการวินิจฉัย
ตรวจเลือดสายสะดือทารกหรือน้ำคร่ำ พบ IgA และ IgM
ตรวจน้ำเหลืองพบ แอนตี้บอดีย์ IgM
ตรวจเลือดหา DNA ของเชื้อ
แนวทางการป้องกันและการรักษา
ถ้าพบ IgM ในมารดา อนุมานว่ามีการติดเชื้อ และรักษาด้วย spiramycin
จำเป็นต้องทำความสะอาดอุจจาระแมว สวมถุงมือยาง
ให้ผู้อื่นเป็นผู้ดูแลแมวแทนในช่วงที่ตั้งครรภ์
การพยาบาล
ระยะคลอด
เน้นหลัก Universal precaution
ภายหลังทารกคลอดเช็ดตาด้วย 0.9%NSS
ระยะหลังคลอด
เน้นเรื่องการรักษาความสะอาด การมาตรวจตามนัด
เฝ้าระวังการตกเลือดและการติดเชื้อหลังคลอด
ระยะตั้งครรภ์
เน้นการรักษาอย่างต่อเนื่อง การรับประทานยา
ติดตามผลการตรวจเลือด
ให้ความรู้
Zika
เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อฟลาวิไวรัส (Flavivirus) โดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรค
อาการและอาการแสดง
ส่วนใหญ่มักมีอาการไข้ ผื่นแดง ปวดเมื่อยตามตัว
ผลกระทบ
ต่อสตรีตั้งครรภ์
อาการไข้ หนาวสั่นรู้สึกไม่สุขสบาย
อ่อนเปลี้ยเพลียแรง
ผื่นขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์
อาการทางระบบทางเดินหายใจ
ต่อทารก
ความผิดปกติเกี่ยวกับระบบประสาท ตาและการมองเห็น
ทารกในครรภ์เจริญเติบโตช้า
ทารกตายในครรภ์ และตายหลังคลอด
ภาวะศีรษะเล็ก
การประเมินและการวินิจฉัย
ตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง
(RT-PCR)
(IgM) ด้วยวิธี ELISA หรือ Immunofluorescence
แนวทางการป้องกันและการรักษา
การป้องกัน
การเฝ้าระวัง ครอบคลุม 4 ด้าน
การรักษา
รักษาตามอาการ
พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ
การพยาบาล
ให้คำแนะนำ
สวมเสื้อผ้าเนื้อหนา สีอ่อน ๆ
กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย
นอนในมุ้ง
เลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศที่มีการระบาดของโรค
ใช้ยากำจัดแมลงหรือยาทาป้องกันยุงกัด
ติดเชื้อในระยะตั้งครรภ์
เตรียมสตรีตั้งครรภ์เพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ประเมินสุขภาพทารกในครรภ์
ประเมินสัญญาณชีพโดยเฉพาะอุณหภูมิ หากมีไข้ดูแลให้ได้รับยาลดไข้
เน้นย้ำการมาตรวจครรภ์ตามนัด
อธิบายเกี่ยวกับการดำเนินของโรค
ยึดหลัก universal precaution
ประเมินสภาพร่างกายทั่วไปโดยเฉพาะการวัดขนาดของศีรษะ
เน้นย้ำการรับประทานอาหารที่มีโปรตีนและวิตามินสูง
COVID-19 during Pregnancy
อาการและอาการแสดง
อุณหภูมิร่างกายตั้งแต่37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป
มีอาการของระบบทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ง
ผลกระทบ
ต่อสตรีตั้งครรภ์
ติดเชื้อของเยื่อหุ้มเด็ก
ถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด
คลอดก่อนกำหนด
รกเสื่อม และรกลอกตัวก่อนกำหนด
ต่อทารกในครรภ์
พัฒนาการล่าช้า
คลอดก่อนกำหนด
คลอดน้ำหนักตัวน้อย
การประเมินและการวินิจฉัย
lymphocyte ต่ำ
C-reactive protein สูง
creatine phosphokinase สูง
การพยาบาล
การดูแลสตรีตั้งครรภ์ มารดาหลังคลอด ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง
แจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบว่าตนเองอยู่ระหว่างการเฝ้าระวัง
social distancing
สามารถกินนมแม่ได้ โดยปฏิบัติตามแนวทางป้องกันการติดเชื้ออย่างเคร่งครัด
แยกทารกเมื่อมารดาเสี่ยง
ข้อแนะนำการปฏิบัติสำหรับมารดาหลังคลอด
ปฏิบัติตามวิธีการป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด
เพื่อป้องกันการติดเชื้อ COVID-19
เลี่ยงการสัมผัสหรืออยู่ใกล้ชิดผู้ที่มีอาการไอ เป็นไข้ หรือผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง
เลี่ยงการใช้มือสัมผัสบริเวณดวงตา ปาก และจมูก
รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่เสมอ
social distancing
แนวทางการรักษา
สตรีตั้งครรภ์ที่มีอาการรุนแรง
ให้ออกซิเจนทาง cannula
On EFM ถ้าอายุครรภ์ 28 สัปดาห์ขึ้นไป
ให้ยาต้านไวรัสและ/หรือยาอื่น ๆ เช่น Lopinavir/Ritonavir, remdesivir
การดูแลรักษากรณีฉุกเฉิน
บุคลากรใส่ชุด full PPE
สตรีตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อแต่อาการไม่รุนแรง
ให้ยาต้านไวรัส
การดูแลขณะเจ็บครรภ์คลอด
หลีกเลี่ยง general anesthesia
ทำการผ่าตัดในห้องแยกความดันลบ
ทำ epidural block ได้
ระวังการใช้ก๊าซสูดดม
สตรีตั้งครรภ์ที่สงสัยจะติดเชื้อ
ห้ามใช้ยากลุ่ม NSAIDs
เลื่อนการนัดผ่าตัดคลอดหรือการกระตุ้นคลอดออกไปอย่างน้อย 14 วัน