9.1 การติดเชื้อระบบขับถ่ายปัสสาวะระหว่างตั้งครรภ์

ชนิดของการติดเชื้อ

2.Acute cystitis

3.Acute pyelonephritis

1.Asymptomatic bacteriuria: ASB

4.Nephrotic syndrome

พบแบคทีเรียในปัสสาวะมากกว่า 105 cfu/ml

-มีอาการเจ็บปวดขณะถ่ายปัสสาวะ
-ปัสสาวะแสบขัด
-ปัสสาวะบ่อย
-ปวดปัสสาวะจนต้องรีบปัสสาวะ (urgency)
-ปัสสาวะมีสีขุ่นหรือสีแดง
-มีไข้สูง อ่อนเพลีย และ
-ปวดบริเวณท้องน้อย

-พบแบคทีเรียในปัสสาวะ มากกว่า 105 cfu/ml
-ปัสสาวะเป็นหนอง
-มีไข้ หนาวสั่น และปวดบริเวณบั้นเอว

-โปรตีนในปัสสาวะ มากประมาณ 5 กรัมต่อวัน
-โปรตีนในเลือดต่ำ
-ไขมันในเลือดสูง
-มีอาการบวมโดยไม่ทราบสาเหตุ

5.renal failure

1.chronic renal failure

2.acute renal failure

สาเหตุมาจากโรค DM, SLE, glomerulonephritis

สาเหตุจาก septic abortion, preeclampsia with severe feature, hemolytic uremia syndrome ตั้งครรภ์ต่อไปได้

อาการและอาการแสดง

สาเหตุและปัจจัยส่งเสริม

ติดเชื้อ Escherichia Coli ที่อยู่รอบท่อปัสสาวะ

พยาธิสรีรวิทยา

เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณปากช่องคลอด
หรือทวารหนักใกล้ท่อปัสสาวะ ย้อนกลับขึ้นไป
ร่วมกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและการทำงาน
ของระบบทางเดินปัสสาวะขณะ ตั้งครรภ์
และการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาขณะตั้งครรภ์ของไต

1.ติดเชื้อ Lower UTI
-ท่อปัสสาวะอักเสบ
-กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
-อาการปัสสาวะบ่อย
-ปัสสาวะแสบขัด
-กระปิดกระปรอย กลั้น ปัสสาวะไม่ได้

2.ติดเชื้อ Upper UTI
-กรวยไตอักเสบ โดยจะ พบ
-ปัสสาวะเป็นสีขุ่น หรือสีน้ำล้างเนื้อ
-เจ็บบริเวณชายโครง
-ปวดหลังบริเวณตำแหน่งของไต
-มีไข้ หนาวสั่น คลื่นไส้ อาเจียน

ผลกระทบ

ต่อสตรีตั้งครรภ์

ต่อทารก

-แท้ง-เจ็บครรภ์คลอด
-ก่อนกำหนด และ/หรือถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด ,septic shock

-ทารกคลอดก่อนกำหนด
-ทารกน้ำหนักตัวน้อย
-เจริญเติบโตช้าในครรภ์
-ทารกตายคลอด

การพยาบาล

ระยะคลอด

ระยะตั้งครรภ์

ระยะหลังคลอด

ให้การพยาบาลเช่นเดียวกับผู้คลอดทั่วไป

ให้การพยาบาลเหมือนมารดาหลังคลอดทั่วไป

1.ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดำเนินของโรค ภาวะแทรกซ้อน แผนการรักษาพยาบาล

2.เน้นความสำคัญของการมาตรวจครรภ์ตามนัด

3.แนะนำการปฏิบัติตัว
-พักผ่อนอย่างเพียงพอ
-ดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว
-รักษาความสะอาดของร่างกาย
-รับประทานยาอย่างต่อเนื่อง

4.ติดตาม รวมทั้งสังเกตอาการผิดปกติ

5.ดูแลประคับประคองจิตใจ

1.เน้นเรื่องการทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกทุกครั้ง

2.อุปกรณ์ในการช่วยเหลือทารกแรกเกิดให้พร้อม
ระยะหลังคลอด

1.การป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ และการป้องกันการ
กลับเป็นซ้ำ

2.เน้นการคุมกำเนิด ในรายที่มีบุตรเพียงพอแล้วหรือเป็นโรคไตเรื้อรัง

การประเมินและวินิจฉัย

แนวทางการป้องกันและรักษา

2.การตรวจร่างกาย ปัสสาวะขุ่น กดบริเวณ costovertebral angle จะปวดมาก

3.การตรวจทางห้องปฏิบัติการ ตรวจ urine culture จะ พบเชื้อแบคทีเรียมากกว่า 105 dfu/ml

1.การซักประวัติ การติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะ หรือการติดเชื้อของระบบสืบพันธุ์

การป้องกัน

ยาปฏิชีวนะ ได้แก่ ampicillin, cephalexin, amoxicillin , nitrofurantoin ถ้ากรวยไตอักเสบเฉียบพลัน ต้องรับไว้ในโรงพยาบาลให้ IV และ ให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ

2.แนะนำให้ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว

3.ตรวจเพาะเชื้อปัสสาวะ (urine culture)

1.แนะนำให้ทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ทุกครั้งหลังขับถ่าย